Ark The Legend - ตอนที่ 457 : กลยุทธ์สร้างมูลค่า
ตอนที่ 457 : กลยุทธ์สร้างมูลค่า
การประมูลอยู่ระหว่างดําเนินการ
1.รองเท้าจิตวิญญาณวายุ : 6,200,000 วอน
2.หมวกโลหะบูริคาร์ด : 6,700,000 วอน
ฮยอนอูอดไม่ได้ที่จะเผยความผิดหวังออกมาหลังได้เห็นข้อความนี้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ตอนที่เขาหยิบเอาหมวกโลหะบูริคาร์ดมานั้น เขาคิดว่าราคามันน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ แม้ว่าหมวกโลหะบูริคาร์ดจะเป็นของหายากเลเวล 200 แต่ออพชั่นก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากนัก ส่วนใหญ่แล้วของหายากจะเน้นกันที่อาวุธ เพราะเครี่องป้องกันมันไม่ได้พิเศษขนาดต้องหาของหายากมาสวมใส่ ในมุมมองของพวกผู้เล่นสายนักรบ พวกเขายินดีจะเลือกหาไอเทมระดับวิเศษที่เสริมการป้องกันในตัวกันเสียมากกว่า แต่ด้วยความที่มันเป็นไอเทมหายากจึงทําให้ราคาขึ้นไปแตะถึงหกล้านเจ็ดแสนวอนได้ภายในสองวัน
ทางด้านรองเท้าจิตวิญญาณวายุก็น่าผิดหวัง ความจริงฮยอนอูเคยคิดลังเลด้วยซ้ําว่าจะเปลี่ยนไปใช้เท้าหมาปาดีหรือไม่ เพราะตอนนั้นเขายังมีใจคิดอยากใช้รองเท้าจิตวิญญาณวายุอยู่ แต่ทางด้านเท้าหมาปากให้พลังป้องกันที่เพิ่มขึ้นทั้งยังมีทักษะกระโดดให้ใช้งาน อาร์คตอนนั้นคิดว่าไถลตัวค่อนข้างมีประโยชน์กว่า แต่ปัญหาคือเท้าหมาป่าเป็นส่วนหนึ่งของเซ็ตไอเทม หากเขาไม่ใช้เท้าหมาป่า ก็ไม่ใช่ว่าผลของเซ็ตไอเทมจะหายไปหรอกหรือ?
“ไม่ว่าจะชอบขนาดไหน ใช้ไม่ได้แล้วก็คือใช้ไม่ได้ โชคไม่ดีเลยที่เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยมือจากรองเท้าจิตวิญญาณวายุ แต่จะให้พกไปไหนมาไหนด้วยแล้วปล่อยให้ราคาตกก็ไม่ใช่”
ท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจยอมขายรองเท้าจิตวิญญาณวายุ แต่เมื่อการประมูลอยู่ในช่วงดําเนินการ มูลค่าของมันกลับน้อยกว่าที่อาร์คคาดคิดไว้ แม้เขาจะเปลี่ยนอุปกรณ์สวมใส่ไปแล้ว แต่เขาก็ยังลังเลที่จะถือครองมันไว้กว่าหนึ่งเดือนก่อนจะนําไปขาย เขาเลือกปล่อยลงเว็บไซต์ประมูลสินค้าพร้อมกับหมวกโลหะบูริคาร์ด ราคาประมูลของหมวกโลหะตํากว่าแค่ห้าแสนวอนเท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังมีคนเพียงแค่เจ็ดที่เข้าร่วมประมูลในช่วงสามวันที่ผ่านมา
“จํานวนผู้เสนอราคาไม่ได้หมายความว่าได้รับความสนใจน้อย ถ้าหากผู้คนจํานวนมากสนใจ พวกเขาส่วนใหญ่จะเลือกรอช่วงโค้งสุดท้ายของการประมูล และนั่นจะทําให้ราคาเพิ่มขึ้นอีกแค่เล็กน้อยเท่านั้น อย่างมากเลยคงได้สักแปดล้านวอน”
ฮยอนอูเผยเสียงถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ หากไอเทมถูกนําเข้าเว็บไซต์ประมูลสินค้าแล้ว ประมาณสองวันก็จะพอคาดเดาราคาในช่วงท้ายได้ ในตอนที่ขายปราสาทให้ไรเด็น อาร์คได้เสนอรับรองเท้าคู่นี้แทนเงิน 2,000 เหรียญทอง พอมาดูราคาตอนนี้แล้วก็ออกจะไม่สมเหตุสมผลเกินไป เขาคิดว่ามูลค่าของมันอย่างน้อยก็ต้อง 1,500 เหรียญทอง แต่แล้วนี่ได้แค่แปดล้านวอนเท่านั้นเอง? แทบจะได้แค่ประมาณครึ่งหนึ่งของราคาที่คาดหวังเอาไว้ แน่นอนว่าเรื่องนี้มีเหตุผล
“มันเป็นเพราะเราเห็นตุ๊คใช้งานที่อีวิลซิลริออนอารีน่าเลยต้องการมัน ถ้าหากแค่อ่านหน้าต่างข้อมูลแต่ไม่เคยเห็นตุ๊คใช้งานมาก่อน เราคงไม่คิดว่าราคามันจะสูงถึง 2,000 เหรียญทองแน่”
และนั่นแหละคือปัญหา ออพชั่นพิเศษอย่าง “ไถลตัว” คือตัวชูโรงในการทําให้มูลค่าของรองเท้าสูงขึ้น! เมื่อใช้ไถลตัว ไม่ว่าใครก็สามารถรับมือกับมอนสเตอร์จํานวนหนึ่งพร้อมกันได้ แต่พลังอํานาจนั้นของไอเทมจะไม่มีทางตระหนักได้เพียงแค่อ่านคําอธิบายประกอบ
“นั่นก็เป็นอีกปัญหา ถ้าหากพวกเขารู้ว่าไถลตัวใช้งานยังไง พวกสายอาชีพโจรหรือนักธนูจะต้องเข้ามารุมแย่งกันแย่ แต่แล้วไอเทมนี้กลับขายได้แค่แปดล้านวอน… เฮ้อ… อา ชวนเครียดลงกระเพาะจริง ๆ” เพราะเพียงแค่คําอธิบายประกอบ ไม่มีทางที่ใครจะนึกถึงประโยชน์ใช้งานอย่างที่อาร์คและตุ๊คใช้ในการต่อสู้ได้แน่ ดังนั้นแล้วผู้คนจึงไม่ทราบถึงมูลค่าแท้จริงของรองเท้าคู่นี้
ฮยอนอกุมท้องเอาไว้ขณะหลั่งเหงื่อเย็น ฮยอนอูเป็นคนที่ยอมเสี่ยงชีวิตแม้เงินแค่ไม่กี่พันวอน แต่แล้วพอมาคิดว่ามูลค่าของไอเทมต้องหายไปไม่เจ็ดก็แปดล้านวอนมันก็ทําเอาเขาเครียดลงกระเพาะ เขารู้สึกเหมือนกําลังโดนบดขยี้ เหงื่อเย็นแทบจะไหลท่วมตัวด้วยซ้ํา
“โอย รับไม่ได้ ไอเทมที่น่าจะราคาสิบห้าล้านแต่กลับได้แค่แปดล้าน…. แล้วระหว่างดําเนินการประมูลก็กดยกเลิกไม่ได้ด้วย.. ปวดท้องชะมัด”
ฮยอนอูมองรองเท้าในจอด้วยใบหน้านองน้ําตา
“บางที… มันอาจมีทางอื่น? เราน่าจะหาทางเพิ่มราคาเป็นสิบล้านได้…”
ฮยอนอูยังคงกุมท้องที่คล้ายบิดภายในขณะคิดแล้วคิดอีก หรือจะยืมไอดีพวกพี่ชายกลุ่มทัณฑ์บนแล้วลองปั่นราคา? แต่แบบนั้นมันจะดีก็ต่อเมื่อมีคนคิดสู้ราคาด้วย หากไอเทมไม่เป็นที่นิยม ไอดีปั่นราคาทําไปทํามาเกิดชนะขึ้นมาก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมโดยใช่เหตุ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสําคัญคือต้องหาทางดึงดูดความสนใจของผู้คนให้รู้ถึงมูลค่ารองเท้าคู่นี้ให้ได้
“แต่จะทํายังไงล่ะ…”
ไม่ช้าฮยอนอูก็นึกขึ้นได้
“จริงด้วย เราเองก็อยากได้รองเท้าคู่นี้เพราะเห็นตุ๊คใช้ ถ้าแบบนั้นแล้วเราก็ใส่วิดีโอวิธีใช้งานมันให้คนอื่นเห็นเหมือนกันน่าจะเข้าท่า”
ฮยอนอูเมื่อเกิดความคิดแล้วจึงตบคีย์บอร์ดอย่างแรงเลื่อนเมาส์ไปมาค้นหาข้อมูล
“เจอแล้ว!”
