Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 952 กำลังมุ่งหน้ามา!
ชูฮันยืนตรงยกมือขึ้นมาโบกปัดเป็นการบอกให้ทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 นายไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรให้วุ่นวาย ชูฮันกวาดสายตามองหน้าตาทั้งหลายที่เขาคุ้นเคยดี สบตากับความกระรือร้นในแววตาของแต่ละคนที่แสดงถึงแรงกระตุ้นอย่างดี
ตอนนี้นักรบทั้ง 500 คนของเขารู้ดีว่าชูฮันจะมุ่งหน้าไปต่อ และก็รู้ดีว่าพวกเขาจะต้องเผชิญอะไรหลังจากค่ำคืนนี้ มันคือสถานที่ที่พวกเขาสูญเสียเพื่อนนักรบ 700 คนไปที่สนามรบกลางภูเขา ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้จำนวนทั้งหมดของซอมบี้ที่ถูกกองทัพเขี้ยวหมาป่ากำจัดไป รวมถึงพลังและจำนวนของกลุ่มลูกผสมด้วย…
ถึงกระนั้นมันก็ไม่มีความกลัวในแววตาของเหล่านักรบทั้ง500 คนให้เห็นเลยแต่น้อย กลับกันมันมีแต่ความกระตือรือร้นเปล่งประกายทอแสงชัดเจน ใช่…มันไม่ใช่ความต้องการแก้แค้น…ไม่ใช่จิตสังหารที่พวยพุ่ง…แต่เป็นความกระตือรือร้น!
ความต้องการที่จะได้รบความต้องการที่จะได้ต่อสู้ ความกระตือรือร้นที่จะได้ติดตามพลเอกชูฮันเข้าสู่สนามรบ!
เลือดในกายของทุกคนกำลังถูกปลุกปั่นภายใต้การสนับสนุนของชูฮันพวกเขาได้กลายเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสงคราม กองทัพเขี้ยวหมาป่าคือกองกำลังที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำสงครามครั้งนี้
ไร้ความกลัวและไร้ซึ่งความลังเล!
ชูฮันยืนนิ่งอยู่หน้าเหล่านักรบของเขาเป็นเวลาพักใหญ่กวาดสายตาสบตากับทุกๆคน เขาใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อจดจำใบหน้าทีละคน โดยไม่ปล่อยผ่านไปแม้แต่คนเดียว เพราะเขารู้ดีว่าจุดจบของสงครามข้างหน้านี้ยังไม่แน่ชัด และมันก็มีความเป็นไปได้ที่คนเหล่านี้อาจจะไม่ได้กลับมาอีก
ด้วยมีลูกผสมเป็นเดิมพันความตายอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ!
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องจดจำใบหน้าเพื่อนพ้องของเขาเอาไว้ให้ได้ แม้มันจะเหลือเวลาแค่เพียงคืนเดียว…
ท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงบทั้ง 3,500 คนไม่มีใครส่งเสียงพูดคุยกันเลย ทุกคนยืนมองชูฮันที่ยังคงยืนนิ่งท่าเดิมเงียบๆเป็นเวลานาน ชูฮันกำลังไล่สบตาทหารทุกคนด้วยแววตาล้ำลึกอย่างมีความหมาย
หยางเทียนซางจิ่วตี้และเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆที่ยืนดูห่างออกไปนั้นสัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกๆบางอย่างที่กระจายออกมาจากตัวชูฮัน พวกเขาไม่สามารถบรรยายความรู้สึกในขณะนี้ออกมาได้ แต่ทุกคนรับรู้ได้และค่อนข้างประหลาดใจ
หลังจากที่ภาพตรงหน้าดำเนินต่อไปเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงในที่สุดจู่ๆชูฮันก็เปลี่ยนท่า เขาหมุนตัวและออกเดินจากไปอย่างกระทันหัน ท่าทางที่แสดงออกถึงความเย็นชาสุดๆส่งผลให้ในบริเวรนั้นยิ่งตกอยู่ในความเงียบสงัดกว่าเดิม
จากไปแบบนี้!
ไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆไม่มีการปลุกระดมขวัญกำลังใจ ไม่มีคำอธิบาย…
ชูฮันมาแสดงตัวต่อหน้าทุกคนอยู่ช่วงเวลาหนึ่งโดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวตั้งแต่มาจนจากไป
”!!!”
