Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 668 รูปแบบต่างกัน
ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา ทำให้สามกัปตันที่คุ้นเคยกับชูฮันมากที่สุดในที่นี้อย่างชินหยวน หลิง และเหลียวหยงอึ้งไปชั่วขณะ มันก็เสียเวลาจริงๆอย่างที่พลเอกชูฮันว่านั่นแหละ
คนแรกที่เดินออกมาเป็นชายหนุ่มที่ดูแข็งแรง ท่าทางตื่นเต้นเข้ามาหาชูฮัน “ขออนุญาตครับท่าน ผมชื่อโอดะ มาจากเมืองโตเกียวครับ”
“ฟู่ ~” ชูฮันที่กำลังจิบชาอยู่พ่นน้ำออกมาอย่างตกใจ เขาเงยหน้าขึ้นมาชายหนุ่มตรงหน้าทันที “เป็นสายลับที่ถูกส่งมาจากยามากูชิกรุ๊ปใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่ครับ” โอดะตะโกนตอบทันทีอย่างกังวล “ผมเป็นแค่คนธรรมดาที่มาทำงานที่จีนตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ผมไม่ได้มาจากกลุ่มไหน! ผมชื่นชนท่านพลเอกมาก มาเข้าร่วมกองทัพของท่าน อยากเป็นสมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าครับ!”
ชูฮันที่หลังจากตรวจสอบความภักดีของโอดะในระบบล่มสลายเรียบร้อยก็เอ่ยสั่งออกมาสั้นๆพร้อมโบกมือปัดให้ไป “ไปทีมความลับของพระเจ้า”
“อ่อ ท่านครับ ผมอยากเข้าทีมนักฆ่าขนนกครับ ผมอยากจะเป็นโจร!” โอดะไม่ทำตามคำสั่งของชูฮัน เขาขอย้ายไปที่ทีมนักฆ่าขนนกแทน
ในตอนนั้นเอง หลูปิงเซ่อก็เหลือบตามองไปที่โอดะทันที ทำไมทีมนักฆ่าขนนกนั่นถึงมีแต่คนอยากเข้า? วิวัฒนาการสูงสุดในทีมก็แค่ระยะ 2 ไม่ใช่เหรอไง? ก่อนหน้าที่พลเอกชูฮันจะมา เขาได้สอบถามหลายคนผลคือจากทั้งหมด 100 กว่า 90 คนอยากจะเข้าทีมนักฆ่าขนนกกัน ส่วนที่เหลือสิบคนก็ทีมความลับของพระเจ้า ส่วนทีมกุ้งเสือดำ…ไม่มีสักคน
“อย่าพูดจาไร้สาระ! ไปทีมความลับของพระเจ้า!” ชูฮันไม่ให้โอกาสโอดะได้แย้งใดๆทั้งนั้น ชูฮันตัดสินใจให้เองโดยตรง
“เอ่อ ครับท่าน” โอดะเป็นคนมองโลกในแง่ดี เขาหมุนตัวหันกลับไปหาหลูปิงเซ่อ “กรุณาชี้แนะผมด้วยครับกัปตัน!”
สีหน้าของหลูปิงเซ่อเริ่มคล้ำทันทีอย่างไม่พอใจ แค่คนแรกก็ปฏิเสธจะเข้าทีมของเขาและอยากไปเข้าทีมนักฆ่าขนนกแล้ว เขาเองก็มีประสบการณ์และความสามารถเหมือนกัน ทำไมถึงมองข้ามเขาแบบนี้!
“หัวหน้าไม่ต้องถามระยะและความสามารถก่อนเหรอครับ?” ซูเฟิงที่นึกขึ้นเอ่ยถามชูฮัน
“ไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือมีพลังมากน้อยเท่านั้น พวกเขาจะต้องฝึกตัวเองให้เหมาะกับทีมที่อยู่” หลังจากพูดจบ ชูฮันก็ยิ้มพร้อมกวาดตามองทุกคนตรงหน้า “ต่อไป”
“ขออนุญาตครับท่าน ผมชื่อกวนผิง” ชายคนที่สองเงียบขึ้นมานิ่งๆเพียงแค่นั้นเพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ
ชูฮันพอใจเพียงแค่เหลือบมองครั้งเดียว และเอ่ย “ไปทีมกุ้งเสือดำ!”
