Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 927 ป่าเถื่อน
เพราะขณะนี้ต่อหน้าเกาช้าวฮุ่ยชูฮันกำลังปัดหิมะและน้ำแข็งตามร่างออกอยู่ ทว่าเนื่องจากหิมะที่คลุมตัวเขาอยู่นั้นไม่ใช่หิมะสีขาวธรรมดา เพราะมันมีสีเลือดจางๆละลายไปกับหิมะจนกลายเป็นสีชมพูจางๆเลอะตามตัวชูฮันแถมยังไหลย้อยหยดลงพื้นเป็นวงรอบๆเจ้าเครื่อง Amaterasu 3000 อีก
ในเวลาเดียวกันชูฮันก็สามารถปีนไต่จนพ้นกองหิมะขึ้นมาได้ สภาพของเขาดูต่างจากตอนขาไปอย่างสิ้นเชิง
อย่างในตอนนี้ที่เสื้อผ้าขาดแหว่งห้อยโตงเตงเพราะกับน้ำแข็งที่ห้อยเกาะอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย และเป็นเพราะเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นหลายจุดนี้ มันจึงเปิดเผยผิวหนังบอบช้ำสีม่วงเข้มและบาดแผลต่างๆที่น่าตกใจสำหรับคนเห็น!
มันเป็นแผลสดใหม่สดมากๆ และด้วยสัญชาตญาณและสัมผัสที่เฉียบพลันของเกาช้าวฮุ่ย ที่แม้แต่กลิ่นเลือดจางๆบนบาดแผล เขาสามารถได้ดกลิ่นที่ผิดปกตินี้แล้ว
บากแผลพวกนี้เป็นบาดแผลลึกและตื้นสลับกันบางจุดก็เริ่มสมานตัวเองอย่างรวดเร็วภายใต้การฟื้นฟูของร่างกายของสมรรถภาพร่างกายของวิวัฒนาการระยะ 6 หากบางจุดก็ยังมีเลือดซึมออกมาอยู่บ้าง โดยเฉพาะจุดที่เป็นแผลลึกใหญ่ ภาพนองเลือดที่ได้เห็นนั้นเกินความคาดหมายและทำให้เกาช้าวฮุ่ยอึ้งไปครู่หนึ่ง!
”นาย?”เกาช้าวฮุ่ยมองชูฮันตาค้างและพูดอะไรไม่ออก บาดแผลทั่วตัวมากขนาดนี้และปริมาณเลือดที่ไหลออกกมา ถ้าเป็นคนปกติละก็ไม่ต้องพูดถึงหาทางกลับมาได้เลย แม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืนยังไม่มีด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามชูฮันไม่ได้แค่ดูกระฉับกระเฉงเท่านั้น แต่ยังดูปกติ พละกำลังกำลังเต็มเปี่ยม แม้ว่าเสื้อผ้าและหน้าตาจะตรงกันข้ามก็ตาม
ความตกใจและการเปลี่ยนแปลงกระทันหันทำให้เกาช้าวฮุ่ยหัวใจเต้นแรงเขามองสีหน้าไร้อารมณ์ของชูฮันขณะทอดเสื้อผ้าที่เปื้อนและขาดวิ่นทิ้งพร้อมกับเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาดใหม่ เกาช้าวฮุ่ยได้แต่มองตามอย่างมึนๆงงๆ ชูฮันทำให้เขารู้สึกราวกับคนแปลกหน้า เปลี่ยนไปไม่ได้เหมือนกับคนเดิมก่อนหน้านี้
หวังไคและชูฮันใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานไม่น้อยที่ผ่านมาเกาช้าวฮุ่ยคิดว่าเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับชูฮันดีพอสมควร ไม่ว่าจะการเหน็บแหนม หยอกล้อ เล่นตลอด พูดคุย ข่มขู่ ทว่าทุกลักษณะของชูฮันในตอนนี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ดีเกาช้าวฮุ่ยก็ไม่ได้รู้จักชูฮันดีทุกอย่าง แม้ในความประทับใจ เขาก็ยังจำได้ว่าชูฮันมักจะขู่กรรโชกเขาเสมอและมีสัมผัสบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเกรงๆอยู่ตลอด
หากคนตรงหน้าเขาตอนนี้?
