Ark The Legend - ตอนที่ 354 : สงครามคือธุรกิจ (3)
ตอนที่ 354 : สงครามคือธุรกิจ (3)
“หึหึหึ คุ้มที่ยอมเป็นธุระให้จริงๆ
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลว่าทําไมอาร์คจึงทําธุรกรรมผ่านร้านค้า การซื้อขายวัสดุผ่านร้านค้าของอาร์คนับเป็นการทําธุรกรรมครั้งใหญ่ นอกจากนี้ ชาวแรคคูนที่เป็นเอ็นพีซีประชากรหมู่ บ้านยังได้รับเงินทองตามไปด้วย เพราะความสําเร็จนี้ มูลค่าทางการค้าของหมู่บ้านจึงเพิ่มขึ้น และอัตราหุ้นส่วนสูงสุดที่เขาสามารถถือครองจึงเพิ่มขึ้นด้วย อาร์คพยักหน้ารับด้วยความพึงพอใจก่อนหันไปมองเดดริคและราซาค
“เอ้า พวกนายคงไม่ได้คิดว่าช่วงนี้จะได้แต่วิ่งเล่นหรอกใช่ไหม?”
“ขอรับ? พวกเราก็ต้องฝึกด้วย?”
กรั่ก กรั่ก?
เดดริคและราซาคต่างก้าวถอยกลับอย่างหวาดเกรง
“แน่นอน เห็นเผ่าบารันแข็งแกร่งขึ้นไม่มีแรงกายแรงใจอะไรชักจูงบ้างเลยหรือยังไงกัน?”
“อะไรกันขอรับ พวกเรานับเป็นผู้ชํานาญการแล้ว เพราะแบบนั้นทําไมต้องเอาไปเทียบกับพวกที่เพิ่งเริ่มต้นด้วยกัน? พวกเราเพียงแค่พักและเก็บออมแรงเอาไว้ ถึงเวลาสําคัญจะได้ทุ่มเทกับการต่อสู้ให้เต็มที่! จะให้ดีไปออกล่าแทนการฝึกดีกว่าขอรับ”
เขาแทบพูดอะไรไม่ออก..
คําพูดของเดดริคไม่ได้ผิดไปเสียทั้งหมด ที่จริงแล้วเดดริคกับราซาคต่างก็มีพลังเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าผ่านการฝึกอันเข้มงวดของเขา เพราะเหตุนั้น ประสิทธิภาพของพวกมันยามออกปฏิบัติการณ์จึงสําเร็จแทบจะ 90% ควา มสามารถที่สามารถปรับรับเหตุการณ์วิกฤตก็นับว่าน่าพอใจ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกมันจึงสามารถช่วยเหลืออาร์ครับมือกับมอนสเตอร์ที่เลเวลเหนือกว่านับ 100 ระดับได้ เพราะแบบนั้นแล้วการฝึกขั้นพื้นฐานของเผ่าบารันแทบไม่จําเป็นเลยจริงๆ
“แต่มันก็เป็นอีกเรื่องถ้าศักยภาพของทักษะสามารถเพิ่มขึ้นได้
ไม่นานมานี้อาร์คได้ค้นพบผ่านราดันถึงความสามารถค่าสถานะความรัก ว่ามันช่วยให้ทักษะสมุนปีศาจเติบโตขึ้นได้ อย่างไรแล้วทักษะไม่อาจเติบโตขึ้นได้เพียงเพราะใช้งานค่าสถานะความรัก อาร์คต้องทําให้สมุนปีศาจได้รับความรู้ความ เข้าใจในทักษะที่ใช้งานเพิ่มขึ้นก่อนด้วย
“การเพิ่มความรู้ความเข้าใจทักษะไม่ต้องทําผ่านการฝึกก็ได้ เราสามารถเพิ่มความรู้ผ่านการล่าได้ แถมยังได้สิ่งของกับค่าประสบการณ์เพิ่มอีกต่างหาก นอกจากนี้ ค่าสถานะความรักจะเพิ่มขึ้นหากเราได้รับการยอมรับจากสมุนปีศาจอีกต่างหาก
“ก็ดี งั้นไปออกล่ากัน”
ระหว่างที่เผ่าบารันง่วนกับการฝึก อาร์คตัดสินใจพาตัวเองไปออกล่าในพื้นที่ใกล้เคียง เขาแทบลืมเลือนเพราะหลายๆเรื่องที่ต้องจัดการ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่ออกล่า แชมบาร่าและสมาคมแห่งความมืด ที่ออกไปสอดแนมเผ่านาคูจักก็กลับมาถึงป้อมปราการแล้ว
“อาร์ค พวกมันเตรียมรุกคืบสู่พื้นที่ภาคตะวันออกแล้ว”
ในที่สุดก็ได้เวลาเริ่มสงคราม
เช้ง เช้ง ครืด!
