Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1158 ปฏิเสธเขาซะ!
ตอนที่ 1158 ปฏิเสธเขาซะ!
ดังนั้นท่ามกลางความเงียบงันหนึ่งในสมาชิกหลักของซางจิงก็กระแอมขึ้นมา วางสายตาไปที่เฉินช่าวเย่ ตัวแทนจากเขี้ยวหมาป่า ฉันขอถามหน่อยว่าในการต่อสู้ครั้งนี้ ค่ายของคุณสามารถเสนอความช่วยเหลืออะไรได้บ้าง?
ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงรีบมองไปที่เฉินช่าวเย่ตาโตพยายามส่งความหมายทางสายตาไปว่า…รีบตอบๆอะไรไปก็ได้ เดี๋ยวค่อยมาจัดการกันทีหลัง
ทว่าเหมือนเฉินช่าวเย่จะไม่เข้าใจความหมายที่ส่งมาเขายังคงนิ่งเฉยท่ามกลางสายตาของทุกคนในห้องประชุมที่จับจ้องมาที่เขา หากเฉินช่าวเย่กลับยิ้มเยาะออกมา
ตวนเจียงเหว่ยทันทีที่เห็นเฉินช่าวเย่ยิ้มเยาะก็รู้ว่าเรื่องนี้จะต้องไม่จบดีแน่!
หลังจากเฉินช่าวเย่ยิ้มเยาะออกมาต่อหน้าทุกคนเขาก็เริ่มขยับปากพูดออกมาสามคำอย่างช้าๆ ฉัน ไม่ รู้
)(*&^%!^&*(!*!%~
เป็นอีกครั้งที่ภายในห้องประชุมแทบจะระเบิดเสียงกระซิบดังหึ่มขึ้นมาอย่างกระทันหันและพร้อมเพรียงของทุกคน
ตวนเจียงเหว่ยเหลือบมองเฉินช่าวเย่ด้วยสายตาหมดปัญญานี้มันเหมือนการไม่ไว้หน้ากันเลย ในการประชุมที่ตึงเครียดและจริงจังเช่นนี้แต่เฉินช่าวเย่กลับกล้าพูดว่า ‘ฉัน ไม่ รู้’ ทั้งๆที่ชูฮันพูดแถเก่งเหลือเกิน ทำไมเฉินช่าวเย่ถึงไม่รู้จักเรียนรู้จากผู้ชายคนนั้น?
สมาชิกหลักของซางจิงเองก็ไม่คิดว่าคำตอบที่ได้รับจะกลายเป็นเช่นนี้เขาควัดสายตาไปที่เฉินช่าวเย่อย่างเงียบๆก่อนจะเอ่ยขึ้น แล้วคุณรู้อะไร? ถ้าคุณไม่รู้ แล้วคุณมาทำอะไรที่นี้?
ฉันไม่รู้ เฉินช่าวเย่ยังคงยืนยันคำตอบเดิมพร้อมแสยะยิ้มออกมาตามหลัง ทุกคนที่เห็นการแสดงออกของเฉินช่าวเย่อึ้งและพูดอะไรไม่ออก ต้องเข้าร่วมด้วยเหรอ? แม่งเอ๊ย! ไม่รู้ว่าเป็นใครที่หลุดสบถออกมา
หลายคนอดไม่ได้ที่จะหลุดระเบิดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำถามของเฉินช่าวเย่
เหล่าสมาชิกหลักของซางจิงต่างมองหน้ากันไปมาจากนั้นคนถัดมาก็จ้องไปที่เฉินช่าวเย่และพูดขึ้น แล้วเมื่อไหร่ที่พลเอกชูฮันของคุณจะกลับมา?
เฉินช่าวเย่ตอบคำตอบเดิมอีกครั้งเป็นรอบที่สาม ฉันไม่รู้
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเผลอนิ่วหน้านี้จงใจแกล้งโง่ ทำเป็นไม่รู้เรื่องสินะ?
พลเอกชูฮันหายไปนานแล้วแล้วถ้าเขาหายไปถึงครึ่งปี หรืออาจจะเป็นปีละ? แล้วแบบนี้การทำสงครามของพวกเราจะต้องเลื่อนเวลาออกไปเพราะเขาคนเดียวเนี่ยนะ?
