Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 705 ชนิ้วกลาง
ตอนที่ 705 ชนิ้วกลาง
“มีใครมา?” หวังไคที่ประหลาดใจกับการปรากฏตัวของยู่เว่ยจู่ๆก็เปลี่ยนท่าทีน้ําเสียง ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างรวดเร็ว “คนพวกนี้ไม่ใช่คนดีดูสิมันดูเหมือนกําลังรอให้นายเหนื่อยจนหมดแรง”
ซูฮันยังคงจับขวานเคลื่อนไหวไปมา ขณะแววตาแสดงความรําคาญและหมดความอดทนออกมา “ฉันเริ่มอารมณ์เสียล่ะ”
“อย่าเปลี่ยนเรื่อง!” หวังไคเบิกตาโตๆของมันให้กว้างขึ้นไปอีก ” คนพวกนี้ต้องการจะทําอะไร? แล้วนายจะทํายังต่อตอนนี้?”
“นายจัดการที่สิ?” ชูฮันมองไปที่เสี่ยวหยุนเทียนและคนอื่นๆที่ยืนอยู่ห่างออกไปน้ําเสียงเย็นยะเยือก “ตอนที่ฉันสู้กับซุปเปอร์ซอมบี้ไม่มีใครออกมาสักคน พอซุปเปอร์ซอมบี้ตายก็แห่กันออกมาหมดมันก็ชัดเจนแล้วว่าคนพวกนี้ซุ่มรออยู่แถวนี้มานานแล้ว แล้วตอนนี้ที่พวกมันยืนรอตรงหน้าเพื่อจะรอเก็บคริสตัลพิเศษของซุปเปอร์ซอมบี้ไป”
ซุปเปอร์ซอมบี้ในแต่ละพื้นที่นั่นหาได้ยาก ซอมบี้ 500,000 ตัวจะมีซุปเปอร์ซอมบี้หนึ่งตัวหรือเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีเลย ซึ่งคริสตัลพิเศษนี้ต่างเป็นที่ต้องการอย่างมากในแผนกวิจัยตามค่ายต่างๆ ทั้งยังมีราคาสูง
มาก ยิ่งสถาบันวิจัยชาวยิ่งให้ราคาสูงกว่าที่อื่น พวกเขาให้ราคาถึง 10,000 เหรียญล่มสลายสําหรับคริสตัลพิเศษ
แม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่าคริสตัลทั้งหลายจากซอมบี้เอาไปทําอะไรได้ แต่พวกรู้แค่ว่ามันมีมูลค่าอย่างมากสําหรับการวิจัย และซูฮันที่รู้ดีเรื่องของคริสตัลพิเศษก็ไม่เปิดเผยความแตกต่างของคริสตัลแต่ละประเภทว่ามันมีประโยชน์อย่างไร
อีก!
หวังไคกลืนน้ําลายอีกอย่างกังวล “อะไรน่ะ? จํานวนซอมบี้ที่สูงมากขนาดนี้ แล้วไหนจะซอมบี้ระยะสูงที่มีอีกเยอะ แล้วมันก็มีเพียงเส้นทางเดียวที่จะออกไปได้ ไหนจะต้องจัดการฝูงซอมบี้พวกนี้ แล้วยังต้องรับมือกับกลุ่มคนละโมภพวกนี้อีกเหรอ?”
“แล้วดูสีหน้าของคนพวกนี้ พวกมันต้องมีไพ่ตายอยู่ในมือแน่ๆ” ชูฮันเป็นคนเอ่ย
“ครั้งนี้นายช่วยไม่ทําให้ปัญหาให้มันใหญ่และยุ่งยากกว่าเดิมได้มั้ย?” หวังไคแทบ จะหมดคําพูดสิ่งที่สําคัญที่สุดตอนนี้คือแก้ไขปัญหาตรงหน้าก่อนไม่ใช่รึไง!