เสียงอันแหลมคมของโลหะที่ปะทะกันและเสียงการตัดวัตถุ ศัตรูกําลังรุกคืบเข้ามาทางด้านหน้าขณะที่ดาบยังคงเหวี่ยงออก เพียงพริบตาไม่อาจหย่อนความระวัง การมองทุกดาบที่รุกเข้ามานั้นเพื่อรักษาชีวิต นี่คือสมรภูมิรบ
“การศึกนี่จะยืดยาวไปอีกแค่ไหนกันนะ?”
อาร์คครุ่นคิดขณะจัดการเผ่านาคูจักให้ล้มลงกับพื้นไม่อาจไหวติง ตอนนี้ก็วันที่ห้าแล้วนับตั้งแต่เปิดศึกกับเผ่านาคูจัก การสู้รบหลายสิบครั้งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ และก็เป็นดังที่คาด เผ่านาคูจักกรีธาทัพมาทั้งสิ้นห้าพันชีวิต อีกทางหนึ่ง เผ่าบารันรวบรวมกําลังทหารมาเพิ่มได้อีก เล็กน้อยจึงมีจํานวนรวมทั้งสิ้นสี่พันห้าร้อยคน จํานวนเกือบจะเทียบเท่า แต่พลังอํานาจการต่อสู้ระหว่างเผ่านาคูจักซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์นักรบขณะที่อีกฝั่งเป็นอารยชน เผ่าบารันนั้นแตกต่างกันยิ่งนัก แม้มีการฝึกอันเข้มงวดเข้ามา แต่ขีดจํากัดที่สามารถกระทําได้ภายในหนึ่งสัปดาห์มีจํากัด เผ่าบารันหลายคนล้มลงในช่วงเริ่มต้นการต่อสู้ที่ยุดยื้อกันอยู่ในช่องแคบหุบเขา
“ถ้าหากไม่ใช่เพราะจัสติสแมน เผ่าบารันอาจโดนกวาดล้างไปหมดแล้ว
อาร์คมองไปยังจัสติสแมนซึ่งกําลังยืนอยู่บน เนินรับชมสมรภูมิการสู้รบ อันที่จริง จัสติสแมนพอคาดเดา ได้แต่แรกแล้วว่าในช่วงแรกจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เป็นเพราะกลยุทธ์แรกเริ่มนั้นคือการอยู่ที่สูงคอยรักษากําลังทหารเอาไว้ แต่กลยุทธ์กลับต้องปรับเปลี่ยนเมื่อเผ่านาคูจักโจมตีสวนกลับโดยการกรีธาทัพเข้าสู่ช่องแคบหุบเขา
จัสติสแมนจึงเลือกใช้กลยุทธ์ย้อนรอยเข้าด้านหลัง เมื่อเผ่านาคูจักย้ายจากตําแหน่ง B ไปยังตําแหน่ง A พวกเขาจะตามด้านหลังและเข้าโจมตีที่จุด B สงครามของเอ็นพีซีในนิวเวิลด์นั้นไม่ต่างอะไรกับโลกความเป็นจริง หรือก็คือ พวกเขาสามารถตัดกําลังพัสดุและเสบียงของฝ่ายศัตรูในขณะที่กรีธาทัพได้ ถ้าหากสูญเสียเส้นทางการสนับสนุนไปแล้ว ภาวะขาดแคลนเสบียง อาวุธ และชุดเกราะก็จะบังเกิด นอกจากนี้ กองกําลังทหารยังจะเสียกําลังใจจากที่เคยมีแน่นอนว่า เผ่านาคูจักย่อมเคลื่อนทัพกลับสู่ตําแหน่ง B เพื่อเก็บกู้เสบียงและพัสดุกลับคืน และนั้นก็เป็นผลให้จัสติสแมนมีเวลาไปสร้างสิ่งกีดขวางไว้ที่ตําแหน่ง A เพราะเหตุนี้ เผ่านาคูจักในตอนนี้จึงทําได้เพียงแค่รุกคืบอยู่ใกล้บริเวณปากทาง เข้าช่องแคบหุบเขา
แน่นอนว่ากลยุทธ์เช่นนี้มีการใช้มาตั้งแต่สมัยยุคดึกดําบรรพกันเลยทีเดียว เอ็นพีซีอาจไม่ทราบ แต่คณะของจีเวลย่อมต้องคิดได้โดยทันที แต่ “รู้” ก็ส่วนรู้ จะหยุดยั้งได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยเหตุนี้กลยุทธ์ดังกล่าวจึงสามารถสําเร็จผล!
