Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1142 หุบเขาหยาง
ตอนที่ 1142 หุบเขาหยาง
มันใช้เวลาสองวันกว่าชูฮันจะคุ้นชินกับเส้นทางในหุบเขาแถมขอบเขตในการเข้าถึงของเขาก็ค่อนข้างมีอยู่อย่างจำกัดเพราะไม่ว่าส่วนไหนเขาก็เคยไปมาแล้วทั้งนั้น แถมชูฮันในตอนนี้ก็ไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ซะเท่าไหร่
ดังนั้นสองวันต่อมาชูฮันจึงเลือกที่เดินทางมุ่งตรงเพียงอย่างเดียวเขารู้ว่าตราบใดที่เขาเดินไปจนสุดทางมันจะต้องมีทางออกของหุบเขาอยู่ และในขณะเดียวกันมันก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ซึ่งเข้ามาในหุบเขานี้ไม่รู้ว่ามันมีความลับอยู่ แม้ว่ามันจะเป็นการเดินทางที่น่าเบื่อและไร้เป้าหมายในตอนแรกเริ่มก็ตาม
ตั้งแต่ที่ได้รู้ว่าว่าหุบเขาหยินหยางนั้นที่จริงแล้วคือแบ่งออกเป็นหุบเขาหยินและหุบเขาหยางชูฮันก็สามารถจับประเด็นที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่เขารู้โยงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ทันที ขณะที่ตรงหน้าชูฮันที่พื้นที่ราบวงกลมพื้นเรียบสนิทจนผิดปกติ รอบวงกลมมีก้อนหินขนาดใหญ่ และต้นไม้สูงใหญ่ล้อมรอบราวกับกำแพงของพื้นที่ราบวงกลมด้านใน
ชูฮันไม่ลังเลที่จะก้าวเท้าเหยียบเข้าไปในพื้นที่ราบวงกลมตรงหน้าและหลังจากยืนอย่างมั่นใจได้แล้วเขาก็กระแทกเท้าข้างหนึ่งลงกับพื้น
ตึง!
หลังจากเสียงกระแทกทันใดนั้น!
แกรกกกกกก!
ทันใดนั้นพื้นใต้เท้าที่ชูฮันเหยียบอยู่ก็แยกออกพร้อมกับชูฮันที่ตกลงไปในหลุม
หุบเขาหยางอยู่ใต้ดินนี่เอง!
ขณะที่ตกลงมาในหลุมนั้นชูฮันสัมผัสได้ถึงแต่ความมืดสนิทเพียงอย่างเดียว และความรู้สึกที่กำลังตกลงไปข้างล่างนั้นรุนแรงมากจนทำให้ชูฮันแอบกลัว การตกลงไปยังใต้ดินนั้นก็ไม่ได้ราบรื่น มันมีการเลี้ยวซ้ายขวา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่การตกลงมาตรงๆแต่มันเหมือนกับการเล่นรถไฟตีลังกาอย่างไรอย่างนั้น
ชูฮันไม่รู้ว่ามันใช้เวลานานเท่าไหร่จนกระทั่งในที่สุดร่างของเขาก็ค่อยๆตกช้าลงและเท้าเหยียบลงบนก้อนหินที่พื้น
หลังจากเข้ามาในหุบเขาหยางได้สิ่งแรกที่ปรากฏสัมผัสก็คือคลื่นความร้อนอันรุนแรง มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาตกลงมาที่ความสูงกี่เมตร ราวกับลงมาถึงใจกลางโลก
สิ่งที่สองคือแสงแปลกๆจางๆหลังจากที่เขายืนอย่างมั่นคงบนพื้นแล้วจริงๆ ทุกอย่างโดยรอบก็ไม่ได้มืดเหมือนกับตอนที่กำลังตกลงมาเลย มันยังมีการมองเห็นในระดับหนึ่งอยู่ ส่วนสำหรับการมองเห็นได้ไกลแค่ไหนนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถและสัมผัสของคนที่มาว่ามีมากแค่ไหน
มันมีทางเดินปรากฏอยู่ตรงหน้าชูฮันแต่เป็นเพราะว่าภาพในระยะสิบเมตรข้างหน้ามันไม่ชัดเจนทำให้ภาพทางเดินในถ้ำหินนั้นค่อนข้างมัวๆ ความร้อนจากใต้ดินยิ่งทำให้คนที่เข้ามารู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว
ตึก!
ชูฮันเดินไปตามทางเดินจากนั้นจู่ๆมันก็เสียงดังบางอย่างจากการเสียดสีดังขึ้น
กึก!
หวังไคกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วยความกังวลสายตาล่อกแลกเต็มไปด้วยความกลัว มันจะมีผีมั้ย? ไม่ใช่ว่าหุบเขาหยางเป็นสุสานคนตายเหรอ หรือว่าที่นี้คือที่ที่มีคนตายเต็มไปหมด?
