Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 711 ซ้ําสอง
ตอนที่ 711 ซ้ําสอง
สถานการณ์เป็นที่เข้าใจได้ดี แม้แต่ข้อมูลทางด้านภูมิศาสตร์ก็มีพร้อมอย่างชัดเจน ประกอบกับความจริงที่ว่าทีมกุ้งเสือดําได้กลับมารวมตัวกับชูฮันแล้ว เพราะงั้นสิ่งที่ต้องทําต่อไปมันก็ชัดเจนแล้ว
“เริ่มได้ ทีมกุ้งเสือดํานําฉันไปที่รังของพวกลูกผสมเดี๋ยวนี้” ชูฮันออกคําสังกับทีมกุ้งเสือดําทันที
พรึบ!
ทีมกุ้งเสือดําพลันกระจายตัวไปตามถนนอย่างรวดเร็วทีละคนๆ ความเร็วไม่ต่างอะไรกับลิงที่ปินปายและหายไปในพริบตา
ภาพที่เกิดขึ้นตกอยู่ในสายตาของทั้งสี่คนที่ได้แต่ยืนมองนิ่งมาตลอด เป็นอีกครั้งที่พวกเขาต้องตาโตด้วยความตกใจ โดยเฉพาะหยางดินและหยางลานที่ต้องกระพริบตาปริบๆอย่างพูดอะไรไม่ออก เมื่อมองตามหลังการเคลื่อนไหวของทีมกุ้งเสือดํามันได้สร้างความรู้สึกแปลกๆให้ทั้งคู่
ชัดเจนว่าทั้งห้าสิบคนมีพละกําลังและวิธีการโจมตีที่แตกต่างกัน แต่ละคนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ในขณะเดียวกันมันกลับให้ความรู้สึกว่าทั้งห้าสิบคนเหมือนคนคนเดียวกัน ทุกคนแสดงออกถึงอารมณ์เดียวกันจนไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครเป็นใคร
“ไปไกลมั้ย? พวกเราจะพลัดหลงกับพวกเขามั้ย?” ซินยู่ซวนเกิดความกังวลแปลกๆและมันฉายชัดในน้ําเสียงของเขา คนห้าสิบวิ่งกระจายกันไปมาโดยไม่ปรึกษาหารือกันเลยสักคําว่าจะต้องไปทางไหน พวกเขาจะไม่หลงหายกันท่ามกลางเมืองหลวงที่ใหญ่โตอย่างนี้งั้นเหรอ?
ชูฮันเอ่ยขึ้นด้วยน้ําเสียงราบเรียบ “จะมีคนคอยเดินตามคุ้มครองเราในที่มืดเอง ไม่ต้องห่วง”
“ที่มีด?” ยูเว่ยตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน หันไปมองรอบๆตัวอย่างกลัวๆ ” ที่ไหน?”
“ถ้านายหาพวกเขาเจอง่ายแล้วจะเรียกพวกเขาว่าทีมกุ้งเสือดําได้ยังไง?” ชูอันแสยะยิ้มตามหลัง
หาไม่เจอ?
จํานวนทหารวิวัฒนาการระยะ 2 ทั้ง 120 คนที่ตวนเจียงเหว่ยพามาเพื่อทําการประเมิณเสาหินพิเศษในเมืองโรแมนติกได้ผ่านการประเมิณเสร็จสิ้นหมดแล้ว แม้จะเป็นทีมที่ตวนเจียงเหว่ยคัดเลือกมาอย่างดีแล้ว แต่คะแนนสูงสุดที่คนของตวนเจียงเหว่ยทําได้ก็ถึงแค่ระดับ S เท่านั้น และก็มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น หลังจากทหารคนนั้นเข้าไปในประตูมิติได้อย่างตื่นเต้น หากเนื่องด้วยพละกําลังทางกายภาพที่ไม่สมบูรณ์พอ รวมถึงความแข็งแกร่งของร่างหายทําให้ทหารคนนั้นไม่สามารถตามการประเมิณได้ทัน จึงล้มเหลวในภารกิจคว้าคะแนน S+ จากการประเมิณมาได้
ตวนเจียงเหว่ยเองก็ไม่ได้ประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เมื่อตอนที่ทหารหลายคนของคนมาล้อมตัวเขาพยายามพูดชักจูงเพื่อขอทําการทดสอบอีกครั้ง เขาก็ปฏิเสธเสียงแข็งกลับไปเพราะการทดสอบแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายถึง 1,000 เหรียญล่มสลายต่อคน ถึงแม้คนพวกนี้จะลองอีกครั้งยังไงก็ล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด มันดีกว่าที่จะกลับไปฝึกฝนอีกครั้งก่อนแล้วค่อยกลับมาทําการทดสอบใหม่
ในเวลาเดียวกัน ในที่สุดตวนเจียงเหว่ยก็ตระหนักได้ว่าข่าวที่เขาได้รับจากติงชื่อเข้าในราคาแพงนั้นเปล่าประโยชน์อย่างสิ้นเชิง มันเป็นหลุมดักขนาดใหญ่ต่างหาก!
