Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1117 เหลือผู้เข้าแข่งขันสามคน
ขณะเดียวกันในอีกสถานที่หนึ่งอู๋เติงและต้านฮวงก็เดินอยู่บนถนนอีกสายโดยจิตใจไม่สงบนิ่งเลยตลอดทางเพราะต้องเจอกับความยากลำบากและอุปสรรคมากมายตลอด ทว่าพวกเขาก็สามารถจัดการมันได้ในทุกครั้ง และพวกเขาเองก็สังเกตเห็นถึงบรรยากาศแปลกๆหลังจากเดินมาถึงจุดนี้
เราควรจะเดินไปตรงศูนย์กลางมั้ย? ต้านฮวงพยายามทำการวิเคราะห์ เราไม่เจอกับใครเลยตลอดทาง ทั้งสี่ทีมถูกส่งกระจายกันไปคนละเส้นทางโดยมีจุดศูนย์กลางคือตรงนี้ ทุกทีมพยายามเดินทางเข้ามายังจุดศูนย์กลางและแบบนี้จะทำให้พวกเราเข้าใกล้กันขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ ดังนั้นฉันเดาว่าพวกเราน่าจะเป็นทีมแรกที่เดินผ่านหุบเขานี้ หรือนี้คือสุดทางของบททดสอบแล้ว
ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกันศูนย์กลางนี้น่าจะเป็นจุดจบแล้ว อู๋เติงพยักหน้า ก่อนอื่น บททดสอบเล็กๆพวกนี้ทำให้พวกเราลำบากพอสมควร ตอนนี้พอระยะทางถูกลดลงแล้วในที่สุดมันก็เป็นการต่อสู้ระหว่างทีมสักที
ใช่ที่ตอนนี้เป็นพวกเราสองคนแรกที่ปรากฏตัว ฉันตกใจมากเลยนะ ต้านฮวงจำได้ถึงเสียงเครื่องกลจากระบบกลไกของเสาหิน หรือเราเดินสบายเกินไป มาช้าจนพวกเขาเริ่มกันไปนานแล้ว?
ใช่พวกนายช้ามาก จู่ๆก็มีเสียงแปลกๆหนึ่งดังแทรกขึ้นมาระหว่างทั้งคู่ เสียงนี้มันมาจากข้างหลังพวกเขา!
ทั้งสองตกใจพร้อมกันจิตใต้สำนึกต้องการจะคว้าอาวุธของตัวเองขึ้นมา แต่ไม่ทันจะได้จับอาวุธขึ้นตั้งท่าต่อสู้ มันก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นก่อนอีกครั้ง
ฉึก!
ทันทีหลังจากนั้นอู๋เติงยืนตะลึงเมื่อพบว่าต้านฮวงที่อยู่ข้างๆตัวเองค่อยๆล้มลงไปกองที่พื้นช้าๆ นิ้วมือยังคงจับอยู่ที่ด้ามอาวุธตัวเองแต่ชักออกมาเตรียมพร้อมไม่ทัน หัวห้อยอีกข้างโดยที่ต้านฮวงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนฆ่าตัวเอง?
เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากเส้นเลือดใหญ่ตรงลำคอเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายจงใจฆ่าให้ตายคาที่แถมยังเป็นมืออาชีพสุด!
เหลือผู้แข่งขัน5 คน
เสียงระบบกลไกของเสาหินดังขึ้นอีกครั้งและจางหายไปพร้อมกับร่างของต้านฮวง
อู๋เติงช็อคค้างเขามีชีวิตที่สุขสบายมาตลอดสองวันที่ผ่านมานี้ จนเขาเกือบลืมเรื่องการประเมิณที่อันตรายถึงชีวิตไปเลย
และในจังหวะที่อู๋เติงหันกลับมาเขาก็ได้เจอกับใบหน้าของคนที่แอบลอบโจมตีเพื่อนร่วมทีมเขา
ส่งตรามา
เสียงกลไกของเสาหินดังขึ้นในหัวชูฮันทำให้ชูฮันตื่นตัวและรีบพุ่งไปตรงหน้าอู๋เติงพร้อมยกขวานขึ้น อยู่นิ่งๆ อย่าขัดขืน
อ่า——? อู๋เติงจำได้ถึงกฏระเบียบของการแข่งขัน เขากระพริบตาปริบๆอย่างทำตัวไม่ถูก นายจะฆ่าฉันมั้ย? หรือนายมีเงินมั้ย?
