Ark The Legend - ตอนที่ 362 : อาเกรอน (3)
ตอนที่ 362 : อาเกรอน (3)
เพียงแค่เด็กชายเผยความสนใจเท่านั้นเองความเสี่ยงถึงกับเพิ่มขึ้น 50%
“อะ-อะไรกันเนี่ย? มองหาบ้านแกเหรอ? ที่นี่ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไปได้แล้วโว้ย!”
อาร์คจ้องมองเด็กชายก่อนจะพยายามส่งกระแสความคิดอย่างแรงกล้าออกไป แต่แล้วก็เหมือนที่คิด เด็กน้อยหาได้สนใจความอาฆาตที่ส่งไปแต่อย่างใด เด็กชายพยายามเอานิ้วแหย่เข้ามาภายในรูของถังไม้ ใครกันจะบ้าเอานิ้วแหย่เข้ารูถังไม้ที่ตั้งไว้บนถนน? ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหาเหตุผล และแล้วสิ่งที่เหนือเกินจินตนาการถึงก็ปรากฏนิ้วนั้นพลันทิมเข้าใส่ดวงตาของอาร์คจนเป็นผลให้เขาต้องส่งเสียงร้องเล็กน้อยออกมาก่อนจะถึงจะล้ม
“อะ-อะไรกันเนี่ย?”
“ผะ-ผีหลอก!”
เด็กชายส่งเสียงร้องออกมาก่อนถอยหลังจนล้ม ขณะนั้นเอง เผ่านาคูจักที่ลาดตระเวนอยู่ใกล้เคียงก็ให้ความสนใจมองมาทางด้านนี้ขณะได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็ก
=====
ความเสี่ยง : 100%
=====
ดูซีรีย์ ฟรีได้ที่ series-max.com
“บ้าบอที่สุด!”
อาร์คครางออกมาก่อนจะมองไปรอบด้วยดวงตาที่เจ็บช้ำ แชมบาร่าก็ลุกขึ้นจากถังไวน์ก่อนจะมองอาร์คอย่างกินเลือดกินเนื้อ
“ขอบใจมากไอ้เจ้าบ้า!”
“นายโดนอะไรทิ่มตาแล้วยังเงียบอยู่ได้หรือไงกัน ฉันก็ต้องร้องน่ะสิ! ไอ้เด็กบัดซบ!”
อาร์คส่งสายตาเกรี้ยวกราดคิดฆ่าฟันจ้องมองเด็กชายจนเป็นผลให้เด็กชายตัวสั่นก่อนจะถอยไปหลบอยู่หลังทหารเผ่านาคูจัก
“อาร์คหิมพอเถอะค่ะ ถึงจะเป็นนาคูจัก แต่อีกฝ่ายก็เป็นเด็กนะคะ”
“นายมันบ้าของแท้ คิดล้างแค้นกระทั่งเด็ก?”
“อาร์ค ทําตัวให้สมเป็นผู้ใหญ่หน่อย…”
อาร์คหันศีรษะกลับไปมองลาริเอ็ตเต้ แชมบาร่า และสมาชิกกลุ่มทัณฑ์บนที่พูดกล่าวกันออกมา สําหรับอาร์คไม่สําคัญสักนิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ และตอนนี้ก็ไม่มีเวลาให้เป็นกังวลเรื่องเด็กนั่นแล้วด้วย
“เหอะ ออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วกัน!”
อาร์คออกนําหน่วยรบพิเศษวิ่งผ่านตรอกซอยไป เด็กชายคนนั้นถึงกับเปลี่ยนสีหน้ากะทันหันพร้อมเสียงหัวเราะ
“เหอะเหอะเหอะ ไอ้พวกผู้บุกรุก ไอ้พวกโง่เขลา ถึงคราวตายของพวกแกแล้ว พวกเราจะฉีกกระชากพวกแกออกเป็นชิ้นแล้วจับกิน โดยเฉพาะไอ้เจ้าคนที่มันขู่ขวัญข้า ข้าจะกินลูกตามัน!”
เด็กชายถึงกับพูดกล่าวออกมาอย่างหยาบคาย เพราะมันคนเดียวทั้งหน่วยรบพิเศษถึงกับต้องวิ่งหนีหางจุกตูด ไอ้เด็กนีโตมายังไงกันแน่? เขาอยากจะเห็นหน้าพ่อแม่มันเสียจริงหรือว่าพอเอ็นพีซีเป็นฆาตกรแล้วก็จะมีวิธีการเลี้ยงดูบุตรหลานเช่นนี้?
