Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 951 หน้านิ่ง
ในยามดึกทั้งค่ายเขี้ยวหมาป่ากำลังตื่นตัวกันท่ามกลางความเงียบสงัด ตรงลานจตุรัสกว้างในค่ายเขี้ยวหมาป่าที่อยู่ไม่ไกลจากประตูค่าย มีทหารเกณฑ์ใหม่ 3,000 คนกำลังประจำการรอคำสั่งต่อไปอยู่ บางคนก็ยืนบางคนก็นั่ง ท่าทางไม่สบายตัวและดูอึดอีด แต่กลับแปลกที่ทุกคนกลับนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงใดๆเลย
ท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืนที่ฟ้าปิดด้านหน้าของทหารเกณฑ์ใหม่ 3,000 คน มีกลุ่มนักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 นาย ยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขา เป็นคำสั่งของชูฮันที่เรียกตัวกลุ่มทหาร 500 นายที่ถูกส่งไปประจำตรงถนนก่อนถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าให้กลับมารวมตัวที่ค่าย
เหล่านักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า500 นายนำโดยชินหยวน ทั้งสองกลุ่มทหารที่ยืนห่างกันแค่คืบ ทว่ามันกลับมีช่องว่างความแตกต่างราวกับสวรรค์และดินให้เห็นอย่างชัดเจน แม้เหล่านักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 คนจะพึ่งเดินทางกลับมาถึงวันนี้และใช้เพียงเวลาแค่ 15 นาทีในพักผ่อนรวมถึงกินมื้อเย็นเพื่อฟื้นพลังงาน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังดูน่าเกรงขามและยึดมั่นในกฏระเบียบของกองทัพอย่างซื่อตรง ไม่มีผ่อนผัน
เหล่านักรบทั้ง500 คนนี้เปรียบเสมือนมาตรฐานที่ขีดเส้นแบ่งเอาไว้!
ความนิ่งเงียบสงบ และจิตสังหารที่แฝงอยู่ในบรรยากาศภายใต้การฝึกฝนอันหนักหน่วงตลอดหลายเดือนจากชูฮัน ทำให้กลุ่มคนธรรมดาที่ไม่มีประสบการณ์หรือฝีมือในการต่อสู้เลย มาถึงจุดที่เหนือชั้นกว่าใครในหมู่ทหารทั่วทั้งจีน รัศมีอำนาจที่แผ่กระจายออกมาจากแต่ละคนนั้นเหมือนกับมีความมืดที่ซ่อนอยู่ ราวกับหมาป่าที่รอโอกาสกระโจนเข้าขย้ำเหยื่อ
ทหาร500 นายในตอนนี้ เปรียบเสมือนกองทัพหมาป่า 500 ตัวที่กำลังหมอบต่ำในความเงียบเพื่อรอจังหวะฆ่าเหยื่อให้ตายคาที่ ทั้ง 500 คนใส่เสื้อผ้าธรรมดาเหมือนชาวบ้านทั่วไป ต่างกันแค่พวกเขายืนอยู่ด้านหน้าจากกลุ่มทหารเกณฑ์ใหม่ 3,000 คนเท่านั้นเอง
แต่เรื่องของการแต่งกายนั้นไม่มีผลอะไรเลยเพราะแม้ภายนอกจะดูเหมือนกันหมด ทว่ารัศมีพลังที่ทั้ง 500 คนเปล่งกระจายออกมานั้นมันรุนแรงมากจนทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แม้แต่ความมืดยังไม่สามารถบดบังตัวตนของพวกเขาได้
พวกเขายืนเงียบๆสายตา 500 คู่จ้องตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ไหวติง แม้จะสวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างกันไป แต่พวกเขาให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นหนึ่งเดียวกัน ราวกับมีอำนาจมืดบางอย่างกระจายอยู่รอบๆทั้งกลุ่ม เหมือนกับอำนาจมืดที่แผ่ออกมาจากขวานซิ่วโหลของพลเอกชูฮัน
ภาพที่ได้เห็นทำให้ขวัญกำลังใจของกลุ่มทหารมาใหม่แตกกระเจิงแม้พวกเขาจะไม่ได้หวาดกลัวเท่ากับพลเอกชูฮัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะส่งเสียงรบกวนเลยสักนิด
นี้หรือกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ร่ำลือ?
