Ark The Legend - ตอนที่ 387 : ศูนย์ข้อมูลเบซอทิว
ตอนที่ 387 : ศูนย์ข้อมูลเบซอทิว
อาร์คหัวเราะไปพลางขณะเดินเข้าป้อมปราการฮามาน เมื่ออาร์คปรากฏตัวในเขตตลาด เผ่าบารันหลายคนก็พบเห็นเขาโดยทันทีอีกทั้งยังเข้ามาทักทาย เขาแทบรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดจากผู้เล่นที่ให้ความสนใจมองทางด้านนี้อย่างไม่ละสายตา อีกทางหนึ่ง เขาก็พึงพอใจไม่น้อยที่ซอแทนดาลจะได้กลายเป็นบ้านอีกแห่งของเขา อย่างไรแล้วอาร์คไม่ได้กลับมาซอแทนดาลเพื่อรับชมการพัฒนา สิ่งสําคัญที่สุดตอนนี้คือค้นหาหนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์อย่างสุดท้ายและเอาสมุนปีศาจของเขากลับคืน
“ส่วนสุดท้ายของสามสิ่งมหัศจรรย์อยู่ใกล้แค่เอื้อม….”
ปัญหาคือจะหาราชาคกับเดดริคได้ที่ไหน ก่อนกลับมาป้อมปราการฮามาน อาร์คได้พยายามติดต่อยูซูเรีย ต้นไม้โลกสมควรรู้จักสถานที่ซึ่งสายพันธุ์อื่นอาศัยในซอแทนดาลทว่ายูซูเรียกลับส่ายศีรษะ
[เป็นความจริงที่รากของข้าหยั่งลึกพาดผ่านซอแทนดาล ต้นไม้โลกจะได้รับข้อมูลอันหลากหลายจากรากเหล่านั้น ทว่าเจ้าที่ปลูกข้าที่นี่จึงทําให้รากของข้าไม่อาจหยั่งไปไกลได้นักในตอนนี้]
คล้ายการนําต้นไม้โลกมาปลูกที่นี่โดยไม่ใช้ต้นเดิมก็มีปัญหาอยู่บ้าง เพราะงั้นแล้วการหาข้อมูลจากเบซอทิวจึงค่อนข้างน่าจะดีกว่าเพราะอีกฝ่ายรู้ประวัติศาสตร์ของซอแท นดาลเป็นอย่างดี นั่นจึงทําให้อาร์คติดต่อจัสติสแมนก่อนออกเดินทาง
“ที่นี่สินะ?”
อาร์คมองอาคารไม้ซึ่งตั้งอยู่ด้านหนึ่งของป้อมปราการฮามาน ที่นี่คือศูนย์ข้อมูลที่เบซอทิวสร้างขึ้นหลังซอแทนดาลปรากฏในโลกกลาง
“ยินดีต้อนรับ ที่นี่คือศูนย์ข้อมูลเบซอทิวครับ… เอ? พี่อาร์ค!”
ดวงตาของโบนาเบิกออกกว้างขณะเห็นคนที่เข้าประตูมา หลังซอแทนดาลปรากฏ เผ่าบารันที่ลี้ภัยไปหมู่บ้านแลนเซลก็กลับมายังที่นี่จํานวนหนึ่ง โบนาก็กลับมาเพื่อช่ว ยงานเบซอทิวเช่นกัน ดังนั้นแล้วภารกิจของเขาจึงต้องหยุดอยู่ที่ความสําเร็จ 98% อย่างน่าเสียดาย
“มาถึงเมื่อไหร่กันครับเนี่ย?”
“เมื่อกี้นี้เอง ปู่ของนายล่ะ?”
“คุณปู่ไปหาผู้อาวุโสคนอื่นเพื่อรวบรวมสิ่งที่พี่ชายต้องการนะครับ ตอนนี้ฐานข้อมูลจากหมู่บ้านในหุบเขายังเก็บกู้กลับคืนมาไม่ได้ แล้วพี่ชายก็มาถึงเร็วกว่าที่คิดไว้อีก”
“นายเลยต้องเฝ้าที่นี่คนเดียวเหรอ?”
