Ark The Legend - ตอนที่ 452 : หยุดเรือแล้วส่งคนมา!
Ark ตอนที่ 452 : หยุดเรือแล้วส่งคนมา!
อาร์คที่เกิดแตกตื่นจนตอนนี้ต้องหาที่หลบหลังกราบเรือ เพราะอีกฝ่ายไล่ตามมาบุคซิลถึงกับจ้องมองทางอาร์คทั้งส่งเสียงบ่น
“เห็นไหมครับ พวกมันไล่ตามเรามาถึงนี้เพราะไปเอาหมวกมันมา!”
“คนที่เราต้องการตัวคือพ่อค้าคนแคระที่หน้าเหมือนหมู!”
“หา? ผม? ผมเหรอ? ได้ยังไงกัน?”
บุคซิลถึงกับกรีดร้องขณะซ่อนตัวร่วมกับอาร์คด้วย อาร์คก็สับสนไม่แพ้กัน อาร์คคิดว่าที่โจรกลุ่มนี้ตามมาก็เพราะเขาสังหารเจเพตอลแล้วหยิบเอาหมวกหายากมา แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเจเพตอลจะตามล่าบุคซิล และมันเพราะอะไรกันล่ะ?
“นายไปทําอะไรพวกมันไว้?”
“ผมไม่รู้ครับ ผมแค่วิ่งหนีออกมาเองนะ!”
บุคซิลตอบกลับทั้งยังไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดคุยกันเองแล้ว ผู้โดยสารในเรือต่างแตกตื่นกับการยิงขู่และเริ่มตอบสนองกับคําเรียกร้องของเจเพตอล
“อะไรกัน? ไล่ล่าคนงั้นเหรอ?”
“ถ้าส่งคนที่มันต้องการให้ พวกเราก็จะรอดงั้นสินะ?”
ผู้โดยสารต่างเริ่มมีสีหน้าแห่งความหวังขึ้นมาบ้าง
“แย่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้พวกผู้โดยสารได้ลากพวกเราลงเหวแน่”
อาร์คตอนนี้ซ่อนตัวอยู่หลังกราบเรือขณะยังคงเขย่าหม้อต่อไป พร้อมร้องตะโกน
“อย่าโดนมันหลอก! นี่คือวิธีปล้นของพวกมัน!”
“หือ? โดนหลอก?”
“คิดจริงเหรอว่ามันจะยิงไม่ยั้งเพราะต้องการตัวคนแต่คนเดียว? พอมันขึ้นเรือเราได้ แบบนั้นมันก็จะปล้นของพวกเราทุกคน พวกมันต้องมีม้วนคัมภีร์ [ปล้น] จํานวนมากอยู่แน่”
“เข้าใจแล้ว ถึงกับต่ําช้าได้ขนาดนี้!”
“ไอ้พวกโจรสลัดสารเลว!”
เมื่ออาร์คพูดจบคํา พวกผู้โดยสารต่างก็จ้องมองเจเพตอล จากนั้นกัปตันเรือจึงจับโทรโข่งขึ้นมาตะโกนใส่
“คิดจริงหรือว่าพวกเราจะยอมศิโรราบกับขยะท้องทะเลอย่างโจรสลัด? ต่อให้แกพูดจริง เรือลํานี้ก็เป็นทรัพย์สมบัติของราชาแห่งบริสทาเนีย ไม่มีทางที่ข้าจะส่งผู้โดยสารของพระราชาให้กับไอ้พวกโจรสลัด! ข้าขอต่อต้านเพื่อรักษาเกียรติแห่งบริสทาเนียไว้!”
“เหอะ คุยกันไม่รู้เรื่องงั้นสิ ช่วยไม่ได้ เข้าระยะประชิดเลย!”
เมื่อเจเพตอลหัวเราะออกพร้อมชี้ไม้ชี้มือ เรือโจรสลัดก็เริ่มแล่นเร็วมากขึ้น นั่นหมายความถึงมันเข้าใกล้เรือโดยสารมากขึ้นด้วย
“ระวังทางกราบขวา!”