ทหารมาใหม่3,000 คน ที่อยู่ด้านหลังเหล่านักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าตะลึงค้างกันหมด นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เผชิญหน้ากับพลเอกที่แปลกประหลาดเช่นนี้ แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาไม่รู้สึกตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลทั้งๆที่รู้ว่าสงครามกำลังจะมาถึง
ชูฮันไม่ได้พูดอะไรสักนิดเพียงแค่ยืนอยู่หน้าทุกคนอยู่ในความเงียบเป็นเวลานาน จากนั้นก็จากไปทิ้งให้พวกเขาไปสนามรบเองโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมาใยดี!
แม้ว่าในใจของเหล่าทหารมาใหม่จะร้องต่อว่าการกระทำของชูฮันมากเพียงใดแต่พวกเขาก็รู้ดีว่ามันเปล่าประโยชน์ เหล่าทหารมาใหม่ยังต้องเหนื่อยกับการไล่ตามมาตรฐานของกองทัพเขี้ยวหมาป่าให้ทัน พวกเขาไม่สามารถเดินเท้าด้วยความเป็นระเบียบและเงียบสนิทเหมือนกับกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้ แม้แต่กระบวนการแปรท่าในการรบก็ยังยากที่จะรักษาสมดุลไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครใน 3,000 คนยอมแพ้และถอยกลับ ทุกคนต่างพยายามอย่างสุดความสามารถของตัวเองเพื่อจะตามคนอื่นให้ทัน
ในขณะเดียวกันอารมณ์ความต้องการและความหลงใหลก็ก่อตัวขึ้นในใจของเหล่าทหารมาใมห่ 3,000 คน…พลเอกชูฮันดูเท่ห์เหลือเกิน ทั้งๆที่ไม่ได้พูดหรือแนะนำแนวทางอะไรให้เลยสักนิด แต่กลับดูเท่ห์สุดๆในสายตาพวกเขา!
เกาช้าวฮุ่ยพึ่งได้สติหลังจากชูฮันเดินจากไปแล้วเขารีบก้าวเท้าตามชูฮันไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะถือกระเป๋าที่ชูฮันทิ้งให้เขาคอยเดินถือให้ตลอดทาง ความตื่นเต้นและความหลงใหลในตัวเกาช้าวฮุ่ยนั้นก่อตัวขึ้น ไม่ต่างอะไรกับเหล่าทหารมาใหม่ทั้งหลายด้านหลังเขาเลย…
สรุปว่ากลางดึกคืนนี้พวกเขาแค่ลงไปสนามรบและฆ่าศัตรูซะ?
——————
ลึกเข้าไปในป่าดงดิบบนที่ราบขนาดกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ตู้บรรทุกของมากมายกระตายเต็มพื้นไปทั่ว มันคือครึ่งหนึ่งของความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ 150 ลำที่ถูกส่งมายังตำแหน่งนี้ทันที
ด้วยทรัพยากรมากมายเหล่านี้กองทัพเขี้ยวหมาป่าไม่จำเป็นต้องคอยกักเก็บกระสุนปืนหรือพลังงานเพื่อสำรองเอาไว้ยามฉุกเฉินเหมือนที่ผ่านมาแล้ว พวกเขาสามารถลุยได้อย่างเต็มกำลัง
ขณะนี้เป็นเป็นเวลาตี5 ในยามเช้าตรู่ ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่างดี เหล่านักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่เหลือ 800 คนกำลังคอยไล่ตรวจนับจำนวนข้าวของที่ได้รับมา และด้วยเพราะปริมาณที่เรียกได้ว่าล้นหลาม พวกเขาจึงค่จำเป็นต้องจัดตั้งจุดตรวจขึ้นมายังที่ราบแห่งนี้ โดยใช้เต้นท์ที่พวกเขามีอยู่แล้วเพื่อความสะดวก
ภายในเต้นท์เหอเฟิงกำลังประชุมอยู่กับเหล่านักรบเก่าแก่ดั้งเดิมของกองทัพเขี้ยวหมาป่า ทุกคนกำลังตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อจู่ๆข้าวของความช่วยเหลือมากมายก็หล่นลงมาจากฟ้าระหว่างวัน
”เดิมทีฉันต้องการหาที่ให้พวกเราได้หลบซ่อนและรอจนชูฮันมาแต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ด้วยข้าวของมากมายพวกนี้ เราคงทำได้แค่เฝ้าอยู่ที่นี้และล่าถอยหนีพวกซอมบี้ไปเรื่อยๆ” เหอเฟิงพุดต่อ “ไม่ต้องพูดว่าพื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้ถูกคุมควบโดยลูกผสม ตำแหน่งงทางภูมิศาสตร์ของเราถูกศัตรูล่วงรู้หมดแล้ว ทำไมทางเขี้ยวหมาป่าต้องจงใจเลือกที่ราบเพื่อส่งข้าวของพวกเราให้ด้วย ทำแบบนี้พวกเราจะถูกค้นพบอย่างรวดเร็ว แต่แปลกทั้งๆที่พวกลูกผสมมันรู้ตำแหน่งเรา ทำไมพวกมันถึงยังไม่บุกมาอีก?”