ดูนิ่งแข็งราวกับหินชูฮันคนเดิมไม่มีทางยืนปล่อยให้เขาสำรวจนานแบบนี้แน่นอน? มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน
ในฐานะมนุษย์ชูฮันสามารถทนพิษบาดแผลจำนวนมากขนาดนี้ได้อย่างไร มันควรจะเป็นความเจ็บที่น่าจะกระจายไปทั่วตัวจนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้ แต่ทำไมถึงได้มีสีหน้านิ่งไร้อารมณ์แบบนี้?
เพราะอย่างนั้นภายใต้ความตกใจ เกาช้าวฮุ่ยก็มีความสงสัยและไม่เข้าใจซ่อนอยู่ข้างในยาน Amaterasu 3000 ขณะชูฮันที่อยู่ด้านนอกกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
ตั้งแต่การเดินทางกลับมายังAmaterasu 3000 ไปจนถึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ชูฮันยังไม่เปิดปากพูดเลยแม้แต่คำเดียว และไม่แม้แต่จะมองหน้าเกาช้าวฮุ่ยด้วยซ้ำ อย่างงในตอนนี้ ในหัวของชูฮันกกำลังคิดเรื่องการพัฒนาของระบบล่มสลาย คิดว่ามีรายละเอียดอะไรที่เขาจำเป็นต้องรู้มั้ย และมันมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมมั้ย ไหนจะเรื่องการมีอยู่ของระบบล่มสลายอีก
ล่มสลายคืออะไร? ชูฮันไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องนี้เลยไหนจะเรื่องรหัสผ่านเข้าไปยังฐานลับของป่ายยูและความหมายที่แท้จริงของตัวอักษรโบราณพวกนั้น
เขาต้องระวังเอาไว้ต้องไม่ให้ใครรู้เรื่องระบบล่มสลาย!
ดังนั้นในขณะที่หวังไคกระตือรือร้นที่จะทำให้ระบบล่มสลายสมบูรณ์ขึ้น 20% ชูฮันก็ตัดสินใจที่จะปล่อยมันไปก่อนและทำใจให้เข้าใจมันชัดเจนในระดับหนึ่งก่อนจะทำการตัดสินใจ
ในที่สุดสมองของชูฮันก็หยุดการประมวลผลความเร็วสูงลงพร้อมกับสวมชุดสะอาดและนั่งลงที่ตำแหน่งข้างคนขับภายใน Amaterasu 3000 เรียบร้อย ก่อนจะหันหน้าไปหาเกาช้าวฮุ่ยและเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ?”
”เอ่อ…”เกาช้าวฮุ่ยสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากภวังค์ เรารีบดึงสติของตัวกลับมาและสลัดความกังวลก่อนหน้านี้ หากก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจชูฮันทั้งตัวอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาไม่เต็มเสียงดี “อะไรนะ?…”
คำพูดชะงักอยู่ในคอสมองคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง!
แม้ว่าเขาจะยอมรับนิสัยชอบขู่กรรโชกของชูฮันและใจก็รู้ดีว่าชูฮันเป็นคนรับมือยากทว่าเกาช้าวฮุ่ยก็ยังไม่สามารถยอมรับสถานการณ์ในตอนนี้ได้ลง
ไม่ว่าจะเป็นรอยเลือดบนหิมะและหรือกลิ่นที่เขาสัมผัสได้มันทำให้เกาช้าวฮุ่ยมึนหัวไปหัว มันมีข้อสงสัยมากมายที่หาคำตอบไม่ได้ คำถามมากมายวนอยู่ในหัว ชูฮันไปไหนมา? เมื่อคืนเขาไปทำอะไรมา? แล้วทำไมเขาถึงบาดเจ็บ?
”นาย?”จู่ๆเกาช้าวฮุ่ยก็นึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง และมองชูฮันด้วยสีหน้าตกใจกว่าเดิม “อย่าบอกนะว่านายเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 แล้ว?”