ฮยอนอูเจอวิดีโอที่ชื่อว่า “ผจญภัยโลกใต้พิภพกับหมาป่าผู้ชั่วร้าย” ที่อยู่ในอินเตอร์เน็ต ฮยอนอูดาวน์โหลดวิดีโอดังกล่าวแล้ว เริ่มทําการตัดส่วนที่ต้องการออกมา หลังตัดแล้วความยาวก็เหลือเพียงแค่ห้านาที จากนั้นเขาจึงแนบไฟล์ดังกล่าวในหน้าประมูลขายรองเท้า
“หึหึหึ ที่เหลือก็รอดู”
ฮยอนอูยิ้มขณะคลิกเข้าที่ไฟล์ที่เพิ่งแนบไป ภาพที่ต้องการเห็นก็ปรากฏ วิดีโอปรากฏเป็นภาพของอาร์คในร่างหมาป่าสีดํากําลังต่อสู้กับเผ่านาคูจัก
“ตายซะเถอะผู้บุกรุก!”
เผ่านาคูจักจํานวนหนึ่งกําลังวิ่งพุ่งเข้าใส่อาร์คแล้วเหวี่ยงสะบัดดาบเข้าใส่ จากนั้นอาร์คจึงทําการไถลตัวกับพื้นประหนึ่งเล่นสเก็ตน้ําแข็งแล้วโจมตีสวนกลับไป จากนั้นอาร์คจึงใช้การไถลตัวอีกครั้งเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี และยังไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เขาใช้ไถลตัวอีกครั้งเพื่อหมุนตัวเตะ เมื่อการไถลตัวถูกนํามาใช้รวมกับหมุนตัวเตะ เทคนิคดังกล่าวยิ่งทําให้นึกถึงภาพเก่าก่อนของเกมอย่างสตรีทไฟท์เตอร์
ดูดีไม่น้อย น่าจะพอแล้วนะ
เนื้อหาส่วนนี้ตัดทอนมาจากวิดีโอที่ถ่ายทําจากครั้งโลกใต้พิภพ แล้วนํามาแค่ส่วนการทํางานของไถลตัวเท่านั้น กระทั่งว่าฮยอนอูเป็นคนเลือกนําส่วนนี้มาเสนอเองเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรับชมด้วยความตื่นตาตื่นใจ และเขายังเพิ่มซับไตเติ้ลเข้าไปในวิดีโอดังกล่าวด้วย
[เทคนิคการเคลื่อนไหวของหมาปาสีดําในวิดีโอนี้คือออพชั่นเสริมที่ติดมากับรองเท้าจิตวิญญาณวายุ แนวคิดการใช้และรู้จักประยุกต์ นี่คือโอกาสที่จะได้สวมใส่รองเท้าที่มีออพชั่นเช่นเดียวกับตัวละครในวิดีโอ! อย่าได้พลาดโอกาสนี้เชียวล่ะ!]
ความจริงแล้ว ความนิยมชมชอบในวิดีโอนี้ค่อนข้างไปไกลเกินกว่าที่ฮยอนอูคาดคิด ก่อนหน้าที่จะนําไปออกอากาศ วิดีโอนี้ก็กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการรับชมอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง และไม่นานมานี้ทางสถานีโทรทัศน์ก็นําไปออกอากาศจึงยิ่งทําให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีก พวกเขากระทั่งถามไถ่ว่าเขาว่างไปเป็นแขกรับเชิญหรือไม่ แต่เพราะฮยอนอูไม่อยากเผยหน้าให้คนอื่นได้เห็นและจดจํา เขาจึงเลือกปฏิเสธไป และนั่นจึงทําให้ดาร์ควูล์ฟกลายเป็นตัวตนที่โด่งดังในนิวเวิลด์ แล้วจะไม่ให้เขาใช้ชื่อเสียงส่วนนี้ในการหากินสักหน่อยหรือยังไง?
