Ark The Legend - ตอนที่ 434 : ผู้เยียวยาแห่งโอเบเรียม
ตอนที่ 434 : ผู้เยียวยาแห่งโอเบเรียม
ในเมื่อคาร์ม่าไม่สามารถโจมตีอาร์ค อีกฝ่ายก็ไม่ต่างอะไรกับเป้านิ่ง แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่อีกหนึ่งที่เขาเพิ่งทราบ
คาร์ม่าฟื้นคืนพลังชีวิต 100 หน่วยโดยการดูดกลืนดวงวิญญาณ
คาร์ม่าฟื้นคืนพลังชีวิต 100 หน่วยโดยการดูดกลืนดวงวิญญาณ
คาร์ม่าสามารถฟื้นพลังชีวิต 100 หน่วยได้ทุกครั้งที่กลืนดวงวิญญาณเข้าไป และในเมื่อโอเบเรียมมีคนตายอยู่ทุกที่ พลังชีวิตของมันจึงฟื้นคืนเร็วกว่าที่อาร์คสามารถสร้างความเสียหายได้ จํานวนคนตายภายในเมืองสามารถทําให้มันยืนหยัดได้ทั้งวันด้วยซ้ํา นี่ไม่ต่างอะไรกับดาบแห่งธาตุไม่สามารถใช้งาน
“เราจะรอให้คนตายโดนกลืนไปหมดเมืองก่อนก็ไม่ได้ ด้วย”
แน่นอนว่าหากคนตายถูกดูดกลืนไปหมดเมืองแล้ว คาร์ม่าจะไม่สามารถฟื้นคืนพลังชีวิตได้อีก แต่ใครจะทราบกันว่าหากคาร์ม่ากลืนคนตายทั้งเมืองเสร็จแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? อย่างน้อยเขาก็ไม่รู้ แต่ที่สังหารได้คือมันไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาแน่
“เหลือทางเลือกเดียวแล้ว เราต้องแยกออร่ามืดออกจากร่างของราซาคแล้วหนีไปให้เร็วที่สุด”
ออร่าความมืดที่แทรกซึมเข้าสู่ร่างของราซาคจะสร้างความเสียหายให้ ดีที่ตอนนี้ราซาคอยู่ในสภาวะการป้องกันของทักษะความภักดีอันแรงกล้าจึงรอดพ้นมาได้ เขามีแต่ต้องหาทางแยกเอาออร่ามืดออกจากร่างถึงจะพ้นวิกฤตนี้ ดังนั้นแล้ว อาร์คจึงเปลี่ยนความคิดแล้วโจมตีใส่ออร่ามืดที่ล้อมรอบราซาคไว้ ดาบแห่งธาตุสามารถผ่าออร่ามีดได้ไม่ยาก แม้ว่าราซาคจะได้รับความเสียหายบ้าง แต่เพราะพลังป้องกันเพิ่มขึ้นเป็น 894 หน่วยจึงไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากมาย อาร์คพลันออกคําสั่งให้ราคาร์ดเมื่อจัดการออร่ามืดออกไปได้แล้ว
“ราคาร์ด ไปดึงความสนใจคาร์ม่าไว้ ให้มันหันไปมองทางอื่น!”
“ขอรับ! ทางนี้โว้ยไอ้สารเลว!”
โดยทันที ราคาร์ดออกไปดึงความสนใจของคาร์ม่าไปอีกด้านของถนนด้วยทักษะยั่วยุ
“แบบนั้นแหละ ยกเลิกทักษะความภักดีแรงกล้า! หนีกันเร็ว!”
ราชาคเริ่มออกวิ่งทันทีเมื่อทักษะถูกปลดออก ไม่สิ พยายามวิ่งต่างหาก อาร์คประเมินคาร์ม่าในร่างบอลสีดําต่ําเกินไป หากราคาร์ดดึงความสนใจไปได้ แบบนั้นพวกเขาจะสามารถลอบหลบหนี แต่เป็นอาร์คผิดพลาด เมื่อราซาคปลดทักษะออก นัยน์ตาที่เพิ่งมองตามราคาร์ดไปนั้นหันกลับมองมายังสองคนที่คิดหลบหนีโดยทันที ออร่าสีดําที่ลอยฟังรออยู่ก่อนก็เข้าห่อหุ้มร่างของราซาคเอาไว้
“เหอะ… โง่เง่า… คิดว่าข้าจะพลาด?”