“ฮี่ฮี่ ผมรู้อะไรหลายอย่างเลยนะ มา มา เดี๋ยวผมให้พี่ชายดูฟรี ๆ ก็ได้”
โบนาตบอกขณะกล่าวอย่างมั่นใจ
“โห? งั้นให้พี่ชายได้เปิดหูเปิดตาหน่อยแล้วกัน ช่วงหลายวันมานี้มีข่าวใหม่อะไรบ้าง?”
อาร์คที่ว่างจึงเล่นร่วมไปด้วย โบนาจึงเขินอายขึ้นมาจนต้องเกาศีรษะ
“พะ-พี่ชายรู้เรื่องแบบนั้นเยอะกว่าผมอยู่แล้ว พี่ชายรู้ทุกอย่างแล้วยังอาใช่แล้ว! พี่ชายรู้เรื่องนี้ไหม?”
“ว่าไงล่ะ?”
“ไม่นานมานี้มีอะไรบางอย่างที่สําคัญมากเกิดขึ้นด้วยนะ”
โบนามองไปรอบก่อนจะลดเสียงเบาลง
“ผมได้ยินมาจากพี่ลาริเอ็ตเต้”
“ลาริเอ็ตเต้นิมก็อยู่ที่นี่ด้วย? คิดว่าลาริเอ็ตเต้นิมร่วมทางกับพวกพี่ชายไปสํารวจพื้นที่แล้วเสียอีก เกิดอะไรขึ้นกันล่ะ?”
กองกําลังที่ต่อสู้กับเผ่านาคูจักได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “กองกําลังอิสระ” และกองกําลังอิสระนี้ก็นําทัพโดยจัสติสแมน กลุ่มทัณฑ์บน และลาริเอ็ตเต้ ความฝันของพวกเขาแต่ เดิมคือการเป็นผู้พิทักษ์สันติราชอิสระ ทว่ามันไม่อาจสําเร็จได้ที่หมู่บ้านแลนเซล แต่มันก็ได้มาเติมเต็มในซอแทนดาล ทว่าโบนากลับเผยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักระหว่างพูดกล่าว
“ให้ผมพูดบ้างเถอะครับ”
“ก็ได้ ก็ได้ ว่ามาเลย”
“ไม่นานมานี้เกิดเรื่องขึ้นกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนโบราณสถานทางตะวันออกในซอแทนดาล ไกด์และนักท่องเที่ยวไม่มีใครรอดกลับมาครับ”
“ว่าอะไรนะ?”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ หลังจากเกิดเรื่องหลายวัน มีสองคนเป็นนักเวทและคนเถื่อนได้เข้าโจมตีสํานักงานท่องเที่ยวด้วย”
“เข้ามาถึงป้อมปราการฮามานเลยเหรอ?”
“ใช่ครับ ไม่ใช่ว่าแย่เอาการเหรอครับ? ทีมงานยี่สิบคนที่ทํางานอยู่ที่นั่น กับอีกหกคนต้องเสียชีวิตไปกองกําลังทหาร เร่งร้อนเข้าตรวจสอบแต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมา พวกมันหลบหนีเข้าไปในทวีปเสียก่อน”
โบนาตกล่าวเสริมถึงเหตุผลที่จัสติสแมน กลุ่มทัณฑ์บน และลาริเอ็ตเต้ไม่มาทักทายเขา ผู้บัญชาการของกองกําลังอิสระนั้นเป็นคนเดียวที่มีอํานาจเพียงพอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรับหน้าที่ไล่ล่า เผ่านาคูจักและบารันยังไม่มีเอ็นพีซีที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ ถ้าหากนักเวทคนดังกล่าวเข้ามาใน เมืองจะมีเอ็นพีซีอีกกี่คนต้องเคราะห์ร้าย?