ทันใดนั้นมันก็มีประกายดุดันฉายในนัยน์ตาของซูฮัน และจู่ๆก็มีร่างของคนคนหนึ่งป รากฏตัวขึ้นที่ระยะห่างออกไป คนคนนั้นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วจนแทบจะบินในมือทั้งสองข้างมีมีดสั้นและพุ่งตัวมาที่สะพานที่ซูฮันยืนอยู่
การปรากฏตัวที่เหนือความคาดหมายของคนคนนี้ทําให้ทุกคนตกใจ ไม่เพียงแค่ชูชันและหวัง ไคที่ตกใจอยู่พักหนึ่ง ซูฮันยืนนิ่งไม่ขยับอยู่บนสะพานไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เสี่ยวหยุนเทียนที่ยืนรออยู่ก็ตกใจเช่นกัน
“เฮ้ นี่นายทําน้องฉันหายไปไหน? หวังไคอยู่ไหน?” ประโยคที่ออกจากปากของชายที่ปรากฏตัวขึ้นใหม่เจาะจงถามไปที่ซูฮัน
และคนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครแต่คือ ชินยู่ชวนนั่นเอง
ซูฮันตะลึงไปชั่วขณะ เขาจัดการระเบิดหัวซอมบี้ตัวที่เข้ามาใกล้เขาหันหน้ากลับไปมองที่ชินยู่ชวนและยิ้มใส่ “นี่มันมีหลุมอยู่ในสมองนายหรือไง? วิ่งฝ่าเข้ามากลางฝูงซอมบี้ได้ยังไงแล้ว ไงล่ะตอนนี้เราเลยโดนล้อมหมดแล้ว”
ชินยู่ชวนตะลึง บิดคอและกวาดตามองไปรอบๆ จากนั้นก็เริ่มเสียใจกับการกระทําของตัวเอง “โอ้! ฉันหนีออกไปตอนนี้ทันมั้ย?”
ซูฮันหมดคําพูด ลุงนี่มันสุดยอดจริงๆ พาตัวเองมาตายชัดๆ!
“เฮ้ย นายยังไม่ตอบคําถามฉันเลย นายเอาน้องชายฉันไปไว้ไหนหวังไคอยู่ไหน?” จู่ๆชินยู่ ชวนก็กลับมาที่คําถามเดิมรอคอยคําตอบซูฮันอย่างใจจกใจจ่อ “นายกินน้องฉันใช่มั้ย?ไอ้เลว! แกทําแบบนี้กับน้องชายที่บูชาเคารพแกได้ยังไง?”
ซูฮันรําคาญจนแทบอยากจะเขวี่ยงหวังไคที่อยู่ในกระเป๋าใส่หน้าชินยู่ชวนซะเดี๋ยวนี้ “นายจะเทิดทูนหวังไคอะไรหนักหนา เอาดาบมาใช่มั้ย? ฉันจะเบิดถนนให้ ให้เวลาสิบวินาทีเริ่มเลย สิบ เก้า แปด…”
ชูฮันพูดแค่ประเด็นสําคัญเท่านั้น และให้โอกาสชินยู่ซวนได้เตรียมตัวและยังนับเวลาถอยหลังให้ ชินยู่ชวนยังไม่ได้สติคืนมาจากความตกใจที่น้องหวังไคของเขาได้ตายไปแล้วเขา ได้ยินเสียงนับถอยหลังของซูฮันและก็รีบวิ่งพุ่งไปหนีไปทางด้านหลังทันที
ในเวลาเดียวกันยู่เว่ยที่คอยจัดการกับซอมบี้อีกฝั่งไม่หยุดจนเหนื่อยหอบเขาเองก็เริ่มได้ยินเสียงนับถอยหลังของซูฮันจนมันมาถึงเลขห้า
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
“เร็วเข้า! รีบฝ่าออกไป!” ชินยู่ซวนไม่เข้าใจว่าซูฮันต้องการจะทําอะไรแต่เขาก็ทําตามคําสั่งของซูฮันไปอย่างไม่รู้ตัว “เร็วๆไปอยู่ข้างผู้ชายคนนั้น!”