นี้คือกองทัพทั่วไปของกองทัพเขี้ยวหมาป่าเนี่ยนะ?!ไม่ใช่แม้แต่ทีมพิเศษ…
เต็มไปด้วยอำนาจและความแข็งแกร่งเหลือเกิน!
เลือดในตัวของทั้ง3,000 ไหลพล่านไปด้วยความฮึกเฮิมเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถละสายตาออกไปกลุ่มทหาร 500 คนตรงหน้าได้เลย ยิ่งมองนานมากเท่าไหร่ความปรารถนาในใจของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นสูง
พวกเขาอยากจะเป็นเหมือนกองทัพเขี้ยวหมาป่าเป็นนักรบผู้กล้า!
”ช่างเชื่อฟังคำสั่งกันดีจริงๆ”บนถนนเส้นเล็กๆที่ไม่ไกลออกไปนัก เกาช้าวฮุ่ยเดินถือถุงถุงหนึ่งมาพร้อมกับชูฮัน แม้มันจะมืดจนมองอะไรไม่เห็น หากเกาช้าวฮุ่ยก็สามารถมองภาพตรงหน้าที่อยู่ห่างออกไปได้ชัดเจน “ฉันพูดถูกมั้ย?”
”นั่นไม่ใช่คำสั่งของฉัน”ชูฮันหยุดเดินและตอบออกมา เขาไม่สนใจเกาช้าวฮุ่ยเลยตลอดทาง ทำราวกับว่าเกาช้าวฮุ่ยเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวที่คอยตามดูแลเขาอย่างไรอย่างนั้น แต่แล้วประโยคที่สองของเกาช้าวฮุ่ยนั้นทำให้ชูฮันไม่สามารถตั้งใจเมินเฉยได้
”เหอะไม่ใช่คำสั่งของนาย? แล้วทหาร 500 คนจะกลับมาที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าเพื่อร่วมทัพกับผู้ลี้ภัยที่ไม่เคยฝึกได้ยังไง?” เกาช้าวฮุ่ยไม่เชื่อคำชูฮัน เขาเดินไปพลางส่ายหัว “ฉันเข้าใจดีว่าพวกทหารใหม่ไม่เคยได้รับการฝึก และมันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนพวกนี้จะไม่ใช่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บัญชาการในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คนที่สร้างความวุ่นวายในค่ายก็จะลดจำนวนลงไปได้ไม่น้อย ถูกมั้ยล่ะ?”