“อะไรกัน? มันรอจังหวะนี้อยู่เหรอเนี่ย?”
“ไม่ว่าจะผู้ใด… ข้าจะดูดกลืนทุกสิ่งในโอเบเรียม… ทุกสรรพสิ่งที่นี่ต้องถูกทําลาย…. เจ้าก็จะไม่มีทางรอดพ้น ถ้าข้าไม่ได้รับอัญมณีนั่น… พวกเราก็จะร่วงหล่นสู่ความมืดมิดด้วยกัน!”
ใบหน้าพลันผุดออกจากบอลสีดําอีกครั้งพร้อมส่งเสียงพูดที่น่ารําคาญออกมา แต่เสียงนั้นคล้ายไม่เข้าหูอาร์คสักนิด เพราะราซาคตอนนี้ที่โดนออร่ามืดห่อหุ้มอยู่พลังชีวิตลดเหลือแค่ 10% และกําลังจะกลายเป็นอาหารว่างของคาร์ม่าในไม่ช้า
“ไอ้บ้านี่มันจะยึดติดเกินไปแล้ว!!
และนี่ก็เป็นความผิดพลาด! ราซาคไม่มีทางพ้นจากสภาพดวงวิญญาณโดนกลืนกิน และเขาก็ไม่มีเวทมนตร์ทรงพลังสําหรับโจมตี ถ้าหากเขาเป็นนักเวท ความเสียหายที่สามารถทําได้คงเกินกว่าอัตราฟื้นฟูของคาร์ม่า แต่ความเสียหายที่เขาทําได้ตอนนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้
“ถ้าลาริเอ็ตเต้นิมอยู่ที่นี่ล่ะก็…”
อาร์คพึมพําออกมาขณะกัดริมฝีปาก คุณลักษณะของคาร์ม่าตอนนี้น่าจะเป็น “ปีศาจ” กับอัศวินพิสุทธิ์ที่มีคุณลักษณะ “ศักดิ์สิทธิ์” นับว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันเลยทีเดียว ก็เหมือนตอนที่เธอช่วยเขาจัดการทามูระ เวทมนตร์ของลาริเอ็ตเตจะสามารถส่งผลกับคาร์ม่าได้อย่างมหาศาล ทว่าคาร์ม่าคงไม่มีทางรอให้อาร์คไปพาตัวลาริเอ็ตเต้มาอย่างแน่นอน
“ถ้าราซาคโดนกินไป เราต้องไปพาตัวลาริเอ็ตเต้มาแล้ว จัดการมันก่อนที่ราซาคจะโดนย่อย แต่จะมีปัญหาถ้าหากมันกลืนกินดวงวิญญาณไปแล้ว ต่อให้เราหลบหนีออกไปได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าพลังงานบ้าคลั่งนั่นจะทําอะไรได้บ้าง มันต้องมีวิธีสิ…. ทามูระ ทามูระงั้นเหรอ…”
แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้น
“ใช่แล้ว ทามูระนั่นก็ใช้คนตายฟื้นฟูพลัง เราเคยหยุดการฟื้นฟูพลังชีวิตของมันได้
เขานึกย้อนไปถึงตอนที่สู้กับทามูระก่อนหน้าที่ลาริเอ็ตเต้จะได้เปลี่ยนอาชีพเป็นอัศวินพิสุทธิ์ ในตอนนั้น ทามูระดูดเอาพลังงานความมืดเข้าไปแล้วเปลี่ยนร่างตัวเอง และยังใช้งานคนตายเพื่อฟื้นคืนพลังชีวิตที่เสียไป มอนสเตอร์ที่กลายสภาพเป็นคุณลักษณะปีศาจจะมีความสามารถฟื้นคืนพลังชีวิตด้วยดวงวิญญาณ และในตอนนั้น อาร์คได้หยุดยั้งการฟื้นฟูพลังของทามูระด้วยตัวเองไม่ใช่เพราะอัศวินพิสุทธิ์
“เรายังมีวิธี!”