เฉินช่าวเย่นั่งขัดปืนไรเฟิลพิเศษของเขาไปอย่างสิ้นหวัง”แต่ฉันได้ยินมาว่านี่เป็นความคิดของหัวหน้าชูฮัน เดิมทีข้าวของพวกนี้ถูกส่งไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า”
ซูเฟิงเท้ามือทั้งสองลงบนโต๊ะ”ใช่แล้ว การที่หัวหน้าจงใจเปิดเผยตำแหน่งของพวกเราแบบนี้ มันต้องมีเหตุผลแอบแฝงอยู่แน่นอน ตอนนี้ปัญหาขาดแคลนทรัพยากรของเราก็ได้รับการแก้ไขแล้ว และหัวหน้าชูฮันก็กลับมาแล้ว นอกจากเรื่องการขาดแคลนกำลังพลของกองทัพเขี้ยวหมาป่า ยังมีข้อกังวลอะไรอีก?”
เหอเฟิงเหลือบมองซูเฟิงด้วยสายตาบางอย่างจากนั้นก็เอ่ยบางสิ่งที่ค้างคาในใจออกมา “เพราะฉันไม่สามารถเดาความคิดของชูฮันได้ ฉันรู้ว่าเขาต้องมีเหตุที่ทำแบบนี้ แต่ฉันเดาไม่ออก”
คำพูดของเหอเฟิงทำให้ทุกคนในเต้นท์มองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆทันทีหลิวยู่ติงเป็นคนพูดตอบโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา “มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเดาไม่ออก”
เหอเฟิงพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทันทีจากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่ออีก ตอนนี้เขายอมรับเลยว่า แม้เขาจะเป็นคนเก่งและมีความสามารถที่จะนำกองทัพลงทำสงครามเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบในทุกแง่มุมแล้ว เขายังเทียบชูฮันไม่ติดเลย…
ขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความเงียบทันใดนั้นหนึ่งในทหารของหน่วยลาดตระเวนก็วิ่งเข้ามาในเต้นท์ด้วยท่าทางร้อนใจ หน้าตาตื่นๆ “ขออนุญาตครับ! มีกองกำลังกำลังมุ่งหน้ามาที่เราครับ!”
”อะไรนะ?”เหอเฟิงเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “กองกำลังอะไร ซอมบี้หรือลูกผสม? อยู่ไกลเท่าไหน? จำนวนเท่าไหร่?”
”ห่างไปสามกิโลเมตรครับดูเหมือนจะไม่ใช่ซอมบี้ แล้วก็ไม่เหมือนลูกผสมด้วยครับ จำนวนหลายร้อย ไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ครับ ความสามาถในการหลบหลีกและการกำจัดร่องรอยของอีกฝ่ายสูงมากครับ แถมคืนนี้ฟ้าปิดไม่มีแสงเลยครับ ทีมลาดตระเวนของเราไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย” ทหารหน่วยลาดตระเวนรายงานอย่างเร่งรีบ ท่าทางหวาดกลัว
”เป็นคนงั้นเหรอ?!”นัยน์ตาของเหอเฟิงพลันหดตัวอย่างแรง ในใจเกิดลางสังหรณ์บางอย่าง ทุกคนในเต้นท์เองก็ผุดลุกขึ้นยืนกันหมด…สถานการณ์มันแปลกมาก
ห่างไปสามกิโลเมตรคนหลายร้อยคนกำลังมุ่งหน้ามา ระยะห่างแค่สามกิโลเมตรแต่ทีมลาดตระเวนที่เก่งกาจของกองทัพเขี้ยวหมาป่าพึ่งจะค้นพบตัวตนเนี่ยนะ?
