Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1165 เทพีแห่งท้องทะเล
ตอนที่ 1165 เทพีแห่งท้องทะเล
ชูฮัน… หวังไคส่งเสียงเรียกชูฮันผ่านความคิดในหัวนับครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ และความหมายในน้ำเสียงของหวังไคก็คือพวกเขาเหลือเวลาอยู่รอดในน้ำได้อีกไม่มากแล้ว!
ชูฮันพยายามดำน้ำไปด้านหน้าได้หลายร้อยเมตรแล้วโดยไม่มีท่าทีว่าจะหาทางกลับขึ้นฝั่งได้เลยแสงสว่างจากไฟฉายก็เริ่มเบาแสงลงเรื่อยๆ
นายกำลังตามหาบ้าอะไรอยู่?!พวงกุญแจงั้นเหรอ มันใช่เวลามาหาพวงกุญแจมั้ย นี้มันเรื่องความเป็นความตายแล้วนะ! หวังไคแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป
อย่าเสียงดังได้มั้ยฉันกำลังหาทางออกอยู่! ชูฮันไม่มีทางเลือกนอกจากหันไปมองหน้าหวังไคเพื่อให้หยุด
หวังไคแทบจะร้องไหโฮออกมา แล้วทางออกอยู่ไหน? พวกเราเหลือเวลาไม่มากแล้ว แล้วถ้ามันไม่มีทางออกขึ้นมาจริงๆละ มันไม่มีเหตุผลให้เรามาดำน้ำหาพวงกุญแจแบบนี้เลย ถ้าเราหาทางขึ้นฝั่งได้แล้วค่อยตามหาทางออกทีหลัง…
นี่นายใช่สมองหมูๆของคิดมาสินะ ชูฮันขัดหวังไคขึ้นมา และเริ่มวิเคราะห์ขั้นตอนให้ฟัง นายได้นึกถึงนางเงือกที่ก่อตัวขึ้นจากสายน้ำที่เราเจอในอวกาศก่อนหน้านี้มั้ย?
มันยังไง? หวังไคไม่สามารถเข้าใจประเด็นสิ่งที่ชูฮันจะพูดได้
ได้โปรดเถอะก็นี่มันก็เป็นสายน้ำที่จู่ๆก็โผล่มาจากกลางอากาศเหมือนกันไง ชูฮันกรอกตาอย่างรำคาญใจและพูดต่อ ทะเลสาบที่เราเจอ และจากที่ฉันวิเคราะห์ดูที่แห่งนี้ไม่น่าจะถูกสร้างขึ้นโดยนางเงือก มันน่าจะเป็นคนสร้างเดียวกับที่สร้างสุสาน แล้วนายคิดว่าใครที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ปลาจะปล่อยให้เข้าออกที่นี้ได้อย่างอิสระละ?
แม้จะพ้นสุสานรวมมาแล้วแต่ยังไงตรงนี้มันก็ยังถือเป็นสุสานอยู่ เพราะฉะนั้นมันจะต้องมีระบบป้องกันคนนอกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตแน่ๆ ชูฮันยังคงวิเคราะห์ต่อไป ฉันเชื่อว่าพวกมนุษย์ปลาจะต้องมีการเตรียมการป้องกันเอาไว้ แน่นอนว่ามาตรการนี้จะถูกนำมาใช้สำหรับคนที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์ปลาเท่านั้น ดังนั้นหลังจากที่เราได้กล่องสี่เหลี่ยมสองกล่องนั้นมา พื้นที่ใต้น้ำทั้งหมดก็ยุบตัวลงมาทันที ลองคิดถึงสถานการณ์สำหรับมนุษย์ทั่วไปสิ มีแต่ตายแน่ๆแต่ถ้าสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ปลาที่หายใจในน้ำได้ พวกเขาก็แค่ว่ายตามกระแสน้ำไปเรื่อยๆจนถึงทางออก
และเพื่อที่จะป้องกันผู้คนหรือใครก็ตามที่ไม่ใช่มนุษย์ปลาไม่ให้เข้ามาในสุสานได้ฉันเดาว่าระบบป้องกันน่าจะต้องมีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครั้งนี้ทะเลสาบนั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับพื้นที่อวกาศนั้น พูดง่ายๆก็คือมันมีน้ำอยู่ทุกที่ ไม่ใช่ชายฝั่งหรือที่แห้งอะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราต้องว่ายไปเรื่อยๆเพื่อหาทางออก!