เสมือนโดนฟ้าผ่าลงกลางศีรษะ อาร์คตอนนี้เงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจขึ้นมาบ้าง
“อดทนไว้ครับ นึกย้อนถึงตอนที่ยังเป็นทหารอันทรงเกียรติแห่งโอเบเรียมซึ่งปกครองซอแทนดาล ท่านจงอย่าได้สิ้นหวังกับความมืดนี้!”
“พวกท่านทุกคนสามารถปกป้องตัวเองจากความสิ้นหวัง
พรบ
เสียงประหลาดดังมาจากร่างของคาร์ม่าที่กลืนกินดวงวิญญาณเข้าไป
“อะ อะไรกัน… นี่มันอะไรกัน?”
โลหิตสีดําเริ่มพวยพุ่งออกจากร่างของคาร์ม่า แม้ว่าพลังชีวิตของคาร์ม่าในสภาพที่แปรเปลี่ยนเป็นบอลสีดําจะมีไม่มาก แต่อาร์คไม่มีทางสร้างความเสียหายได้ในเมื่ออัตราไม่สอดคล้อง และในตอนนี้ที่การดูดกลืนผู้ตายของคาร์ม่ากลายเป็นพิษขึ้นมา ดวงตาของอาร์คก็ทอประกายแสงวูบ
“ก็เหมือนกับทามูระ ถ้าทักษะเยียวยาส่งผลอยู่มันจะ ฟื้นคืนพลังชีวิตจากคนตายไม่ได้ในที่สุดก็เจอ นี่แหละ จุดอ่อนของมัน! แค่เราก็จัดการมันได้น่า!”
ถูกต้องแล้ว นี่คือวิธีการที่อาร์คใช้งานหยุดการฟื้นฟูพลังของทามูระ การใช้เยียวยาจะส่งผลให้ผู้รับฟังได้รับสถานะ “คําอวยพร” และคําอวยพรก็มีคุณลักษณะศักดิ์สิทธิ์ในตัว ในเมื่อคาร์ม่าดูดซับคนตายที่มีผลของคําอวยพรเข้าไป มันจะได้รับความเสียหายแทนที่จะฟื้นฟู ทุกครั้งที่คาร์ม่าดูดซับดวงวิญญาณเหล่านั้น ร่างของมันจะต้องสันเพิ่มด้วยความหวาดเกรง ท้ายที่สุดคาร์ม่าต้องหยุดยั้งทักษะกลืนกินดวงวิญญาณแล้วจ้องมองอาร์คเขม็ง
“เจ้า…. เจ้า! เอาอัญมณีไปจากข้า… ตอนนี้ยังทําเรื่องนี้ไม่ได้ อภัยให้ไม่ได้!”
“ไม่อภัยให้ฉัน? ใครกันแน่ที่ต้องพูด?”
1
ท้ายที่สุดอาร์คถึงกับเผยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา ตอนแรกเขาคิดหลบหนี แต่สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อทักษะกลืนกินดวงวิญญาณใช้งานไม่ได้อีก ราซาคก็เป็นอิสระ นอกจากนี้ คาร์ม่ายังไม่สามารถโจมตีอาร์คโดยตรง นี่แหละโอกาส
“เสียใจด้วยแล้วกันนะ แต่ถึงคราวฉันแล้ว!”
“เจ้าคิดโจมตีข้า…?”
“โจมตีแก? ทําไมฉันต้องทําอะไรแบบนั้นด้วย? ในท้องแกมีแต่อาวุธร้ายแรงทั้งนั้น!”
“ว่าอะไรนะ?”
คาร์ม่าเริ่มสะดุ้ง อาร์คเผยรอยยิ้มก่อนใช้งานทักษะเยียวยาอีกครั้ง
“เอาล่ะ มาดูกันว่าจะไหวไหม! ทุกท่านที่ถูกดูดกลืนเข้าไป พลังความชั่วร้ายนั้นจะไม่อาจควบคุมดวงวิญญาณของพวกท่านได้! ดวงวิญญาณของพวกท่านก็เป็นของพวกท่าน! พวกท่านต้องกล้าหาญ! ประชากรแห่งโอเบเรียมเอ๋ย จงตื่นขึ้นเพื่อต่อสู้กับความมืด!”