ใช่นี่เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะผู้นำของกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะปรากฏขึ้นหรือไม่ ทุกอย่างจะต้องดำเนินไปตามกำหนดเดิม! จู่ๆเขี้ยวหมาป่าก็ทำท่าเหมือนจะทรยศพวกเราทั้งๆที่ส่งเฉินช่าวเย่มาเป็นตัวแทน แต่ถามอะไรก็ตอบว่าไม่รู้ แถมยังไม่คิดจะเสนอความช่วยเหลือใดๆเลย
หลังจากมีคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลายคนก็เริ่มคล้อยตาม สายตาที่จับจ้องไปที่เฉินช่าวเย่เริ่มไม่เป็นมิตรขึ้นเรื่อยๆ มันชัดเจนว่าเขี้ยวหมาป่าไม่ต้องการมีส่วนร่วมด้วย?
เหล่าสมาชิกหลักของซางจิงที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ก็ส่ายหัวหากก็ไม่กล้าจะพูดขัดขึ้นมา เพราะถึงต่อให้พวกเขาอยากจะช่วยชูฮัน แต่การแสดงออกและท่าทีของเฉินช่าวเย่มันได้สร้างความไม่พอใจให้กับทุกคนไปแล้ว!
แล้วแบบนี้เป็นไง จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากห้องส่วนตัวพิเศษบนชั้นลอย
ทันใดนั้นทั้งห้องประชุมก็พลันเงียบกริบทันทีทุกคนต่างหันไปมองตามแหล่งที่มาของเสียง ซึ่งนี้เป็นเสียงแรกจากสมาชิกของตระกูลลึกลับในการประชุมครั้งนี้ที่ได้ยิน!
ด้านหลังของผ้าม่าน…ร่างหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงกลางห้องค่อยๆลุกขึ้นยืนแม้ว่าจะมีผ้าม่านกั้นเอาไว้อยู่ ทว่ามันกลับไม่สามารถปกปิดอารมณ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่กระจายออกมารอบๆตัวของบุคคลคนนี้ได้
เหล่าสมาชิกของซางจิงมองหน้ากันไปมาผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงที่นั่งอยู่ข้างกันต่างก็หน้านิ่วคิ้วขมวด
ตระกูลลึกลับแสดงตัวออกมาแบบนี้เพียงแค่เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเขี้ยวหมาป่าเนี่ยนะ?
ไม่ใช่มันไม่ถูกต้อง!
ไม่ปล่อยให้ทุกคนสงสัยนานสมาชิกของตระกูลป่ายก็ส่งเสียงพูดขึ้นมาอย่างชัดเจน ได้ยินว่าสารล่อซอมบี้พึ่งจะถูกปล่อยออกมาโดยสถาบันวิจัยของเขี้ยวหมาป่า แถมมันยังมีประสิทธิภาพสูงมาก มันมีซอมบี้จะนวนมากที่พวกเราต้องจัดการในการทำสงครามครั้งนี้ จะเป็นอย่างไรถ้าเขี้ยวหมาป่ามอบสารล่อซอมบี้ให้เป็นการช่วยเหลือ?
เมือ่ได้ยินถึงสารล่อซอมบี้หลายคนก็ตาโตกันใหญ่ ครั้งนี้สารล่อซอมบี้ก็ถูกวางขายในราคาที่สูงอย่างมากและยากที่จะทำการหาซื้อหรือนัดหมายเพื่อรับของ ตอนนี้สมาชิกของตระกูลลึกลับมีข้อเสนอให้เขี้ยวหมาป่าส่งมอบสารล่อซอมบี้ให้ฟรี ซึ่งนี่มันก็แทบจะเทียบเท่ากับการเสียสละของทุกคน!
แบบนี้ยอมรับได้
เห็นด้วย!