ทันใดนั้นสีหน้าของชูฮันก็เผยรอยยิ้มแปลกๆออกมา”นายคิดมากไป ทหารทั้ง 500 คนนั้นยืนรอฉันด้วยระเบียบทหารขั้นพื้นฐานที่สุดในกองทัพเขี้ยวหมาป่า ถ้าไม่เชื่อฉัน ก็ลองไปถามผู้รักษากฏระเบียบทหารอย่างหลิวยู่ติงได้เลย”
จากท่าทางทางทหารขั้นพื้นฐานที่สุดไปจนถึงการตอบสนองทั้งหมดตามกฎระเบียบทางทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่เข้มงวดยิ่งกว่านรกแม้แต่กองทัพเขี้ยวที่ได้ชื่อว่าเข้มงวดที่สุดในยุคที่แล้วก็ยังไม่สามารถเทียบความเข้มงวดของกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้
แต่แม้ว่าจะเข้มงวดมากขนาดไหนแต่ตัวกฏระเบียบทหารที่ตั้งไว้นั้นที่จริงแล้วไม่ได้มีรายละเอียดเจาะลึกอย่างที่คิด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าจะท้าทายกับชูฮันทั้งนั้น
นอกจากหลิวยู่ติงที่เป็นผู้บังคับใช้กฏระเบียบทางทหารซึ่งให้ความรู้สึกราวกับผู้คุมชะตาชีวิตอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกคนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก็คือชูฮัน เมื่อครั้งที่ชูฮันเคยนำกองทัพเขี้ยวหมาป่ามาทำการกวาดล้างซอมบี้ในเมืองอันลูอยู่เป็นเวลานาน สมาชิกทุกคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าล้วนเคยได้เห็นผลลัพธ์จากการไม่ทำตามกฏระเบียบมาแล้วกับตาตัวเอง
การตั้งกฎเกณฑ์ทางทหารมากมายดูเหมือนจะรุนแรงและเข้มงวดเกินไปแต่ทุกอย่างมันมีเหตุผลในตัวมันเอง เป็นเพราะกฏทางทหารที่เข้มงวดจนทหารทุกคนหวาดกลัวทำให้กองทัพเขี้ยวหมาป่าแข็งแกร่งและเอาชนะทุกสงครามมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยที่ชูฮันไม่ต้องจัดการอะไรเลย
นี้คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างการจัดการกองทัพเขี้ยวหมาป่าและค่ายเขี้ยวหมาป่าและยังไม่เคยมีกองกำลังไหนในจีนเลยที่เหมือนกับกองทัพเขี้ยวหมาป่า แม้ว่าชูฮันจะอยู่หรือไม่อยู่ตรงนั้นด้วยก็ตาม
ทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งหัวใจและความคิดของทุกคนสอดคล้องไปด้วยกัน
และมันก็เป็นเพราะเหล่ากฏระเบียบที่แสนจะเข้มงวดทั้งหลายที่ชูฮันตั้งขึ้นมาจึงทำให้กองทัพเขี้ยวหมาป่าแข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวเองไปทีละขั้นๆ จนในที่สุดก็แข็งแกร่งมากพอที่จะยืนหยัดด้วยตัวเองจนไม่จำเป็นต้องมีชูฮันอยู่ด้วย
คำตอบของชูฮันทำให้หัวของเกาช้าวฮุ่ยโล่งอีกครั้งเขาแทบลืมไปแล้วว่าเขาตกใจไปกี่ครั้งตั้งแต่เจอชูฮัน ถ้าเขาไม่ได้มาค่ายเขี้ยวหมาป่า ก็คงไม่มีวันรู้ว่าค่ายเล็กๆแห่งนี้มีกองกำลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าทีมหลงยาและฮูหยาซะอีก!
”ฉันอยากเข้าร่วมกับเขี้ยวหมาป่าด้วย?”ขณะที่ทั้งคู่เดินมาจนเกือบจะถึงจุดที่ทหารทั้งหมด 3,500 คนยืนอยู่ จู่ๆเกาช้าวฮุ่ยก็เอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา
”จะเป็นยังไง?ถ้าฉันเข้าร่วมกับเขี้ยวหมาป่า แล้วคิดดูสิถ้าจู่ๆพลังกองทัพของนายก็ไต่ระดับขึ้นเร็วอย่างกับจรวด!” เกาช้าวฮุ่ยตื่นเต้นและต้องการให้ได้ “ฉันจะให้เงินสนับสนุน หาเกราะให้กองทัพของนาย ฉันจะหานักออกแบบชั้นนำมาสร้างเครื่องแบบทหาร มั่นใจได้เลยว่าทุกอย่างจะใช้งานได้จริงและดูดีที่สุด!” เมื่อได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความจริงใจของเกาช้าวฮุ่ยหวังไคที่อยู่ในกระเป๋าชูฮันก็พลอยตื่นเต้นตามไปด้วย “เร็วสิชูฮัน รีบตกลงสิ ฉันจะเป็นผู้สนับสนุนที่มั่งคั่งให้กับเขี้ยวหมาป่าเอง!”