ตอนนี้นักรบทั้ง 500 คนของเขารู้ดีว่าชูฮันจะมุ่งหน้าไปต่อ และก็รู้ดีว่าพวกเขาจะต้องเผชิญอะไรหลังจากค่ำคืนนี้ มันคือสถานที่ที่พวกเขาสูญเสียเพื่อนนักรบ 700 คนไปที่สนามรบกลางภูเขา ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้จำนวนทั้งหมดของซอมบี้ที่ถูกกองทัพเขี้ยวหมาป่ากำจัดไป รวมถึงพลังและจำนวนของกลุ่มลูกผสมด้วย…
ถึงกระนั้นมันก็ไม่มีความกลัวในแววตาของเหล่านักรบทั้ง500 คนให้เห็นเลยแต่น้อย กลับกันมันมีแต่ความกระตือรือร้นเปล่งประกายทอแสงชัดเจน ใช่…มันไม่ใช่ความต้องการแก้แค้น…ไม่ใช่จิตสังหารที่พวยพุ่ง…แต่เป็นความกระตือรือร้น!
ความต้องการที่จะได้รบความต้องการที่จะได้ต่อสู้ ความกระตือรือร้นที่จะได้ติดตามพลเอกชูฮันเข้าสู่สนามรบ!
เลือดในกายของทุกคนกำลังถูกปลุกปั่นภายใต้การสนับสนุนของชูฮันพวกเขาได้กลายเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสงคราม กองทัพเขี้ยวหมาป่าคือกองกำลังที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำสงครามครั้งนี้
ไร้ความกลัวและไร้ซึ่งความลังเล!
ชูฮันยืนนิ่งอยู่หน้าเหล่านักรบของเขาเป็นเวลาพักใหญ่กวาดสายตาสบตากับทุกๆคน เขาใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อจดจำใบหน้าทีละคน โดยไม่ปล่อยผ่านไปแม้แต่คนเดียว เพราะเขารู้ดีว่าจุดจบของสงครามข้างหน้านี้ยังไม่แน่ชัด และมันก็มีความเป็นไปได้ที่คนเหล่านี้อาจจะไม่ได้กลับมาอีก
ด้วยมีลูกผสมเป็นเดิมพันความตายอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ!
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องจดจำใบหน้าเพื่อนพ้องของเขาเอาไว้ให้ได้ แม้มันจะเหลือเวลาแค่เพียงคืนเดียว…
ท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงบทั้ง 3,500 คนไม่มีใครส่งเสียงพูดคุยกันเลย ทุกคนยืนมองชูฮันที่ยังคงยืนนิ่งท่าเดิมเงียบๆเป็นเวลานาน ชูฮันกำลังไล่สบตาทหารทุกคนด้วยแววตาล้ำลึกอย่างมีความหมาย
หยางเทียนซางจิ่วตี้และเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆที่ยืนดูห่างออกไปนั้นสัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกๆบางอย่างที่กระจายออกมาจากตัวชูฮัน พวกเขาไม่สามารถบรรยายความรู้สึกในขณะนี้ออกมาได้ แต่ทุกคนรับรู้ได้และค่อนข้างประหลาดใจ
หลังจากที่ภาพตรงหน้าดำเนินต่อไปเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงในที่สุดจู่ๆชูฮันก็เปลี่ยนท่า เขาหมุนตัวและออกเดินจากไปอย่างกระทันหัน ท่าทางที่แสดงออกถึงความเย็นชาสุดๆส่งผลให้ในบริเวรนั้นยิ่งตกอยู่ในความเงียบสงัดกว่าเดิม
จากไปแบบนี้!
ไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆไม่มีการปลุกระดมขวัญกำลังใจ ไม่มีคำอธิบาย…
ชูฮันมาแสดงตัวต่อหน้าทุกคนอยู่ช่วงเวลาหนึ่งโดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวตั้งแต่มาจนจากไป
”!!!”
