Ark The Legend - ตอนที่ 396 : เอาตัวรอด
จํานวนหินดวงจันทร์ที่ได้รับหน้าที่แก่ผู้ถูกคุมขังต่อวันคือสิบก้อน เมื่อเขาเริ่มการขุดค้น เขาก็จะพยายามทําให้ถึงเป้าหมายโดยเร็วที่สุด ตอนนี้เพราะทักษะขุดค้น เขาจึงสามารถหามันมาได้ยี่สิบก้อนต่อวัน หลังจากอาร์คเติมเต็มจํานวนที่ต้องการได้ เขาก็จะฝากที่เหลือไว้กับราดัน แม้สถานการณ์ชวนเคร่งเครียดแต่เขาก็ยังไม่ลืมว่าต้องหาเงิน เขารู้สึกได้ว่าหนทางแห่งความหวังอยู่ไม่ไกลแล้ว
ดี เราแค่อดทนรออีกหน่อย!”
อาร์คยิ่งมายิ่งมีกําลังใจมากขึ้นขณะเริ่มขุดอย่างหนักหนวงมากขึ้น
“โฮ! ไอ้หมอนั่นไม่ใช่เล่นเลยนี่”
“ทุกเย็นโดนเอิร์ลปีศาจนั่นดูดเลือดไปยังเอาแรงจากไหนออกมา?”
“เฮ้ยไอ้หน้าใหม่ พักบ้างก็ได้ ถ้าล้มไปจะแย่เอานะ”
กระทั่งปีศาจเลือดยังแสดงความห่วงหาต่ออาร์คทว่าเขาเพียงเช็ดคราบเหงื่อและยิ้มสดใสตอบกลับ
“ไม่ต้องห่วง ร่างกายผมยังไหว ผมต้องทํางานหนักเพื่อท่านเอิร์ล!”
“ดูเหมือนเจ้ามนุษย์นี่ไม่คล้ายฉลาดนัก ทํางานหนักเพื่ออะไรกัน”
กระทั่งปีศาจเลือดยังเดาะลิ้นชวนฉงน พวกมันไม่เคยคิดเลยว่าอาร์คจะใช้ราดันเพื่อเก็บไอเทมไว้กับตัว หลังจากขุดจนกระทั่งมือแทบพุพองหรือผิวหนังด้าน ในที่สุดทักษะขุดค้นของเขาก็เลื่อนระดับเป็นขั้นกลาง มือของเขาที่กําลังถือพลั่วอยู่ตอนนี้ยิ่งมายิ่งรวดเร็วราวใช้อีเตอร์ไฟฟ้า อัตราส่วนการพบกระดูก ขยะ และหินดวงจันทร์เพิ่มขึ้นเป็น 20% เพราะเหตุนั้นอาร์คจึงยิ่งมายิ่งมีแรงใจกับการขุดดินมากขึ้นและแล้วเสียงกระดิ่งก็ดังขึ้นพร้อมปรากฏหน้าต่างข้อความ
ด้วยความชํานาญของทักษะ ท่านได้ค้นพบผลิตภัณฑ์หายาก
ศิลาแวมไพร์ (แก่นหินหายาก)
เป็นเวลาหลายร้อยปี แก่นหินนี้ได้ดูดซับเอาพลังแห่งแวมไพร์เข้ามา แก่นหินที่ดูดซับพลังแห่งแวมไพร์นั้นหาได้ยากยิ่งจนอาจสามารถนับได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว
และแก่นหินนี้สามารถใช้งานในฐานะวัตถุดิบวิเศษหรีอช่วยเสริมคุณลักษณะแวมไพร์หากติดตั้งในช่องอุปกรณ์ Ol
โห จริงเหรอเนี่ย?”