ครืน
แทบจะในทันที เสียงสั่นสะเทือนดังลั่นเริ่มดังขึ้นจากภายในร่างของคาร์ม่า ถูกต้องแล้ว คาร์ม่าตอนนี้ไม่สามารถกลืนกินดวงวิญญาณเพิ่มได้อีก แต่ที่อยู่ในตัวล่ะ? ดวงวิญญาณของคนตายเหล่านั้นยังไม่ใช่หายไปโดยสมบูรณ์ พวกเขาก็แค่ติดอยู่ข้างในนั้น และอาร์คตอนนี้ก็พยายามใช้การเยียวยากับเหล่าดวงวิญญาณคนตายที่อยู่ภายใน หรือก็คือ ดวงวิญญาณทั้งหมดภายในกายคาร์ม่าจะแปรเปลี่ยน ไม่ต่างอะไรกับระเบิด เพราะผลจากการเยียวยาอย่างคําอวยพร มันจะทําให้คาร์ม่าที่กลืนกินดวงวิญญาณจํานวนมากเข้าไปในร่างกายเกิดอาการเป็นพิษจนระเบิดออก ไม่ช้า รูขนาดใหญ่พลันปรากฎพร้อมเสียงระเบิดจากร่างนั้น คล้ายลูกโปงโดนเจาะ บอลนั้นเริ่มหดแฟบลงขณะดวงวิญญาณของคนตายมากมายเริ่มหลุดลอยกันออกมา นี่ไม่ใช่เพียงแค่การทําลายล้างอีกฝ่าย แต่ยังเป็นการช่วยเหลือเหล่าดวงวิญญาณออกมาด้วย! ถึงตอนนี้ รอบกายอาร์คเริ่มปรากฏแสงสว่าง
การเยียวยาปาฏิหาริย์สําเร็จ
ด้วยความจริงใจของท่านต่อเหล่าผู้ตายที่ส่งผ่านข้ามสายพันธุ์จนไปถึง เมื่อครั้งอดีต ประชากรของโอเบเรียมอันรุ่งโรจน์ได้โดนคําสาปร้ายแรงจนต้องประสบชะตากรรมเป็นอันเดต แม้ร่างกายพวกเขาจะยังคงอยู่ แต่ดวงวิญญาณของพวกเขาล้วนเจ็บไข้และสิ้นหวัง! ความหวาดกลัวต่อความเจ็บไข้ทางดวงวิญญาณทําให้พวกเขาลืมเลือนเกียรติยศซึ่งเคยมีและจําเพียงแต่ความสิ้นหวังจนดวงวิญญาณแปดเปื้อน ท้ายที่สุด พวกเขาก็กลายเป็นผู้ตายที่ไม่รับรู้ถึงสิ่งใดอีก นี่คือความน่าหวาดกลัวจากคําสาปที่ดาร์คลอร์ดสร้างขึ้น มันคือความสามารถที่มีไว้ช่วงชิงความหวังและมอบความสิ้นหวังให้ ทว่าท่านได้มอบความหวังให้กับดวงวิญญาณของพวกเขา พวกเขาได้กล้าหาญขึ้นจนมีชัยเหนือความสิ้นหวังได้
ดวงวิญญาณเหล่านี้ไม่มีผู้ใดจดจํา ทว่าท่านไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา ท่านได้หยิบยืนความช่วยเหลือส่งมอบความหวังให้แก่พวกเขา ด้วยหัวใจที่ไม่คิดยอมแพ้ของผู้เยียวยา ด้วยความสําเร็จนี้ ท่านจึงได้กลายเป็นเพชรน้ําเอกแห่งผู้เยียวยา และได้รับการเลื่อนระดับขึ้น
*ด้วยผลสําเร็จของการเยียวยาปาฏิหาริย์ ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้น 1
*ค่าสถานะความรักเพิ่มขึ้น 10
*ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 50
*แนวโน้มความดีเพิ่มขึ้น 50
*ผลข้างเคียง ชําระล้าง” ได้ส่งผลกับทุกดวงวิญญาณของผู้ตาย
–
–
ด้วยความสําเร็จของการเยียวยาปาฏิหาริย์ ท่านได้รับฉายา ผู้เยียวยาแห่งโอเบเรียม
ชื่อเสียงในฐานะผู้เยียวยาของท่านเพิ่มขึ้น ท่านจะได้รับคําสรรเสริญจากผู้ได้รับการเยียวยา
*โบนัสจากฉายา ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้น 2
*ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 50
“เยียวยาปาฏิหาริย์! ค่าสถานะโบนัส!