ทั้งชูฮันและหวังไคต่างคาดไม่ถึงแต่แล้วจู่ๆชูฮันก็พูดแทรกเกาช้าวฮุ่ยและหวังไคที่กำลังตื่นเต้นกันอยู่ “คนที่แม้แต่ซอมบี้ยังไม่กล้าฆ่า ต้องการจะเข้าร่วมกับเขี้ยวหมาป่าเนี่ยนะ? อย่าเลยดีกว่า”
”?!”
เกาช้าวฮุ่ยอึ้งตัวแข็งเป็นหิน พูดไม่ออกไปแล้วเรียบร้อย คำพูดของชูฮันกระแทกเข้าหัวใจของเขาอย่างจัง!
ครั้งนี้ชูฮันเมินเกาช้าวฮุ่ยและเดินต่อไปจุดที่มีทหารของเขารออยู่กลุ่มทหารมาใหม่ 3000 นายที่ก่อนหน้านี้บ้างก็ยืน นอน นั่งเล่นด้วยความเบื่อหน่าย ทันทีที่เห็นชูฮันเดินเข้ามาในระยะสายตา พวกเขาก็รีบลุกขึ้นยืนเข้าแถวหลังตรงทันที ในทางกลับกันทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 นายที่ก่อนหน้านี้ยืนนิ่งด้วยท่าระเบียบพักของทหารไม่ไหวติงมาตลอด จู่ๆก็ระเบิดเสียงดังออกมา ทั้ง 500 คนพร้อมใจกันทำปากส่งเสียงราวกับเสียงวิ่งของรถจักรยานยนต์ จากนั้น——
”พรึบ!”ทั้ง 500 คนก็เปลี่ยนกลับมายืนท่าระเบียบพักอย่างพร้อมเพรียง
ไม่มีใครพูดไม่มีใครแสดงตัว แต่มันเป็นการเข้าใจกันเองของทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่า
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ทหารมาใหม่3,000 ยืนตกใจอย่างทำตัวไม่ถูก แม้จะทำท่าทำเสียงยังไง แต่เหล่าทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ยังคงหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์เหมือนเดิม!
ท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืนที่ฟ้าปิดด้านหน้าของทหารเกณฑ์ใหม่ 3,000 คน มีกลุ่มนักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 นาย ยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขา เป็นคำสั่งของชูฮันที่เรียกตัวกลุ่มทหาร 500 นายที่ถูกส่งไปประจำตรงถนนก่อนถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าให้กลับมารวมตัวที่ค่าย
เหล่านักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า500 นายนำโดยชินหยวน ทั้งสองกลุ่มทหารที่ยืนห่างกันแค่คืบ ทว่ามันกลับมีช่องว่างความแตกต่างราวกับสวรรค์และดินให้เห็นอย่างชัดเจน แม้เหล่านักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 คนจะพึ่งเดินทางกลับมาถึงวันนี้และใช้เพียงเวลาแค่ 15 นาทีในพักผ่อนรวมถึงกินมื้อเย็นเพื่อฟื้นพลังงาน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังดูน่าเกรงขามและยึดมั่นในกฏระเบียบของกองทัพอย่างซื่อตรง ไม่มีผ่อนผัน
เหล่านักรบทั้ง500 คนนี้เปรียบเสมือนมาตรฐานที่ขีดเส้นแบ่งเอาไว้!