สถานการณ์การสู้รบเปลี่ยนไปเพราะเหตุนี้ การวางแผนการรบให้สําเร็จเป็นเรื่องยาก แต่ในเกมก็ไม่นับว่าเกินเลยที่จะบอกว่ายากเย็น ตอนนี้นิวเวิลด์ก็มีสภาพไม่ต่างอะไรกับสนามรบจริง จัสติสแมนและลาริเอ็ตเต้ต่างก็สร้างคลื่นลมในสมรภูมิรบได้ไม่น้อย หากไม่มีความเชี่ยวชาญของจัสติสแมนและความสามารถพิเศษของลาริเอ็ตเต้ เรื่องราวครั้งนี้คงไม่อาจสําเร็จ แน่นอนว่าสมาชิกกลุ่มทัณฑ์บนและสมาคมแห่งความมืดก็เป็นส่วนช่วยสําคัญในกลยุทธ์ครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฆ่าพวกมันให้หมด!”
“เผ่าบารันที่อ่อนแอถึงกับบังอาจนัก!”
เผ่านาคูจักต่างคิดว่าการต่อสู้สมควรง่ายดาย เช่นนั้นจึงทุ่มบ่ามวิ่งเข้าใส่โดยไม่ทันระวัง แม้ขบวนทัพป้องกันของเผ่าบารันจะล้มครืน แต่จัสติสแมนก็เพียงแค่รอเวลา จากนั้นจึงค่อยกล่าว
“ผ่านมาสี่สิบนาทีแล้วพวกมันยังจัดขบวนทัพเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ ตอนนี้พวกมันเริ่มกระจายตัวกันออกเพราะเร่งร้อนคิดเอาคืน สมาคมแห่งความมืดเริ่มปฏิบัติการเข้าแทรกแซง!”
เมื่อจัสติสแมนออกคําสั่ง ร่างของลาริเอ็ตเต้ก็ส่องประกาย อัศวินพิสุทธิ์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทุกครั้ง เมื่อใช้ทักษะจะมีประกายแสงส่องออกมา สมาคมแห่งความมืดตอนนี้ก็ออกจากสภาพลอบเร้นกันแล้ว
ฉึก ฉึก ฉึก!
เสียงการจ้วงแทงจากด้านหลังของสมาคมแห่งความมืดนับร้อยชีวิตพลันดังขึ้น เผ่านาคจักถึงกับเสียพลังชีวิตไปมหาศาลโดยทันที ด้วยเหตุนี้ การบุกโจมตีของพวกมันจึงพังทลายลงอย่างรวดเร็ว
“อั่ก… อะ-ไอ้พวกนี้มันมาจากไหนกัน!”
“ถะ-ถอย ถอยทัพ ออกให้พ้นรัศมีการโจมตีของพวกมันแล้วตั้งขบวนทัพใหม่!”
“แต่พวกเราเข้ามากลางวงศัตรูแล้ว หากถอยทัพ กําลังทหารทั้งหมดจะแตกกระจายยิ่งกว่าเดิม”
“ส่งหน่วยดราเค็นเข้าไปสนับสนุน”
เสียงตะโกนดังขึ้นท่ามกลางกลุ่มนาคูจักที่กําลังสับสน ผ่านไปเพียงครู่ ดราเค็นหลายสิบตัวจึงบินโฉบข้ามผ่านสมรภูมิมา
คว๊ากกกก!
ที่ปรากฏบนท้องฟ้าตอนนี้เป็นดราเค็นซึ่งสามารถบินอย่างอิสระและสามารถโจมตีจากด้านบน! พวกมันแข็งแกร่งขนาดที่เพียงพอเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ของเผ่าบารันนับ สิบในคราวเดียว พวกมันเข้ามาใกล้อย่างถูกจังหวะเวลาจนเป็นผลให้เผ่าบารันแทบเกิดวิกฤต แต่ทว่า การปรากฏตัวของดราเค็นก็เป็นโอกาสให้กับจัสติสแมนเช่นเดียวกัน
“หน่วยยุทธวิธี เข้าขัดขวางดราเค็น!
เมื่อคําสั่งถูกถ่ายทอด กองกําลังนับร้อยจากบนเนินเขาทั้งสองฝั่งของช่องแคบหุบเขาต่างปรากฏตัวขึ้น
“ตั้งสมาธิ เพ่งเล็งและโจมตีเป้าหมายเพียงหนึ่ง!”
จักตูใช้งานทักษะบ่งชี้เหนือศีรษะดราเค็นว่าตัวใดคือเป้าหมาย
“เริ่มจากตัวนี้ เตรียมพร้อม และยิง!”