เฮือก!
หวังไคคอแทบบิดด้วยความหวาดกลัว แสดงว่าคนนอกไม่สามารถเข้าถึงสุสานนี่ได้จริงๆ?
ใช่ แววตาของชูฮันมันมีประกายเรืองรองจางๆอยู่ คนทั่วไปจะไม่มีทางรอดจากปริมาณน้ำพวกนี้ได้เลย แต่มันต่างไปสำหรับมนุษย์ปลา พวกบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปลาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาศพตัวเองมาเก็บไว้ที่นี้เพื่อให้คนอื่นเข้าถึงได้ และที่ยู่ยงหนานบอกคือมันมีกุญแจเข้าสู่ขุมพลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปลาอยู่ ใครทิ้งกุญแจไว้? แน่นอนว่าจะต้องเป็นบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปลา ในเมื่อมันถูกทิ้งไว้แสดงว่ามันจะต้องมีการเข้าและออกได้สำหรับคนที่จะมาเอาไป ดังนั้นมันจะต้องมีทางออกอยู่ในน้ำนี้แน่ๆ
หวังไคพยายามคิดตามการวิเคราะห์ของชูฮัน ก็ดูเป็นไปได้!
นอกจากนี้ชูฮันยังสังเกตเห็นถึงความผิดปกติตอนที่พื้นที่ใต้น้ำถล่มไป มันแปลกประหลาดเกินกว่าจะเป็นการกระทำของมนุษย์ได้ รวมถึงพื้นที่อวกาศที่สายน้ำก่อตัวขึ้นได้ก็ประหลาดมากเกินไป อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วมันก็คือสุสาน เป็นปกติที่สุสานจะเป็นสถานที่ปิด ดังนั้นมันจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ใต้น้ำนี้ได้ยังไง ต่อให้เป็นปลาใหญ่ยักษ์ก็ตาม?
ทุกๆอย่างทำให้ชูฮันนึกว่านี่คือทะเลสาบไม่ใช่ทะเลสาบเน่าแน่นอนว่ามันต้องมีการเชื่อมต่อกับทะเลสาบที่อื่นเป็นแน่
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยวิเคราะห์กันอยู่ร่างของชูฮันที่กำลังค่อยๆเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจู่ก็ชนเข้ากับผนังอะไรสักอย่าง
ชูฮันและหวังไคพลันชะงักทั้งคู่หลังจากมองดีๆ ทั้งคู่ก็ต้องตาโตเป็นประกายเมื่อพบว่ามันคือกำแพง…อะไรที่อยู่หลังกำแพงกัน?
พังเลยมั้ย? หวังไคเสนอความคิด
พังกับผีสิ! ชูฮันมีอีกความคิด นายคิดว่าถ้าเป็นมนุษย์ปลา พวกเขาจะทำยังไงเมื่อเจอกับกำแพงนี้?
หวังไคพยายามลองคิดในอีกมุมทันใดนั้นมันก็เข้าใจ พวกเขาจะไม่ทำลาย และก็ไม่รีบเร่งแต่ค่อยๆสังเกตกำแพงไปเรื่อยๆ
ใช่แล้วนายไปสำรวจฝั่งซ้าย ฉันจะสำรวจฝั่งขวา! ชูฮันรีบออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
พรึบ!
ทั้งสองรีบแยกกันไปคนละด้านทันทีขณะเดียวกันชูฮันก็สังเกตว่าระดับอ๊อกซิเจนในหน้ากากเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ การหายใจเริ่มยากและติดขัดขึ้น
เหลืออีกแค่สิบนาทีเท่านั้น!
ชูฮัน! ในตอนนั้นเอง หวังไคก็ว่ายน้ำกลับมาหาชูฮันอย่างรีบเร่ง ที่ทางซ้ายมีแต่ทางตัน!
