Ark The Legend - ตอนที่ 369 : เทหมดหน้าตัก!
ตอนที่ 369 : เทหมดหน้าตัก!
“สัมผัสแห่งการรักษา การคุ้มกันแห่งเทพธิดา!”
ทุกสิ่งในระยะ 300 เมตรรอบรูปปั้นพระศิวะจะได้รับผลของทักษะ
“อะไรเนี่ย? นี่มันทักษะบ้าบออะไรกัน?”
“เดดริค ราซาค คอยคุ้มกันลาริเอ็ตเต้ไว้ แชมบาร่ารู้นะว่าต้องทําอะไร? แยกกันเป็นสองด้าน!”
“ได้ จัดการมัน!”
“รู้น่า คมดาบแห่งความมืด!”
“มีดบิน ดาบเพชฌฆาต!”
ลาริเอ็ตเต้เริ่มใช้งานบัพให้ทั้งอาร์คและแชมบาร่าที่กระจายตัวกันออกไปแล้ว พวกเขากําลังเข้าใกล้เป็นวงล้อมจากสองฝังของชายสีแดงก่อนระดมยิงทักษะออกไป อาร์คสับสนเรื่องชายสีแดงคนนี้ก็ใช่ แต่เขายังคงใช้งานร่ายรําแห่งความมืดกับไถลตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้งานทักษะปะทะความมืดและสวนกลับฉับพลัน แชมบาร่าเองก็ใช้ดาบเพชฌฆาตและคลื่นกากบาทเพื่อโจมตีเข้าใส่ชายสีแดง การผสมผสานของผู้เล่นทั้งสองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ชนะเลิศของอีวิลซิลริออนอารีน่า!
ครึก ครึก ครึก ตึง!
เพราะอยู่ภายในกลุ่มฝนที่ฟุ้งกระจายจึงยากมองเห็น ที่เห็นได้ก็เพียงแค่ประกายแสงวิบวับไปมาพร้อมเสียงของทักษะที่ดังลัน นี้คือการต่อสู้ระหว่างชายสีแดงและคณะของอาร์คโดยที่พวกเขาต้องใช้งานสายตากันอย่างหนักเพราะอยู่ท่ามกลางฝนที่ฟัง การเคลื่อนไหวอันรวดเร็ว ทักษะที่ระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้คล้ายภาพของผู้คนนับร้อยที่ต่อสู้กันด้วยความเร็วสูง
“สุดยอดไปเลย!”
ลาริเอ็ตเต้อดไม่ได้ที่จะพึมพําออกมาขณะยืนรับชมเรื่องราวอยู่วงนอก อันที่จริงคนที่ควรตื่นตกใจมากที่สุดสมควรเป็นอาร์คและแชมบาร่า
“ทักษะของเราสะเทือนฟ้าดินขนาดนี้เลยเหรอ?”
ในตอนที่เล่นเกม บางครั้งมันก็คล้ายไปปลุกอะไรบางอย่างให้ตื่นขึ้นจากประสบการณ์ที่สั่งสม จังหวะเวลาและการควบคุมล้วนถูกใช้ในการเล่นเกมทั้งหลายไม่ว่าจะ FPS หรือ RPG ก็ตามแต่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายซึ่งจะคาดคํานวณจังหวะและการควบคุมให้พอเหมาะพอดีกับสถานการณ์ แต่ในบางครั้งมันก็คล้ายระเบิดออกจนกระทั่งผู้ใช้งานยังต้องตื่นตะลึง มันคล้ายพวกนิวไทป์หรืออะไรทํานองนั้นเลยก็ว่าได้ อะดรีนาลีนของพวกเขาจะหลั่งออกสมาธิจะจดจ่อกับเรื่อง ราวมากขึ้น การตัดสินใจและความสามารถแทบจะเพิ่มขึ้นเป็น 120%! นั่นคือสภาวะที่อาร์คและแชมบาร่าเป็นอยู่ในตอนนี้ ในห้วงวิกฤตคนเรามีอยู่สองประเภท หนึ่งคืออ่อนแรงลงหรือไม่ก็แข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงวิกฤต อาร์คและแชมบาร่าเป็นพวกหลัง หากพวกเขาพบเจอคู่ต่อสู้ซึ่งแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ความสามารถของพวกเขาจะถูกกระตุ้นให้เหนือล้ำจนบุคคลทั่วไปไม่อาจจินตนาการถึง
“ยังพอมีทางชนะได้ เราสองคนสามารถจัดการหมอนี้ได้!”