ต้ม ตุ้ม ตุ้ม ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
เสียงอาวุธดินระเบิดถูกยิงออกดังสนั่นโดยหน่วยยุทธวิธี ซึ่งเป็นพลปืนใหญ่นับร้อยชีวิตระดมยิงเข้าใส่ดราเค็นโดยพร้อมกัน เป็นผลให้พลังชีวิตของมันลดลงอย่างรวดเร็วจนล้มหายตายจาก อาร์คได้สั่งปืนใหญ่พวกนี้จากชาวแรคคูนมาโดยเฉพาะปืนใหญ่นับเป็นอาวุธสุดแสนวิเศษสําหรับหน่วยยุทธวิธี หน่วยยุทธวิธีคือหน่วยที่รวมตัวคนมีมันสมองแต่ไร้พละกําลัง เพราะแบบนั้นพวกเขาจึงไม่อาจเผชิญหน้ากับเผ่านาคูจักโดยตรงได้ แต่มันจะไม่ใช่ปัญหา หากพวกเขาสามารถโจมตีจากระยะไกล
ปืนใหญ่คืออาวุธทางวิศวกรรมที่เหนือล้ํายิ่งกว่าอาวุธใด และเมื่อเอ็นพีซีสามารถใช้งานได้มันจะเผยประสิทธิภาพอันยิ่งยวดออกมา นอกจากนี้ หน่วยยุทธวิธียังมีจักตูซึ่งเป็น “แม่ทัพหน่วยยุทธศาสตร์” ออกนําด้วยตัวเอง ทักษะอย่างหนึ่งที่จักตูได้เรียนรู้มาคือ “ฮวงจุ้ย” เมื่อใช้ในการรบ ฮวงจุ้ย” จะช่วยให้กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับภูมิประเทศเพิ่มขึ้น 50% หรือก็คือ ปืนใหญ่จะได้รับทั้งความเสียหายและความแม่นยําเพิ่มมากขึ้นเมื่อยิงออกจากตําแหน่งที่สูง
“วิเศษจริงๆ!”
ตอนนี้เผ่านาคูจักทําได้เพียงรับชมดราเค็นร่วงโรยไปทีละตัวต่อหน้าต่อตา ด้วยเหตุนี้ หน่วยยุทธวิธีที่จัดการดราเค็นเสร็จแล้วจึงสามารถเริ่มโจมตีเผ่านาคูจักได้ พวกเขา ล้วนยิงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ําเช่นนั้นจึงเป็นผลให้เผ่านาคูจักที่รวมตัวกันอยู่ใกล้ทางเข้าช่องแคบหุบเขาไม่ต่างอะไรกับเป้านิ่ง! เมื่อปืนใหญ่ถูกยิงออกก็ไม่มีหนีพ้น จักตูตะโกนสั่งการด้วยความยินดีเต็มเปี่ยมบนใบหน้า
“ยิง ยิง ยิง และยิง! ไม่ต้องเล็งเป้าเดี่ยว แค่ยิงไปก็พอ!”
ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
ลูกปืนใหญ่ต่างบินลัดผ่านอากาศร่วงโรยราวสายฝน เป็นผลให้แคมป์ของพวกนาคูจักพังทลายลง แต่นี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการสู้รบเท่านั้น
======
หอคอยปราการ หนึ่ง สอง และสาม ได้จัดสร้างขึ้นบน เนินเขาสําเร็จ!
=====
“ให้มันได้อย่างนั้น!”
อาร์คกําลังรอคอยข้อความนี้อยู่ระหว่างที่การต่อสู้ดําเนินไป ปูตงซานจะแบ่งหน่วยวิศวกรรมไปก่อสร้างหอคอยที่ยอดเนินเขา แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีเวลามากนัก เพราะงั้นหอคอยจึงไม่ได้มีความทนทานอะไรมาก แต่หากเผ่านาคูจักคิดทําลายก็ต้องผ่านแนวป้องกันที่สองมาถึงเนินเขาให้ได้เสียก่อนจึงจะสามารถโจมตีหอคอย หรือก็คือ พวกมันไม่มีทางโจมตีหอคอยปราการโดยตรงได้
หากมีใครเคยเล่นเกมอย่างวอร์คราฟ พวกเขาย่อมต้องทราบถึงกลยุทธ์การสร้างหอคอยเหล่านี้ มันคือสิ่งที่จะช่วยเสริมโบนัสให้กับระยะและพลังโจมตีของลูกธนูของพลทหาร ที่เฝ้ารักษาการณ์บนหอคอย นอกจากนี้ ทหารรักษาการณ์ภายในหอคอยจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดจนกว่าหอคอยจะถล่ม ดังนั้นแล้วหอคอยปราการจึงเป็นสิ่งสําคัญที่ควรมี แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยทรัพยากรจํานวนมากและแรงงาน เพื่อก่อสร้างหอคอยปราการและหน่วยยุทธวิธีที่มาพร้อมปืนใหญ่! สิ่งเหล่านี้ทําให้เกิดสายฝนลูกธนูและลูกปืนใหญ่ต่างโปรยปรายลดทอนพลังชีวิตของเผ่านาคูจัก