ชูฮันหรี่ตามองและไม่ตอบคำถามของเกาช้าวฮุ่ยเขายังคงท่าทีนิ่งเงียบต่อไปเหมือนกัน แถมยังปิดตาลงและพูดด้วยเสียงเรียบจนเกาช้าวฮุ่ยเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง “ขับได้ดี ครั้งนี้ไม่เอากระแทกนะ ฉันจะนอนพักเพื่อพื้นพละกำลังระหว่างการเดินทาง”
ในเสาหินประเมิณระยะ5 ประกอบกับการเดินทางภายในประตูมิติ ทำให้ชูฮันค่อนข้างเหนื่อยตลอดทั้งคืน ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยของความอ่อนล้าเท่านั้น แต่เป็นเพราะการประเมิณที่ยากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาที่กินแรงชูฮันไปจนหมด ดีที่ตอนนี้ชูฮันค่อนข้างคุ้นเคยดีกับพวกสัตว์ประหลาดใจประตูมิติทั้งหลายแล้ว เขาไม่สนใจรูปลักษณ์หรือระดับพลังต่อสู้ของพวกมัน เขาเพียงแค่เข้าไปและฆ่าและหาทางออกให้เจอ
เพียงแต่ว่าการเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยหลุมกระแทกมากมายสิ่งที่ทำให้ชูฮันเหนื่อนล้ามากที่สุดนั้นเป็นในแง่ของจิตวิญญาณ ระดับที่สูงขึ้น ทำให้การประเมิณนั้นเข้มขึ้นไปด้วย ความอันตรายและความตึงเครียด สภาวะกดดันที่สูงขึ้นอย่างมาก
การต้องเพ่งสมาธิอย่างหนักหน่วงตลอดค่ำคืนทำให้สภาวะจิตใจของชูฮันตึงเครียดที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเพราะถ้าเขาพลาดเมื่อไหร่ มันอาจจะหมายถึงอันตรายถึงชีวิต เพราะว่าการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในประตูมิตินั้นแตกต่างจากการประเมิณในเสาหินทั่วไปอย่างสิ้นเชิง มันคือโลกจริงที่เป็นโลกคู่ขนาน
เพราะมันคือเรื่องจริงมันคืออันตรายที่สุด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาก้าวเข้าไปในประตูมิติ เขาก็รับรู้ได้ภึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และชูฮันก็รู้เลยว่ามันคือที่ที่การตายคือการตายอย่างแท้จริง!
มองดูชูฮันที่หลับตาและเริ่มพักผ่อนทันใดนั้นเกาช้าวฮุ่ยก็รู้สึกแย่ขึ้นมาอีกครั้ง ขณะมองชูฮันด้วยความไม่พอใจสุดๆ
ไม่คิดจะพูดอะไรสักอย่าง
ไม่เอ่ยทักอะไรเลยไม่บอกด้วยว่าจะไปไหน ไม่บอกว่าทำอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชูฮันไปเผชิญอะไรมาบ้าง เขาจะอกแตกตายเพราะได้แต่คาดเดาไปเรื่อย ชูฮันก็ยังไม่คิดจะบอกอะไรสักคำเดียว!
แม้ว่าจะอยากรู้มากแค่ไหนและมีคำถามอีกมากมายที่ต้องการคำตอบ แต่ชูฮันที่หลับไปแล้วเรียบร้อยก็ไม่สามารถตอบคำถามเขาได้ในตอนนี้ และตัวเกาช้าวฮุ่ยเองก็รู้ดีว่าต่อให้เขาถามมากแค่ไหนถ้าชูฮันไม่อยากบอกเขาก็ไม่มีทางได้รู้
แล้วนี้จะไปไหนต่อ?ในเมื่อชูฮันไม่สนใจอะไรและหลับไป ถ้าอย่างนั้นเขาจะทำตามที่ตกลงกันไว้ตอนแรก…ไปท่าเรือหนานช้า
หึ!
