Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 815 ท่าเรือหนานช้าเป็นแค่ชื่อสถานที่
- Home
- Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย
- ตอนที่ 815 ท่าเรือหนานช้าเป็นแค่ชื่อสถานที่
ภาพที่เกิดในเวลานี้ค่อนข้างแปลกประหลาดอย่างมากทั้งบริเวณตกอยู่ในความเงียบสนิท ทุกคนมองจ้องไปที่ตรงกลางสนามอย่างมึนงง รัศมีวงกลมขนาดใหญ่เต็มไปด้วยร่องรอยการต่อสู้อันดุเดือดอย่างเห็นได้ชัด มีหลุมมีบ่อ และรอยลากต่างๆ
หากกลับมีชูฮันยืนอยู่กลางวงล้อมเพียงคนเดียวพร้อมกับขวานยักษ์สีดำในมือในท่าเตรียมพร้อมต่อสู้สีหน้าของชูฮันว่างเปล่า
เช่นเดียวกับสีหน้าหวาดกลัวของผู้คนรอบนอกชูฮันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าต้านฮวงหายตัวไปได้อย่างไร ระหว่างการต่อสู้ของพวกเขา ไม่ว่าทัศนวิสัยของชูฮันจะต่ำมากขนาดไหนแต่เขาก็สามารถใช้ความสามารถพิเศษของเขาจับสัมผัสถึงตัวตนของต้านฮวงได้ แต่ทันทีหลังจากต้านฮวงบอกข้อความแก่ชูฮัน และเมื่อฉางกวนหลงและคนอื่นๆมาถึง ต้านฮวงก็หายไปทันทีต่อหน้าต่อตาชูฮัน แม้แต่ลมหายใจชูฮันก็ไม่สามารถจับได้เลย!
ผี?
ความสงสัยมากมายอัดแน่นอยู่ในแววตาของชูฮันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับความสามารถเช่นนี้ในโลกาวินาศ แต่สำหรับช่วงเวลาตอนนี้มันยังเร็วเกินไปที่จะมีใครมีความสามารถเช่นนี้ได้ มันหมายความได้ว่าต้านฮวงพิเศษกว่าที่เขาคิด
ดูเหมือนว่าต้านฮวงจะได้ของบางอย่างมาจากหุบเขาหยินหยาง…นอกเหนือจากดาบยาวพิเศษนั้น!
มันเป็นเพราะข้อความที่ต้านฮวงบอกทำให้ชูฮันค่อนข้างจะเชื่อแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเกี่ยวข้องกับเสี่ยวเมิงชีได้อย่างไร แต่ข้อความที่เสี่ยวเมิงชีส่งมาให้ทำให้ชูฮันประหลาดใจอย่างมาก
ให้ไปเจอที่ท่าเรือหนานช้า? ในห้าปีแรกของโลกาวินาศท่าเรือหนานช้ายังเป็นแค่ชื่อของสถานที่เท่านั้น แต่หลังจากมีบางอย่างเกิดขึ้นหลังจากนั้นมันก็ได้กลายเป็นสถานที่ทีมีชื่อเสียงโด่งดังสุดๆ
เพราะว่าท่าเรือหนานช้าเป็นสถานที่ที่ใกล้กับหุบเขาหยินหยางมากที่สุดเป็นถนนที่ใกล้ที่สุดเพื่อเดินทางไปยังหุบเขาหยินหยาง มันเป็นความลับที่ทุกคนพึ่งค้นพบในช่วงปีท้ายๆของชาติที่แล้วในโลกาวินาศ
ดังนั้นการที่เสี่ยวเมิงชีอยากจะเจอกับชูฮันที่ท่าเรือหนานช้าในปีที่สองของโลกาวินาศ…ชูฮันจึงไม่เข้าถึงเจตนาแท้จริงของอีกฝ่าย?