“ครับท่าน!” กวนผิงค่อนข้างทำตัวไม่ถูก หากก็ยังคงเงียบเอาไว้ และเดินไปหาเสี่ยวเคินตามคำสั่ง เขาเสียใจเพราะไม่ได้เข้าร่วมกับทีมที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างทีมนักฆ่าขนนนก แต่ในสายตาของท่านพลเอกเขาอาจจะยังธรรมดาเกินไป แม้ว่าเขาจะเก่งในด้านทุกก็ตาม…
ถ้าชูฮันรู้ถึงความยุ่งเหยิงในใจกวนผิงละก็ ชูฮันคงถูกใจตบโต๊ะหัวเราะลั่นไปแล้ว คนมีฝีมือเช่นนี้เหมาะแล้วที่จะเป็นนักฆ่า!
แต่ละใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งนาทีเท่านั้น ความเร็วที่เกิดขึ้นสร้างความมึนงงให้ทุกคนอย่างมากจนตามไม่ทัน ทันทีที่แต่ละคนเอ่ยปากชูฮันก็สามารถรู้ถึงลักษณะนิสัยของแต่ละคนได้แล้ว จากนั้นเขาก็จะจับไปอยู่กับทีมที่เหมาะสม
ชินหยวนที่ยืนดูเหตุการณ์มาตลอดเองก็งุนงง เขาเห็นการคัดแยกที่สบายๆรวดเร็วอย่างนี้เป็นครั้งแรก แต่มันดูเหมือนไม่มีอะไรผิดพลาด เทียบกับข้อมูลและความสามาถของแต่ละคนแล้ว การกระจายของชูฮันนั้นถูกต้องทุกอย่าง แต่ละคนเหมาะสมกับทีมที่ชูฮันจับให้แล้ว
มนุษย์สายพันธุ์ใหม่หนึ่งร้อยคนถูกมอบหมายเข้าประจำทีมเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ทุกคนยืนประจำอยู่ด้านหลังกัปตันของตัวเอง ตอนนี้จำนวนสมาชิกของแต่ละทีมเพิ่มขึ้นอย่างพุ่งกระฉูด รวมกันทหารเดิมที่มีอยู่ ทำให้ตอนนี้แต่ละทีมมีสมาชิกอย่างต่ำ 50 คน ค่อนข้างตื่นเต้น
และมันก็เป็นไปอย่างแม่นยำเพราะการแบ่งแยกแต่ละคนตามบุคลิกโดยชูฮัน ตอนนี้พอทุกคนยืนแบ่งเป็นทีมแล้ว มันสามารถมองชัดเจนเลยว่าทีมนั้นคือทีมอะไรเพราะความแตกต่างของแต่ละทีมรวมถึงสมาชิกที่พอรวมกันมันโดดเด่นอย่างมาก
ทีมนักฆ่าขนนกเป็นพวกตัวร้าย คล้ายกับโจร ทุกคนได้รับการต้อนรับอย่างเป็นกันเองสบายๆ เพียงแค่ไม่นานบางคนก็เริ่มนัดหมายกันเล่นเกมส์แล้ว เป็นกลุ่มคนป่าเถื่อนที่ไม่คิดอะไรเลย
ส่วนทีมความลับของพระเจ้าที่อยู่ข้างๆก็ส่งเสียงดังเซ็งแซ่ มีเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยดังสนั่นไปทั่ว ได้ยินบางคนพูกว่าพวกเขาจะไปที่เขาเพื่อล่าเสือ บางคนก็พูดว่าซอมบี้ผู้หญิงที่เจอเมื่อวานหน้าอกน่าเกลียดมาก…
ทีมที่เงียบสนิทมีเพียงทีมกุ้งเสือดำทีมเดียว แม้ทุกคนจะสีหน้าบึ้งขณะคอยฟังเสียงพูดคุยของทั้งสองทีม หากแววตาของทุกคนมีแววของนักฆ่าอยู่ในนั้น ราวกับพร้อมกับฆ่าใครก็ได้ในวินาทีต่อไป
ชูฮันยิ้มกับตัวเอง ทั้งสามทีมช่างต่างกันจริงๆ
ในขณะที่ชูฮันพึ่งจัดการทุกอย่างเสร็จ จู่ๆมันก็มีนายทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้อง “ท่านครัยบ เหล่าผู้รอดชีวิตในค่ายกำลังสร้างปัญหาครับ!”
