Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1136 ได้เห็นกระต่ายสีเทาอีกครั้ง
ตอนที่ 1136 ได้เห็นกระต่ายสีเทาอีกครั้ง
มันมีความลับมากเกินไปในหุบเขาหยินหยางชูฮันหยุดพูดคุยกับทั้งสามคนหลังจากการเดินทางด้วยกันผ่านไปสามวันแล้วก็ยังไม่ได้อะไร ทำให้ตอนนี้ชูฮันทนไม่ไหวเพราะอยากจะเร่งทั้งสามคนให้เร็วกว่านี้ เพราะเขาอยากจะสำรวจหุบเขาหยินหยางให้ทั่ว พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆแบบนี้มาตั้งนาน จุดนี้เราก็เคยเดินมาเมื่อสองวันก่อน หรือว่าที่จริงแล้วพวกคุณไม่รู้ทาง?
บรรยากาศเงียบสนิทไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆป่ายหวีเนอที่แทบไม่เคยปริปากอยู่แล้วก็ยืนนิ่งอยู่ถัดไปจากเสี่ยวชี ทั้งคู่มีสายตาหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเกาช้าวฮุ่ยนั้นยิ่งชัดเจนกว่า เขาดูร้อนใจมาก
เมื่อรวมกับระยะเวลาในการเข้ามาในหุบเขาหยินหยางมันเท่ากับว่าพวกเขาอยู่ที่นี้มาเป็นเวลาห้าวันแล้วแต่กลับไม่เจออะไรเลยนอกจากทะเลทรายและซากกระดูกที่ดูเหมือนกับฟอสซิล พวกเขายังมองไม่เห็นเคล้าลางของอะไรที่บ่งบอกถึงถิ่นอาศัยเก่าของบรรพบุรุษเลย
ฉันมาที่นี้เป็นครั้งแรกมันก็ไม่แปลกที่จะไม่รู้เส้นทาง! เกาช้าวฮุ่ยตะคอกใส่ชูฮันเสียงดัง พวกเราเองก็รีบเหมือนกัน แต่ที่นี้มันกว้างใหญ่และซับซ้อนเกินไปกว่าจะรู้ว่าต้องไปทางไหน!
สรุปว่าไม่มีแผนอะไรเลย? ชูฮันกรอกตาใส่
แผนอะไรเราแค่ต้องการเข้ามา แต่มันกลับไม่มีอะไรเลย พวกเราก็ไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนกัน! คำตอบของเกาช้าวฮุ่ยทำให้ชูฮันหมดคำพูด
ชูฮันเงยหน้ามองฟ้าและมันก็เป็นเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วหากเขาก็อยากจะรู้เหมือนว่าพระอาทิตย์ที่นี้จะตกลงไปที่ไหน?
สรุปว่า ชูฮันดึงเกาช้าวฮุ่ยไปคุยกันสองคนอีกครั้ง นายรู้มั้ยว่าอะไรคืออาวุธลับของตระกูลเกา?
อาวุธลับ… เกาช้าวฮุ่ยไม่เข้าใจความหมายที่ชูฮันพูด เขาจึงตอบไปอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ ฉันไง?…
อยากโดนใช่มั้ย?! ชูฮันหน้าตึงเปรี๊ยะทันที ฉันไม่มีเวลามาเล่นไร้สาระกับนายนะ ถ้าให้นายลองคิดถึงถิ่นอาศัยเก่าของตระกูลลึกลับ นายคิดว่ามันจะมีลักษณะความเป็นอยู่ยังไง?