ความนิ่งเงียบสงบ และจิตสังหารที่แฝงอยู่ในบรรยากาศภายใต้การฝึกฝนอันหนักหน่วงตลอดหลายเดือนจากชูฮัน ทำให้กลุ่มคนธรรมดาที่ไม่มีประสบการณ์หรือฝีมือในการต่อสู้เลย มาถึงจุดที่เหนือชั้นกว่าใครในหมู่ทหารทั่วทั้งจีน รัศมีอำนาจที่แผ่กระจายออกมาจากแต่ละคนนั้นเหมือนกับมีความมืดที่ซ่อนอยู่ ราวกับหมาป่าที่รอโอกาสกระโจนเข้าขย้ำเหยื่อ
ทหาร500 นายในตอนนี้ เปรียบเสมือนกองทัพหมาป่า 500 ตัวที่กำลังหมอบต่ำในความเงียบเพื่อรอจังหวะฆ่าเหยื่อให้ตายคาที่ ทั้ง 500 คนใส่เสื้อผ้าธรรมดาเหมือนชาวบ้านทั่วไป ต่างกันแค่พวกเขายืนอยู่ด้านหน้าจากกลุ่มทหารเกณฑ์ใหม่ 3,000 คนเท่านั้นเอง
แต่เรื่องของการแต่งกายนั้นไม่มีผลอะไรเลยเพราะแม้ภายนอกจะดูเหมือนกันหมด ทว่ารัศมีพลังที่ทั้ง 500 คนเปล่งกระจายออกมานั้นมันรุนแรงมากจนทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แม้แต่ความมืดยังไม่สามารถบดบังตัวตนของพวกเขาได้
พวกเขายืนเงียบๆสายตา 500 คู่จ้องตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ไหวติง แม้จะสวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างกันไป แต่พวกเขาให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นหนึ่งเดียวกัน ราวกับมีอำนาจมืดบางอย่างกระจายอยู่รอบๆทั้งกลุ่ม เหมือนกับอำนาจมืดที่แผ่ออกมาจากขวานซิ่วโหลของพลเอกชูฮัน
ภาพที่ได้เห็นทำให้ขวัญกำลังใจของกลุ่มทหารมาใหม่แตกกระเจิงแม้พวกเขาจะไม่ได้หวาดกลัวเท่ากับพลเอกชูฮัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะส่งเสียงรบกวนเลยสักนิด
นี้หรือกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ร่ำลือ?
นี้คือกองทัพทั่วไปของกองทัพเขี้ยวหมาป่าเนี่ยนะ?!ไม่ใช่แม้แต่ทีมพิเศษ…
เต็มไปด้วยอำนาจและความแข็งแกร่งเหลือเกิน!
เลือดในตัวของทั้ง3,000 ไหลพล่านไปด้วยความฮึกเฮิมเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถละสายตาออกไปกลุ่มทหาร 500 คนตรงหน้าได้เลย ยิ่งมองนานมากเท่าไหร่ความปรารถนาในใจของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นสูง
พวกเขาอยากจะเป็นเหมือนกองทัพเขี้ยวหมาป่าเป็นนักรบผู้กล้า!
”ช่างเชื่อฟังคำสั่งกันดีจริงๆ”บนถนนเส้นเล็กๆที่ไม่ไกลออกไปนัก เกาช้าวฮุ่ยเดินถือถุงถุงหนึ่งมาพร้อมกับชูฮัน แม้มันจะมืดจนมองอะไรไม่เห็น หากเกาช้าวฮุ่ยก็สามารถมองภาพตรงหน้าที่อยู่ห่างออกไปได้ชัดเจน “ฉันพูดถูกมั้ย?”
”นั่นไม่ใช่คำสั่งของฉัน”ชูฮันหยุดเดินและตอบออกมา เขาไม่สนใจเกาช้าวฮุ่ยเลยตลอดทาง ทำราวกับว่าเกาช้าวฮุ่ยเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวที่คอยตามดูแลเขาอย่างไรอย่างนั้น แต่แล้วประโยคที่สองของเกาช้าวฮุ่ยนั้นทำให้ชูฮันไม่สามารถตั้งใจเมินเฉยได้
”เหอะไม่ใช่คำสั่งของนาย? แล้วทหาร 500 คนจะกลับมาที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าเพื่อร่วมทัพกับผู้ลี้ภัยที่ไม่เคยฝึกได้ยังไง?” เกาช้าวฮุ่ยไม่เชื่อคำชูฮัน เขาเดินไปพลางส่ายหัว “ฉันเข้าใจดีว่าพวกทหารใหม่ไม่เคยได้รับการฝึก และมันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนพวกนี้จะไม่ใช่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บัญชาการในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คนที่สร้างความวุ่นวายในค่ายก็จะลดจำนวนลงไปได้ไม่น้อย ถูกมั้ยล่ะ?”
