Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1145 ไม่ใช่กระดูกมุนษย์
ตอนที่ 1145 ไม่ใช่กระดูกมุนษย์
ต้องเป็นคนตระกูลเกาแน่! หวังไคร้องขึ้นมาทันที มันพยายามเพ่งมองเข้าไปใกล้กว่าเดิม น่าเสียดายที่เราไม่รู้ความหมายของคำอื่นๆ
ชูฮันตะลึง…พวกเขาไต่ลงมาที่ความลึกหลายกิโลเมตรแล้วและมันก็ได้พบการระบุถึงตระกูลเกาให้เห็นอย่างชัดเจนนี้มันหมายความว่าข้อมูลอื่นๆก็อาจจะพบได้ที่ช่องทางเดินอื่นเหมือนกันรึเปล่า?
แต่อย่างที่หวังไคว่าชูฮันเองก็ไม่รู้อยู่ดีว่าคำอื่นๆมันมีความหมายว่ายังไง
หรือเขาจะถามเกาช้าวฮุ่ยดี?
ดูสิพอพูดปุ๊ปก็เจอทันที? หวังไคพยายามเพ่งมองสำรวจอย่างละเอียดอย่างประหลาดใจไปในตัว
ชูฮันปัดความประหลาดใจทิ้งและเริ่มทำการคิดวิเราะห์ นายเคยค้นพบข้อมูลหรือร่องรอยอะไรก็ได้ของคนที่เป็นสมาชิกตระกูลลึกลับในระบบล่มสลายบ้างมั้ย?
หวังไคคิดทบทวนและส่ายหน้า นายก็รู้ไม่ใช่เหรอ?
ชูฮันกรอกตา นั่นเป็นเพราะฉันอยู่กับป่ายหวีเนอมานาน ตั้งแต่ชาติที่แล้วก็เลยรู้ข้อมูล
เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อนชูฮันตระหนักได้ว่าคนของตระกูลลึกลับที่เป็นสายเลือดผสมจะสามารถฝากชื่อไว้บนอันดับของเสาหินได้แต่มันกลับไม่มีข้อมูลของพวกเขาในระบบล่มสลายเลยสักนิด
สรุปแล้วตัวอักษรพวกนี้มันเกี่ยวข้องยังไงกับการค้นพบสมาชิกที่ตายไปแล้วของตระกูลลึกลับ? ชูฮันทำให้หวังไคเริ่มสับสน
ชูฮันเองก็อึกอักด้วยเพราะตัวเขาเองก็ยังไงไม่เข้าใจแน่ชัดเหมือนกัน มันไม่สำคัญ นายแค่จำตัวอักษรในประโยคนี้แล้วเราค่อยเอาไปถามเกาช้าวฮุ่ย ฉันต้องเป็นคนจำ? หวังไคไม่ค่อยพอใจ
ก็ใช่นะสิไม่ใช่นายแล้วจะเป็นใคร ชูฮันพูดๆทั้งที่หลับตา หากในขณะเดียวกันภายในหัวเขาก็เริ่มกระบวนการกลั่นกรองข้อมูลและวิเคราะห์ทุกอย่างที่ได้รับรู้มา
ในระบบล่มสลายนั้นไม่มีข้อมูลของทุกตระกูลลึกลับและสมาชิกทั้งหมดและจากคำบอกเล่าของป่ายหวีเนอ ชูฮันสามารถสรุปได้ว่าระบบล่มสลายคือคำสาปของตระกูลลึกลับอยู่ ประกอบกับที่หวังไคพูดไว้ว่าชูฮันสามารถใช้คะแนนในการปลดปล่อยระบบล่มสลายเพื่อเข้าถึงข้อมูลมากที่รอบด้าน
ถ้าเหตุผลด้านบนถูกต้องถ้าอย่างนั้นมันก็สามารถทำความเข้าใจได้ว่า…
ชูฮันยืนอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจสูงเท่ากับสมาชิกตระกูลลึกลับตราบใดที่เขาปลดล็อคทุกระบบการใช้งานในระบบล่มสลายได้ เขาก็สามารถควบคุมตระกูลลึกลับทั้งหมดไว้ในมือได้ตามที่ต้องการ
ชูฮันเปิดเปลือกตาขึ้นมองดูหวังไคที่กำลังพยายามคัดลอกตัวอักษรตรงผนังตามคำสั่งเขา แววตาของชูฮันก็มีประกายวาววับ
แล้วความสัมพันธ์ของเผ่าพันธุ์ของหวังไคและตระกูลลึกลับเมื่อพันปีก่อนคืออะไร?แล้วพวกเขาก็ต่างเคยอาศัยอยู่ในหุบเขาหยินหยางด้วยกันหมดงั้นเหรอ?