“แล้วพวกนั้นหนีเข้าทวีปไปได้ยังไงกัน? กองกําลังอิสระ น่าจะมีจํานวนที่บริเวณท่าเรือเพียงพอ แล้วพวกอาชญากรก็ไม่น่าใช้งานเรือข้ามทวีปได้นี่นา?”
“เรื่องนั้น…”
“ไม่นานมานี้มีข่าวลือเรื่องการลักลอบนําคนเข้าทวีป”
ขณะนั้นเอง เบซอทิวได้เข้ามาตอบคําถามให้แก่เขา โบนาจึงต้องโพล่งออกมาด้วยสีหน้าบูดบึง
“คุณปู่ พี่ชายเป็นลูกค้าผมนะ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า โทษทีแล้วกัน ว่าแต่ช่วงนี้เจ้าเป็นยังไงบ้าง? ต้องขออภัยที่ไม่ได้มาต้อนรับเจ้าทันท่วงที ข้ากําลังไปหาสิ่งของตามที่เจ้าร้องขออยู่ ข้าคิดอยู่ว่าจะให้โบนาไปต้อนรับ แต่ทําแบบนั้นที่นี่ก็จะไม่มีคนเฝ้าน่ะ”
“ไม่หรอกครับ เรื่องนั้นไม่จําเป็นเลย แค่เห็นประชากรที่นี่อยู่ดีมีสุขผมก็ยินดีแล้ว ครั้งถัดไปก็ไม่ต้องหรอกครับ”
“อืม เจ้ายังคงคิดปิดบังความสําเร็จนั้นสินะ… เหมือนที่คิดไว้ เจ้าสมแล้วที่เป็นนักรบที่แท้จริง”
เบซอทิวกล่าวอย่างเข้าใจผิดอีกครั้งอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“ว่าแต่นะครับ เมื่อกี้พูดถึงว่ามีคนลักลอบเข้าทวีปเหรอครับ?”
อาร์คเอ่ยถามด้วยความสงสัย ขณะนั้นเบซอหิวก็ถอนหายใจก่อนจะนั่งลงแหมะกับเก้าอี้
“ใช่ ข้าพูดแบบนั้นแหละ อาชญากรที่มีรายชื่อจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือได้ เพราะแบบนั้นจึงมีการลักลอบเข้าสู่ซอแทนดาล แต่ยังมีอีกช่วงที่ผ่านมามีเรื่องเกิดขึ้น เรือได้ถูกโจมตีโดยกลุ่มโจรสลัดที่ก่อตั้งโดยอาชญากร เพราะงั้นแล้วซอแทนดาลจึงกลายเป็นดินแดนที่พวกอาชญากรมารวมตัวกัน ทางการก็เริ่มสืบสวนเรื่องนี้แล้วแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้านัก ข้าเองก็เชื่อว่าพวกมันต้องมีการติดต่อกับเผ่านาคูจัก
สถานการณ์กลับกลายเป็นเช่นนี้นับว่าน่าตื่นตกใจพอสมควร แต่พอคิดให้ดีแล้ว มันก็มีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อย แม้ว่าป้อมปราการฮามานจะกระทํากับเผ่านาคูจักไม่ต่างกับ มอนสเตอร์ แต่อย่างไรอีกฝ่ายก็คือประชากรของซอแทนดาลเช่นกัน แถมยังมีกิลด์เฮอร์มีสหนุนหลังอีกต่างหาก ชัดเจนว่าผู้เล่นฆาตกรย่อมต้องกระหายมุ่งหน้ามายังซอแทนดาล ในเกมยังมีเรือที่ครอบครองโดยพ่อค้า อย่างน้อยต้องมีสักคนที่หิวกระหายค่าเดินทางพาผู้เล่นฆาตกรลักลอบเข้าสู่ซอแทนดาลเพื่อแลกเงินจํานวนหนึ่ง ในเมื่อดินแดนนี้ผู้เล่นเลเวลสูงต่างมารวมตัวกัน จึงไม่ต่างอะไรกับเป้าล่อให้พวกผู้เล่นฆาตกรมากระทําการปล้น