ทันใดนั้นสีหน้าของชูฮันก็เผยรอยยิ้มแปลกๆออกมา”นายคิดมากไป ทหารทั้ง 500 คนนั้นยืนรอฉันด้วยระเบียบทหารขั้นพื้นฐานที่สุดในกองทัพเขี้ยวหมาป่า ถ้าไม่เชื่อฉัน ก็ลองไปถามผู้รักษากฏระเบียบทหารอย่างหลิวยู่ติงได้เลย”
จากท่าทางทางทหารขั้นพื้นฐานที่สุดไปจนถึงการตอบสนองทั้งหมดตามกฎระเบียบทางทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่เข้มงวดยิ่งกว่านรกแม้แต่กองทัพเขี้ยวที่ได้ชื่อว่าเข้มงวดที่สุดในยุคที่แล้วก็ยังไม่สามารถเทียบความเข้มงวดของกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้
แต่แม้ว่าจะเข้มงวดมากขนาดไหนแต่ตัวกฏระเบียบทหารที่ตั้งไว้นั้นที่จริงแล้วไม่ได้มีรายละเอียดเจาะลึกอย่างที่คิด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าจะท้าทายกับชูฮันทั้งนั้น
นอกจากหลิวยู่ติงที่เป็นผู้บังคับใช้กฏระเบียบทางทหารซึ่งให้ความรู้สึกราวกับผู้คุมชะตาชีวิตอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกคนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก็คือชูฮัน เมื่อครั้งที่ชูฮันเคยนำกองทัพเขี้ยวหมาป่ามาทำการกวาดล้างซอมบี้ในเมืองอันลูอยู่เป็นเวลานาน สมาชิกทุกคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าล้วนเคยได้เห็นผลลัพธ์จากการไม่ทำตามกฏระเบียบมาแล้วกับตาตัวเอง
การตั้งกฎเกณฑ์ทางทหารมากมายดูเหมือนจะรุนแรงและเข้มงวดเกินไปแต่ทุกอย่างมันมีเหตุผลในตัวมันเอง เป็นเพราะกฏทางทหารที่เข้มงวดจนทหารทุกคนหวาดกลัวทำให้กองทัพเขี้ยวหมาป่าแข็งแกร่งและเอาชนะทุกสงครามมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยที่ชูฮันไม่ต้องจัดการอะไรเลย
นี้คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างการจัดการกองทัพเขี้ยวหมาป่าและค่ายเขี้ยวหมาป่าและยังไม่เคยมีกองกำลังไหนในจีนเลยที่เหมือนกับกองทัพเขี้ยวหมาป่า แม้ว่าชูฮันจะอยู่หรือไม่อยู่ตรงนั้นด้วยก็ตาม
ทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งหัวใจและความคิดของทุกคนสอดคล้องไปด้วยกัน
และมันก็เป็นเพราะเหล่ากฏระเบียบที่แสนจะเข้มงวดทั้งหลายที่ชูฮันตั้งขึ้นมาจึงทำให้กองทัพเขี้ยวหมาป่าแข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวเองไปทีละขั้นๆ จนในที่สุดก็แข็งแกร่งมากพอที่จะยืนหยัดด้วยตัวเองจนไม่จำเป็นต้องมีชูฮันอยู่ด้วย
คำตอบของชูฮันทำให้หัวของเกาช้าวฮุ่ยโล่งอีกครั้งเขาแทบลืมไปแล้วว่าเขาตกใจไปกี่ครั้งตั้งแต่เจอชูฮัน ถ้าเขาไม่ได้มาค่ายเขี้ยวหมาป่า ก็คงไม่มีวันรู้ว่าค่ายเล็กๆแห่งนี้มีกองกำลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าทีมหลงยาและฮูหยาซะอีก!