กัปตันร้องตะโกนออกมา แต่การจะหนีให้พ้นจากเรือโจรสลัดที่ความเร็วสูงกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงไม่นาน เรือโจรสลัดก็แล่นเคียงข้างเรือโดยสาร อาวุธอันแข็งแกร่งของพวกโจรสลัดก็คือปืนใหญ่ และปืนใหญ่เหล่านั้นก็ถูกติดตั้งเอาไว้ที่กราบซ้ายขวาของเรือโจรสลัด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมเรือโจรสลัดถึงต้องแล่นมาเทียบข้างลําเรือ เพราะมันคือตําแหน่งโจมตีที่ดีที่สุด! เมื่ออยู่ในตําแหน่งพร้อมยิง ปืนใหญ่ต่างเริ่มถูกยิงกระหน่ํา สําหรับเรือโดยสารธรรมดา เมื่อโดนโจมตีโดยกระสุนปืนใหญ่จํานวนมากทั้งยังเป็นระยะประชิดก็ต้องอับปางอย่างไม่ต้องสงสัย
“หยุดพวกมัน! ทํายังไงก็ได้ให้มันหยุดยิง!”
กัปตันเรือร้องบอก
ถึงตอนนี้ นักธนูและนักเวทบนเรือโดยสารก็เริ่มทําการโจมตีเรือโจรสลัดบ้าง แต่ระยะห่างที่จะโจมตีถึงค่อนข้างไกลเกินไป ลูกธนูและเวทมนตร์ส่วนใหญ่ล้วนตกลงน้ําทะเล หรือหากจะมีการโจมตีที่ เข้าถึงก็อ่อนกําลังไปมากแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้พวกโง่! คิดเหรอว่าการโจมตีอ่อนปวกเปียกแบบ นั้นจะทําอะไรในสนามรบกลางทะเลได้!?”
“บ้าชิบ กราบซ้าย! กราบซ้ายโว้ย! หนีให้พ้นจากระยะพวกมัน!”
“อย่าได้หวัง เรือช้าเป็นเต่าแบบนั้นคิดหรือจะหนีพวกเราพ้น?”
ไม่ว่าเรือโดยสารจะมุ่งหน้าไปทิศทางใด เรือโจรสลัดก็จะตามติดเป็นเงาตามตัว ระหว่างนั้น ปืนใหญ่หลายสิบกระบอกก็โจมตีจากเรือของโจรสลัดอย่างไม่หยุดยั้ง
“บ้าฉิบ ทําไงดีล่ะเนี่ย?
อาร์คกัดริมฝีปากแน่นขณะภายในร้อนรุ่ม หากลูกปืนใหญ่โดนเรือโดยสารนานเข้า จะยังไงมันก็ต้องอับปางลงอย่างแน่นอน แต่ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ความเสียหายที่ได้รับ หากอาร์คตายตอนนี้ เม็ดยาอมตะที่กําลังทําอยู่ก็จะโดนยกเลิก วัตถุดิบทั้งหมดในหม้อจะสูญเปล่า แต่อาร์คก็ยังคิดอ่านหาทางออกไม่เจอ
“มันต้องมีวิธีหลบหนี้สิ โชคดีที่มีเรือโจรสลัดแค่ลําเดียว ก่อนที่การระดมยิงจะเข้าถึงตัว เราคงมีแต่ต้องกระโดดลงน้ําเพื่อหนี
ต่อให้เรือโดยสารไม่อับปาง ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ไม่มีวิธีเอาชีวิตรอด หากตกลงทะเล แต่อาร์คไม่ใช่ เขามีฟลูตแห่งชาวเลือกที่สามารถใช้เรียกปลาโลมาได้ หากเขาเรียกปลาโลมาก่อนกระโดดลงมหาสมุทร เขาย่อมต้องหนีพ้นจากเจเพตอล แต่แบบนั้นเขาก็ต้องแบกรับความเสี่ยง เขายังมีเรื่องเขย่าส่วนผสมในหม้อให้ต้องห่วง!
“ขี่ปลาโลมากับทําเม็ดยาอมตะไปด้วยพร้อมกัน มันยากเกินไป”
ขณะที่อาร์คคิดอยู่นั้นก็โดนขัด กะลาสีคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้น พร้อมน้ําเสียงแตกตื่นยิ่งกว่าเดิม
“กัปตันครับ!”