ทหารมาใหม่3,000 คน ที่อยู่ด้านหลังเหล่านักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าตะลึงค้างกันหมด นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เผชิญหน้ากับพลเอกที่แปลกประหลาดเช่นนี้ แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาไม่รู้สึกตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลทั้งๆที่รู้ว่าสงครามกำลังจะมาถึง
ชูฮันไม่ได้พูดอะไรสักนิดเพียงแค่ยืนอยู่หน้าทุกคนอยู่ในความเงียบเป็นเวลานาน จากนั้นก็จากไปทิ้งให้พวกเขาไปสนามรบเองโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมาใยดี!
แม้ว่าในใจของเหล่าทหารมาใหม่จะร้องต่อว่าการกระทำของชูฮันมากเพียงใดแต่พวกเขาก็รู้ดีว่ามันเปล่าประโยชน์ เหล่าทหารมาใหม่ยังต้องเหนื่อยกับการไล่ตามมาตรฐานของกองทัพเขี้ยวหมาป่าให้ทัน พวกเขาไม่สามารถเดินเท้าด้วยความเป็นระเบียบและเงียบสนิทเหมือนกับกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้ แม้แต่กระบวนการแปรท่าในการรบก็ยังยากที่จะรักษาสมดุลไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครใน 3,000 คนยอมแพ้และถอยกลับ ทุกคนต่างพยายามอย่างสุดความสามารถของตัวเองเพื่อจะตามคนอื่นให้ทัน
ในขณะเดียวกันอารมณ์ความต้องการและความหลงใหลก็ก่อตัวขึ้นในใจของเหล่าทหารมาใมห่ 3,000 คน…พลเอกชูฮันดูเท่ห์เหลือเกิน ทั้งๆที่ไม่ได้พูดหรือแนะนำแนวทางอะไรให้เลยสักนิด แต่กลับดูเท่ห์สุดๆในสายตาพวกเขา!
เกาช้าวฮุ่ยพึ่งได้สติหลังจากชูฮันเดินจากไปแล้วเขารีบก้าวเท้าตามชูฮันไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะถือกระเป๋าที่ชูฮันทิ้งให้เขาคอยเดินถือให้ตลอดทาง ความตื่นเต้นและความหลงใหลในตัวเกาช้าวฮุ่ยนั้นก่อตัวขึ้น ไม่ต่างอะไรกับเหล่าทหารมาใหม่ทั้งหลายด้านหลังเขาเลย…
สรุปว่ากลางดึกคืนนี้พวกเขาแค่ลงไปสนามรบและฆ่าศัตรูซะ?
——————
ลึกเข้าไปในป่าดงดิบบนที่ราบขนาดกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ตู้บรรทุกของมากมายกระตายเต็มพื้นไปทั่ว มันคือครึ่งหนึ่งของความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ 150 ลำที่ถูกส่งมายังตำแหน่งนี้ทันที
ด้วยทรัพยากรมากมายเหล่านี้กองทัพเขี้ยวหมาป่าไม่จำเป็นต้องคอยกักเก็บกระสุนปืนหรือพลังงานเพื่อสำรองเอาไว้ยามฉุกเฉินเหมือนที่ผ่านมาแล้ว พวกเขาสามารถลุยได้อย่างเต็มกำลัง
ขณะนี้เป็นเป็นเวลาตี5 ในยามเช้าตรู่ ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่างดี เหล่านักรบแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่เหลือ 800 คนกำลังคอยไล่ตรวจนับจำนวนข้าวของที่ได้รับมา และด้วยเพราะปริมาณที่เรียกได้ว่าล้นหลาม พวกเขาจึงค่จำเป็นต้องจัดตั้งจุดตรวจขึ้นมายังที่ราบแห่งนี้ โดยใช้เต้นท์ที่พวกเขามีอยู่แล้วเพื่อความสะดวก
ภายในเต้นท์เหอเฟิงกำลังประชุมอยู่กับเหล่านักรบเก่าแก่ดั้งเดิมของกองทัพเขี้ยวหมาป่า ทุกคนกำลังตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อจู่ๆข้าวของความช่วยเหลือมากมายก็หล่นลงมาจากฟ้าระหว่างวัน
”เดิมทีฉันต้องการหาที่ให้พวกเราได้หลบซ่อนและรอจนชูฮันมาแต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ด้วยข้าวของมากมายพวกนี้ เราคงทำได้แค่เฝ้าอยู่ที่นี้และล่าถอยหนีพวกซอมบี้ไปเรื่อยๆ” เหอเฟิงพุดต่อ “ไม่ต้องพูดว่าพื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้ถูกคุมควบโดยลูกผสม ตำแหน่งงทางภูมิศาสตร์ของเราถูกศัตรูล่วงรู้หมดแล้ว ทำไมทางเขี้ยวหมาป่าต้องจงใจเลือกที่ราบเพื่อส่งข้าวของพวกเราให้ด้วย ทำแบบนี้พวกเราจะถูกค้นพบอย่างรวดเร็ว แต่แปลกทั้งๆที่พวกลูกผสมมันรู้ตำแหน่งเรา ทำไมพวกมันถึงยังไม่บุกมาอีก?”