อาร์คเริ่มมั่นใจในชัยชนะตรงหน้าต่อชายสีแดง เขาเห็นชัดว่าพลังชีวิตของอีกฝ่ายกําลังลดลง ในช่วงสุดท้ายนี้พลังชีวิตของชายสีแดงก็ลดไปกว่า 50% แล้ว อีกฝ่ายคล้ายกําลังพยายามถอยกลับ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเลเวลหรือฝีมือสูงเพียงใดมันก็มีขีดจํากัด กับอาร์ค แชมบาร่า และลาริเอ็ตเต้ที่มีอาชีพผู้กล้าทั้งสามร่วมมือกันอีกฝ่ายจะเอาชนะได้เช่นไร นั่นคือสิ่งที่อาร์คคิด
“นายพลาดเองที่กระโดดลงมาไม่ดูตาม้าตาเรือ!”
อาร์คเงื้อดาบขึ้นขณะที่ดวงตาของชายสีแดงหรี่เล็กลงอีกฝายคล้ายกําหมัดแน่นก่อนต่อยเข้ากับพื้นพร้อมตะโกนดังลั่น
“พูดอะไรไร้สาระ คําพิพากษาแห่งศิวะ!”
ครืน ครืน ครืน!
ถึงตอนนี้ ฉับพลันรูปปั้นหินได้ปรากฏขึ้นเหนือพื้นดินเป็นรูปป็นหนึ่งในสามตรีมูรติแห่งศาสนาฮินดูเป็นรูปปั้นหิน
ที่คล้ายพระศิวะซึ่งมีสี่กร สามเนตร พร้อมงูที่พันรอบลําคอเอาไว้ แขนทั้งสี่สร้างขึ้นจากหินแต่กลับเคลื่อนไหวได้อย่างแปลกประหลาด พื้นที่โดยรอบตอนนี้เริ่มปรากฏเป็นแสงสีแดง หน้าต่างข้อความแจ้งเตือนสีแดงก็ปรากฏตรงหน้าอาร์คพร้อมกันนี้
ทักษะ คําพิพากษาแห่งศิวะ ทํางาน
ทุกสิ่งในระยะ 300 เมตรรอบรูปปั้นพระศิวะจะได้รับผลของทักษะ
“อะไรเนี่ย? นี่มันทักษะบ้าบออะไรกัน?”
มือของชายสีแดงเคลื่อนลงมายังเอว อีกฝ่ายกําลังจ้องมองด้วยดวงตาที่คล้ายมีเปลวเพลิงเผาไหม้อยู่ภายในเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ระหว่างที่พวกเขาเสียเวลาคิดกันอยู่นั้น เลือดพลันพุ่งทะลักออกจากต้นขาของทั้งอาร์คและแชมบา
ท่านถูกโจมตีโดย คมดาบจักระ
“อาชีพผู้กล้า ทําได้แค่นี้งั้นสินะ?”
ชายสีแดงพึมพําขณะถือดาบสีดํา ร่างกายนั้นกําลังมีออร่าสีแดงปรากฏออกมา
“อึก นะ-นี่มัน….สวรรค์ ทําถึงเพิ่งนึกได้!”