“อะไรอีก?”
“ระ-เรือโจรสลัด!”
“พูดบ้าอะไร? ก็เห็นกันอยู่ไม่ใช่หรือยังไง?”
“ไม่ครับ คือ… มีเรือโจรสลัดลําอื่นโผล่ขึ้นมาทางด้านซ้าย มีสามลําครับ…. เป็นกองเรือโจรสลัด! พวกมันเข้ามาใกล้เร็วมาก!”
“วะ-ว่ายังไงนะ?”
กัปตันเรือวิ่งไปทางซ้ายของดาดฟ้าเรือพร้อมดวงตาที่แทบถลนออกมา ก็เหมือนที่กะลาสีเรือกล่าว มีเรือโจรสลัดอีกสามลํากําลังเข้ามาใกล้ ขณะที่ทุกคนโดนดึงความสนใจไปโดยเรือโจรสลัดทางขวา กองเรือโจรสลัดที่ตามมาทีหลังก็สมทบจากอีกด้านหนึ่ง เรือโจรสลัดสามลํานี้ใหญ่ยิ่งกว่าเรือโจรสลัดของเจเพตอลด้วยซ้ํา
“นี่เรือโดยสารนะ! เรือโดยสาร! ทําไมเรือโจรสลัดสี่ลําถึงโจมตีเราล่ะ?”
กัปตันเรือเผยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา แต่แล้วเสียงที่ใช้การขยายเสียงก็ดังขึ้นจากกองเรือโจรสลัด
“แกเสร็จพวกเราแน่!”
“เอ้า ฟังทางนี้ไอ้พวกอ่อนแอทั้งหลาย! พวกเราต้องการตัวแค่อาร์คที่อยู่บนเรือเท่านั้น! ถ้าได้ตัวมันพวกเราจะไปทันที!”
อาร์คเผยสายตาจับจ้องออกไปเมื่อได้ยินชื่อตัวเองถูกกล่าว บุคคลที่ตะโกนแหกปากอยู่นั้นมาจากเรือธงของกองเรือโจรสลัด เป็นผู้หญิงที่สวมใส่ชุดเกราะโซสีเงิน ทั้งยังมีชายร่างยักษ์ที่สวมใส่ชุดเกราะหนังอยู่ข้างกาย กระทั่งว่าเขาขุดค้นทุกซอกมุมของความทรงจํา อาร์คก็จําไม่ได้ว่าเคยเห็นคนพวกนี้มาก่อน บุคซิลมองอาร์คแล้วเร่งร้อนถามออกมา
“ครั้งนี้มันระบุชื่ออาร์คนิมเลยนะครับ ไปทําอะไรมากันครับเนี่ย?”
“ฉันจะรู้เหรอ หน้าพวกมันฉันยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ํา!”
“คนที่ไม่รู้จักแต่ไล่ล่าอาร์คนิมมา แถมยังยกกองเรือโจรสลัดมาด้วยเนี่ยนะครับ?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าพวกมันคิดอะไรอยู่?”
อาร์คและบุคซิลตอนนี้โต้เถียงกันอยู่ ผู้หญิงซึ่งสวมใส่ชุดเกราะโซ่ชูไม้คทาที่บ่งบอกว่าเป็นนักเวทก็พลันตบเข้าที่หลังศีรษะของชายหนุ่มก่อนจะตะคอกใส่
“นายมันโง่ คิดว่าพูดไปแล้วมันจะโผล่หัวออกมาหรือยังไง? จมเรือมันก่อน!”
“หา? แต่ว่า…”
“คิดในแง่ดี ถ้าเรือมันจม มันจะไปเกิดใหม่ที่ป้อมปราการฮามาน ที่เหลือพวกเราก็แค่รอ”
“จริงด้วย! เข้าท่าดีนี่นา กองเรือโจรสลัด! โจมตีใส่เรือโดยสารเลย!”
