Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 743 ปฏิกิริยาของทุกคน
ชูฮันอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองฟ้าท่ามกลางความมืดในยามค่ำคืน มันมีแต่ความมืดมิดที่มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ฉางกวนยวีซินมาที่นี่ทำไม?
ไม่มีเวลาให้ทันได้คิดต่อชูฮันก็รีบออกคำสั่งทันที “เหมิงชีเหว่ยรีบออกไปเดี๋ยวนี้อย่าให้ใครเห็น หลูปิงเซ่อติดต่อเพื่อนสัตว์ตัวน้อยของนายให้ถ่วงเวลาฉางกวนยวีซินด้านนอกอีกสักพัก ทีมกุ้งเสือดำ…ทุกคนสูบบุหรี่ซะ”
เมื่อได้ยินคำสั่งทุกคนก็ตะลึงไปชั่วขณะ โดยเฉพาะทีมกุ้งเสือดำ ทว่าแม้จะตะลึงแต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธ
มีเพียงแค่ชูฮันที่ยังคงขมวดคิ้วแน่นแม้จะถ่วงเวลาฉางกวนยวีซินและให้ทุกคนสูบบุหรี่เพื่อกลบกลิ่น แต่กลิ่นเหม็นคลุ้งของเหมิงชีเหว่ยก็ยังไม่หายไป!
ในที่สุดฉางกวนยวีซินก็ผ่านฝูงกระรอกและพังพอนที่จู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้มาได้เธอเดินมาหยุดหน้าประตู ขณะที่ชูฮันซึ่งอยู่ในห้องที่กำลังนิ่วหน้าคิ้วขมวดอยู่ กลิ่นเหม็นของบุหรี่เริ่มฟุ้งกระจายอัดแน่นอยู่ในอากาศในบริเวณ ซึ่งมันน่าจะช่วยกลบกลิ่นตัวเหม็นเน่าของผู้ลี้ภัยที่เหมิงชีเหว่ยพามาได้ และคิดว่าฉางกวนยวีซินไม่น่าจะสามารถจับสังเกตที่กลิ่นที่แปลกแยกได้ออก
พั้วะ!
เมื่อประตูถูกเปิดออกชูฮันที่ยืนรออยู่ก็ยิ้มและเอ่ยต้อนรับ “ยินดีต้อนรับ มาทำอะไรดึกดื่นขนาดนี้กัน?”
ฉางกวนยวีซินที่กำลังจะอ้าปากพูดหากเธอคงสีหน้าเรียบนิ่งเอาไว้ก่อน หลังจากปรับอารมณ์ของตัวเองที่จู่ๆก็เขินอายจนหน้าแดงก่ำได้แล้ว เธอก็พูดขึ้น “ฉันมาดูว่าที่พักคุณเป็นอย่างไรบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะพิเศษขนาดนี้ เห็นว่าที่นี้มันจะมีสัตว์ซ่อนตัวอยู่มากมาย ดูเหมือนทางเราจะต้องทำความสะอาดชุดใหญ่”
หลูปิงเซ่อที่ได้ยินก็ตกใจอย่างมากเขารีบส่งข้อความไปให้เหล่าเพื่อนตัวน้อยผ่านคลื่นสมองที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินทันที เหล่าสัตว์น้อยทั้งหลายกระโดดเด้ง กระจายตัวหนีกันอย่างรวดเร็ว ไม่ทันทั้งหลายก็สลายหายไปในพริบตาราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน.ไอรีนโนเวล.
สีหน้าของชูฮันไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้นเขาเริ่มสำรวจฉางกวนยวีซิน ต่อมาชูฮันก็เผยรอยยิ้มออกมา “เชิญนั่งบนโซฟา นี่มันเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าสาวสวยอย่างคุณจะเดินมาถึงที่นี้ท่ามกลางความมืดคนเดียวเพื่อมาหาฉันและนั่งคุยเล่น”
”ฟู่~ชูฮัน” ฉางกวนยวีซินยิ้มอย่างชอบใจ “สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ผืนฟ้าแสนจะซับซ้อน เราพึ่งจะได้เจอกันหลังเวลาผ่านไปกว่าครึ่งปี ฉันคิดว่าหลังจากคุณได้เป็นพลเอกที่อายุน้อยที่สุดในจีนแล้วจะลืมฉันคนนี้ไปเสียแล้วซะอีก”
คำพูดของฉางกวนยวีซินเปรียบเสมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของชูฮันชูฮันไม่สนใจและไม่คิดจะฟังด้วยซ้ำ เขายิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันขาวสะอาดเรียงตัวกันอยู่ “ภายใต้ผืนฟ้ากว้างใหญ่ในยามค่ำคืน มีเพียงชายหนุ่มและหญิงสาวที่กำลังเหงา”
พ้ะ!