“พันธมิตรเฮอร์มีสย่อมต้องออกหน้าคุ้มกันการกระทําพวกนี้แน่”
กิลด์เฮอร์มีสสร้างสายสัมพันธ์กับเผ่านาคูจักไว้ ถ้าหากพวกนอกกฎหมายอาศัยในพื้นที่นาคูจัก แบบนั้นแล้วพวกเฮอร์มีสย่อมต้องรวมอยู่ด้วยแน่ กิลด์เฮอร์มีสคล้ายไม่ยินยอมปล่อยมือจากซอแทนดาล อาณาจักรทั้งสามได้เปิดเผยเจตนาดีกับเผ่าบารันไปแล้ว แต่แล้วพวกนั้นยังลอบก่อการในทางลับ
“นี่สินะเหตุผลว่าทําไมจัสติสแมน กลุ่มทัณฑ์บน และลาริเอ็ตเต้นิมถึงออกไปค้นหาเบาะแส ซอแทนดาลตอนนี้คงต้องใช้เวลาอีกนานเลยทีเดียวกว่าจะมีเสถียรภาพที่ดีกว่านี้”
หนทางแห่งความสงบสุขอันแท้จริงล้วนห่างไกลเสมอ
“ต่อให้ข้อมูลนี้ถูกต้อง ตอนนี้ก็ยังไม่ต้องเป็นกังวลอะไรให้มากนัก”
เบซอทิวกระแอมไอออกมาขณะเปลี่ยนหัวข้อหลังเห็นอาร์คเผยสีหน้าเคร่งเครียด
“นี่คือสิ่งที่เจ้าถามหา
“หาได้ด้วยเหรอครับเนี่ย?”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น ข้าทําได้แค่คาดเดาบริเวณเบซอทิวกางแผนที่ออกขณะชี้ไปที่จุดหนึ่ง
“เจ้าบอกว่าลูกน้องเจ้าเป็นแวมไพร์กับอันเดตงั้นสินะ? ตามความเห็นของข้า พวกแวมไพร์น่าจะอยู่แถวนี้ เป็นทางตะวันตกเฉียงเหนือของซอแทนดาล สถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีใครเดินทางไปมาก่อน แต่ผู้อาวุโสบางคนมีเอกสารโบราณอยู่ และข้ายังพบเจอเรื่องประหลาด”
“เรื่องประหลาด?”
“ใช่ นานมาแล้ว คิดว่าน่าจะช่วงก่อนหนึ่งร้อยปีแห่งความมืดมิด นักเดินทางคนหนึ่งได้ออกสํารวจทางตะวันตกเฉียงเหนือของซอแทนดาลและพบว่าเป็นดินแดนที่ถูกปกค ลุมด้วยความมืด เผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่แถวนั้นได้ดื่มเลือดมนุษย์เพื่อชีวิตรอด พวกมันเป็นผู้ล่ามักจะจับตัวคนนอกมา เพื่อดื่มเลือดนักเดินทางคนนั้นก็โดนดูดเลือดจนตายเช่นกัน”
“นักเดินทางคนนั้นตาย? แล้วใครเป็นคนมาบอกเล่าล่ะครับ?”
“มีการเขียนจดหมายใส่ขวดไว้แล้วโยนลงทะเลก่อนจะเสียชีวิต บันทึกโบราณเหล่านี้เป็นตระกูลผู้เก็บรักษาครอบครอง ตําแหน่งที่เอกสารนั่นบ่งชี้ก็คือบริเวณนั้น”
เผ่าพันธุ์ที่ดูดเลือด แวมไพร์ อาร์คตรวจสอบแผนที่อีกครั้งก่อนก้มเงยหน้าอีกครั้งหนึ่ง
“เดี๋ยวนะ? หรือว่านี่?”
