Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 970 เบื้องหลังของการปั่นหัว
ตั้งแต่ที่ชูฮันมาถึงค่ายจินหยางได้6 วัน ทั้งค่ายก็ถูกชะล้างสมองใหม่ทั้งหมด ความร้อนระอุแพร่กระจายไปทั่วทุกที่ เกิดการทำลาย ถนน บ้านเรืองผุพัง แม้แต่เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ไม่เว้น เกิดความเครียดไปทั่ว ทุกอย่างเละเทะ ไม่มีกฏระเบียบ ไม่มีการควบคุม
ตั้งแต่ที่ชูฮันและทีมความลับของพระเจ้าบุกเข้าไปที่พื้นที่ชนชั้นสูงเพื่อจัดการกับคนมีฐานะและครอบครัวของเหล่าเจ้าที่ชั้นสูงทั้งหลายโดยตรงความขัดแย้งระหว่างสองพลเอกในค่ายจินหยางก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ต่างฝ่ายต่างอยากจะกำจัดกันและกัน
จงไคนั่นยิ่งกระตือรือร้นที่จะขยายฐานเสียงฝั่งตัวเองให้รวดเร็วที่สุดเพราะรู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่แน่นอน เหตุการณ์อาจะปะทุขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้
ส่วนฝั่งจงคุยที่ตอนนี้มาถึงทางตันแล้วมันจะไม่มีการเจรจาอีกต่อไป มันถึงทางตันแล้ว
ดังนั้นในเช้าวันที่6 ภายในพื้นที่ชนชั้นสูงก็เกิดเหตุการณ์ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง!
เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันต่างไปจากครั้งก่อนมันไม่ใช่ฝีมือของชูฮันและทีมความลับของพระเจ้าที่ปลอมตัวเข้ามาก่อความวุ่นวายอย่างครั้งที่แล้ว แต่เป็นฝีมือของกองกำลังที่จงคุยส่งมา แน่นอนว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่กระบวนการทุกอย่างคือฝีมือของหน่วยข่าวกรองลับที่คอยยุยงให้เกิดการปะทะ
กองกำลังทหารของจงคุยบุกมาในพื้นที่ชนชั้นสูงไม่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทันเตรียมตัว พวกเขาไล่จับผู้คนตามบ้านออกมาเหมือนอย่างที่คนของพวกเขาเคยโดน
แต่ที่แปลกคือการแก้แค้นของจงคุยนั้นไม่ได้ทำทันทีทันใดไม่ใช่แม้แต่วันถัดมา แต่กลับเป็นสองวันหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งทั้งหมดคือแผนการที่ชูฮันและหน่วยข่าวกรองลับวางเอาไว้ตั้งแต่แรก การที่กองกำลังของจงคุยบุกมานั้นคือความพยายามของหน่วยข่าวกรองลับที่ส่งสายลับเข้าไปคอยเป่าหูในทุกการประชุมสองวันที่ผ่านมาคือการซุ่มดูมาตรการความปลอดภัยของคนในชนชั้นสูง จนกระทั่งผู้คนเริ่มลดการระแวงลงเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว ทว่า…ไม่มีใครคิดว่าฝ่ายจงคุยจะใช้วิธีการเช่นนี้
จู่ๆกองกำลังของจงคุยก็บุกมาในช่วงเช้าตรู่!
และครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน…ความโกรธของผู้คนฝ่ายจงคุยที่โดนทำร้ายครั้งที่แล้วนั้นคือของจริงหัวใจเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ดังนั้นการกระทำในครั้งนี้จึงรุนแรงต่างจากการเล่นละครของชูฮันในครั้งที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
ท้องถนนในพื้นที่ชนชั้นสูงในเวลานี้จึงเต็มไปด้วยฝูงชนอัดแน่นภายในเวลาแค่ไม่กี่นาทีตามมาด้วยเสียงดังวุ่นวาย หญิงสาวหลายคนถูกจับออกมา ซึ่งกองกำลังฝ่ายจงคุยเลือกที่จะทำวิธีการเดียวกับที่ตัวเองเคยโดน พวกเขาฉีกทึ้งเสื้อผ้าหญิงและผลักให้พวกเธอออกไปเดินตามถนนให้อับอาย
หลังจากนั้นก็พูดจาดูถูกเหยียดหยาม ลวนลามเหล่าหญิงสาวทั้งหลาย เสียงโหวกเหวกโวยวายเริ่มรุนแรงขึ้นจนเริ่มกลายเป็นโกลาหล
ภายในแค่พริบตาเดียวพื้นที่ชนชั้นสูงก็กลายเป็นนรกบนดิน เกิดการปล้นสะดม การทำร้ายผู้คนไปทั่วพื้นที่
เมื่อพื้นที่ที่มีค่าที่สุดของค่ายจินหยางตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ชูฮันซึ่งสังเกตการณ์อยู่ฐานลับของหน่วยข่าวกรองลับที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุเท่าไหร่และมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่แรกเริ่ม ทันใดนั้นชูฮันก็เอ่ยออกมาหนึ่งประโยคท่ามกลางความเงียบภายในห้อง “ไป ไปแจ้งจงไค”
”ครับ”เจียงเหว่ยรับคำและจากไปทันที ไม่มีความเมตตาในแววตาของเขาเลย ไม่นานหลังจากที่หน่วยข่าวกรองลับจงใจปล่อยข่าวออกไปมันก็ใช้เวลาไม่นานที่จงไคได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชนชั้นสูง และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือกองกำลังขนาดใหญ่ของจงไคที่มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ
กองกำลังของจงไคมุ่งหน้ามาจากเมืองชั้นในด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมเสียงคำรามที่ดังมาแต่ไกลแววตาที่เต็มไปด้วยความดุดันและรุนแรง ไม่คิดจะปิดบังความโกรธ
ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ขอให้ได้อัดพวกมันก่อน!
ไม่นานพื้นที่ชนชั้นสูงก็กลายเป็นสนามรบของการเผชิญหน้าระหว่างทหารจากสองฝ่ายอำนาจ และทันทีที่ผู้คนและชาวบ้านทั้งหลายเห็นภาพนั้น แต่ละคนก็วิ่งกรูกันไปเข้าร่วมกับฝ่ายของตัวเอง แม้จะไม่มีอาวุธอะไรเลย หากพวกเขาก็ใช้แค่หมัดและลูกเตะเพื่อต่อสู้ ทำให้ภาพที่เกิดดูมั่วเละเทะไปหมด
เรียกว่าโกลาหลยังน้อยไป! ชูฮันที่มองภาพตรงหน้าจากที่ไกลนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ”สัดส่วนของกองกำลังทั้งสองฝ่ายในพื้นที่ชนชั้นสูงตอนนี้คือเท่าไหร่?”
เหมิงชีเหว่ยที่อยู่ข้างกายเหลือบมองตามและตอบคำถาม “ไม่ถึงหนึ่งพันคนครับ ส่วนใหญ่เป็นแค่ทหารระดับต่ำ”
”ดูเหมือนว่าจงคุยและจงไคจะไม่ได้โง่ขนาดสิ้นหวังถึงไม่ยอมส่งทหารทั้งหมดในมือมา” สีหน้าของชูฮันเต็มไปด้วยความเย็นชา ส่งผลให้อากาศรอบๆเย็นเฉียบ และประโยคต่อมาของชูฮันก็ทำให้คนที่ได้ยินตัวแข็งทื่อ “ทีมความลับของพระเจ้า ส่งคนไป 20 คน ปนเข้าไปในทั้งสองฝ่าย ให้เริ่มมีคนจากพื้นที่ชนชั้นสูงตายซะ…”
แววตาของชูฮันจู่ๆก็กลายเป็นอำมหิตยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น “ฆ่าพวกมัน”
”ครับ!”ทหาร 20 คนจากทีมความลับของพระเจ้าที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจขานรับอย่างแข็งขัน จากนั้นก็กระจายตัวเข้าไปปะปนตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ”เหมิงชีเหว่ยส่งคนไปแจ้งจงคุยและจงไค” ชูฮันแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจ “บอกว่าสถานการณ์เหนือการควบคุมและต้องการกำลังเสริม”
”ครับ”เหมิงชีเหว่ยรีบจากไปเพื่อสั่งการคนในหน่วยข่าวกรองลับทันที
รูปแบบการทำงานของทีมความลับของพระเจ้านั้นแตกต่างจากทีมอื่นอยู่แล้วการทำอะไรตรงๆโจ่งแจ้งไม่ใช่วิธีของพวกเขา หน้าที่หลักของพวกเขาในภารกิจครั้งนี้คือการยั่วยุเหตุการณ์ให้รุนแรงขึ้น และทันทีที่ทหารทีมความลับของพระเจ้าเข้าไปในพื้นที่ชนชั้นสูง เหตุการณ์ก็เริ่มดิ่งลงเหวตามอย่างที่ชูฮันต้องการ
มีการนองเลือดเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง5 นาที ความรุนแรงในการปะทะของแต่ละฝ่ายเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องไห้ขอความช่วยเหลือ เสียงโวยวาย เสียงก่นด่าดังปะปนกันไปทั่วบริเวณ
นอกเหนือจากนั้นมันยังมีเสียงปืนเลือดสาดกระเซ็นตามการตวัดดาบดังตามมาครั้งแล้วครั้งเล่า เริ่มมีชิ้นส่วนคน แขน ขา เศษเนื้อ เลือดกระจายตามท้องถนนในพื้นที่ชนชั้นสูง ชายคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าของกองกำลังฝ่ายจงคุยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พลังการต่อสู้ที่โดดเด่นของเขานั้นแสดงชัดเจนว่าเขาคือมนุษย์สายพันธุ์ใหม่
”ใคร?”ชูฮันที่ยืนมองสถานการณ์อยู่ ชี้นิ้วไปที่ชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าของกองกำลังฝ่ายจงคุยที่ต่อสู้อย่างดุดันอยู่ใจกลางของวงล้อมจนเตะตาชูฮัน
”กัปตันของกองกำลังที่1 ของจงคุยครับ เขาเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 5 ความสามารถในการต่อสู้ถือว่าเยี่ยม มีตำแหน่งพันโทครับ” เหมิงชีเหว่ยรายงานได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับข้อมูลที่ครอบคลุม “น้องสาวของเขาก็เป็นหนึ่งในเหยื่อเมื่อสองวันก่อนครับ น้องสาวเขาถูกฉีกทึ้งเสื้อผ้าจนเปลือย ตอนนี้เขาเห็นสภาพน้องสาวตัวเอง เขาเดือดจนเกือบจะยิงเหล่าผู้ลี้ภัยที่ยืนใกล้ตัวน้องสาวเขาครับ” ”ก็ควรจะแค้นอยู่ฝีมือไม่ธรรมดา รูปร่างสูงใหญ่ดี” ชูฮันเอ่ยด้วยน้ำเสียงพออกพอใจ หากทันใดนั้นมันมีประกายความเย็นชาโผล่ขึ้นมาในแววตา ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “ทีมความลับของพระเจ้า ส่งทหารวิวัฒนาการระยะสูงของเราออกไปฆ่าเขาซะ แล้วใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือของกองกำลังฝ่ายจงไค”
”ครับ!”ทหารมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 5 จากทีมความลับของพระเจ้าตอบรับคำสั่งและผละออกไปทันที
ตั้งแต่ที่ชูฮันและทีมความลับของพระเจ้าบุกเข้าไปที่พื้นที่ชนชั้นสูงเพื่อจัดการกับคนมีฐานะและครอบครัวของเหล่าเจ้าที่ชั้นสูงทั้งหลายโดยตรงความขัดแย้งระหว่างสองพลเอกในค่ายจินหยางก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ต่างฝ่ายต่างอยากจะกำจัดกันและกัน
จงไคนั่นยิ่งกระตือรือร้นที่จะขยายฐานเสียงฝั่งตัวเองให้รวดเร็วที่สุดเพราะรู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่แน่นอน เหตุการณ์อาจะปะทุขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้
ส่วนฝั่งจงคุยที่ตอนนี้มาถึงทางตันแล้วมันจะไม่มีการเจรจาอีกต่อไป มันถึงทางตันแล้ว
ดังนั้นในเช้าวันที่6 ภายในพื้นที่ชนชั้นสูงก็เกิดเหตุการณ์ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง!
เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันต่างไปจากครั้งก่อนมันไม่ใช่ฝีมือของชูฮันและทีมความลับของพระเจ้าที่ปลอมตัวเข้ามาก่อความวุ่นวายอย่างครั้งที่แล้ว แต่เป็นฝีมือของกองกำลังที่จงคุยส่งมา แน่นอนว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่กระบวนการทุกอย่างคือฝีมือของหน่วยข่าวกรองลับที่คอยยุยงให้เกิดการปะทะ
กองกำลังทหารของจงคุยบุกมาในพื้นที่ชนชั้นสูงไม่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทันเตรียมตัว พวกเขาไล่จับผู้คนตามบ้านออกมาเหมือนอย่างที่คนของพวกเขาเคยโดน
แต่ที่แปลกคือการแก้แค้นของจงคุยนั้นไม่ได้ทำทันทีทันใดไม่ใช่แม้แต่วันถัดมา แต่กลับเป็นสองวันหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งทั้งหมดคือแผนการที่ชูฮันและหน่วยข่าวกรองลับวางเอาไว้ตั้งแต่แรก การที่กองกำลังของจงคุยบุกมานั้นคือความพยายามของหน่วยข่าวกรองลับที่ส่งสายลับเข้าไปคอยเป่าหูในทุกการประชุมสองวันที่ผ่านมาคือการซุ่มดูมาตรการความปลอดภัยของคนในชนชั้นสูง จนกระทั่งผู้คนเริ่มลดการระแวงลงเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว ทว่า…ไม่มีใครคิดว่าฝ่ายจงคุยจะใช้วิธีการเช่นนี้
จู่ๆกองกำลังของจงคุยก็บุกมาในช่วงเช้าตรู่!
และครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน…ความโกรธของผู้คนฝ่ายจงคุยที่โดนทำร้ายครั้งที่แล้วนั้นคือของจริงหัวใจเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ดังนั้นการกระทำในครั้งนี้จึงรุนแรงต่างจากการเล่นละครของชูฮันในครั้งที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
ท้องถนนในพื้นที่ชนชั้นสูงในเวลานี้จึงเต็มไปด้วยฝูงชนอัดแน่นภายในเวลาแค่ไม่กี่นาทีตามมาด้วยเสียงดังวุ่นวาย หญิงสาวหลายคนถูกจับออกมา ซึ่งกองกำลังฝ่ายจงคุยเลือกที่จะทำวิธีการเดียวกับที่ตัวเองเคยโดน พวกเขาฉีกทึ้งเสื้อผ้าหญิงและผลักให้พวกเธอออกไปเดินตามถนนให้อับอาย
หลังจากนั้นก็พูดจาดูถูกเหยียดหยาม ลวนลามเหล่าหญิงสาวทั้งหลาย เสียงโหวกเหวกโวยวายเริ่มรุนแรงขึ้นจนเริ่มกลายเป็นโกลาหล
ภายในแค่พริบตาเดียวพื้นที่ชนชั้นสูงก็กลายเป็นนรกบนดิน เกิดการปล้นสะดม การทำร้ายผู้คนไปทั่วพื้นที่
เมื่อพื้นที่ที่มีค่าที่สุดของค่ายจินหยางตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ชูฮันซึ่งสังเกตการณ์อยู่ฐานลับของหน่วยข่าวกรองลับที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุเท่าไหร่และมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่แรกเริ่ม ทันใดนั้นชูฮันก็เอ่ยออกมาหนึ่งประโยคท่ามกลางความเงียบภายในห้อง “ไป ไปแจ้งจงไค”
”ครับ”เจียงเหว่ยรับคำและจากไปทันที ไม่มีความเมตตาในแววตาของเขาเลย ไม่นานหลังจากที่หน่วยข่าวกรองลับจงใจปล่อยข่าวออกไปมันก็ใช้เวลาไม่นานที่จงไคได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชนชั้นสูง และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือกองกำลังขนาดใหญ่ของจงไคที่มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ
กองกำลังของจงไคมุ่งหน้ามาจากเมืองชั้นในด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมเสียงคำรามที่ดังมาแต่ไกลแววตาที่เต็มไปด้วยความดุดันและรุนแรง ไม่คิดจะปิดบังความโกรธ
ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ขอให้ได้อัดพวกมันก่อน!
ไม่นานพื้นที่ชนชั้นสูงก็กลายเป็นสนามรบของการเผชิญหน้าระหว่างทหารจากสองฝ่ายอำนาจ และทันทีที่ผู้คนและชาวบ้านทั้งหลายเห็นภาพนั้น แต่ละคนก็วิ่งกรูกันไปเข้าร่วมกับฝ่ายของตัวเอง แม้จะไม่มีอาวุธอะไรเลย หากพวกเขาก็ใช้แค่หมัดและลูกเตะเพื่อต่อสู้ ทำให้ภาพที่เกิดดูมั่วเละเทะไปหมด
เรียกว่าโกลาหลยังน้อยไป! ชูฮันที่มองภาพตรงหน้าจากที่ไกลนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ”สัดส่วนของกองกำลังทั้งสองฝ่ายในพื้นที่ชนชั้นสูงตอนนี้คือเท่าไหร่?”