เกาช้าวฮุ่ยกรีดร้องอยู่ในใจทำไมเขาต้องมาเจอคนแบบชูฮัน? ทำไมชูฮันถึงได้เป็นคนป่าเถื่อนขนาดนี้ แม้แต่เขาที่เป็นถึงนายน้อยแห่งตระกูลเกายังถูกกระทำ?
เขาโมโหชูฮันเหลือเกิน!
ในเวลาเดียวกันชูฮันก็สามารถปีนไต่จนพ้นกองหิมะขึ้นมาได้ สภาพของเขาดูต่างจากตอนขาไปอย่างสิ้นเชิง
อย่างในตอนนี้ที่เสื้อผ้าขาดแหว่งห้อยโตงเตงเพราะกับน้ำแข็งที่ห้อยเกาะอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย และเป็นเพราะเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นหลายจุดนี้ มันจึงเปิดเผยผิวหนังบอบช้ำสีม่วงเข้มและบาดแผลต่างๆที่น่าตกใจสำหรับคนเห็น!
มันเป็นแผลสดใหม่สดมากๆ และด้วยสัญชาตญาณและสัมผัสที่เฉียบพลันของเกาช้าวฮุ่ย ที่แม้แต่กลิ่นเลือดจางๆบนบาดแผล เขาสามารถได้ดกลิ่นที่ผิดปกตินี้แล้ว
บากแผลพวกนี้เป็นบาดแผลลึกและตื้นสลับกันบางจุดก็เริ่มสมานตัวเองอย่างรวดเร็วภายใต้การฟื้นฟูของร่างกายของสมรรถภาพร่างกายของวิวัฒนาการระยะ 6 หากบางจุดก็ยังมีเลือดซึมออกมาอยู่บ้าง โดยเฉพาะจุดที่เป็นแผลลึกใหญ่ ภาพนองเลือดที่ได้เห็นนั้นเกินความคาดหมายและทำให้เกาช้าวฮุ่ยอึ้งไปครู่หนึ่ง!
”นาย?”เกาช้าวฮุ่ยมองชูฮันตาค้างและพูดอะไรไม่ออก บาดแผลทั่วตัวมากขนาดนี้และปริมาณเลือดที่ไหลออกกมา ถ้าเป็นคนปกติละก็ไม่ต้องพูดถึงหาทางกลับมาได้เลย แม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืนยังไม่มีด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามชูฮันไม่ได้แค่ดูกระฉับกระเฉงเท่านั้น แต่ยังดูปกติ พละกำลังกำลังเต็มเปี่ยม แม้ว่าเสื้อผ้าและหน้าตาจะตรงกันข้ามก็ตาม
ความตกใจและการเปลี่ยนแปลงกระทันหันทำให้เกาช้าวฮุ่ยหัวใจเต้นแรงเขามองสีหน้าไร้อารมณ์ของชูฮันขณะทอดเสื้อผ้าที่เปื้อนและขาดวิ่นทิ้งพร้อมกับเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาดใหม่ เกาช้าวฮุ่ยได้แต่มองตามอย่างมึนๆงงๆ ชูฮันทำให้เขารู้สึกราวกับคนแปลกหน้า เปลี่ยนไปไม่ได้เหมือนกับคนเดิมก่อนหน้านี้
หวังไคและชูฮันใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานไม่น้อยที่ผ่านมาเกาช้าวฮุ่ยคิดว่าเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับชูฮันดีพอสมควร ไม่ว่าจะการเหน็บแหนม หยอกล้อ เล่นตลอด พูดคุย ข่มขู่ ทว่าทุกลักษณะของชูฮันในตอนนี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ดีเกาช้าวฮุ่ยก็ไม่ได้รู้จักชูฮันดีทุกอย่าง แม้ในความประทับใจ เขาก็ยังจำได้ว่าชูฮันมักจะขู่กรรโชกเขาเสมอและมีสัมผัสบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเกรงๆอยู่ตลอด
หากคนตรงหน้าเขาตอนนี้?