“อาร์ค!”
อาร์คที่เอาแต่คิดไร้สาระถึงกับหยุดยิ่งหลังได้ยินเสียงตะโกนของแชมบาร่า อาร์คตอบสนองโดยการหันกลับไปขณะสีหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว
“นั่นไง… มันอยู่ตรงนั้น!”
คุณเคยโดนศัตรูในเกมเป็นร้อยรุมโจมตีหรือไม่? สถา การณ์ตอนนี้พวกคุณมีแค่แปดคนจะทําอย่างไร? และนั่นคือสิ่งที่อาร์คกําลังประสบอยู่
“ผู้บุกรุก ฆ่าพวกมันให้หมด!”
“ถึงกับหาญกล้าบุกรุกเข้าสู่อาเกรอน!”
เผ่านาคูจักจํานวนมหาศาลตอนนี้กําลังหลั่งไหลกันออกมาจากสิ่งปลูกสร้างรอบด้าน จํานวนตอนนี้หลายร้อย! นี่เป็นครั้งแรกที่อาร์คมีประสบการณ์โดนมอนสเตอร์จํานวนหลักร้อยในนิวเวิลด์เข้ารุมเร้า จัตุรัสและถนนต่างแคบลงทันทีเพราะเผ่านาคูจักที่โผล่กันออกมาไม่ขาดสาย จากนั้นพวกมันก็เริ่มชักดาบง้าว และธนูออกมาพร้อมเริ่มโจมตี เข้าใส่หน่วยรบพิเศษ
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ครึก ครึก ตึง!
หน่วยรบพิเศษโดนโจมตีเข้าใส่พร้อมกันจนแตกกระจายออกเป็นแปดสาย ตอนนี้พวกเขาไม่อาจหยุดยั้งหรือสกัดกั้นได้แต่อย่างใด
“สัมผัสแห่งการรักษา เทพธิดาพิทักษ์!”
แม้ลาริเอ็ตเต้จะร่ายเวทมนตร์ฟื้นฟู แต่ก็เหมือนเทน้ำใส่หลุมไร้กัน
“ลาริเอ็ตเต้นิม เปลี่ยนไปใช้บัพป้องกันสามอย่าง!”
สถานการณ์ตอนนี้เพิ่มพลังโจมตีไปก็ไม่ช่วยอะไร อดทนไว้คือสิ่งสําคัญยิ่งกว่าลาริเอ็ตเต้เปลี่ยนไปใช้งานบัพ ป้องกันตามที่อาร์คสั่งเพื่อเพิ่มความอดทน พลังป้องกัน และ อัตราการหลบหลีกจากนั้นเธอจึงเริ่มใช้เวทมนตร์ฟื้นฟู อีกครั้งหนึ่ง อย่างน้อยสภาพตอนนี้พลังชีวิตของพวกเขาก็ยุบลงน้อยกว่า
“สัมผัสแห่งว้าย!”
ลาริเอ็ตเต้ส่งเสียงกรีดร้องออกระหว่างที่ใช้เวทมนตร์รักษา ทั้งการรักษาและบัพของเธอตอนนี้ กลายเป็นชักนําความเกลียดชังของศัตรูเข้าหาไปเสียแล้ว ด้วยเหตุนี้เผ่านาคูจักจึงเพ่งเล็งโจมตีแต่ลาริเอ็ตเต้ แน่นอนว่าบัลคุนและตอกแดต่างก็พยายามใช้การยั่วยุเพื่อชิงความเกลียดชังมาในฐานะอาชีพผู้พิทักษ์หน่วยบุกทะลวง แต่เผ่านาคูจักที่ล้อมรอบอยู่นั้นมีนับร้อยชีวิต เพียงพวกเขาแค่สองคนไม่อาจคุ้มกันลาริเอ็ตเต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“อีกไม่นานลาริเอ็ตเต้นิมต้องตายแน่!”
อาร์คขว้างซอว์เบลดออกไปใส่เธอขณะตะโกนเสียงดัง
“ปลดการแปลงร่างราซาคใช้โล่ปะทะ!”
กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
ร่างของราซาคพลันปรากฏตรงหน้าลาริเอ๊ตเต้ขณะเหวี่ยง โล่ไปมากลุ่มชนนาคูจักจึงโดนผลักดันกลับ
“สกัดกั้น XX!”
ขณะเดียวกันนั้น อาร์คเสียดแทงดาบออกไปหวังเข้าขวาง ด้านหน้าให้ลาริเอ็ตเต้ถูกต้อง ช่วงที่เดดริคกับราซาคเรียนรู้ทักษะใหม่อาร์คก็ไม่ได้อยู่ว่าง เขาได้เรียนทักษะใหม่ มาโดยผ่านความพยายามเช่นกัน ชื่อของมันคือสกัดกั้น XX! มันคือเทคนิคที่เขาใช้งานเพื่อโค่นล้มคาลจาเปย์ อาร์คได้เปลี่ยนเทคนิคดังกล่าวให้สามารถใช้งานระหว่างโจมตีเผ่านาคูจัก ท้ายที่สุดจึงเกิดขึ้นเป็นทักษะใหม่
===
ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่
สกัดกั้น XX (ขั้นต้น, เรียกใช้งาน) : การทิ่มแทงพิเศษซึ่งเพ่งเล็งไปยังตําแหน่งสําคัญของเป้าหมาย เมื่อใช้งานสกัดกั้น XX กับมอนสเตอร์ ท่านสามารถโจมตีซ้ำต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความโกรธของเป้าหมายและฉวยโอกาสจากความโกรธนั้น พื้นที่สําคัญของเป้าหมายซึ่งโดนโจมตีจะสร้างความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวด ความเร็วการโจมตีของ เป้าหมายจะลดลงเพราะความเจ็บปวด
=====
“อะ อัก!”
“อะไรกัน? ความเจ็บที่ไม่คุ้นเคยนี้คือ?”
“เฮือก เหมือนร่างข้าจะฉีก!”
“อัก… หะ-ห้องน้ำ…”
เผ่านาคูจักหลายคันพลันกรีดร้องออกเมื่อเขาที่มแทง เข้าใส่จุด X หลายคนถึงกับล้มลงกับพื้นไม่อาจขยับเคลื่อนไหว เพราะทักษะนี้เป็นผลให้ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวจะเกิดอาการเจ็บปวดจนยากจะบรรยายออกมา แต่นั่นยังไม่ใช่เป้าหมายที่อาร์คเล็งไว้ เผ่านาคูจักหลายคนถึงกับอับอายจนเกิดความโกรธแค้นเพราะโดนโจมตีเข้าใส่ X จนภายในใจ คล้ายโดนผลาญไหม้และเร่งร้อนเข้าคิดแก้แค้นอาร์ค นี่คือการโจมตีเพื่อยั่วยุ! เพราะการโจมตี X ของอาร์คจึงทําให้ลาริเอ็ตเต้หลบพ้นวิกฤตมาได้
“ ไอ้เด็กน้อยสารเลว!”
“ต่อสู้แบบนี้แล้วผิดตรงไหนกัน? จรัสแสง!”
อาร์คพุ่งผ่านกลุ่มนาคุจักไปพร้อมสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ อย่างไรแล้วสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ใช่อะไรที่เขาเพียงลําพังใช้ทักษะจะกอบกู้กลับมาได้ ที่หัวมุมหนึ่งในแผนที่เล็กถึงกับปรากฏจุดสีแดงเต็มไปหมด จุดสีแดงเหล่านี้หมายถึง เผ่านาคูจักที่ท่วมท้นทั้งแผนที่ ต่อให้เขายืนหยัดมีพลังชีวิตอยู่ต่อไปในตอนนี้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางโค่นล้มศัตรูทั้งหมดลงได้ก่อนที่บัพพลังป้องกันจะหมดลงแน่
“อาร์คทางนี้!”