ทุกคนในห้องประชุมต่างพยักหน้าตามๆกันสายตาเริ่มสดใสขึ้นกว่าเดิม
เฉินช่าวเย่เหลือบตามองไปที่ตำแหน่งของที่นั่งพิเศษหลังผ้าม่านจากนั้นก็ชำเลืองมองไปที่ตวนเจียงเหว่ยที่กำลังมองมาที่เขาตาโตกว้าง
ปดิเสธเขาซะ! ตวนเจียงเหว่ยรีบกระซิบบอกเฉินช่าวเย่ข้างหู แต่แล้วก็รีบพูดปฏิเสธออกมา ไม่ ปฏิเสธไม่ได้! เมื่อไหร่ที่ปฏิเสธมันจะสร้างความโกรธปะทุขึ้นมาในใจของทุกคน หัวทุกคนจะลุกเป็นไฟ! สารล่อซอมบี้เป็นสิ่งหลักที่เชื่อมโยงการตกลงเป็นพันธมิตรระหว่างเขี้ยวหมาป่าและค่ายตวนและค่ายหนานตู้ตอนนี้ทั้งสามได้รับอาวุธตัวใหม่อันเป็นเอกลักษณ์นี้ก่อนใครๆในจีน พวกเขาได้ปรับการใช้การพัฒนาในอนาคตร่วมกน รวมถึงมีความมั่นใจกันอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยการใช้ประโยชน์จากสารล่อซอมบี้ทั้งสามค่ายจะสามารถขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของทุกค่ายได้
ฉันไม่เห็นด้วยเลย! เฉินช่าวเย่ไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นสถานการณ์พัฒนามาจนถึงจุดนี้ เขาก็รีบขว้างลูกบอลกลับไป แต่ฉันจะต้องนำเรื่องนี้ไปรายงานให้ท่านพลเอกชูฮันฟังอีกทีและรอท่านกลับมาทำการตัดสินใจ
ตวนเจียงเหว่ยแทบจะยกนิ้วให้กับเฉินช่าวเย่ทันทีคำตอบของเฉินช่าวเย่ถือว่าจบทุกอย่าง เพราะทุกคนต่างรู้นิสัยของชูฮันกันดี ไม่มีใครกล้าทำอะไรชูฮันกันตรงๆทั้งนั้น
ทุกคนพลันยิ้มเยาะทันใดนั้นสถานการณ์ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างกระทันหัน ภายในพริบตาเดียวสายตาของทุกคนก็ไม่ได้จับจ้องไปที่เฉินช่าวเย่อีก
ป่ายหยูซึ่งนั่งอยู่ในห้องพิเศษซึ่งกำลังมองมาที่เฉินช่าวเย่ยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยขึ้น เราไม่มีเวลามาคอยใครกันทั้งนั้น เมื่อไหร่ชูฮันจะกลับมา นายไม่รู้ พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีใครรู้ แล้วถ้าชูฮันยังไม่กลับมาโดยที่สงครามเริ่มต้นขึ้นไปแล้วละ เมื่อถึงเวลานั้นสารล่อซอมบี้จะสามารถส่งมอบให้พวกเราได้มั้ย?
ทุกคนในที่นี้ควรจะตระหนักถึงเรื่องนี้มากกว่าฉันความจำเป็นเร่งด่วนของสารล่อซอมบี้นั้นสามารถตัดสินใจชะตาของมนุษยชาติได้เลย ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่าสารล่อซอมบี้คือกุญแจหลักสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าเขี้ยวหมาป่ายืนยันว่าไม่สามารถส่งมอบสารล่อซอมบี้ให้ได้จริงๆ ฉันก็คงอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเขี้ยวหมาป่าต้องการจะเห็นพวกเราพ่ายแพ้สงครามให้กับฃูกผสมและซอมบี้ จริงมั้ย?
*&^%!^&*(!)!!~ สถานการณ์เข้าสู่ความอึดอัดเหล่าสมาชิกหลักของซางจิงตะลึงและพูดอะไรไม่ออก พลเอกทั้งสิบสามคนต่างมองไปยังชั้นลอยเป็นตาเดียว ขณะที่คนอื่นๆในห้องประชุมก็เริ่มแสดงความคิดเห็นออกมากันไม่หยุดจนเสียงเริ่มดังเพราะตีกันไปหมด
จริงด้วย!ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งสำคัญเช่นนี้ เขี้ยวหมาป่าที่มีกองทัพเก่งกาจกลับไม่คิดจะให้ความช่วยเหลืออะไรเลย?
ตอนนี้ชะตาของมนุษยชาติแขวนอยู่บนเส้นด้ายถ้ามองจากมุมมองโดยรวมแล้ว มันจะเป็นที่ควรจะมอบสารล่อซอมบี้ให้พวกเราใช้ในการต่อสู้
เขี้ยวหมาป่าจะเห็นแก่ตัวแบบนี้ไม่ได้!
เสียงแห่งความสงสัยและการตั้งคำถามดำเนินต่อไปเรื่อยๆทำให้เฉินช่าวเย่เริ่มเหงื่อตกขึ้นมาอย่างกระทันหันและอดไม้ได้ที่จะสงสัยว่าสมาชิกตระกูลลึกลับคนนี้ตั้งใจทำให้มันเป็นอย่างนี้รึเปล่า?
ท่ามกลางอารมณ์ดือดพล่านของคนส่วนใหญ่ป่ายหยูก็พูดต่อไปอีก ครั้งนี้เขาใช้น้ำเสียงกระตุ้นอารมณ์ของทุกคนด้วย ถ้าเฉินช่าวเย่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ถ้าแบบนั้นลองวิธีอื่นดีกว่ามั้ย ลองลงคะแนนกันตอนนี้เลย? แบบนี้จะได้ยุติธรรม!