ชูฮันมองไปรอบๆจากนั้นก็เดินไปข้างหน้าต่อ แล้วทีกับสุสานของเขี้ยวหมาป่าละ ที่มีผู้พลีชีพและนักรบของเขี้ยวหมาป่า ปกตินายชอบไปที่นั่นเพื่อนอนอาบแดดหนิ
หวังไคชะงักและแย้งทันที แล้วเหมือนกันรึไง? ใครให้นายสร้างสุสานของเขี้ยวหมาป่าที่มีสวนอยู่ข้างหลังด้วยละ และแม้แต่บรรยากาศของสุสานมันก็ไม่เหมือนกับที่นี้ และฉันกับเหล่านักรบผู้พลีชีพของเขี้ยวหมาป่าก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราต่อสู้เพื่อฆ่าศัตรูในสนามรบเพราะฉะนั้นมันไม่มีอะไรต้องกลัว และฉันก็ใช้การอาบแดดเพื่อรำลึกถึงพวกเขา!
ยิ่งหวังไคพูดเสียงดังมากเท่าไหร่เสียงดังสะท้อนในถ้ำหินก็ยิ่งก้องไปไกลมากขึ้น
นายจะกลัวอะไรนายสามารถแปลงร่างเป็นกระต่ายยักษ์ได้ จะมากลัวผีตั้งแต่พันปีก่อนทำไม? ชูฮันถามขณะยังคงเดินไปตามทาง
หวังไคยิ้มเยาะและยังคงซุกตัวอยู่ในกระเป๋าชูฮันไม่เลิกอุ้งมือของมันกำเสื้อของชูฮันแน่นไม่ยอมคลายและเพียงแค่ชะโงกหัวออกมามองรอบๆเล็กน้อย
ทางเดินในถ้ำหินที่มืดมัวตรงหน้าดูราวกับไม่มีที่สิ้นสุดทุกอย่างเหมือนเดิมไม่ว่าจะทั้งซ้ายและขวาราวกับว่าไม่ได้ขยับไปไหน ซึ่งถ้ายังเดินต่อไปมันอาจจะทำให้คนเป็นบ้าได้
ในที่สุดหลังจากเดินตามทางมาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงและทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจิตใจของชูฮันก็เริ่มอยู่ไม่สุข ยิ่งเมื่อต้องฟังเสียงคร่ำครวญอันน่ารำคาญของหวังไค อีกนายมั้ย อีกนานแค่ไหน?…
มันพึ่งจะผ่านไปครึ่งชั่วโมง ชูฮันตอบเสียงนิ่ง แต่ตอนนี้ตัวเขาเองก็เริ่มเหงื่อตกและหายใจหอบแล้วเหมือนกัน
อากาศภายในชั้นใต้ดินมันบางเบาประกอบกับความร้อนสูง แม้จะเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายตัวอยู่ดี
แล้วมันต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน? หวังไคทนไม่ไหวแล้ว คนที่ออกแบบหุบเขาหยางนี่โง่รึเปล่า? ทำไมถึงได้คิดสร้างเส้นทางแบบนี้มาตั้งแต่แรก?
เดิมทีมันเป็นสุสานที่ไม่ได้มีไว้สำหรับต้อนรับคนอยู่แล้ว ชูฮันพูดพร้อมยิ้ม ทันใดนั้นเขาก็หยุดเดิน มีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
หวังไคที่เดิมทีหวาดกลัวกับคำพูดของชูฮันอยู่แล้วเมื่อเห็นว่าจู่ๆชูฮันก็หยุดเดินก็ยิ่งกลัวจนขนหัวลุกเข้าไปหนักกว่าเดิม ทำไม? ทำไม? มีอะไร?
มันมีร่องรอยการต่อสู้อยู่ตรงนี้ ชูฮันยื่นมืออกไปสัมผัสกับผนังถ้ำหิน เขาสัมผัสได้ถึงรอยลึกเป็นแนวยาว
หวังไคเองก็มีสีหน้าประหลาดใจ มันดูตื้นมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆก็มองไม่เห็นเลย นายหาเจอได้ยังไงกัน?
ก็เพราะนายเอาแต่กลัวผีอยู่นั่นแหละถึงได้ไม่เห็นว่าแสงตรงนี้มันเปลี่ยนไป? ชูฮันอธิบายและเดินเท้าต่อ ฉันเห็นว่าแสงตรงนี้ผิดไปจากตรงอื่นเพราะมันเกิดจากการตกกระทบของผนังถ้ำหิน ฉันไม่รู้ว่าใครคือคนที่ออกแบบหุบเขาหยางนี่ถึงสามารถทำให้มันมีแสงในตัวได้ แต่การกระจายตัวของแสงโดยเฉลี่ยนั้นยอดเยี่ยมมากจนอยากจะได้คนที่มีความสามารถมากขนาดนี้ไปสร้างค่ายให้ฉัน?
หวังไคพูดอะไรไม่ออกได้แต่กรอกตากับตัวเองก่อนจะถามต่อ แต่หุบเขาหยางน่าจะเปิดหลังจากเกิดโลกาวินาศ ถ้ามันมีร่องรอยการต่อสู้ที่นี้ นั่นไม่ได้หมายความว่าก่อนหน้านี้มีคนเข้ามาที่นี้ก่อนเราเหรอ? ใครกัน?
เจียงหลิงโหลวและซูเฟิงและต้านฮวงและคนที่มอบอาวุธของหุบเขาหยางให้กับตวนเจียงเหว่ย ชูฮันตอบ
อาวุธ? หวังไคทวน อาวุธที่มาจากหุบเขาหยาง อะไรนะ?…พวกเขาใช้อาวุธของคนที่ตายแล้วไปเป็นพันปีก่อน?
ใช่! ชูฮันพยักหน้า ฉันไม่มีทางใช้ของคนตายแน่ๆ!