ใบหน้าของอาร์คซีดเผือดขณะล้มลงคุกเข่าข้างหนึ่ง เขาลืมเลือนความทรงจําที่เคยวาบผ่านเข้ามาในหัวครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเขาก็นึกอยู่ว่าคล้ายลืมอะไรไป สภาพบรรยากาศรอบตัวชายสีแดงที่เคยเห็นผ่านความทรงจําของโปโป้นั้นแตกต่างออกไปจากครั้งที่เขากําลังสู้อยู่นี้ ถูกต้อง อาร์ค เรียกอีกฝ่ายว่าชายสีแดงไม่ใช่เพราะเส้นผมสีแดง แต่เพราะชายสีแดงที่เขาเห็นว่ากําลังล่าล้างสังหารชาวแรคคูนนั้นมีร่างที่ถูกปกคลุมด้วยออร่าสีแดง ในตอนนั้นเขาคิดว่ามันเป็นเอฟเฟคที่จะบ่งบอกตัวตนของอีกฝ่ายในช่วงย้อนความทรงจํา…
“นั่นไม่ใช่ มันคือทักษะเรียกใช้งานของหมอนี่ ที่สามารถล้างบางเผ่าพันธุ์แรคคูนได้ก็เพราะทักษะนี้ หรือก็คือตอนนี้อีกฝ่ายเอาจริงเต็มที่แล้ว!”
การนึกย้อนเรื่องราวคล้ายทําให้เขาหัวร้อนขึ้นมา แต่ก็ต้องสงบลงอย่างรวดเร็ว
“อาร์ค มันมาแล้ว”
เสียงของแชมบาร่าขัดความคิดของเขา
ฟิ้ว…ตึง!
ขณะนั้นเอง ชายสีแดงได้พุ่งผ่านความว่างเปล่าด้วยความเร็วเกินจะเชื่อ ฝุ่นควันหนาแน่นขึ้นทุกครั้งที่ชายสีแดงเคลื่อนกายผ่าน อีกทั้งยังคล้ายมีแรงระเบิดในอากาศคอยโจมตีอาร์คอย่างต่อเนื่อง อาร์คตอนนี้จําต้องถอยกลับไปหลายเมตร แชมบาร่าพยายามเข้าทางด้านหลังก่อนจ้วงแทงมีดเข้าใส่อีกฝาย ทว่าชายสีแดงเพียงไหวไหล่กับความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนโจมตีสวนกลับแชมบาร่า
“อึก!”
เครื่องหมายกากบาทปรากฏที่แขนอีกฝ่ายพร้อมเลือดที่ไหลหลั่ง ชายสีแดงคล้ายมั่นใจเป็นอย่างยิ่งจึงไม่สนใจความเสียหายนี้ที่ได้รับ
อีกฝ่ายเพียงแค่หยุดการเคลื่อนไหวก่อนจะสะบัดดาบสวนกลับเข้าใส่พร้อมคลื่นกระแทก อาร์คและแชมบาร่า กําลังจะตั้งท่าโจมตีแต่แล้วก็ต้องหลบกันวุ่น และนั่นก็ทําให้พลังชีวิตของพวกเขาลดลงจนเหลือกันแค่ 30%
“สัมผัสแห่งการรักษา”
ลาริเอ็ตเต้เร่งร้อนเข้าหาก่อนใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูให้
“ไร้ประโยชน์!”
ชายสีแดงหันศีรษะ ขณะนั้นก็แทบจะเข้าถึงตรงหน้าลาริเอ็ตเต้แทบจะทันที
“เดดริค ราซาค หยุดมันไว้”
“ขะ-เข้าใจแล้วขอรับ เฮ้ยไอ้หน้าโง่ ศัตรูของแกคือข้า!”
กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
เดดริคและราซาคต่างพุ่งเข้าหาชายสีแดง ทว่าชายสีแดงเพียงสะบัดดาบเล็กน้อยก่อนสร้างคลื่นกระแทกออก มาจนทั้งเดดริคและราซาคต้องกระเด็นปลิวไป ชายสีแดงยังคงใช้งาน “คลื่นพลัง” โจมตีอย่างต่อเนื่องจนลาริเอ็ตเต้เข้าอาการวิกฤตแล้ว
“มะ-ไม่ เราจะหยุดมันได้ยังไง!”