เรือโจรสลัดสามลําต่างเข้ากระหนาบซ้ายและขวาของเรือโดยสาร ด้วยเหตุนี้ เรือโดยสารธรรมดาทั่วไปถึงกับโดนประกบโดยเรือโจรสลัดถึงสี่ลําด้วยกัน
“บ้าอะไรกันเนี่ย? แบบนี้ต่อให้มีปลาโลมาก็หนีไม่ได้แล้ว”
เรือโจรสลัดตอนนี้ตั้งขบวนปิดล้อมเอาไว้หมด แม้เหตุผลของเจเพตอลจะยังไม่ทราบ แต่ชัดเจนว่าถ้าหากอีกฝ่ายเห็นอาร์คพยายามขี่ปลาโลมาหนี คงไม่ปล่อยให้เขารอดพ้นแน่ และเหตุการณ์หลังจากนั้นก็คล้ายชัดเจนยิ่งห่าฝนลูกปืนใหญ่จะต้องระดมยิงออกมาจาก เรือโจรสลัดทั้งสี่ลําโดยมีเป้าหมายที่เขาอย่างแน่นอน การขี่ปลาโลมาไปด้วยเขย่าหม้อไปด้วย ทั้งยังต้องหลบหลีกลูกปืนใหญ่ไปด้วย มันไม่ใช่อะไรที่สามารถทําได้
“จะ… จะทํายังไงดีล่ะเนี่ย? ตอนนี้ไม่ต่างกับเหยื่อที่ติดกับรอให้ถูกกิน…”
เพียงแค่คิดว่าเรื่องราวจะจบยังไงก็ทําเอาเขาหดหูไม่น้อยแล้ว
“เราจะตายแบบนี้ไม่ได้ แต่ทั้งสองฝั่งเรือโดนขวางเอาไว้
ไม่ว่าจะพยายามยังไง เขาก็คิดไม่ออกว่าสถานการณ์นี้จะหนีพ้นได้ยังไง แต่แล้วเขากลับได้ยินเสียงแตกตื่นของกัปตันเรืออีกครั้ง
“พวกเราจบเห่แล้ว หรือควรรับข้อเสนอของพวกมัน? บางทีพวกมันอาจแค่ต้องการพ่อค้าคนแคระกับคนที่ชื่ออาร์ค”
“ว่าอะไรนะ? คิดบ้าอะไรเนี่ย!”
“กัปตัน แบบนั้นไม่ได้นะ ก็เหมือนที่กัปตันกล่าวไว้ก่อนหน้า ราชาแห่งบริสทาเนียคือผู้คุ้มกันความปลอดภัยของผู้โดยสารทั้งหมดไม่ใช่หรือ?”
ขณะที่อาร์คขมวดคิ้วเคร่งเครียด กะลาสีเรือก็เผยคําพูดเกินคาด ช่างเป็นกะลาสีเรือตัวอย่างโดยแท้จริง นั่นก็ทําให้กัปตันเรือต้องถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับคําของกะลาสีเรือ
“เจ้าพูดถูก ขากลัวเกินไปจนลืมเลือนหน้าที่ ลูกผู้ชายแห่งท้องทะเลจะต้องรับหน้าแม้ในยามวิกฤต ข้าต้องไม่หวั่นไหว!”
“ใช่ครับกัปตัน ให้มันได้แบบนี้สิ!”
นับว่าโชคดี อาร์ครอดได้เพราะกะลาสีเรือคนนั้นเตือนสติโดยแท้
โชคดีจริง แต่อันตรายก็ยังอยู่
ขณะที่อาร์คคิดอยู่นั้น ใครคนหนึ่งก็ร้องตะโกนขึ้น
“ดูทางนั้น! มีเรืออีกลํา!”
“ว่ายังไงนะ? เรือโจรสลัดอีกแล้ว?”
“ไม่ นั่นธงของซอแทนดาล! เป็นเรือรบของซอแทนดาล!”
“เรือรบของซอแทนดาล?”
อาร์คชะโงกหน้าออกไปมองผ่านกราบเรือ เรือรบสองลํากําลังเข้ามาใกล้จากทางด้านหลังด้วยความเร็วสูง สัญลักษณ์ของแคว้นตะวันออกซึ่งเป็นตัวแทนของซอแทนดาลปรากฏเด่นชัดบนธงที่ติดไว้บนเสากระโดงเรือ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้พวกโจรสลัด คราวนี้พวกแกไม่รอดแน่!”