เฉินช่าวเย่นั่งขัดปืนไรเฟิลพิเศษของเขาไปอย่างสิ้นหวัง”แต่ฉันได้ยินมาว่านี่เป็นความคิดของหัวหน้าชูฮัน เดิมทีข้าวของพวกนี้ถูกส่งไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า”
ซูเฟิงเท้ามือทั้งสองลงบนโต๊ะ”ใช่แล้ว การที่หัวหน้าจงใจเปิดเผยตำแหน่งของพวกเราแบบนี้ มันต้องมีเหตุผลแอบแฝงอยู่แน่นอน ตอนนี้ปัญหาขาดแคลนทรัพยากรของเราก็ได้รับการแก้ไขแล้ว และหัวหน้าชูฮันก็กลับมาแล้ว นอกจากเรื่องการขาดแคลนกำลังพลของกองทัพเขี้ยวหมาป่า ยังมีข้อกังวลอะไรอีก?”
เหอเฟิงเหลือบมองซูเฟิงด้วยสายตาบางอย่างจากนั้นก็เอ่ยบางสิ่งที่ค้างคาในใจออกมา “เพราะฉันไม่สามารถเดาความคิดของชูฮันได้ ฉันรู้ว่าเขาต้องมีเหตุที่ทำแบบนี้ แต่ฉันเดาไม่ออก”
คำพูดของเหอเฟิงทำให้ทุกคนในเต้นท์มองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆทันทีหลิวยู่ติงเป็นคนพูดตอบโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา “มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเดาไม่ออก”
เหอเฟิงพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทันทีจากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่ออีก ตอนนี้เขายอมรับเลยว่า แม้เขาจะเป็นคนเก่งและมีความสามารถที่จะนำกองทัพลงทำสงครามเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบในทุกแง่มุมแล้ว เขายังเทียบชูฮันไม่ติดเลย…
ขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความเงียบทันใดนั้นหนึ่งในทหารของหน่วยลาดตระเวนก็วิ่งเข้ามาในเต้นท์ด้วยท่าทางร้อนใจ หน้าตาตื่นๆ “ขออนุญาตครับ! มีกองกำลังกำลังมุ่งหน้ามาที่เราครับ!”
”อะไรนะ?”เหอเฟิงเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “กองกำลังอะไร ซอมบี้หรือลูกผสม? อยู่ไกลเท่าไหน? จำนวนเท่าไหร่?”
”ห่างไปสามกิโลเมตรครับดูเหมือนจะไม่ใช่ซอมบี้ แล้วก็ไม่เหมือนลูกผสมด้วยครับ จำนวนหลายร้อย ไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ครับ ความสามาถในการหลบหลีกและการกำจัดร่องรอยของอีกฝ่ายสูงมากครับ แถมคืนนี้ฟ้าปิดไม่มีแสงเลยครับ ทีมลาดตระเวนของเราไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย” ทหารหน่วยลาดตระเวนรายงานอย่างเร่งรีบ ท่าทางหวาดกลัว
”เป็นคนงั้นเหรอ?!”นัยน์ตาของเหอเฟิงพลันหดตัวอย่างแรง ในใจเกิดลางสังหรณ์บางอย่าง ทุกคนในเต้นท์เองก็ผุดลุกขึ้นยืนกันหมด…สถานการณ์มันแปลกมาก
ห่างไปสามกิโลเมตรคนหลายร้อยคนกำลังมุ่งหน้ามา ระยะห่างแค่สามกิโลเมตรแต่ทีมลาดตระเวนที่เก่งกาจของกองทัพเขี้ยวหมาป่าพึ่งจะค้นพบตัวตนเนี่ยนะ?