Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 750 เสียใจ?
ทั้งโต๊ะอาหารตกอยู่ในอาการอึ้งงันเพราะคำพูดของฉางกวนยวีซินกันหมดฉางกวนหลงและชูฮันเองก็อึ้งไม่ต่างกัน ทั้งคู่ไม่คิดว่าจะฉางกวนยวีซินจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา และใจความสำคัญของคำพูดของฉางกวนยวีซินก็สื่อได้ว่า…เธอได้เลือกไว้แล้ว?
และเงื่อนไขทั้งหลายที่ฉางกวนยวีซินร่ายมามันเจาะจงเกินมัน มันคือ…
มันไม่ต่างอะไรกับการบรรยายลักษณะของชูฮันทางอ้อมเลย!
เฉินยุนโหลวได้แต่ยืนนิ่งอย่างโง่ๆทำอะไรไม่ถูกอยู่ที่เดิมปรับสีหน้าไม่ถูก หากในตอนนี้เขารู้สึกอับอายเข้าไปมากกว่าเดิมอีก เขาพยายามหลีกเลี่ยงประเด็นเรื่องสถานะและพยายามจะเอาชนะใจฉางกวนยวีซินมาตั้งแต่แรก แต่ใครจะรู้ว่าหญิงสาวจะเป็นคนที่ตรงไปตรงมาและเฉลียวฉลาดขนาดนี้ การเอาคำที่สื่อถึงสถานะตำแหน่งออกไป แต่กลับเอาองค์ประกอบอื่นๆมาใส่แทน มันก็ไม่ต่างอะไรกับยศตำแหน่งทางทหารอยู่ดี ชูฮันได้ฆ่าคู่แข่งทุกคนในที่นี้ตายเรียบไปเรียบร้อยแล้ว
หลังจากความตกใจทุกคนก็หันไปจ้องชูฮันกันหมด แต่ภาพที่ได้เห็นก็ยิ่งทำให้พวกเขาตกใจขึ้นไปอีก คนที่ชนะใจของฉางกวนยวีซินได้กลับไม่สนใจอะไรเลยทั้งนั้น ในเวลาเดียวกันชูฮันยังคงเอาแต่ดื่มและจิบไวน์ต่อไป สุดท้ายแล้วฉางกวนยวีซินไม่ได้เลือกใคร แต่หลังจากบอกรายละเอียดเงื่อนไขทั้งหมด เธอก็หันมาจ้องชูฮัน
ทำไมถึงมองแต่ชูฮัน?ทำไมพวกเขาไม่อยู่แม้แต่ในสายตา?
ชูฮันแกมันตัวขวางโลก!
ขณะที่หลายคนเกิดความไม่พอใจหากก็ไม่สามารถแสดงอารมณ์ของตัวเองออกมาได้ ในขณะที่บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ จู่ๆฉางกวนหลงก็รีบอาศัยจังหวะเปลี่ยนเรื่องทันที “แค่กๆ! มื้อเย็นวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทำไมทุกคนถึงดูไม่เจริญอาหารกันเลยล่ะ?”
”เอาล่ะ!”
”ผมดื่มไวน์จนเมาแล้วขอตัวกลับไปนอนนะครับ!”
”ใช่ใช่ ผมต้องกลับแล้วล่ะ!”
”ต้องขอตัวกลับไปพักก่อนนะครับ!”
ทันใดนั้นหลายคนก็ลุกขึ้นหาข้ออ้างในการลาและจากไปทันที
หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้วฉางกวนหลงที่รู้ตัวอีกทีก็เห็นว่าชูฮันและฉางกวนยวีซินก็หายตัวไปเหมือนกันก็แทบจะพ่นไฟออกมาด้วยความโมโห.ไอรีนโนเวล.