ดูนิ่งแข็งราวกับหินชูฮันคนเดิมไม่มีทางยืนปล่อยให้เขาสำรวจนานแบบนี้แน่นอน? มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน
ในฐานะมนุษย์ชูฮันสามารถทนพิษบาดแผลจำนวนมากขนาดนี้ได้อย่างไร มันควรจะเป็นความเจ็บที่น่าจะกระจายไปทั่วตัวจนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้ แต่ทำไมถึงได้มีสีหน้านิ่งไร้อารมณ์แบบนี้?
เพราะอย่างนั้นภายใต้ความตกใจ เกาช้าวฮุ่ยก็มีความสงสัยและไม่เข้าใจซ่อนอยู่ข้างในยาน Amaterasu 3000 ขณะชูฮันที่อยู่ด้านนอกกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
ตั้งแต่การเดินทางกลับมายังAmaterasu 3000 ไปจนถึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ชูฮันยังไม่เปิดปากพูดเลยแม้แต่คำเดียว และไม่แม้แต่จะมองหน้าเกาช้าวฮุ่ยด้วยซ้ำ อย่างงในตอนนี้ ในหัวของชูฮันกกำลังคิดเรื่องการพัฒนาของระบบล่มสลาย คิดว่ามีรายละเอียดอะไรที่เขาจำเป็นต้องรู้มั้ย และมันมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมมั้ย ไหนจะเรื่องการมีอยู่ของระบบล่มสลายอีก
ล่มสลายคืออะไร? ชูฮันไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องนี้เลยไหนจะเรื่องรหัสผ่านเข้าไปยังฐานลับของป่ายยูและความหมายที่แท้จริงของตัวอักษรโบราณพวกนั้น
เขาต้องระวังเอาไว้ต้องไม่ให้ใครรู้เรื่องระบบล่มสลาย!
ดังนั้นในขณะที่หวังไคกระตือรือร้นที่จะทำให้ระบบล่มสลายสมบูรณ์ขึ้น 20% ชูฮันก็ตัดสินใจที่จะปล่อยมันไปก่อนและทำใจให้เข้าใจมันชัดเจนในระดับหนึ่งก่อนจะทำการตัดสินใจ
ในที่สุดสมองของชูฮันก็หยุดการประมวลผลความเร็วสูงลงพร้อมกับสวมชุดสะอาดและนั่งลงที่ตำแหน่งข้างคนขับภายใน Amaterasu 3000 เรียบร้อย ก่อนจะหันหน้าไปหาเกาช้าวฮุ่ยและเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ?”
”เอ่อ…”เกาช้าวฮุ่ยสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากภวังค์ เรารีบดึงสติของตัวกลับมาและสลัดความกังวลก่อนหน้านี้ หากก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจชูฮันทั้งตัวอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาไม่เต็มเสียงดี “อะไรนะ?…”
คำพูดชะงักอยู่ในคอสมองคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง!
แม้ว่าเขาจะยอมรับนิสัยชอบขู่กรรโชกของชูฮันและใจก็รู้ดีว่าชูฮันเป็นคนรับมือยากทว่าเกาช้าวฮุ่ยก็ยังไม่สามารถยอมรับสถานการณ์ในตอนนี้ได้ลง
ไม่ว่าจะเป็นรอยเลือดบนหิมะและหรือกลิ่นที่เขาสัมผัสได้มันทำให้เกาช้าวฮุ่ยมึนหัวไปหัว มันมีข้อสงสัยมากมายที่หาคำตอบไม่ได้ คำถามมากมายวนอยู่ในหัว ชูฮันไปไหนมา? เมื่อคืนเขาไปทำอะไรมา? แล้วทำไมเขาถึงบาดเจ็บ?
”นาย?”จู่ๆเกาช้าวฮุ่ยก็นึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง และมองชูฮันด้วยสีหน้าตกใจกว่าเดิม “อย่าบอกนะว่านายเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 แล้ว?”