ไหนจะตัวขาเข้าไปทําการทดสอบราคาแพงที่เข้าต้องจ่ายสําหรับทหารทุกคนถึง 120,000 เหรียญล่มสลายสําหรับการทดสอบหนึ่งครั้ง
การเดินทางมาเมืองอันดูครั้งนี้ทําให้ตวนเจียงเหว่ยรู้สึกเจ็บใจเหลือเกิน เงินหลายแสนที่เขาเสียไปทั้งหมดเพราะตกหลุมดักของชูฮัน ไม่เพียงแค่จะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรกลับมาเลยสักอย่างแล้ว แต่ยังเขาต้องเสียเวลาคืนหนึ่งที่นี้เปล่าๆอีก
มองไปที่เสาหินประเมิณพิเศษที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลางเมืองเล็กๆแห่งนี้ สีหน้าของตวนเจียงเหว่ยก็อึมครึมขึ้นมาทันทีและในที่สุดตวนเจียงเหว่ยก็เห็นอะไรบางอย่างเข้า
ก่อนหน้านี้ด้วยเพราะเสาหินมีขนาดใหญ่มหึมหา อีกทั้งด้วยความที่ยืนอยู่ใกล้ เขาจึงไม่สามารถมองอย่างครอบคลุมได้ทั้งหมด รวมถึงตัวตวนเจียงเหว่ยเองก็มัวแต่สนใจรายชื่อของระยะ 2 เท่านั้น เขาจึงเมินเฉยต่ออันดับรายชื่อระยะอื่นไปก่อนหน้านี้
แต่เวลานี้เมื่ออยู่ในจุดที่ห่างออกมา ตวนเจียงเหว่ยที่กําลังจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ก็หันกลับไปมองเสาหินยักษ์อีกครั้งและทันใดนั้นเขาก็พบกับสถานการณ์ใหม่ทันที
รายชื่อของอันดับระยะ 5 มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด!
ก่อนหน้านี้มันมีเพียงรายชื่อคนแค่หยิบมือเท่านั้นบนรายชื่อของระยะ 5 และมันมีแค่สามคนเท่านั้นที่จัดอยู่ในอันดับ 10-1 คนแรกคือ ราชานักล่า ที่เป็นคนแรกที่มีตัวเลขนี้ปรากฏขึ้น อีกคนคือตัวตวนเจียงเหว่ยนั่นเอง และอีกคนคือกษัตริย์ ที่จู่ๆก่อหน้านี้ชื่อของคนคนนี้ก็ปรากฏขึ้นมา แถมยังสื่อความหมายว่าตัวเองเป็นราชาเหนือใคร
ทว่าตอนนี้ เพียงเวลาข้ามคืนจู่ๆชื่อของกษัตริย์ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นอันดับหนึ่งในรายชื่อกลับถูกไล่ลงมาด้านล่าง และแทนที่ด้วยคนที่เก่งกว่าและมีชื่อที่แปลกยิ่งกว่า….จักรพรรดิ
มีประกายบางอย่างแวบผ่านนัยน์ตาของตวนเจียงเหว่ยไป เขาเคยเป็นที่หนึ่งในรายชื่อของระยะ 5 แต่เนื่องจากการเตรียมการที่ยังไม่เพียงพอ มันจึงมีเพียงชื่อของราชานักล่าที่ปรากฏขึ้น อีกทั้งยังมีรหัสต่อท้ายที่แตกต่างไปจากทั่วไป ดังนั้นหลังจากนั้นตวนเจียงเหว่ยจึงเข้าไปทําการประเมิณอีกครั้งด้วยร่างกายที่เตรียมพร้อมสมบูรณ์แบบและพละกําลังสูงสุด ชื่อของตวนเจียงเหว่ย จึงต่อท้ายชื่อของราชานักล่า
ถึงกระนั้นการปรากฏตัวของกษัตริย์ ได้ผลักตวนเจียงเหว่ยให้ตกไปอยู่ที่อันดับสาม แต่ที่ตวนเจียงเหว่ยคาดไม่ถึงก็คือมันจะมีอีกคนที่ผลักกษัตริย์ให้ตกลงไปและขึ้นนําแทนได้อีก!