ดวงตาของอาร์คเบิกออกกว้างขณะได้ยืนยันข้อมูลไอเทมตรงหน้า มันคือแก่นหินหายากที่ดูดซับเอาพลังเวทมนตร์ของคาราคุลมานานหลายร้อยปี และก็สมแล้วที่เป็นแก่นหินหายากมันไม่อาจเทียบกับของดาษดื่นอย่างหินดวงจันทร์ได้เลยมันมีผลช่วยดูดเลือดจากความเสียหาย 59% ที่สร้างให้กับศัตรู! หรือก็คือ หากเขาสร้างความเสียหายได้ 100 หน่วยเขาจะได้ฟื้นฟูพลังชีวิตตนเอง 5 หน่วยนี่มันไม่เพียงแคดีเยี่ยมเท่านั้น โดยพื้นฐานมอนสเตอร์เลเวล 300 เขาสมควรสร้างความเสียหายได้ 6,000-8,000 หน่วยในกา รโจมตีหนึ่งครั้ง ยึดตามเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวเขาจะสามารถ ฟื้นฟูพลังชีวิตได้ 300-400 หน่วยเลยทีเดียวนับว่าประ สิทธิภาพดีทัดเทียมกับโพชั่นฟื้นฟูระดับกลาง
“ถะ… ถ้าเราสามารถหาหินแบบนี้ได้สี่ก้อนแล้วใส่เข้าไปในช่องอุปกรณ์
อัตราการดูดเลือด 2096! มันจะช่วยทําให้เขาสามารถล่ามอนสเตอร์ได้ทุกช่วงระดับเลเวลง่ายดายมากขึ้น! แต่แม้เขาจะพยายามขุดโดยรอบหลายต่อหลายครั้งหลังจากนั้น ศิลา แวมไพร์ก็หาได้ปรากฏออกมาอีก นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่เขาสามารถได้รับแก่นหินหายากจากทักษะขุดค้นเพียงแค่ ขั้นกลางหนึ่งวันเขาจะทําการขุดค้นกว่ายี่สิบชั่วโมงตลอด ทั้งสัปดาห์แม้เขาจะแทบไม่เคยพัก แต่อัตราการพบเจออย่างไรแล้วก็น้อยนิดมันเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ําที่แก่นหินหายากจํานวนหนึ่งจะปรากฏขึ้นในบริเวณเดียวกันอย่างไรแล้วในที่สุดหลังผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เขาก็สะสมกระดูกมาได้ครบ
“ราดัน ฉันอยากให้นายออกไปสอดส่องข้างนอกเป็นการลับแล้วหาเชือกอะไรมาก็ได้หรืออะไรก็ได้ที่คล้ายเชือก”
ชื่อ ชื่อ ชื่อ!
ราดันพยักหน้ารับก่อนจะมุ่งออกจากห้องขังผ่านรูหนูตรงมุมหนึ่งไป ไม่ช้าอีกฝ่ายก็กลับมาพร้อมอะไรบางอย่างที่คล้ายเส้นใย
ถึงเวลาเผชิญหน้ากับอีกปัญหาแล้ว”
อาร์คเมื่อยืนยันได้ว่ามอนสเตอร์ตัวอื่นหลับกันหมดจึงนาเอากระดูกทั้งหมดออกมา เขาเริ่มงานอยู่ตลอดทั้งคืนเพื่อจัดทําเครื่องมือสําหรับหลบหนี และนั่นก็ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์เพื่อเตรียมการ
“เหมือนที่คิด… หลังได้ลิ้มรสแล้วก็ไม่อาจลืมเลือน ไม่อาจหยุดยั้งความต้องการนี้”
คาราคุลพึมพํากับตัวเองหลังดื่มเลือดเสร็จ เป็นอีกครั้งที่อาร์คและบุคซิลร่างแห้งก่อนจะล้มลง ในช่วงทุกเย็นพวกเขาจะโดนคาราคุลเรียกไปเป็นอาหารครั้งแล้วครั้งเล่า
“เฮ้อ ความรู้สึกนี้ยังไงก็ไม่ชิน”
สําหรับเอ็นพีซีมันคือหนึ่งวัน แต่หนึ่งวันในเกมเท่ากับแปดชั่วโมงในโลกความเป็นจริง ในเมื่อแปดวันในโลกความเป็นจริงรวมวันนี้ด้วยแล้ว เท่ากับเขาถูกดูดเลือดไปทั้งสิ้นยี่สิบสี่ครั้ง เขาหวังว่าจะคุ้นชินเข้าสักที่หนึ่ง ทว่ามันกลับรู้สึกเช่นเดิมทุกครั้งที่เขี้ยวนั้นจมลงที่คอของเขา และตั้งแต่ที่พวกเขาถูกเลือกในทุกวัน ทั้งอาร์คและบุคซิลก็เริ่มผ่ายผอมลงกันไม่น้อย
“อืม เจ้าพวกนี้เริ่มตัวเล็กลงแล้ว ช่วงนี้คงต้องขุนให้อ้วนบ้าง?”
ด้วยเหตุที่ทั้งสองมีสภาพน่าเวทนากระทั่งคาราคุลยังเอ่ยปาก
“ไอ้บัดซบ วันนี้แหละจะเป็นครั้งสุดท้ายฉันจะต้องหนีออกไปให้ได้!”
อาร์คและบุคซิลต่างโดนลากกันออกจากโถงโดยปีศาจเลือด และทันที่ที่ออกจากห้องมาได้ อาร์คพลันสะบัดแขนให้หลุดพ้น
“ฉันเดินเองได้ จริงไหม?”