หมอนอิงบนโซฟาถูกเขวี้ยงมาอย่างไร้วี่แววตามมาด้วยเสียงของฉางกวนยวีซิน “อย่าได้คิดจะปั่นหัวฉันอีก!”
ชูฮันหยิบหมอนอิงขึ้นมา”สรุปว่าหมอทหารหญิง คุณจะร่วมมือกับฉันได้หรือไม่?”
ฉางกวนยวนซินส่ายหัวอย่างหมดหวังเธอพยายามไม่สนใจคำพูดของชูฮัน เพราะไม่ว่าเธอจะตอบหรือพูดอะไรไป ชูฮันก็สามารถชักนำทิศทางการสนทนาให้เป็นไปตามใจของเขาได้เสมอ
”สองข้อ”ฉางกวนยวนซินเอ่ยข้อต่อรองออกมาก่อน “พรุ่งนี้ เราจะมีมื้อเย็นเลี้ยงต้อนรับคุณ เพราะท้ายที่สุดแล้วคุณก็น่าจะรู้ดีว่าสถานะตัวตนของตัวเองมันพิเศษขนาดไหน? อีกอย่างนั้นเกี่ยวข้องกับข้อแรก มันจะมีคนมากมายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพ่อของฉันในงานเลี้ยงมื้อค่ำวันพรุ่งนี้ ฉันหวังว่าคุณจะพร้อมที่จะช่วยเหลือฉันทุกเมื่อ”
ชูฮันหัวใจเต้นแรง”ให้ลงไม้ลงมือ? หรือหมายถึงเตรียมพร้อมคอยพุ่งเข้าใส่?”
ฉางกวนยวนซินชะงัก”แน่นอนว่าห้ามลงไม้ลงมือ แต่ช่างมันเถอะ ยังไงคุณก็ทำได้”
ชูฮันยิ้มน้ำเสียงสบายๆหากแฝงไปด้วยการยั่วยุ “ฉันคิดว่าอำนาจของพลเอกฉางกวนหลงจะครอบคลุมไปทั่ว ไม่คิดเลยว่าจะมีใครในค่ายกล้าจะเผชิญหน้าเขาด้วย?”
”ค่ายไหนๆก็ล้วนประสบกับสถานการณ์นี้ทั้งนั้นอำนาจมันเป็นสิ่งที่เย้ายวนและใครก็ปรารถนากันทั้งนั้น” ฉางกวนยวนซินตอบคำถามพร้อมในใจที่หมดหวัง หากทันใดนั้นเธอก็นึกเอะใจกับคำพูดของชูฮันขึ้นมาได้ “คุณหมายความว่าไง? ค่ายเขี้ยวหมาป่าก็ไม่มีกรณีนี้งั้นเหรอ?”
”แน่นอนว่าไม่มีใครที่กล้าเป็นปรปักษ์กับฉันในค่ายเขี้ยวหมาป่า? วันต่อไปคนคนนั้นจะถูกโยนเข้าไปในป่าดงดิบ” ชูฮันไม่ปกปิดความโหดเหี้ยมของตัวเอง “เพราะงั้นค่ายเขี้ยวหมาป่าถึงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดมากกว่าที่ไหนทั้งนั้น เธออยากจะเข้าร่วมกับเรามั้ยล่ะ?”