หลังจากนั้นชูฮันก็นอนหลับพักหลังจากที่ไม่ได้หลับมาเป็นเวลานานและตื่นขึ้นมาหลังจากครบเวลาสองชั่วโมงที่ได้พูดไว้แต่แรกทว่าตอนที่ชูฮันตื่นขึ้นมานั้นหวังไคกลับยังคงหลับอยู่ข้างเขาๆแถมยังกรนอีกต่างหาก ชูฮันได้แต่ส่ายหน้าให้กับหวังไคที่วันๆเอาแต่พูดไม่หยุดและไม่ทำอะไรนอกจากกินนอน
เพียงแต่ว่าในขณะที่ชูฮันหลับสนิทไปนั้นหวังไคได้ทำงานทุกอย่างตามคำสั่งเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว…พื้นที่ของประตูมิติก็ได้ทำการเพิ่มเรียบร้อย เช่นเดียวกับการคัดลอกตัวอักษรที่ไม่รู้จักและเก็บไปไว้ในประตูมิติรวมกับอาวุธจำนวนมากที่ขุดเจอมาทั้งหมด
ชูฮันยกยิ้มมุมปากและจับหวังไคยัดเข้าใส่กระเป๋าอย่างไม่ว่าอะไรจากนั้นก็เดินออกไปตามทางเดินและกลับไปที่เชือกเหมือนเดิม ชูฮันไม่ได้ปลุกหวังไคแต่เขาเริ่มทำการสำรวจด้วยตัวเอง
หลังจากไต่ลงมาอีกหนึ่งกิโลเมตรมันก็ยังไม่ปรากฏสิ่งที่ชูฮันต้องการ ชูฮันได้เปิดเส้นทางตามผนังและทำการสำรวจหลายช่องทาง หากเขากลับไม่พบอะไรอีกเลย ไม่ใช่ทุกช่องทางจะมีการสลักคำไว้บนผนังหลังจากที่คนคนนั้นตายไป อีกอย่างชูฮันก็ไม่มีทางในการยืนยันได้เลยว่าคนเหล่านี้คือใครกัน
ชูฮันส่ายหัวกับตัวเองและไม่คิดจะเสียเวลาไปกับตรงนี้อีกเขาเริ่มไต่ลงไปตามความลึกด้วยความเร็วสูงสุด หลังจากนั้นตลอดเวลาเกือบสิบชั่วโมง หวังไคก็มีการตื่นขึ้นมา กิน ดื่ม อย่างสบายต่อหน้าชูฮันวนอยู่หลายต่อหลายครั้ง
หวังไคได้ทำการคำนวณในระบบว่าชูฮันอยู่ในอุโมงค์นี้มาเป็นเวลาสองวันแล้วและชูฮันได้นอนพักในระหว่างนั้นไปแค่สองชั่วโมงเท่านั้นกว่าชูฮันจะแตะถึงด้านล่างสุดก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องลงไปลึกอีกมากขนาดไหน ซึ่งตอนนี้ชูฮันเหนื่อยมากจนต้องใช้เท้าแตะเข้ากับผนังเพื่อให้ทางเดินเปิดออก
ตึง!
เสียงดังเบาๆจากนั้นผนังก็ปรากฏเป็นทางเดินขึ้นมา เวลานี้ชูฮันจำเป็นต้องนอนพักร่างกายอีกครั้งและหลังจากนั้นเขาจะลุยยาวเพื่อให้ไปถึงด้านล่างสุดในทีเดียว
ชูฮันเดินถือไฟฉายส่องเข้าไปด้านในสุดและเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางเดินทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจกับภาพที่สะท้อนยามแสงจากไฟฉายเขาฉายไปที่ภาพตรงหน้า…มันคือโครงกระดูกของร่างที่ดูจะไม่ใช่มนุษย์
หวังไค ชูฮันร้องเรียกหวังไคด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป
หือ? หวังไคสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาและเด้งตัวออกมาจากกระเป๋า
ดูนี่สิ ชูฮันชี้ไปข้างหน้า หวังไคมองตามนิ้วมือของชูฮันและก็ต้องตกใจค้าง!
โครงกระดูกตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่โครงของมนุษย์มันมีความสูงประมาณหนึ่งเมตรซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นโครงกระดูกของสัตว์
แม้ชูฮันจะไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับโครงกระดูกของสัตว์มาก่อนเขาไม่สามารถเดาได้ว่ามันเป็นโครงของสัตว์อะไร เพราะใครจะไปรู้ว่ามันจะมีโครงกระดูกของสัตว์อยู่ในทางเดินที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลลึกลับกัน?
หลังจากได้เห็นสิ่งนี้ชูฮันก็นึกถึงอะไรขึ้นมาได้…
นี้อาจจะเป็นเผ่าพันธุ์ของนาย? ชูฮันไม่ได้พูดคำว่า ‘กระต่าย’ ไม่ว่าจะหวังไคหรือหุบเขาจะมีกระต่ายไม่ธรรมดาหรือธรรมดาหรือซับซ้อนก็ตาม
ก็จริง หวังไคกระโดดลงมาที่พื้นและจ้องมองโครงกระดูกตรงหน้าด้วยสายตาประหลาดใจ กระดูกพวกนี้ดูเหมือนกับกระดูกฉันทุกอย่าง แต่เจ้าของร่างนี้คงจะเป็นกระต่ายที่ตัวใหญ่มากในเผ่าเลย ความสูงน่าจะประมาณหนึ่งเมตรได้มั้ง?
ทั้งหวังไคและชูฮันต่างตระหนักได้ว่าทุกอย่างเริ่มสับสนมากขึ้นเรื่อยๆเพราะมันไปไกลเหนือกว่าความเข้าใจของพวกเขาในเวลานี้