ฉางกวนยวีซินก็รู้สึกอับอายอย่างมากเธอรอคอยการตอบสนองจากชูฮันอย่างใจจดใจจ่อ ทว่าชูฮันก็ยังไม่มีท่าทีใดๆเลย เขาเพียงแค่เงยหน้ามองท้องฟ้า ขณะคิดถึงเหมิงชีเหว่ยที่ในตอนนี้กำลังแอบเข้าไปในสถาบันวิจัยอยู่เป็นเวลาพักใหญ่แล้ว ท้ายที่สุดคงไม่มีใครคิดว่าในเย็นวันนี้ ที่มันน่าจะกลายเป็นงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่มันกลับจบอย่างเรียบง่ายด้วยคำพูดแข็งกระด้างของฉางกวนยวีซิน
”ถ้างั้นฉันจะไปส่งเธอกลับที่พัก?” ชูฮันเพียงแค่หาข้ออ้างในการเดินไปใกล้บริเวณของสถาบันวิจัยเท่านั้นเอง
ฉางกวนยวีซินไม่ได้รู้เลยว่าชูฮันคิดอะไรอยู่แต่คำพูดของชูฮันทำให้หัวใจของเต้นรัว แก้มขึ้นสีแดงด้วยความขวยเขิน
เมื่อเดินพ้นห้องโถงออกมาฉางกวนยวีซินก็เดินมาตามทางเดินมืดๆพร้อมกับชูฮันเดิน หากชูฮันกลับไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับการได้อยู่กับฉางกวนยวีซินตามลำพังเลยสักนิด เขาแค่รู้สึกว่างานเลี้ยงในวันนี้จบเรียบง่ายเกินไป เขาไม่ได้ลงมืออะไรมากเลยก็ทำให้ทุกคนกลัวและกระจายตัวหนีกันไปหมดแล้ว แถมต่อมาแผนการในการจะทำเนียนเข้าไปสถาบันวิจัยก็กำลังจะสำเร็จได้ง่ายๆ ดังนั้นในตอนนี้ชูฮันจึงค่อนข้างอารมณ์ดีพอสมควร
มีเพียงแค่สองเสียงฝีเท้าท่ามกลางความมืดฉางกวนยวีซินก้มหน้าต่ำขณะเดินข้างๆชูฮัน เธอพยายามจะปรับอารมณ์ของตัวเองที่ภายในกระเจิงไปหมดแล้วให้สงบลง
”ชูฮัน”ฉางกวนยวีซินที่เอาแต่ก้มหน้า ไม่รู้ว่าทำไมปกติเธอมักไม่ชอบถนนที่มืดมิดแบบนี้ แต่คราวนี้เธอกลับหวังว่ามันจะไม่มีจุดสิ้นสุด “จำตอนที่เราเจอกันครั้งแรกได้มั้ย?”
เมื่อฉางกวนยวีซินถามมาเช่นนี้ชูฮันก็พยายามย้อนนึกถึงความทรงจำในครั้งที่เขาได้พบกับฉางกวนยวีซิน “มันเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายจริงๆ คุณกำลังช่วยทำคลอดลูกสาวของเจียงโจวในรถเกวียน ส่วนฉันก็ฆ่าซอมบี้อยู่ด้านนอก มันเป็นวันที่มืดมนวันหนึ่ง เราใช้แรงงานกันอย่างสุดกำลัง เท้าไม่เคยได้หยุดพักเลยแม้แต่วินาทีเดียว”
เมื่อได้ยินที่ชูฮันพูดฉางกวนยวีซินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม “ใช่ แต่ตอนนี้คุณบ้ามากจริงๆ ฆ่าคนยี่สิบคนทีเดียวเพราะความดกระ คุณทำให้ฉันกลัวมากเลยตอนนั้น แต่คุณก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับฉัน”
ชูฮันแค่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรตอบ
”ชูฮันถามจริงๆนะ ตอนนั้นคุณรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองมั้ย?” ทันใดนั้นฉางกวนยวีซินก็หยุดฝีเท้า ก้าวเข้ามาเผชิญหน้ากับชูฮันด้วยสายตาจริงจัง
”ฉันไม่เคยเสียใจที่ต้องฆ่า”ชูฮันยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แววตาเต็มไปด้วยความจริงจังและน่าเกรงขาม
ฉางกวนยวีซินยังคงจ้องชูฮันนิ่งไม่หลบสายตาไปไหนเป็นเวลาพักหนึ่ง แต่แล้วจู่ๆสายตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นขี้เล่นแทน “ไม่ได้หมายถึงเรื่องฆ่า แต่ตอนนั้นที่คุณลักพักตัวฉันไป ตอนนี้คุณเสียใจกับการกระทำมั้ย?”