ชูฮันหรี่ตามองและไม่ตอบคำถามของเกาช้าวฮุ่ยเขายังคงท่าทีนิ่งเงียบต่อไปเหมือนกัน แถมยังปิดตาลงและพูดด้วยเสียงเรียบจนเกาช้าวฮุ่ยเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง “ขับได้ดี ครั้งนี้ไม่เอากระแทกนะ ฉันจะนอนพักเพื่อพื้นพละกำลังระหว่างการเดินทาง”
ในเสาหินประเมิณระยะ5 ประกอบกับการเดินทางภายในประตูมิติ ทำให้ชูฮันค่อนข้างเหนื่อยตลอดทั้งคืน ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยของความอ่อนล้าเท่านั้น แต่เป็นเพราะการประเมิณที่ยากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาที่กินแรงชูฮันไปจนหมด ดีที่ตอนนี้ชูฮันค่อนข้างคุ้นเคยดีกับพวกสัตว์ประหลาดใจประตูมิติทั้งหลายแล้ว เขาไม่สนใจรูปลักษณ์หรือระดับพลังต่อสู้ของพวกมัน เขาเพียงแค่เข้าไปและฆ่าและหาทางออกให้เจอ
เพียงแต่ว่าการเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยหลุมกระแทกมากมายสิ่งที่ทำให้ชูฮันเหนื่อนล้ามากที่สุดนั้นเป็นในแง่ของจิตวิญญาณ ระดับที่สูงขึ้น ทำให้การประเมิณนั้นเข้มขึ้นไปด้วย ความอันตรายและความตึงเครียด สภาวะกดดันที่สูงขึ้นอย่างมาก
การต้องเพ่งสมาธิอย่างหนักหน่วงตลอดค่ำคืนทำให้สภาวะจิตใจของชูฮันตึงเครียดที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเพราะถ้าเขาพลาดเมื่อไหร่ มันอาจจะหมายถึงอันตรายถึงชีวิต เพราะว่าการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในประตูมิตินั้นแตกต่างจากการประเมิณในเสาหินทั่วไปอย่างสิ้นเชิง มันคือโลกจริงที่เป็นโลกคู่ขนาน
เพราะมันคือเรื่องจริงมันคืออันตรายที่สุด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาก้าวเข้าไปในประตูมิติ เขาก็รับรู้ได้ภึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และชูฮันก็รู้เลยว่ามันคือที่ที่การตายคือการตายอย่างแท้จริง!
มองดูชูฮันที่หลับตาและเริ่มพักผ่อนทันใดนั้นเกาช้าวฮุ่ยก็รู้สึกแย่ขึ้นมาอีกครั้ง ขณะมองชูฮันด้วยความไม่พอใจสุดๆ
ไม่คิดจะพูดอะไรสักอย่าง
ไม่เอ่ยทักอะไรเลยไม่บอกด้วยว่าจะไปไหน ไม่บอกว่าทำอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชูฮันไปเผชิญอะไรมาบ้าง เขาจะอกแตกตายเพราะได้แต่คาดเดาไปเรื่อย ชูฮันก็ยังไม่คิดจะบอกอะไรสักคำเดียว!
แม้ว่าจะอยากรู้มากแค่ไหนและมีคำถามอีกมากมายที่ต้องการคำตอบ แต่ชูฮันที่หลับไปแล้วเรียบร้อยก็ไม่สามารถตอบคำถามเขาได้ในตอนนี้ และตัวเกาช้าวฮุ่ยเองก็รู้ดีว่าต่อให้เขาถามมากแค่ไหนถ้าชูฮันไม่อยากบอกเขาก็ไม่มีทางได้รู้
แล้วนี้จะไปไหนต่อ?ในเมื่อชูฮันไม่สนใจอะไรและหลับไป ถ้าอย่างนั้นเขาจะทำตามที่ตกลงกันไว้ตอนแรก…ไปท่าเรือหนานช้า
หึ!
เกาช้าวฮุ่ยกรีดร้องอยู่ในใจทำไมเขาต้องมาเจอคนแบบชูฮัน? ทำไมชูฮันถึงได้เป็นคนป่าเถื่อนขนาดนี้ แม้แต่เขาที่เป็นถึงนายน้อยแห่งตระกูลเกายังถูกกระทำ?
เขาโมโหชูฮันเหลือเกิน!