นี่คือผลลัพธ์เกินคาดคิด เมื่อการเยียวยาปาฏิหาริย์ถูกใช้งานออก ดวงวิญญาณทั้งหมดจึงถูกสํารอกออกจากร่างบอลสีดํา และนั่นก็เป็นผลให้คาร์ม่าอ่อนแอลง บอลสีดําเริ่มไม่อาจคงสภาพเอาไว้และคล้ายจะสลายตัว
“ถึงจะสร้างความเสียหายด้วยการเยียวยาอีกไม่ได้ แต่ตอนนี้ดวงวิญญาณทั้งหมดเป็นอิสระแล้ว และมันก็โจมตีเราไม่ได้ด้วย ก็แค่ทําใจให้สงบไว้แล้วใช้ดาบแห่งธาตุจัดการมันไปเรื่อยๆจนกว่าจะตาย”
“เข้ามา ได้เวลาจบเรื่องราวกันแล้ว ดาบแห่งธาตุไฟ!”
อาร์คเผยรอยยิ้มขณะใช้งานดาบฟาดฟันเข้าใส่
“เหอะ.. โง่เขลาและตื้นเขิน!”
ไม่ช้า หนวดนับร้อยเส้นเริ่มยืดขยายออกจากร่างของคาร์ม่าแล้วรัดพันราซาคและเหล่าดวงวิญญาณเอาไว้ ทว่าอาร์คเพียงแค่นเสียงและหัวเราะใส่
“คิดจะฆ่าตัวตายหรือยังไงกัน?”
ผลของการ “ชําระล้าง” จากเยียวยาปาฏิหาริย์ย่อมส่งผลกับราซาคด้วย ต่อให้คาร์ม่าดูดกลืนดวงวิญญาณเข้าไปอีก มันก็จะกลายเป็นสร้างความเสียหายจนต้องสํารอกออกมาอี กครั้ง การดูดกลืนดวงวิญญาณก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตาย ทว่า คาร์ม่าไม่ได้กลืนดวงวิญญาณ หลังจากคาร์ม่าจับดวงวิญญาณเอาไว้ได้ ร่างของมันกลับเริ่มขยายใหญ่ขึ้น
“ได้ยังไงกัน?”
คาร์ม่าเผยรอยยิ้มชั่วร้ายเมื่อเห็นอาร์คสับสน
“หึ คิดน้อยเกินไป… เจ้ายังไม่รู้… ดวงวิญญาณพวกนี้ ทั้งหมดโดนเวทมนตร์ของข้าแล้ว… แม้พวกมันจะหายไปแล้ว… ข้าไม่สามารถดูดซับดวงวิญญาณ…. เวทมนตร์ถูกถอนไปจากดวงวิญญาณเพราะการชําระล้าง เจ้าคิดว่าเวทมนตร์ที่ถอนไปอยู่ไหนกันล่ะ?”
“อย่าบอกนะว่า…”
“ใช่… เป็นเพราะเจ้า… เวทมนตร์ที่เหลืออยู่ถึงกระจายออกจากพวกดวงวิญญาณมาให้ข้าดูดซับ… นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการ… ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าความต้องการนับร้อยปีของข้าทําอะไรได้บ้าง!”
ใบหน้าของอาร์คถึงกับแข็งค้างไปเพราะหน้าต่างข้อความที่โผล่พรวดออกมา
พลังงานบ้าคลั่งของคาร์ม่าทําการชาร์จ 100% ทักษะ “ห่วงโซ่ไร้ลักษณ์” ทํางาน
เมื่อ “ห่วงโซ่ไร้ลักษณ์” ทํางาน อันเดตทั้งหมดที่มีความเชี่อมโยงกับคาร์ม่าจะหายไปพร้อมกัน หลังจากดวงวิญญาณหายไป จะส่งผลให้เกิดการระเบิดที่ให้ความเสียหาย 100 เท่าตามจํานวนดวงวิญญาณแก่ทุกสรรพชีวิต