เสียงอันเหี้ยมหาญดังขึ้นจากเรือรบของซอแทนดาล คล้ายกับว่า เวทมนตร์ขยายเสียงมักนิยมใช้ในการศึกเพื่อขย่มขวัญ
“เสียงนั้น คุณลุงจัสติสแมน?”
ถูกต้องแล้ว บุคคลที่อยู่บนเรือรบนั่นไม่ใช่ใครอื่น เป็นจัสติสแมนนั่นเอง ทั้งยังมาพร้อมกับกลุ่มทัณฑ์บนและลาริเอ็ตเต้ อาร์คงกับเผยความโล่งอกอย่างไม่คิดปิดบัง แต่แล้วมันก็ต้องกลับมาขุ่นมัวอีกครั้งเพียงไม่กี่วินาที
“เรือรบของซอแทนดาล… เสร็จแล้วงั้นเหรอ? แต่นี่ก็สายเกินไป ตอนนี้เรือโจรสลัดล้อมเรือโดยสารไว้หมดแล้ว ก่อนเรือรบจะมาถึงเรือโดยสารก็จมแล้วจะช่วยอะไรได้ หรือต้องหาทางถ่วงเวลาไว้จนกว่าเรือรบจะมาถึง?”
อาร์คแทบจิกทิ้งผมตัวเองขณะมองไปยังเรือโจรสลัดทั้งสองฟาก ข้างเรือโจรสลัดของเจเพตอลอยู่ห่างอกไปห้าสิบเมตรและพร้อมจะยิงแล้ว! ช่องปืนใหญ่กว่าสามสิบช่องถูกเปิดออกและ เข็นปืนใหญ่ออกมาเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว! เพียงสั่งการครั้งเดียวกระสุนจะถูกยิงออกพร้อมจมเรือโดยสาร นี่ยังไม่พูดถึงว่ามีกองเรือโจรสลัดที่อยู่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่เตรียมพร้อมยิงเช่นเดียวกัน เรือโจรสลัดอีกสามลําก็มีปืนรวมกันทั้งสิ้นเก้าสิบกระบอก! หากปืนใหญ่ทั้งหมดถูกยิงออกพร้อมกัน เรือโดยสารได้ป่นเป็นผง
อาร์คนึกอะไรขึ้นมาได้ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสะพานเดินเรือ
“เป็นเกียรตินักที่ได้เดินเรือกับทุกท่าน!”
“กัปตัน!”
ทั้งกัปตันและลูกเรือต่างสวมกอดกันกลมไม่คิดปิดบังน้ําตาที่หลั่งอาบแก้มตอนที่อาร์คไปถึง พวกเขาตอนนี้โดนเรือโจรสลัดทั้งสิ้นสี่ลําล้อมเอาไว้ ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่คิดว่าความหวังไม่เหลืออยู่แล้ว ทว่า อาร์คไม่คิดจมไปพร้อมกับเรือนี้ร่วมกับพวกเขา
“กัปตัน ยังมีทางทะลวงวงล้อมนี้อยู่!”
“ว่าอะไรนะ?”
กัปตันเร่งร้อนปาดเช็ดน้ําตาแล้วหันมองมา อาร์คบอกความคิดกับกัปตันเรือไป สีหน้าของกัปตันเรือถึงกับเปลี่ยนไปหลายครั้ง ขณะรับฟังแผนการ ท้ายที่สุดก็ต้องพยักหน้ารับ
“ใช่…ยังมีวิธีนี้ บางที… ไม่สิ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เข้าใจแล้ว สหาย ไปรวบรวมนักเวทจากผู้โดยสารและกะลาสีทั้งหมดมา! คําสั่งจะถูกถ่ายถอดโดยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของพวกโจรสลัด!”
“รับทราบ!”
ขณะกัปตันเรือไปรวบรวมนักเวทและอธิบายแผนการให้ฟัง อาร์คก็เลือกขึ้นไปบนดาดฟ้าของสะพานเดินเรือ แม้มือหนึ่งเขายังต้องถือหม้อเพื่อเขย่าต่อไป แต่อีกมือหนึ่งอาร์คก็ว่างพอที่จะป้องปาก แล้วใช้ทักษะข่มขู่ขยายเสียงตะโกน
“เฮ้ย ไอ้พวกสารเลว!”