พูดถึงตรงนี้สายตาของชูฮันก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ถ้าสมมติบอกว่ามีพลังควบคุมน้ำได้ ก็จะต้องอยู่ใกล้ชายหาดทะเล
อิงจากกฏของท้องทะเลแล้วถ้าเขาสามารถรู้เงื่อนไขเฉพาะเกี่ยวกับอาวุลับของทั้งสามตระกูลได้ละก็ เขาก็จะสามารถหาสถานที่นั้นเจอได้
พื้นที่อาศัยของเผ่ามนุษย์ปลานั้นอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครสามารถหาเจอได้และไม่สามารถเข้าไปได้แต่สำหรับกรณีของเขานั้นมันคือโชคล้วนๆ ดังนั้นการที่ทั้งสามคนเอาแต่เดินวนหาทางอยู่แบบนี้มันเปล่าประโยชน์เปล่าๆ เขาเกรงว่าแต่ละคนจะต้องแยกย้ายกันไปคนละทางเพื่อตามหาสถานที่ที่ตรงกับเงื่อนไขพิเศษของตระกูลตัวเอง มันมีความลับมากมายอยู่ในหุบเขาแห่งนี้และสิ่งลึกลับมากมายที่จะไม่ปรากฏนอกจากต่อหน้าของคนที่มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจง
นี่ไม่ใช่โอกาสของชูฮันดังนั้นการอยู่ที่นี้มันเป็นการเสียเวลาของเขาเปล่าๆ
คำพูดของเกาช้าวฮุ่ยทำให้แววตาของชูฮันเป็นประกาย มันก็ฟังดูมีสมเหตุสมผล! แต่นายไม่เชื่อเรื่องที่พวกเราเคยอาศัยอยู่ที่นี้มาหลายพันปีไม่ใช่เหรอ?
จะหยุดได้รึยัง ชูฮันเปลี่ยนความสนใจไปที่ป่ายหวีเนอต่อและตั้งคำถามต่อ นายรู้เรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลป่ายมากแค่ไหน?
เกาช้าวฮุ่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มอธิบาย คนที่น่ากลัวที่สุดในตระกูลป่ายก็คือป่ายหยู คนที่เราไปแอบขโมยเครื่อง Amaterasu 3000 ของเขามา พูดตามตรงนะคนคนนี้มีปัญหาทางจิต ป่ายหยูต้องการจะหาโอกาสครองคู่กับป่ายหวีเนอที่เป็นน้องสาวตัวเอง
ชูฮันกระพริบตาปริบๆและแอบบันทึกข้อมูลนี้เอาไว้ในสมองจากนั้นก็ทำเป็นตบไหล่เกาช้าวฮุ่ยเบาๆก่อนจะพูดขึ้น เฮ้ เรามาแยกกันไปคนละดรกว่า แบบนั้นน่าจะหาถิ่นอาศัยเดิมของตัวเองได้เร็วขึ้นกว่าเดิม เรียบร้อยแล้วนายไปตามหาฉันที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า ฉันยังต้องการความช่วยเหลือจากนายอยู่
เกาช้าวฮุ่ยไม่อยากถูกทิ้งไว้ที่นี้ตาโต นายจะไปตอนไหน ฉันขอตามไปด้วย ฉันไม่รู้ว่าต้องสำรวจและตามหาตำแหน่งนั้นยังไง ฉันไม่อยากแห้งตายอยู่ที่นี้!
ชูฮันแม้จะรู้ดีว่าทางออกอยู่ไหนหากตอนนี้เขาเพียงแค่ตอบกลับเกาช้าวฮุ่ยไปว่า มั่นใจได้ ชีวิตนายมีความสำคัญกับฉันมาก ฉันไม่ปล่อยให้นายเป็นอะไรแน่ หลังจากพูดจบชูฮันก็ผละออกจากเกาช้าวฮุ่ยและบอกแผนการของเขากับเสี่ยวชี แม้ว่าชูฮันจะไม่อยากยุ่งกับเสี่ยวชีสักเท่าไหร่แต่เสี่ยวชีก็เคยช่วยเขาไว้เหมือนกัน ยังไงเขาก็ต้องตอบแทนอีกฝ่าย…เพราะระหว่างทั้งคู่มันมีพันธมิตรอันแสนเปราะบางของพวกเขาอยู่
ในตอนท้ายตอนที่เหลือเพียงแค่เขากับป่ายหวีเนอ ชูฮันนั้นค่อนข้างอึดอัดและเป็นกังวล และไม่ทันรอให้ชูฮันได้พูด ป่ายหวีเนอก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
นายหาเจอแล้วเหรอ? ป่ายหวีเนอยังคงเหมือนในอดีต ไม่ว่าจะทั้งน้ำเสียงหรือการแสดงออก มันเย็นชาจากข้างในสู่ข้างนอก
ยัง ชูฮันโกหกซึ่งๆหน้า
ป่ายหวีเนอเลิกคิ้วขึ้นและมองชูฮันด้วยสายตาสงสัย การที่นายมาอยู่ที่นี้ได้ มันต้องมีจุดประสงค์
แน่นอน ชูฮันสูดลมหายใจเข้าลึก แต่เธอก็ไม่ได้มี ใช่มั้ย? โอกาสของป่ายหวีเนอนั้นเกี่ยวข้องกับถิ่นอาศัยเดิมของตระกูลป่ายซึ่งมันเป็นสถานที่ที่ชูฮันไม่สามารถเข้าไปได้ และถ้าทั้งคู่ยังเดินทางไปบนเส้นทางเดียวกัน เขาเกรงว่าทั้งเขาและป่ายหวีเนออาจจะหาอะไรไม่เจอเลยสักอย่าง
หุบเขาหยินหยางแห่งนี้เต็มไปด้วยเงื่อนไขและความลับมากมายมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าภายใต้ทุกการเคลื่อนไหวมีปริศนาอะไรซ่อนอยู่?