ยู่เว่ยพยายามส่งแรงอีดให้ตัวเองและไปอยู่ข้างซินยู่ชวน ขณะคอยจัดการซอมบี้ที่คอยเข้ามาหาด้วย
ขณะที่เสี่ยวหยุนเทียนและคนอื่นๆที่ยืนดูต่างเข้าใจและงุนงง พวกเขาได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างไม่เข้าใจว่าชูฮันต้องการจะทําอะไร
ในตอนนั้นเอง ซูฮันก็ยิ้มออกมา สีหน้าของเขาเริ่มแสดงความเย่อหยิ่งออกมาเรื่อยๆ เขา ค่อยๆจัดการซอมบี้ที่ฝังของเขาอย่างต่อเนื่องขณะที่ปากก็ขยับนับตัวเลขถอยหลังไปเช่นกัน จนกระทั่งนับมาถึงเลขสาม แววตาของซูฮันก็เปลี่ยนไป นัยน์ตาดําสนิทจ้องเขม็งไปที่เสี่ยวหยุนเทียนและคนอื่นๆและเผยสีหน้าที่กําลังถูกใจเหมือนสนุกอยู่ออกมา
“ฉันมีลางสังหรณ์” หยางลานที่ซ่อนตัวอยู่พูดขึ้น
“ฉันก็ด้วย..” หยางลินพูดขึ้นอย่างประหม่าขณะหันหน้าไปหาหยางลานจากนั้นทั้งสอ งคนก็หันกลับไปมองที่ด้านหน้าต่อพร้อมกัน ” ต้องฝ่าไป!”
พรึบ! พรึบ!
ทั้งสองร่างพุ่งออกจากมุมที่ซ่อนอยู่ มุ่งหน้าไปทิศทางที่ชูชันอยู่และวิ่งอย่างสุดกําลัง
เสี่ยวหยุนเทียนที่เห็นภาพนี้ก็ตกใจ อารมณ์โกรธพวยพุ่งขึ้นมาทันทีไอ้หยางลินหยางลาน สองคนนี้มันกล้าทรยศเขา!
“สอง หนึ่ง ศูนย์!” ทันทีที่น้ําเสียงของซูฮันหายไปในอากาศ ชูฮันก็ตะโกนเรียกพร้อมตั้งท่าจะฟาดขวานซิ่วโหลลงพื้น พร้อมๆกับยื่นมือด้านซ้ายออกมาหาเสี่ยวหยุนเทียนและคนอื่นที่อยู่ ตรงข้ามและโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆชูฮันก็ชูนิ้วกลางขึ้นมา
ฟื้บ
!
ในจังหวะนั้นเองสองพี่น้องหยางดินและหยางลานก็วิ่งอย่างสุดขาดใจผ่านหน้าชูฮันไป สีหน้าของทั้งสองนั้นเหมือนกันเป๊ะ ทั้งประหม่า กังวล ตื่นเต้น ตกใจ และสับสน
สีหน้าของเสี่ยวหยุนเทียนเริ่มเปลี่ยนสีดําคล้ํา จากนั้นก็แหกปากลั่น “ไอ้เวร! แม่มึงสิ กูจะฆ่าถึง! มึงคิดว่ามึงเป็นใคร! อวดดีนักเหรอ!”
และวินาทีถัดมา —
” ปัง!”
เกิดแรงระเบิดรุนแรงขึ้นอย่างกระทันหัน ควันฟุ้งกระจายในอากาศตามมาด้วยเสียงแปลกๆ ที่ดังมาจากตรงสะพานเสียงแตกของบางอย่างที่ดังขึ้นและภายในพริบตาร่างของซูฮันก็ไป โผล่ไปยืนที่อีกฝั่งของสะพานหากยังอยู่บนสะพานอยู่
เป็นเวลาช่วงหนึ่งกว่าฝุ่นควันในอากาศจะจางหาย รอยแตกที่สะพานดูเหมือนจะเลวร้ายมากหากตัวสะพานยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