ความสงสัยและความคิดมากมายผุดออกมาบนสีหน้าของชูฮันอย่างเห็นได้ชัดฉางกวนหลงเองก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่แท้จริงของชูฮันแต่เขาก็เลือกที่จะรอให้ชูฮันเป็นคนเอ่ยปากบอกเอง…
”ชูฮันคุณโอเคไหม?” ฉางกวนยวีซินรีบก้าวเข้าไปหาชูฮันด้วยความเป็นกังวล ชูฮันที่ถูกขัดจัวหวะความคิดเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของฉางกวนยวีซินที่มีต่อเขา ชูฮันจึงส่งยิ้มบางๆมาให้ “โอเค ก็แค่งงว่าอีกฝ่ายหายไปไหน ฉันไม่สบายใจ”
”ยังจะพูดอีก!”ฉางกวนยวีซินโกรธ “ทำไมไม่วิ่งหนี ถ้าไม่ใช่เพราะคนจำนวนมากทำให้นักฆ่านั้นกลัวจนต้องหนีไป คุณคงได้รับบาดเจ็บอีกครั้งแน่ บาดแผลเมื่อวานยังไม่มากพออีกเหรอไง?”
ชูฮันยิ้มบางๆหากไม่ได้พูดปฏิเสธอะไรฝูงชนรอบๆต่างจับจ้องมาที่การกระทำของทั้งคู่ไม่วางตา และเริ่มมีเสียงซุบซินนินทาตามมา
ไม่แปลกใจที่ก่อนหน้านี้มีนายพลหลายคนเลือกที่จะจากไปเพราะพวกเขาคงทนอยู่ภายใต้แรงกดดันมากเช่นนี้ไม่ไหวฉางกวนยวีซินแสดงความหลงใหลที่มีต่อชูฮันออกมาชัดเจนขนาดนี้ เหล่านายพลคนอื่นๆคงรู้ว่าไม่มีทางจะสู้ได้เลยจึงเลือกที่จะถอยไปดีกว่า แต่ที่ทำให้หลายคนไม่สบายใจและไม่พอใจก็คือการที่ชูฮันไม่เคยแสดงการกระทำออกมาให้ชัดเจนเลยว่าสรุปมันคืออย่างไรกันแน่
ส่วนความรู้สึกภายในของคนอื่นๆนั้นชูฮันไม่รู้และต่อให้รู้ เขาก็ไม่สนใจ ชูฮันเพียงส่งยิ้มบางๆให้ฉางกวนยวีซินที่เป็นห่วงเขาอย่างขอบคุณ “หึหึ! รุ่นพี่ฉางกวนหลงก็มาด้วยเหรอครับ?” ไอลีนโนเวล
ฉางกวนหลงหน้าตาบูดบึ้งเมื่อได้เห็นหน้าชูฮัน รู้สึกเสียใจที่ตัวเองมีห่วงให้กับชูฮันไปก่อนหน้านี้
”นี่คุณทำอะไรไม่ทราบ?”ฉางกวนหลงตะคอกใส่ชูฮันอย่างไม่พอใจทันที “ล่อให้พวกฉันต้องวิ่งไปวิ่งมาทั่วค่ายตัวเองกี่รอบแล้ว สนุกมากมั้ย?”
ทันทีที่พูดจบทุกคนก็มองไปที่เหล่าคนระดับสูงที่มีท่าทางเหนื่อยหอบจากความเหนื่อยเพราะรีบเร่งมายังที่นี้กัน มันก็จริงอย่างที่ฉางกวนหลงว่า…ทั้งเมื่อวานและวันนี้มันเป็นเหตุการณ์เดียวกันเลย
”ใช่ให้เราวิ่งไปมาเพื่ออะไร? มีกี่คนที่ต้องรีบวิ่งมาจากศูนย์ใจกลางเมืองรู้มั้ย?” ตางเหว่ยที่สบโอกาสก็รีบแทรกขึ้นมา และก็ได้รับสายตาไม่พอใจจากชูฮันทันที
เหล่านายพลคนอื่นๆเองก็งุนงงขณะนึกถึงภาพเหตุการณ์ในหัวอยู่
ชูฮันแสยะยิ้มในใจคิดว่าเขาไม่รู้เหรอว่าตางเหว่ยตามเขามาตลอดทาง แต่ถึงตางเหว่ยจะพูดมาแบบนี้แต่ชูฮันก็เจอทางที่จะตลบหลังอีกฝ่ายกลับได้อยู่ดี “ตางเหว่ย คุณจะบอกว่าฉันควรถูกลอบสังหารให้ตายบนถนนไปจะดีกว่างั้นเหรอ? มันเป็นปัญหาของฉันเหรอที่มีคนคิดจะลอบฆ่า ฉันจะรู้มั้ยว่าจะต้องเผชิญกับอะไรตอนไหน? และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทุกอย่างนี้ก็ไม่ใช่ความคิดของฉัน!”