ป่ายหวีเนอมองชูฮันด้วยสายตาไม่ไว้ใจเธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเธอเกิดความรู้สึกเศร้าเสียใจขึ้นมายามที่มองชูฮัน มันมีบางอย่างที่เธอจำไม่ได้ แต่มันเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างลึกซึ้งเป็นพิเศษ
ตอนนี้ชูฮันไม่สามารถบอกอะไรได้นอกจากส่งยิ้มเจื่อนๆให้ป่ายหวีเนอการสูญเสียความทรงจำของป่ายหวีเนอทำให้เขาไม่สามารถพาเธอติดตามไปด้วยได้
ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์อะไรถ้างั้นสนใจจะไปกับฉันมั้ย? ขณะพูดมุมปากของชูฮันก็ยกยิ้มขึ้น หน้าตายิ้มเยาะ
เขารู้จักป่ายหวีเนอดีโดยเฉพาะช่วงเวลาที่เขาติดต่อกับเธอมาตลอดนั้น ดังนั้นชูฮันจึงตัดสินใจว่าผลประโยชน์ของป่ายหวีเนอในด้านที่เกี่ยวจ้องกับตระกูลป่ายในเวลานี้อาจจะไม่ดีเท่ากับผลประโยชน์ของเขา
เพราะป่ายหวีเนอสูญเสียความทรงจำแต่เธอยังมีสัญชาตญาณอยู่ความรู้สึกขัดแย้งในใจจะทำให้เธอเกิดความอยากรู้!
แน่นอนว่าหลังจากชูฮันพูดจบป่ายหวีเนอก็หันหน้ามามองอย่างแข็งๆทันที นำทางไปสิ
ชูฮันแทบจะตัวปลิวในที่สุดเขาก็ทำให้ป่ายหวีเนอตามเข้ามาได้แล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะกลับมารวมกันอีกครั้งหลังจากขาดการติดต่อไปนาน
แต่ในตอนที่ชูฮันกำลังจะพาป่ายหวีเนอออกเดินทางเสียงไม่พอใจของหวังไคก็ดังขึ้นมาขัดซะก่อน อย่าตื่นเต้นมากนัก ดูนั่น! ทันใดนั้นชูฮันก็มองไปตามทางที่หวังไคบอกและก็ได้เห็นใต้ลำต้นของต้นไม้ต้นใหญ่ไม่ไกลออกไปมีกระต่ายสีเทานอนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับแววตาสีดำสนิทที่กำลังจ้องเขม็งมาที่ชูฮัน!
มันมีบางอย่าง!
ทันใดนั้นชูฮันก็นึกถึงบางอย่างขึ้นได้กระต่ายสีเทาพวกนี้อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงสายพันธุ์เดียวที่มีชีวิตรอดมาตลอดหลายพันปี รูปลักษณ์ลักษณะของพวกมันจึงดูลึกลับราวกับมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่!
หลังจากเงียบไปพักหนึ่งเพราะกำลังครุ่นคิดชูฮันก็ดึงสติกลับมา เขารีบดึงป่ายหวีเนอมุ่งหน้าเข้าไปหาเจ้ากระต่ายสีเทา แน่นอนว่าพอเห็นชูฮันทำท่าเดินเข้าไป เจ้ากระต่ายสีเทาก็ออกตัววิ่งไปยังเส้นทางเส้นหนึ่ง
…หรือนี่จะเป็นเส้นทางที่ต้องตามไป?