มองชูฮันด้วยสายตาอ้อนวอนหากชูฮันกลับได้แต่เกาหัวแกรกๆ “ขอโทษที มันคงหยาบคายไปสำหรับคุณ”
ฉางกวนยวีซินยิ้มบางๆ”แล้วถ้าตอนนี้ฉันจะเอาเรื่องคุณล่ะ คุณรู้สึกเสียใจมั้ย?”
”ไม่!ทำไมฉันจะต้องเสียใจ!” เสียงของชูฮันเต็มไปด้วยความถากถาง “ถ้าฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าคุณคือใครและเป็นหมอที่เก่งกาจละก็ ฉันจะพาคุณไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าทันที ดีกว่าอยู่เป็นเจ้าหญิงที่ค่ายหนานตู้แบบนี้”
”อืม?”แววตาของฉางกวนยวีซินแสดงความไม่พอใจออกมาครู่หนึ่ง “ที่ผ่านมา คุณก็มองแค่ทักษะของฉัน แค่หมอทหารสินะ?”
”ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว”ชูฮันไปต่อไม่ถูก ฉางกวนยวีซินคนนี้แตกต่างจากป่ายหวีเนอและซางจิ่วตี้อย่างมาก เธอค่อนข้างมีความเอาแต่ใจ หากก็ยังมีความน่ารัก ออดอ้อน บางครั้งก็จะหุนหันพลันแล่น แต่ประเด็นสำคัญคือใบหน้าอ่อนหวานที่แฝงไปด้วยความเศร้าที่ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะใจร้ายกับเธอได้ลง
”ฉันแค่แซวนะ”ชูฮันชะงักกับคำพูดของตัวเอง ฉางกวนยวีซินเริ่มอารมณ์ดีเมื่อเห็นชูฮันจนคำพูด เธอก้าวเท้าออกเดินนำ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภาคภูมิและพอใจ “ค่ายซางจิงที่ใหญ่โตกลับไม่สามารถเอาชนะพลเอกชูฮันได้ แต่เขากลับมาแพ้ให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉัน ฉันนี่เก่งที่สุดในโลกเลย!”
ชูฮันกระพริบตาปริบๆมองดูฉางกวนยวีซินที่เดินนำ เขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์บางอย่างที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ
”ฉันชอบผู้หญิงคนนี้”หวังไคโผล่หัวออกมาจากกระเป๋าของชูฮัน
”กลับเข้าไปเดี๋ยวนี้!”ชูฮันตบหัวหวังไคทันที และเดินตามหลังฉางกวนยวีซินไป
ทั้งสองคนเดินข้างกันท่ามกลางความเงียบเป็นเวลานานในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงที่พักของฉางกวนยวีซิน
ในตอนนั้นเองฉางกวนยวีซินก็กระซิบถามบางอย่าง “ป่ายหวีเนอ ซางจิ่วตี้ ฉางกวนยวีซิน คุณชอบใคร?”
เฮือก!
แค่ประโยคเดียวแต่ทำให้ชูฮันตะลึง ภาพที่เขาวาดกลัวได้เกิดขึ้นแล้ว ปัญหาใหญ่กำลังจะมาถึงแล้ว!
ขณะที่ชูฮันหน้าซีดและไม่สามารถเอ่ยตอบอะไรได้——-
ริมฝีปากบางนุ่มๆก็สัมผัสเข้ากับริมฝีปากของชูฮันสัมผัสบางเบาที่ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น ชูฮันที่รู้สึกตัวรีบถอยหนีทันทีด้วยความตกใจ
”คุณชอบใครมากที่สุดกันแต่ฉันชอบคุณที่สุด!” เสียงเบาๆของฉางกวนยวีซินตามด้วยแผ่นหลังของเธอที่รีบวิ่งกลับเข้าไปที่พัก