อย่างกะทันหัน เขาพลันได้ยินเสียงแชมบาร่าจากทางด้านหลัง เขาพบว่าแชมบาร่ากําลังจัดการกลุ่มนาคูจักพร้อมพยายามปีนขึ้นหลังคา การโจมตีจากด้านบนหลังคาย่อม ดีกว่าหากถูกล้อมเอาไว้โดยเผ่านาคูจักทั่วทุกทิศทางเช่นนี้ อาร์คก้าวเหยียบถังไวน์กับพื้นก่อนกระโดดขึ้นบนหลังคา จากนั้นเขาจึงเริ่มดึงลาริเอ็ตเต้และกลุ่มทัณฑ์บนขึ้นมาทีละคน เมื่อเปลี่ยนสมรภูมิเป็นบนหลังคาเรื่องราวก็ง่ายขึ้น ด้วยภูมิประเทศที่ค่อนข้างแคบจึงทําให้ลดทอนความเสียเปรียบด้านจํานวนไปได้ แต่สถานการณ์โดยรวมอย่างไรก็ยังแย่อยู่เพราะพวกมันมีเข้ามาเติมกันอย่างไม่ขาดสาย ตอนนี้ไม่ใช่แค่ประชากรภายในตรอกซอยเท่านั้นแล้ว เพราะสัญญาณเตือนฉุกเฉินดังขึ้น ทั่วทั้งพื้นที่จึงมีเผ่านาคูจักหลั่งไหลโหมกันเข้ามา
“จบแล้ว พวกเราจบสิ้นกันแล้ว!
พวกเขาไม่มีที่ให้หนี หากพวกเขาหนีไปจากที่นี่ แบบนั้นต้นไม้โลกก็จะไม่มีทางฟื้นคืน และตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสเหลือให้พวกเขาได้ก้าวต่อไปแล้ว ตอนนี้ทั้งอาเกรอนเกิ ดการเรียกรวมพลกันขึ้นจนเป็นผลให้จํานวนเผ่านาคูจัก เพิ่มขึ้นหลายเท่าไม่หยุดยั้ง โชคชะตาของหน่วยรบพิเศษ ตอนนี้นับว่าถูกตัดสินแล้ว
“อาร์ค กระโดด!”
จักตูร้องตะโกนในช่วงเวลาสําคัญ เมื่ออาร์คหันกลับไปมองด้วยสีหน้าโง่งม จักตูพลันยกมือขึ้นพร้อมชี้ไปยังประตูเข้าสู่พื้นที่เขตถัดไป
“ทางนั้น ถ้านายไปที่นั่นก็มีโอกาสรอด!”
“ครับ? แต่…”
“ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว ตอนนี้โอกาสที่พวกเราจะรอดเริ่มน้อยลงทุกที่!”
ต้องทําอย่างไรพวกเขาจึงสามารถรอดพ้นจากสถานการณ์ตอนนี้? แต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว อาร์คทําได้เพียงแค่ทําตามคําพูดของจักตูขณะเริ่มออกวิ่งไปยังประตู พวกเขากระโดดจากหลังคาหนึ่งไปอีกหลังคาหนึ่งพร้อมทั้ง ต้องหลบเลี่ยงลูกธนูที่พุ่งเข้าใส่ไปด้วย ท้ายที่สุดหน่วยรบพิเศษก็มาถึงหน้าประตูแล้ว รอบประตูทางเข้าไม่มีหลังคาอื่นใดอยู่อีก พวกเขาจึงกระโดดข้ามผ่านประตูดัง กล่าวไปจากนั้นค่อยลงไปที่พื้น แต่คล้ายสถานการณ์ย้ำแย่ ยิ่งกว่าเผ่านาคูจักหลายร้อยคนเริ่มแห่กันมายังทางเข้าสู่พื้นที่อีกฟากประตูแห่งนี้
สี่ร้อย ห้าร้อย หกร้อย เจ็ดร้อย… จํานวนเผ่านาคูจักที่ดาหน้ากันเข้ามายิ่งมายิ่งมาก
“พี่จักตูครับ… นี่คือ?”
“หนี!”
“หา?”
จักต แยปแซบ และทัสซ่าต่างตะโกนพร้อมกันก่อนจะหันร่างไปคนละทางอาร์คจ้องมองฉากที่เกิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาพอคาดเดาได้ว่าจักตู แยปแซบ และทัสซ่ามีจุดประสงค์อะไร พวกเขาคิดขวางศัตรูไม่ให้ข้ามผ่านประตูมาได้ ทว่าอาชีพของพวกเขานั้นเป็นนักยุทธศาสตร์วิศวกร และนักสอดแนมต่อหน้าเผ่านาคูจักหลายร้อยชีวิต กระทั่งสามสิบวินาทียังยากเกินยืนหยัด
แต่แล้วจักตูกลับยิ้มก่อนกําหมัดแน่น
“ห้วงเวลาแห่งสไลม์หมายเลขหนึ่ง!”