”ฉันขอตัว!”ฉางกวนยวีซินลุกขึ้นและจากไปทันที เธอหมดคำพูดกับชูฮัน
ชูฮันยิ้มและมองตามหลังฉางกวนยวีซินที่ค่อยๆหายไปกับความมืดจากนั้นก็ส่งสัญญาณมือให้ทีมกุ้งเสือดำให้ออกมาจากที่ซ่อน หลังจากฉางกวนยวีซินจากไปชูฮันก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิด
เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายหนานตู้ขัดแย้งกับฉางกวนหลงมานานอย่างที่คาดไว้แต่ที่ฉางกวนยวีซินบอกเขาว่าในวันพรุ่งนี้จะมีคนใช้โอกาสก่อปัญหากับฉางกวนหลงนั้น แต่ชูฮันกลับมีความเห็นต่างออกไป…
———–
ขณะที่ชูฮันกำลังจะสร้างเรื่องใหญ่ที่ค่ายหนานตู้ข่าวของชูฮันก็กระจายไปทั่วราวกับพายุเพียงแค่คืนเดียว ระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำข่าวการปรากฏตัวของชูฮันที่ค่ายหนานตู้ก็ไปถึงเหล่าผู้นำของค่ายต่างๆแล้ว
อิทธิพลของชูฮันนั้นใหญ่อย่างมากผู้คนล้วนแต่พูดถึงข่าวของชูฮันกันหมดหากมันก็แค่เป็นการพูดถึงเท่านั้น เพราะแน่นอนว่าชื่อเสียงของชูฮันภายนอกนั้นค่อนข้างเลวร้ายอย่างมาก
มีเพียงแค่สถานที่เดียวที่ต่างออกไปเหย่จือโปที่กำลังเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของชูฮันอย่างใกล้ชิดทันทีที่ได้รับข่าวเป็นครั้งแรก โดยไร้ซึ่งการลังเลใดๆ เขาก็ออกคำสั่งให้กลุ่มนักสังหารจำนวนเล็กทว่าแข็งแกร่งและทรงพลัง เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าไปที่ค่ายหนานตู้ซึ่งเป็นที่อยู่ของชูฮันทันที
500,000เหรียญล่มสลาย มูลค่าของข้อมูลที่เหย่จือโปยอมจ่ายให้ตวนเจียงเหว่ยเพื่อแลกกับข้อมูลที่ว่าชูฮันถนัดซ้าย แม้มันอาจจะไม่คุ้มค่ากับราคามหาศาลที่จ่ายไป ทว่าเหย่จือโปก็ถูกป่ายยูบีบบังคับให้ทำงานนี้ให้สำเร็จมาอีกที ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ว่าอะไรเขาก็เอาทั้งนั้น เขาจำใจยอมเพื่อให้ภารกิจครั้งนี้สำเร็จลุล่วง
ตราบใดที่ชูฮันถนัดซ้ายมันจะต้องมีจุดบอดของการป้องกันตัวเองอยู่บ้าง และเขาก็ได้หาตัวมือสังหารที่ถนัดการสังหารสำหรับคนถนัดซ้ายมาโดยเฉพาะ…
เพื่อฆ่าชูฮัน!
มู๋เย๋ที่ปักหลักอยู่ในเมืองหยินเองก็ได้รับข่าวของชูฮันเป็นครั้งแรกเหมือนกันมู๋เย๋ในช่วงนี้กำลังมุ่งหน้าอยู่กับการเพิ่มจำนวนของเผ่าพันธุ์ลูกผสม ไม่ได้เคลื่อนไหวเช่นเพื่อไล่ตามชูฮันอย่างเหย่จือโป กลับกันประชากรในเมืองอันลูทั้งหมดกลับถูกล้อมเอาไว้และไม่สามารถไปไหนได้
ขณะที่มีกลุ่มลูกผสมระดับสูงกลุ่มเล็กๆแอบลักลอบไปที่ค่ายหนานตู้เป็นการเพิ่มความมั่นใจของมู๋เย๋เอง ไม่มีใครรู้ว่าเขาส่งทีมไปหนานตู้และจุดประสงค์ในครั้งนี้คืออะไร
ภายใต้การเดินทางอันยาวนานและแสนจะเหนื่อนล้าของเฉินยู่เทียนในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองหยินได้สำเร็จ เขาพยายามทำตัวไม่เด่น แฝงตัวเข้ากับกลุ่มลูกผสมธรรมดาได้