ตางเหว่ยอยากจะปฏิเสธ——
”หุบปากคุณซะ!”ฉางกวนหลงดังแทรกขึ้นมาทันที ฉางกวนหลงไม่พอใจกับคำพูดของตางเหว่ยอย่างมาก “ไม่ต้องเอาเท้าของคุณมาแตะที่นี้ ถ้าคุณไม่อยากมาใครจะไปบังคับคุณ!”
ตางเหว่ยรู้สึกเสียใจกับการกระทำไม่คิดของตัวเองขึ้นมาเขาเพียงแค่อยากจะแสดงความจงรักภักดีต่อหน้าฉางกวนหลง แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นตรงกันข้าม ดูเหมือนว่าความหวังเรื่องการแต่งงานคงจะสิ้นหวังเต็มทีแล้ว!
หลังจากตะคอกใส่ตางเหว่ยเสร็จฉางกวนหลงก็หันไปมองชูฮันอีกครั้งอย่างหงุดหงิด “คุณเอาแต่วิ่งไปทั่ว ตอนนี้ทั่วทั้งค่ายกำลังยุ่งกันอยู่ ถ้ามีเหตุการณ์ลอบสังหารเกิดขึ้นอีก อาจจะไม่มีใครมาช่วยคุณได้นะ!”
ชูฮันไม่สนใจเลยสักนิดใครจะสามารถลอบฆ่าเขาได้?
อย่างไรก็ตามชูฮันทำได้เพียงแค่คิด ท่ามกลางความกดดันจากชายสูงวัย ชูฮันไม่สามารถแสดงสีหน้าโต้แย้งให้กับอีกฝ่ายได้
หลังจากเริ่มสงบสีหน้าลงหลังจากความวุ่นวายติดต่อกันตลอดสองวัน ในที่สุดทั้งค่ายก็สงบลง ท่ามกลางคำสั่งใช้กฏอัยการศึกของฉางกวนหลงมันได้สร้างความกังวลให้แก่ทุกคนเล็กน้อย ถึงอย่างไรแล้วเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นไล่ๆกันมา และมันก็สร้างความกังวลต่อวิกฤตในอนาคตแก่เหล่าเจ้าหน้าที่อาวุโสของค่ายหนานตู้ขึ้น
มันมีคนอันตรายมากมายในค่ายที่พวกเขาไม่รู้?
ไม่!พวกเขาจะต้องเสริมการป้องกันให้แน่นหนาขึ้น!
สองวันต่อมาหลังจากความสงบที่ไร้คลื่นใต้น้ำใดๆนอกเหนือจากข่าวซุบซิบนินทาที่กระจายไปทั่วทั้งค่ายแล้ว มันก็ไม่ค่อยมีเรื่องวุ่นวายภายในค่ายเกิดขึ้นอีกเท่าไหร่ และเป็นเพราะข่าวซุบซินนินทานั้นทำให้กลุ่มคนที่คิดว่าตัวเองจะโชคดีได้แต่งงานกับฉางกวนยวีซินตัดสินใจจากไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์อย่างรวดเร็ว
มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าความลับที่พวกเขาซ่อนเอาไว้จะปรากฏขึ้นกลางค่ายหนานตู้เมื่อไหร!
ท่ามกลางความเงียบนี้สถานบันวิจัยภายในค่ายหนานตู้ที่ถูกไฟไหม้ก็ได้ทำความสะอาดจัดการเสร็จเรียบร้อยและมีการส่งรายงานเร่งด่วยไปยังที่พักของฉางกวนหลงในชั่วข้ามคืน
”อะไรน่ะ?แผนกวิจัยมีพื้นที่ใต้ดินมากขนาดนี้เลย?!” ฉางกวนหลงที่ได้รับข่าวก็ช็อคจัด เขาผุดลุกขึ้นจากเตียงนอนตัวเองทันที “ไป! พาฉันไปดู!”