ฝั่งขวาก็มีแต่ทางตันเหมือนกัน หัวใจของชูฮันเต้นรัวด้วยความกังวลอย่างห้ามไม่อยู่ ทั้งสองฝั่งมีแต่ทางตันแล้วทางออกมันอยู่ไหน?
ข้างบน…
ทั้งสองคิดและรีบเงยหน้าขึ้นมองด้านบนทันทีพยายามสำรวจทุกจุดอย่างละเอียด
ชูฮันลองถอยหลังออกห่างจากกำแพงและว่ายน้ำขึ้นไปข้างบนใช้ไฟฉายส่องไปทั่วทั้งกำแพง
และตอนนั้นเองมือของชูฮันมีอาการสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่หวังไคที่อยู่ข้างๆเองก็ส่งเสียงร้องตกใจเหมือน
นี้ไม่ใช่กำแพงธรรมดาแต่มันมีภาพสลักอยู่บนนั้น!
เมื่อแสงสว่างจากไฟฉายส่องลงบนกำแพงภาพสลักบนกำแพงก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นภาพสลักของนางเงือกหญิงสาวขนาดใหญ่ แม้จะเป็นแค่ภาพสสักแต่กลับให้สัมผัสได้ถึงความสมจริงและชูฮันก็สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างบนภาพ เพราะนางเงือกสาวนี้ต่างไปจากนางเงือกปกติ
เพราะเธอมีสองหาง!
หางอีกอันยื่นออกไปจากตรงเอวของนางเงือกแถวตรงปลายหางที่สองนั้นยังถูกแยกออกอีกสายหนึ่ง รวมทั้งหมดเป็นสามหาง ทั้งสามหางแยกเป็นสามมุมช่วยพยุงให้ร่างของนางเงือกยืนตั้งได้ ราวกับกำลังสวมกระโปรงยาวอยู่อย่างไรอย่างนั้น
ภาพสลักที่ให้ความรู้สึกขนลุกราวกับของจริงทำให้ชูฮันตกใจไม่น้อยมันมีชือหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวชูฮันทันทีที่เห็นภาพนี้
เทพีแห่งท้องทะเล!
ยู่ยงหนานและนักบุญสาวได้บอกเขาไว้ชัดเจนว่าแล้วว่ามันเทพีท้องทะเลซึ่งใช่ที่อยู่ตรงหน้าเขานี้หรือไม่?
ขณะที่มันมีความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวชูฮันอ๊อกซิเจนในหน้ากากก็มาถึงขีดสุดท้ายแล้วพร้อมกับอาการขาดอากาศที่เริ่มแสดง!
ชูฮันรีบกลั้นลมหายใจใช้มือหนึ่งคว้าหวังไคและรีบว่ายเข้าไปตรงกลางระหว่างหางของภาพสลักนางเงือกตรงหน้า และเมื่อใช้ไฟฉายส่องเขาก็เจอกับทางออกตรงกลางช่องว่างนั้น มันเป็นช่องสามเหลี่ยมที่ต้องสังเกตดีๆถึงจะเห็นได้!
ชูฮันลากหวังไคเข้าไปในนั้นทันทีพร้อมกับในใจอยากจะอ้วกออกมา…ใครกันที่ออกแบบช่องทางนี้ ให้เขาลอดผ่านใต้ระหว่างหางของเทพท้องทะเลแบบนี้….
ทางเดินในช่องที่เข้ามานั้นไม่ได้ยาวอะไรมากเพียงแค่ฮึบใจเดียวชูฮันก็ผ่านพ้นออกมาเจอที่โล่งอีกครั้ง
แม้ว่าตัวเขาจะยังลอยน้ำอยู่แต่เขาได้เจอแสงอาทิตย์ที่ส่องอยู่ด้านบนมีปลามากมายว่ายวนอยู่รอบๆตัวแสดงว่าตอนนี้พวกเขาคงออกมาอยู่กลางทะเลสาบสักแห่ง
หมายความว่าพวกเขาออกมาได้แล้ว!