และทันทีที่อู๋เติงพูดคำสุดท้ายจบลง
ฉึบ!
ขวานซิ่วโหลก็ตวัดลงมาตัดเข้าเส้นเลือดใหญ่ที่คอของอู๋เติงทันที!
ฟู่!
เลือดพุ่งกระเซ็นกระจายไปทั่วพร้อมกับชูฮันเปิดปากพูดเป็นครั้งแรก นายพูดว่าอะไรนะ ฉันไม่เข้าใจ พูดใหม่อีกทีสิ?
ครั้งนี้ร่างของอู๋เติงไม่ได้หายไปทันทีเขายังได้ยินคำพูดของชูฮันอยู่ เขายังไม่ตายทว่าตอนนี้ร่างกายเขาเสียเลือดไปจำนวนมากและอีกไม่นานก็คงจะหมดลมหายใจ เส้นเลือดใหญ่ตรงคอถูกตัดขาดซึ่งมันคือจุดตายของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นอย่าว่าแต่พูดเลยตอนนี้หายใจยังลำบาก
อู๋เติงได้มองจ้องชูฮันและตาเหลือกจนเริ่มหมดลมหายใจ!
แม้ว่ามันจะเป็นการจำลองร่างเสมือนจริงและก็ไม่ใช่การตายจริงๆทว่าความรู้สึกทุกอย่างที่สัมผัสได้นั้นมันเหมือนจริงมาก อู๋เติงทรมานอยู่พักหนึ่งและวินาทีต่อมาเขาก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย เพราะจู่ๆเขาก็มาปรากฏตัวในอีกสถานที่หนึ่งเป็นพื้นที่สว่างโดยข้างๆมีต้านฮวงที่รอคอยอยู่ก่อนแล้ว
สมาชิกทีมเดียวกันจะถูกจับให้อยู่ด้วยกันหลังจากถูกตัดออกจากการแข่งขันยกเว้นแต่ซูเฟิงและเจียงหลิงโหลวที่เอาแต่จะสู้กันไม่เลิก จึงต้องถูกกั้นเอาไว้
ใครคือคนที่ลอบโจมตีเรา? ต้านฮวงถามสิ่งที่สงสัยในใจทันทีที่เห็นอู๋เติง นายก็ไม่ได้อ่อนแอซะหน่อย ทำไมออกมาเร็วจัง?
อู๋เติงมีสีหน้าซีดเผือดเขารู้สึกกลัวเมื่อนึกถึงความทรมานก่อนหน้านี้ อู๋เติงไม่กล้าบอกต้านฮวงว่าตัวเองไม่ได้แม้จะต่อต้านหรือต่อสู้ใดๆเลยด้วยซ้ำ เขาถูกชูฮันจัดการซะก่อนจะได้ทันขยับตัวอีก
และมันน่าอับอายเกินกว่าจะเล่าได้!