บุคชิลเองก็ยิ้มอ่อนจางให้ก่อนพยักหน้ารับเช่นกัน
“ใช่ ใช่ ฮ่าฮ่าฮ่า! นานขนาดนี้ก็ต้องปรับตัวได้แล้ว”
“เหอะ งั้นก็ไปซะ”
ปีศาจเลือดทั้งสองลังเลก่อนจะยกยิ้มแล้วค่อยตอบกลับพวกมันคิดว่าทั้งสองย่อมไม่มีทางวิ่งหนีหาย กระทั่งเดินให้ดียังทําไม่ได้ นับประสาอะไรกับวิ่งหนีปีศาจเลือด? ปีศาจเลือดรายล้อมอยู่ทั่วทุกหนแห่งทั้งปราสาท และขณะที่พวกเขาเดินผ่านหน้าต่างบานใหญ่นั้นเอง อาร์คพลันคว้าบุคซิลไว้ก่อนจะกระโดดพุ่งตัวออกไป ปีศาจเลือดที่อยู่ใกล้เคียงพลันหันควับมองก่อนร้องตะโกน
“ทําบ้าอะไร?”
“โง่นัก คิดว่ากระโดดไปแล้วจะฆ่าตัวตายได้?”
“จะยังไงพวกมันก็โดนเวทมนตร์ของท่านเอิร์ลผูกมัดฆ่าตัวตายไปก็ไร้ผล”
“ฆ่าตัวตาย? ไม่หรอก หนีต่างหาก!”
“ว่าอะไร?”
“ตอนนี้แหละราดัน เครื่องร่อน!”
อาร์คส่งเสียงร้องตะโกน ราดันพลันอ้าปากกว้างก่อนจะพ่นเอาไอเทมออกมา มันคล้ายยักษ์จินนี้ในตะเกียงวิเศษอย่างไรอย่างนั้น มันคือวัตถุสีดยาวกว่าสิบเมตร ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่อาร์คเตรียมการไว้เพื่อหลบหนี! มันคือเครื่องร่อนอาร์คได้รวบรวมกระดูกจํานวนหนึ่งที่น่าจะทนทานมาในช่วงสัปดาห์ก่อน จากนั้นจึงเริ่มทําการรวมพวกมันจัดทําเป็นเครื่องร่อน อาร์คเกิดความคิดนี้ตอนได้เห็นไอเทมในตัวราดัน
ปีกของกรมวิง (พิเศษ)
ปีกของค้างคาวขนาดใหญ่ที่เกิดจากการกลายพันธุ์
จุดประสงค์ใช้งานไม่แน่ชัด แต่เด่นชัดว่าเป็นไอเทมหายาก
บางที่ในภายหลังท่านอาจพบเจอวิธีใช้ประโยชน์…
มันคือปีกของกรมวิ่งที่เขาได้รับมาจากเทือกเขาอาร์กัสนานมาแล้วที่ได้รับมันมา และจุดประสงค์ใช้งานก็ไม่ค่อยชัด เจนปีกพวกนี้สยายออกได้ แต่มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่มากความยาวจากซ้ายถึงขวาคือสิบเมตร! อาร์คต้องมองมันอยู่พักหนึ่งจึงค่อยนึกถึงเครื่องร่อนขึ้นมาได้ หนึ่งในเหตุผลที่อาร์คไม่อาจหนีไปจากสถานที่แห่งนี้ได้คือตําแหน่งที่ตั้งของปราสาทคาราคุลได้จัดตั้งปราสาทเอาไว้บนหน้าผาที่สูงหลายสิบเมตรอีกทางหนึ่งความสามารถพิเศษของเขาอย่างห้วงเวลาแห่งสไลม์ก็โดนผนึกเอาไว้ ดังนั้นจึงไม่อาจต้านทานความเสียหายจากการร่วงหล่นถ้าหากเขากระ โดดผ่านหน้าต่างออกไปก็ต้องตายแน่นอน 100%
“แต่ถ้าบินในอากาศได้ก็อีกเรื่อง!”
หากเป็นเช่นนี้เขาจะสามารถหลบหนีจากปราสาทและอาณาเขตของคาราคุลได้ ทว่ายังมีหนึ่งปัญหาในแผนการ เครื่องร่อนไม่อาจรองรับคนได้ถึงสอง ทว่าอาร์คและบุคซิลต่างโดนดูดเลือดทุกวันทั้งสิ้นยี่สิบสี่ครั้งแล้ว สภาพของพวกเขาจึงผ่ายผอมไม่ต่างมัมมีเพราะโดนดูดเลือดไปเมื่อครู่นี้เอง
“บุคซิล คุมสมดุลไว้!”
“ครับ พวกเราจะได้หนี้จากที่นี่เสียที!”
“ไปกันเลย!”