เหมิงชีเหว่ยที่อยู่ข้างกายเหลือบมองตามและตอบคำถาม “ไม่ถึงหนึ่งพันคนครับ ส่วนใหญ่เป็นแค่ทหารระดับต่ำ”
”ดูเหมือนว่าจงคุยและจงไคจะไม่ได้โง่ขนาดสิ้นหวังถึงไม่ยอมส่งทหารทั้งหมดในมือมา” สีหน้าของชูฮันเต็มไปด้วยความเย็นชา ส่งผลให้อากาศรอบๆเย็นเฉียบ และประโยคต่อมาของชูฮันก็ทำให้คนที่ได้ยินตัวแข็งทื่อ “ทีมความลับของพระเจ้า ส่งคนไป 20 คน ปนเข้าไปในทั้งสองฝ่าย ให้เริ่มมีคนจากพื้นที่ชนชั้นสูงตายซะ…”
แววตาของชูฮันจู่ๆก็กลายเป็นอำมหิตยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น “ฆ่าพวกมัน”
”ครับ!”ทหาร 20 คนจากทีมความลับของพระเจ้าที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจขานรับอย่างแข็งขัน จากนั้นก็กระจายตัวเข้าไปปะปนตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ”เหมิงชีเหว่ยส่งคนไปแจ้งจงคุยและจงไค” ชูฮันแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจ “บอกว่าสถานการณ์เหนือการควบคุมและต้องการกำลังเสริม”
”ครับ”เหมิงชีเหว่ยรีบจากไปเพื่อสั่งการคนในหน่วยข่าวกรองลับทันที
รูปแบบการทำงานของทีมความลับของพระเจ้านั้นแตกต่างจากทีมอื่นอยู่แล้วการทำอะไรตรงๆโจ่งแจ้งไม่ใช่วิธีของพวกเขา หน้าที่หลักของพวกเขาในภารกิจครั้งนี้คือการยั่วยุเหตุการณ์ให้รุนแรงขึ้น และทันทีที่ทหารทีมความลับของพระเจ้าเข้าไปในพื้นที่ชนชั้นสูง เหตุการณ์ก็เริ่มดิ่งลงเหวตามอย่างที่ชูฮันต้องการ
มีการนองเลือดเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง5 นาที ความรุนแรงในการปะทะของแต่ละฝ่ายเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องไห้ขอความช่วยเหลือ เสียงโวยวาย เสียงก่นด่าดังปะปนกันไปทั่วบริเวณ
นอกเหนือจากนั้นมันยังมีเสียงปืนเลือดสาดกระเซ็นตามการตวัดดาบดังตามมาครั้งแล้วครั้งเล่า เริ่มมีชิ้นส่วนคน แขน ขา เศษเนื้อ เลือดกระจายตามท้องถนนในพื้นที่ชนชั้นสูง ชายคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าของกองกำลังฝ่ายจงคุยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พลังการต่อสู้ที่โดดเด่นของเขานั้นแสดงชัดเจนว่าเขาคือมนุษย์สายพันธุ์ใหม่
”ใคร?”ชูฮันที่ยืนมองสถานการณ์อยู่ ชี้นิ้วไปที่ชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าของกองกำลังฝ่ายจงคุยที่ต่อสู้อย่างดุดันอยู่ใจกลางของวงล้อมจนเตะตาชูฮัน
”กัปตันของกองกำลังที่1 ของจงคุยครับ เขาเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 5 ความสามารถในการต่อสู้ถือว่าเยี่ยม มีตำแหน่งพันโทครับ” เหมิงชีเหว่ยรายงานได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับข้อมูลที่ครอบคลุม “น้องสาวของเขาก็เป็นหนึ่งในเหยื่อเมื่อสองวันก่อนครับ น้องสาวเขาถูกฉีกทึ้งเสื้อผ้าจนเปลือย ตอนนี้เขาเห็นสภาพน้องสาวตัวเอง เขาเดือดจนเกือบจะยิงเหล่าผู้ลี้ภัยที่ยืนใกล้ตัวน้องสาวเขาครับ” ”ก็ควรจะแค้นอยู่ฝีมือไม่ธรรมดา รูปร่างสูงใหญ่ดี” ชูฮันเอ่ยด้วยน้ำเสียงพออกพอใจ หากทันใดนั้นมันมีประกายความเย็นชาโผล่ขึ้นมาในแววตา ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “ทีมความลับของพระเจ้า ส่งทหารวิวัฒนาการระยะสูงของเราออกไปฆ่าเขาซะ แล้วใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือของกองกำลังฝ่ายจงไค”
”ครับ!”ทหารมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 5 จากทีมความลับของพระเจ้าตอบรับคำสั่งและผละออกไปทันที