———————
เหลือผู้เข้าแข่งขัน4 คน
เสียงกลไกของเสาหินดังแจ้งเตือนผู้เข้าแข่งขันทุกคนพร้อมๆกัน
ขณะเดียวกันนั้นเองมันก็มีเสียงแจ้งเตือนอีกเสียงดังขึ้นในหัวเขา ได้อีกหนึ่งตรา รวมทั้งหมดเป็นสองตรา
ขณะที่ฝั่งของฟานเจี้ยนนั้นก็พยายามชักชวนตวนเจียงเหว่ยให้เข้าร่วมกับองค์กรนักล่าไม่เลิกเขาพูดจนน้ำลายแห้งและเจ็บคอและในจังหวะนั้นเองเสียงแจ้งเตือนของกลไกเสาหินก็ดังขึ้นในหัวทั้งคู่พร้อมกัน
แม่งเอ๊ย!แย่งกันไปหมด! ฟานเจี้ยนประหลาดใจมากเพราะนอกจากเพื่อนร่วมทีม ตัวเขาพึ่งจะเจอกับตวนเจียงเหว่ยคนเดียวเอง แล้วทำไมคนอื่นถึงได้เจอกันไม่หยุด สู้กันจนเหลือแค่สี่คนแบบนี้?
ตวนเจียงเหว่ยหน้าดำยิ่งกว่าก้นหม้อทั้งคู่แยกกันไปคนละทางโดยไม่บอกว่าจะทำอะไร แต่แล้วตอนนี้ชูฮันกลับรวบรวมตราไล่จากแต่ละคนเพื่อรวบรวมอำนาจเองแบบนี้?
แล้วตอนนี้มันเหลืออีกแค่สองทีมเท่านั้นเอง?
ฮึตอนนี้ก็เหลืออีกแค่สองทีมสินะ? ฟานเจี้ยนเองก็หัวไว เขาถามขึ้นทันที นายอยู่ทีมเดียวกับใคร? คงไม่ใช่ชูฮันหรอกนะ?
โทษทีฉันคงไม่เข้าร่วมองค์กรนักล่า ตวนเจียงเหว่ยพูดสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำถามของฟานเจี้ยน จากนั้นก็ชักกริชสีม่วงขึ้นมาและโจมตีเข้าใส่จุดตายของฟานเจี้ยนอย่างรวดเร็ว
มือไม้ของฟานเจี้ยนกันการโจมตีจนพันกันยุ่งเหยิงทว่าทุกอย่างมันสายเกินไปพละกำลังของตวนเจียงเหว่ยนั้นมีไม่น้อยและฟานเจี้ยนก็ยังไม่ทันได้ตั้งรับดีๆ ดังนั้นกริชสั้นของตวนเจียงเหว่ยจึงเจาะเข้ากลางหัวใจของฟานเจี้ยนช้าๆ!
ท่ามกลางความวุ่นวายซูเฟิง เจียงหลิงโหลว อู๋เติง ต้านฮวงและฟานเจี้ยนถูกตัดออกจากเกม
เหลือผู้เข้าแข่งขัน3 คน เสียงกลไกของเสาหินดังขึ้นอีกครั้งและเงียบไป เหลือทิ้งไว้แต่ความเงียบสนิทภายในสนามทดสอบ
ตวนเจียงเหว่ยปาดทำความสะอาดกริชสั้นของตัวเองพร้อมกับรู้สึกปวดหัวกับสถานการณ์ที่เจอในตอนนี้ถ้างั้นต่อจากนี้ก็แค่เขากับชูฮันที่แข็งแกร่งที่สุด…
ส่วนวิธีที่จะทำอย่างไรนั้นเขาจะต้องเจอกับชูฮันเพื่อปรึกษา
มีเพียงแค่คนฉลาดเท่านั้นที่อยู่รอด!
—————
ในทางกลับกันชายที่มีนามแฝงว่ากษัตริย์เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบกลไกก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ตลอดการแข่งขันเขายังไม่เจอกับใครเลยยกเว้นคนในทีมของตัวเอง
หรือว่ามาผิดทาง? ชายที่มีนามแฝงว่ากษัตริย์คิดถึงความเป็นไปได้และรีบหมุนตัวเดินกลับไปอีกทางทันที เหมือนจะมีคนอยู่ใกล้ๆ