”ฉันอยากเข้าร่วมกับเขี้ยวหมาป่าด้วย?”ขณะที่ทั้งคู่เดินมาจนเกือบจะถึงจุดที่ทหารทั้งหมด 3,500 คนยืนอยู่ จู่ๆเกาช้าวฮุ่ยก็เอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา
”จะเป็นยังไง?ถ้าฉันเข้าร่วมกับเขี้ยวหมาป่า แล้วคิดดูสิถ้าจู่ๆพลังกองทัพของนายก็ไต่ระดับขึ้นเร็วอย่างกับจรวด!” เกาช้าวฮุ่ยตื่นเต้นและต้องการให้ได้ “ฉันจะให้เงินสนับสนุน หาเกราะให้กองทัพของนาย ฉันจะหานักออกแบบชั้นนำมาสร้างเครื่องแบบทหาร มั่นใจได้เลยว่าทุกอย่างจะใช้งานได้จริงและดูดีที่สุด!” เมื่อได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความจริงใจของเกาช้าวฮุ่ยหวังไคที่อยู่ในกระเป๋าชูฮันก็พลอยตื่นเต้นตามไปด้วย “เร็วสิชูฮัน รีบตกลงสิ ฉันจะเป็นผู้สนับสนุนที่มั่งคั่งให้กับเขี้ยวหมาป่าเอง!”
ทั้งชูฮันและหวังไคต่างคาดไม่ถึงแต่แล้วจู่ๆชูฮันก็พูดแทรกเกาช้าวฮุ่ยและหวังไคที่กำลังตื่นเต้นกันอยู่ “คนที่แม้แต่ซอมบี้ยังไม่กล้าฆ่า ต้องการจะเข้าร่วมกับเขี้ยวหมาป่าเนี่ยนะ? อย่าเลยดีกว่า”
”?!”
เกาช้าวฮุ่ยอึ้งตัวแข็งเป็นหิน พูดไม่ออกไปแล้วเรียบร้อย คำพูดของชูฮันกระแทกเข้าหัวใจของเขาอย่างจัง!
ครั้งนี้ชูฮันเมินเกาช้าวฮุ่ยและเดินต่อไปจุดที่มีทหารของเขารออยู่กลุ่มทหารมาใหม่ 3000 นายที่ก่อนหน้านี้บ้างก็ยืน นอน นั่งเล่นด้วยความเบื่อหน่าย ทันทีที่เห็นชูฮันเดินเข้ามาในระยะสายตา พวกเขาก็รีบลุกขึ้นยืนเข้าแถวหลังตรงทันที ในทางกลับกันทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 นายที่ก่อนหน้านี้ยืนนิ่งด้วยท่าระเบียบพักของทหารไม่ไหวติงมาตลอด จู่ๆก็ระเบิดเสียงดังออกมา ทั้ง 500 คนพร้อมใจกันทำปากส่งเสียงราวกับเสียงวิ่งของรถจักรยานยนต์ จากนั้น——
”พรึบ!”ทั้ง 500 คนก็เปลี่ยนกลับมายืนท่าระเบียบพักอย่างพร้อมเพรียง
ไม่มีใครพูดไม่มีใครแสดงตัว แต่มันเป็นการเข้าใจกันเองของทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่า
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ทหารมาใหม่3,000 ยืนตกใจอย่างทำตัวไม่ถูก แม้จะทำท่าทำเสียงยังไง แต่เหล่าทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ยังคงหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์เหมือนเดิม!