คนคนนี้คือใครกัน?
ต่อมา ด้วยความข้องใจที่มี สายตาของตวนเจียงเหว่ยก็เบี่ยงไปที่รายชื่อันดับของระยะ 4 ทันที และมันก็ปรากฏชื่อของอันดับหนึ่งตามด้วยคะแนนประเมิณ S+
เป็นของไอ้เวรชูฮันอย่างที่คิดไว้จริงๆ..หากตวนเจียงเหว่ยก็รีบส่ายหัวอย่างไม่ยอมรับทันที
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นไอ้ฮัน มันพึ่งจะได้อันดับที่หนึ่งของระยะ 4 มาสดๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นวิวัฒนาการระยะ 5 ภายในวันเดียวกัน และยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปอีกที่จะเป็นอันดับที่หนึ่งของรายชื่อระยะ 5
ตวนเจียงเหว่ยเชื่ออย่างนั้นเพราะเขาได้ผ่านการประเมิณอันดับของระยะ 5 มาแล้วซึ่งมันหินอย่างมาก และถึงแม้ชูฮันจะสามารถยกระดับขึ้นมาที่ระยะ 5 ภายในวันเดียวได้จริง มันก็ไม่มีทางที่ชูฮันจะได้อันดับที่หนึ่งในการประเมิณพลังการต่อสู้โดยรวมเด็ดขาด
การประเมิณพลังการต่อสู้โดยรวมนั้นยากกว่าการประเมิณระยะอันดับปกติถึงสองเท่า ยิ่งการที่จักรพรรดินั้นอยู่ในระดับเหนือกว่าราชานักล่า คาดว่าบุคคลนี้จะต้องเป็นดาวรุ่งในวงการแน่ๆ!
ความระแวงและอิจฉาฉาบวูบในแววตาของตวนเจียงเหว่ย ตอนนี้มันคือปีที่สองของโลกาวินาศ มันมีคนที่ทรงพลังและเก่งกาจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างเริ่มเจริญขึ้นๆทั้งๆที่ความจริงผู้คนไม่ได้รับรู้ถึงวิกฤตที่จะตามมาเลย
ในขณะที่ตวนเจียงเหว่ยกําลังจะก้าวเท้าขึ้นบนเฮลิคอปเตอร์เพื่อออกไปจากเมืองอันดู มันก็มีเสียงดังขึ้นมาจากระยะไกล
“เฮ้ เฮ้ อย่าพึ่งไป มันมีบางอย่างเกิดขึ้น มาดูเร็ว!”
ตวนเจียงเหว่ยสีหน้าเบื่อหน่าย พวกเขาจะไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้อีก และจะไม่ยอมเสียรู้ให้กับคนพวกนี้อีก เขาเสียเงินและเวลามามากพอแล้ว ตวนเจียงเหว่ยรีบออกคําสั่งให้เฮลิคอปเตอร์ทุกลํานําพาทหารวิวัฒนาการระยะ 2 ทั้ง 120 คนของเขากลับไปยังค่ายตวนอย่างรวดเร็ว
และทันทีที่ตวนเจียงเหว่ยจากไป โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่ามันได้มีบางอย่างเกิดขึ้นในเมืองโรแมนติก ซึ่งมันเป็นข้อมูลสําคัญ ดังนั้นตวนเจียงเหว่ยจึงพลาดไปอย่างสิ้นเชิง
่
หลูอี๋นํากลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 2 จากค่ายเจี้ยน นําโดยหลูอี๋ซึ่งมาถึงทันทีหลังตวนเจียงเหว่ยออกไป เนื่องด้วยอํานาจและเงินทองที่มีอย่างจํากัด หลูอี๋จึงเดินทางมาโดยเฮลิคอปเตอร์ ขณะที่ทหารของเขาต้องเดินเท้ามา โชคยังดีที่ค่ายเจี้ยนอยู่ไม่ไกลจากเมืองโรแมนติกมาก พวกเขาจึงสามารถมาถึงเมืองโรแมนติกในที่สุดได้เป็นทีมที่สอง
ความรีบเร่งเช่นเดียวกับทีมแรกที่มาถึง หลูอี๋ได้พบกับหลินหยุที่ตัวเมืองชั้นนอก และเกือบจะมีเรื่องราว ทว่าหยางเทียนที่รีบมาจากค่ายเขี้ยวหมาปาได้เข้ามาจัดการคลี่คลายปัญหาให้ซะก่อน