อาร์คพลันพบว่ามีอะไรผิดแผกขณะเปิดแผนที่ของตนเองขึ้นมาดู
“ไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว ตําแหน่งที่อิกดราซิลกับยูชูเรีย บอกเอาไว้ว่ามีชิ้นส่วนสุดท้ายของสามสิ่งมหัศจรรย์นี่เอง! อะไรกันเนี่ย? ทําไมเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรสุดท้ายถึงกลายเป็นแวมไพร์ล่ะ? แต่แวมไพร์ก็เปลี่ยนร่างเป็นผู้คนได้ด้วย บางทีพวกเขาอาจอยู่ร่วมกับเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรเพื่อรักษาชิ้นส่วน สุดท้ายเอาไว้งั้นเหรอ? หรือว่าเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรได้ฝังเศษชิ้นส่วนสุดท้ายนั่นเอาไว้ในพื้นที่ของพวกแวมไพร์กันแน่?”
อาร์คเริ่มสับสน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายสักเท่าไหร่
นี่หมายความว่าเราจะได้ตัวทั้งเดดริคและสามสิ่งมหัศจรรย์ในคราวเดียวเลยสินะ
“พอจะรู้วิธีไปที่นั่นหรือเปล่าครับ?”
แม้จะอาศัยอยู่ในซอแทนดาลมาพักหนึ่งแล้ว เขาก็ยังไม่ได้สํารวจมันทั่ว เขาเพียงแค่สํารวจทางตะวันออกและใต้ใกล้เคียงป้อมปราการฮามานและอาเกรอนทางเหนือก็เท่านั้น หากให้เทียบแล้วยังไม่ได้หนึ่งในห้าของทั้งซอแทนดาลเลยด้วยซ้ำ เพราะแบบนั้นแล้วพื้น ที่ในแผนที่ส่วนใหญ่ของเขาจึงเป็นสีดํา ในเมื่อซอแทนดาลโดนล้อมไว้ด้วยเทือกเขา มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดิน
ทางอย่างคนไม่รู้ทาง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมธุรกิจท่องเที่ยวในซอแทนดาลถึงได้กําไรมหาศาล
“อืม… อันที่จริงก็ออกจะมีปัญหาอยู่บ้าง”
เบซอทิวนําเอาแผนที่เก่าออกมา มันเป็นแผนที่ของซอแทนดาล ทว่าเส้นบนแผนที่กับสภาพภูมิประเทศออกจะเหมือนเด็กอายุสิบสามเขียนขึ้น แน่นอนว่ามันยังพอใช้ ดูเป็นแผนที่ได้
“ดูตรงนี้ นี่คือเส้นเทือกเขาจากทางตอนเหนือ และนี่คือเส้นเทือกเขาจากทางตะวันตก เพราะเทือกเขานี่กั้นไว้ ซอแทนดาลจึงถูกแบ่งแยกออกเป็นเหนือ ใต้ ออก และตก เพราะเทือกเขาสูงใหญ่นี้มีกระแสลมแรง อากาศไม่แน่นอน จึงทําให้แต่ละพื้นที่เกิดระบบนิเวศที่ค่อนข้างแตกต่างกัน และสถานที่ซึ่งเจ้าต้องการไปนั้นก็ถูกเทือกเขาพวกนี้ล้อมเอาไว้เสียด้วย”
เบซอทิวส่ายศีรษะ
“พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยหน้าผาสูงชัน มีพายุเกิดขึ้นบ่อยครั้งเพราะกระแสลมแรงที่พุ่งเข้าปะทะกัน ดังนั้นแล้วจึงไม่สามารถใช้ปลากระเบนบินได้ไปยังเส้นทางนี้ กระทั่งเผ่านาคูจักยังไม่อาจใช้ดราเห็นเข้าใกล้พื้นที่แถบนี้ได้”