ในขณะที่พวกเขาอยู่ในรัศมีของคําพิพากษาแห่งศิวะจะไม่อาจเคลื่อนไหวหรือรับมือกับชายสีแดงได้เลย
“หน้าต่างข้อมูลอธิบายถึงจุดอ่อนของคําพิพากษาแห่งศิวะ จุดอ่อนแรกคือทักษะนี้จะถูกยกเลิกใช้งานหากรูปปั้นพังทลาย และอย่างที่สองคือถึงเวลาที่กําหนดไว้ แต่หมอนั่นแทบจะเป็นอมตะหากอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ หากกลุ่มทัณฑ์บนหรือเผ่าบารันไม่ได้วุ่นกับการต่อสู้เผ่านาคูจัก พวกเขาน่าจะช่วยทําลายรูปปั้นนี้ได้ระหว่างพวกเราเบนความสนใจ
โชคยังดี อาณาเขตของคําพิพากษาแห่งศิวะเป็นทักษะมีพื้นที่จํากัด หากสามารถออกไปพ้นรัศมีสามร้อยเมตรความสามารถจะกลืนคืนเป็นสภาวะปกติ หรือก็คือ ชายสีแดงจะเป็นนายเหนือได้แค่ภายในพื้นที่นี้เท่านั้น หากอาร์ค แชมบาร่า และลาริเอตเต้สามารถหลบหนีออกจากระยะได้ ชายสีแดงก็จะไม่สามารถคุกคามพวกเขาได้มากเท่านี้อีก
“พวกเราก็แค่รออยู่ข้างนอกจนกว่ารัศมีของคําพิพากษาแห่งศิวะจะหมดไป ถ้าทักษะมันจะส่งผลร้ายแรงขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องคูลดาวนานนับยี่สิบสี่ชั่วโมง
หลังได้วิเคราะห์ความสามารถนี่คือหนทางที่จะโค่นล้มชายสีแดง
“แต่ยังมีปัญหาอยู่”
อาร์คหยีตามองรอบรัศมีที่มีแต่ฝุ่นฟุ้งกระจายเต็มไปหมดนี่คือปัญหา ชายสีแดงมีจุดประสงค์คือต้องการหัวใจแห่งยูซูเรีย และหัวใจแห่งยูซูเรียก็อยู่ในรัศมนี้ด้วย ต่อให้กลุ่มของอาร์คหนีพ้นออกไปอย่างปลอดภัยได้ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรหากขายสีแดงได้รับหัวใจแห่งยูซูเรียไป?
“เราต้องเก็บกู้หัวใจแห่งยูซูเรียมาก่อนหลบหนี!”
“แชมบาร่าเข้าโจมตีมันจากทางซ้ายและขวา! ลาริเอ็ตเต้นิมคอยสนับสนุนด้วย!”
“เหอะ พวกโง่เง่า”
ชายสีแดงยิ้มออกมาขณะอาร์คและแชมบาร่าเข้าโจมตีอีกฝ่ายทางด้านข้างอีกครั้ง ช่วงขณะที่ชายสีแดงกําลังเพ่งความสนใจอยู่นั้นเอง อาร์คได้ออกคําสั่งผ่านทางจิต
“ตอนนี้แหละเดดริค! ไปเอาหัวใจยซูเรียมาแล้วหนีไปซะ!”
“ขะ-ขอรับ!”
เดดริครับรู้ถึงความตั้งใจนี้ก่อนจะบินเข้าไปคว้าเอาหัวใจแห่งซูเรียมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า ได้แล้วขอรับเจ้านาย! เป็นไง? ทําได้ดีเลยใช่ไหมขอรับ?”