อาร์คและบุคซิลที่กระโดดออกจากหน้าต่างไปขณะที่เครื่องร่อนกําลังดิ่งความสูง มันต้องใช้เวลาอยู่สักพักกว่าพวกเขาจะทําให้เกิดสมดุลในการใช้เครื่องร่อนได้
“จะ-เจ้าพวกนั้น!”
“ไป พวกเราจะปล่อยพวกมันไปไม่ได้!”
ปีศาจเลือดต่างร่ําร้องกันเสียงดังเพราะสถานการณ์กะทันหันเกินไป ทว่าอาร์คตอนนี้ได้กระโดดออกจากหน้าต่างมาแล้ว อาณาเขตของคาราคุลออกจะกว้างใหญ่เกินไปหากปีศาจเลือดคิดไล่ล่าพวกเขา
“อาร์คนิม พวกเราทําได้แล้ว!”
บุคซิลแทบจะร้องไห้ออกมาขณะคิดว่าหลบหนีพ้นจากเงื้อมมือปีศาจร้ายมาได้แล้ว ทว่าฉับพลันนั้นเองเสียงแข็งกร้าวพลันดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“ช่างโง่เขลาและหาญกล้า คิดหรือว่าจะหนีพ้นจากข้า?”
“อะ-อาร์คนิม!”
บุคซิลหันกลับไปมองด้วยสีหน้าซีดเผือด คาราคุลพอทราบข่าวก็ไล่ตามพวกเขาโดยพุ่งออกมานอกหน้าต่างโดยทันทีคาราคุลอย่างไรก็เป็นแวมไพร์ ย่อมต้องสามารถแปลงกายเป็นค้างคาว
“สารเลว!”
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อาร์คกังวล แม้พวกเขาจะสามารถบินบนท้องฟ้าได้ แต่เครื่องร่อนไม่ได้ทรงประสิทธิภาพถึงขนาดนั้นอีกทางหนึ่ง คาราคุลสามารถบินไล่ล่าพวกเขาด้วยปีกของตัวเองได้ ชัดเจนว่ามันเร็วกว่าเครื่องร่อนหลายต่อหลายเท่า คาราคุลตามทันอาร์คเพียงแค่ภายในห้านาที่พร้อมเข้าโจมตีเครื่องร่อนด้วยกรงเล็บที่แหลมคม
“ปะ-ปิกมัน!”
“ฉันรู้น่า! อย่าสั่นตัวสิ!”
“เหอะ เหอะ เหอะ มนุษย์ที่โง่เง่า!”
ปีกเริ่มฉีกกระชากเป็นชิ้นเพราะคาราคุลลงมือดังนั้นแล้วความเร็วของเครื่องร่อนจึงถูกลดทอน บุคชิลก็ไม่อาจรักษาสมดุลร่างกายเอาไว้ได้ขณะที่เครื่องร่อนเริ่มเกิดอาการสั่นแล้ว
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราได้ร่วงลงไปก่อนหลบหนีพ้นจากอาณาเขตของมันแน่ ถ้าเราตายทุกอย่างก็จบ ปีศาจเลือดตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเรามีราดันอยู่ แบบนั้นจะไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สอง
อาร์คกัดริมฝีปากแน่นก่อนเอ่ยคํา
“บุคซิล ฉันสัญญาว่าจะมาช่วยนายออกไป”
“ครับ? พูดว่าอะไรนะ?”
“ฉันขอโทษ ไม่ดีกว่าหรือถ้าฉันจะรอดไปแล้วค่อยกลับมาช่วย?”
“อะ! อาร์คนิม! ไม่นะครับ!”
“บุคซิล ฉันจะไม่ลืมความกล้าหาญในความเสียสละครั้ง
อาร์คหันไปให้ก่อนถีบบุคซิลอย่างแรง
“เอ้า! มิสไซล์หมุน้อยยิ่งได้!”
“อะ-อาร์คนม!”
“อก บ้าอะไร? แค่ก!”
บุคซิลโดนถีบไปไม่ใช้ไร้เป้าหมาย แต่มันพุ่งเข้าหาคาราคุลโดยโจมตีเข้าอย่างจัง คาราคุลที่โดนมิสไซล์หมูน้อยนี้พุ่งเข้าใส่กลางอากาศไม่ต่างกับเครื่องบินชนเข้าปะทะ บุคซิลกรีดร้องขณะคาราคูลแค่นเสียงอย่างโกรธเกรี้ยว
“อาร์คนิม!”
“ยัง… ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า!?”
“บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวกลับมาช่วย!”
อาร์คกระทําการอย่างไร้ยางอายก่อนจะบินลัดผ่านท้องฟ้าไป ความหอมหวานของอิสรภาพหลังประสบพบเจอกับนรกมาทั้งสิ้นแปดวัน… ในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสแล้ว