ชูฮันนิ่วหน้า “อะไรน่ะ?”
นายทหารที่รีบวิ่งเข้ามารายงานปาดเหงื่อที่หน้าปากออก “กลุ่มผู้รอดชีวิตชุดแรกที่ถูกเลือกให้เข้าไปอยู่ในเมืองอันลูครับ บางคนไม่ยอมไปครับ พวกเขาเรียกร้องต้องการคุยกับท่านซางจิ่วตี้ครับ”
แววตาของชูฮันเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างรวดเร็ว ไม่ได้อยากคุยกับเขาแต่เจาะจงว่าต้องเป็นซางจิ่วตี้?
“ไปกันเดี๋ยวนี้!” ไม่ต้องพูดอะไรมาก ชูอันเดินนำออกไปทันทีอย่างรวดเร็วไม่ทิ้งฝุ่น
เมื่อเห็นว่าหัวหน้าดูจะเป็นมีงานเข้า ทีมนักฆ่าขนนกและความลับของพระเจ้าที่เอาแต่ส่งเสียงดังก่อนหน้านี้ก็เงียบเสียงลง เช่นเดียวกับทีมกุ้งเสือดำที่เงียบต่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“พวกคุณสามารถเริ่มการฝึกได้เลย” ซูเฟิงพูดเปิดออกมาก่อน เขาเป็นกัปตันของทีมนักฆ่าขนนกและเป็นคนที่มีพลังต่อสู่มากที่สุดด้วย ปกติเมื่อชูฮันไม่อยู่มันจึงเป็นหน้าที่เขาโดยปริยายที่จะต้องนำทั้งสามทีม “พวกคุณเองก็เห็น ท่านชูฮันไม่มีเวลาว่างเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นพวกเราทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ต้องไม่ได้พักเหมือนกัน พวกเขาจะทำการฝึกฝนโดยไม่หยุดพัก พวกเราต้องช่วยแก้ปัญหาให้กับท่านหัวหน้าของพวกเรา! เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจครับ!” ทุกคนตอบรับพร้อมกันเสียงดัง โดยปกติทุกคนไม่เคยได้เห็นชูฮันทำงาน แต่ตอนนี้พวกเขาได้เห็นแล้วว่าชูฮันยุ่งและมีงานมากขนาดไหน ถ้าพวกเขาไม่ช่วยแบ่งเบาภาระให้ท่าน แล้วพวกเขาจะมีหน้าภูมิใจได้ยังไง?
ยืนอยู่ข้างๆ หลิงและเหลียวหยงมีแววตาประหลาดใจ เป็นไปได้อย่างไรที่จะสร้างความสามัคคีของทุกคนได้ภายในระยะเวลาสั้นๆแค่นี้ ความชื่นชมของทุกคนที่มีต่อชูฮันมันมากอะไรขนาดนี้กัน
ในตอนนั้นชูฮันที่จากไปก็เดินมาถึงบริเวณห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ตรงหน้าประตูอัดแน่นไปด้วยกลุ่มคนจนล้น กลุ่มผู้รอดชีวิตขนาดใหญ่พยายามจะเบียดตัวเข้าใจข้างในกันพร้อมเสียงโหวกเหวกดังสนั่นไม่หยุด