เดดริคยืดอกพลางเชิดชูหัวใจแห่งยูซูเรียให้ดู อาร์คแตกตื่นจนแทบก่นด่าสาปแช่ง
“ไอ้เด็กโง่!”
อาร์คและแชมบาร่าตอนนี้พลังชีวิตก็ต่ำพอแรงแล้ว พวกเขายังต้องเสียงชีวิตดึงความสนใจของชายสีแดงอีก เดดริคทําสําเร็จแต่กลับแหกปากโวยวายลั่นจนชายสีแดงหันกลับไปมอง ตอนนี้อีกฝ่ายจ้องมองตาเขม็งแล้ว
“นายไปเก็บไอ้ตัวพูดมากแบบนี้มาจากไหน!”
“หนีสิโว้ย เดดริค บินไป!”
“ขะ-ขอรับ!”
เดดริคสะอีกคํารับรู้สถานการณ์ก่อนกระพือปีกเร่งร้อนบินขึ้นฟ้า
“น่ารําคาญจริงนะ ทักษะแห่งเทพ สายฟ้าพระอินทร์!”
จานหมุนสี่ใบพลันปรากฏขึ้นก่อนพุ่งตัวขึ้นสูงไปจากร่างของอีกฝ่าย
ปึก ปึก ปึก วูบ!
ประกายสายฟ้าจากจานหมุนเริ่มก่อเกิดขึ้นเป็นรูปลักษณ์ของพระอินทร์ ไม่ช้าสายฟ้าขนาดใหญ่พลันบังเกิดขึ้นฟาดลงใส่อาร์ค แชมบาร่า ลาริเอ๊ตเต้ และเดดริค คล้ายพระอินทร์กําลังพิโรธคิดกําจัดศัตรูด้วยสายฟ้าเหล่านี้ ทั่วทั้งบริเวณถึงกับเต็มเปี่ยมไปด้วยสายฟ้าฟาดลงมา
“ดะ-เดดริค อั่ก!”
อาร์คเห็นชัดเต็มสองตาว่าสายฟ้าได้ฟาดเข้าใส่เดดริคที่กําลังบินอยู่ แสงสีแดงตอนนี้ถึงกับปรากฏขึ้นกับทุกคนในบริเวณเมื่อสายฟ้าฟาดเข้าใส่
ท่านได้รับความเสียหาย 200 หน่วย จากสายฟ้าแห่งพระอินทร์
ท่านได้รับความเสียหาย 200 หน่วย จากสายฟ้าแห่งพระอินทร์
ท่านได้รับความเสียหาย 200 หน่วย จากสายฟ้าแห่งพระอินทร์
“ยังไม่จบอีกเหรอเนี่ย”
หัวของอาร์คตอนนี้แทบขาวโพลนไปหมดแล้วเพราะโดนฟ้าผ่าไม่ยั้ง พลังชีวิตของทั้งกลุ่มตอนนี้ก็เริ่มลดน้อยลงด้วยอัตราที่รวดเร็วมาก
“มันจะแข็งแกร่งบ้าอะไรได้ขนาดนี้? นี่ยังกินพลังชีวิตไปไม่พออีกหรือไง?”
อาร์คอยากจะก่นด่าออกเป็นคําพูดแต่ปากกลับไม่อาจขยับ เพราะสภาพอาการอัมพาตจากสายฟ้าช็อตเข้าใส่ กระทั่งนิ้วมือเขาก็ไม่อาจขยับได้ ระหว่างนั้น ลาริเอ็ตเต้และแชมบาร่าต่างก็ตายตกไปแล้วเพราะสายฟ้าที่ฟาดอย่างไม่หยุดยั้ง จากนั้น 20% 15% 10%… พลังชีวิตของอาร์คท้ายที่สุดก็หมดสิ้นลง
“บัดซบ!”
อาร์คล้มพับไปทั้งสภาพยังถือดาบในมือ