“วิธีประยุกต์ใช้งานก็ลงไปแล้ว หวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นบ้างนะ…”
ฮยอนอูปิดคอมพิวเตอร์และเปลี่ยนชุดเตรียมไปออกกําลังกาย แม้ว่าช่วงนี้เขาจะไม่ได้ไปยิม แต่ฮยอนอูก็ไม่เคยขาดฝึกซ้อมออกกําลังกายทุกช่วงเช้า ในตอนที่ได้ออกกําลัง ไม่เพียงแค่กําลังที่ถูกใช้ออก มันช่วยให้สมาธิของเขาแน่วแน่มากขึ้นอีกด้วย สมาธิอันแน่วแน่ย่อมมีประโยชน์ในนิวเวิลด์ไม่มากก็น้อย แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงมันในช่วงเวลาปกติทั่วไป แต่มันจะช่วยเพิ่มอัตราการตอบสนองให้กับเขาในช่วงวิกฤตได้ดีเอาเรื่อง ยกตัวอย่างก็ตอนที่หลบเลี่ยงการโจมตีของเบรดก็เพราะประสาทสัมผัสและสมาธินั่นเอง และช่วงไม่นานมานี้เขาก็เพิ่งขัดเกลาฝีมือกับพวกซอมบี้เชื้อราในถ้ําไป ในอนาคตถัดจากนี้เขาจะไม่มีทางละเลยการออกกําลังกายอย่างแน่นอน
เมื่อเลเวลเพิ่มขึ้น ตัวละครก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น แต่เป็นเพราะตัวละครแข็งแกร่งไม่ใช่หมายความว่าเกมจะง่าย เลเวลเพิ่มขึ้นก็จริง แต่นั่นก็มาพร้อมกับการที่ต้องออกไปล่าพื้นที่อันตรายเลเวลสูง มอนสเตอร์เกินจินตนาการถึงและทรงพลังอํานาจอีกมากที่ยังรอให้เขาไปพบเจอ! ดังนั้นแล้วเกมนี้ยิ่งเลเวลเพิ่มขึ้นก็เท่ากับยิ่งยากมากขึ้นนั่นเอง
“แล้วก็ ถ้าเลเวลของเราเพิ่มขึ้นเราก็ต้องเจอผู้เล่นอื่นที่แข็งแกร่งด้วย ก็เหมือนกับชายสีแดง เบรด หรือว่าเรเดียน ตอนนั้นเราไม่ทันได้ใช้ทุกอย่างที่มี เพราะต้องเขย่าหม้อไปด้วยและใช้ดาบได้แค่มือเดียว แต่เราก็ไม่ได้มีความมั่นใจเลยว่าจะชนะพวกเขาได้ต่อให้สู้โดยเต็มกําลังก็ตาม โดยเฉพาะถ้าเรเดียนลงมาร่วมด้วยยิ่งแย่ ไม่ว่าจะเลเวลหรือทักษะก็ดี เราต้องเพิ่มพูนพื้นฐานด้วย”
สิ่งสําคัญคือเตรียมพร้อมรับศึกในอนาคต! กระทั่งว่าเป็นอดีตนักรบที่เลือกใช้ชีวิตหลังเกษียณก็ต้องไม่ลืมเคี่ยวกรําจิตใจ และนี่ก็คือเกม! มันคือชีวิตของเขาในตอนนี้ ภายในหัวของฮยอนอูมีแต่เรื่องเกมทั้งสิ้น
ถึงเราจะไปทั่วนิวเวิลด์ แต่ร่างจริงของเราก็แค่นั่งอยู่ในเครื่องเกม เราต้องไม่ขาดซ้อมและออกกําลังกายเพื่อคงสภาพร่างกายให้สมบูรณ์เอาไว้ ถ้าตัวเราป่วย แบบนั้นก็จะส่งผลกับเกมด้วย”
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เล็กน้อย ผู้คนที่เอาแต่หมกตัวอยู่กับบ้านเหมือนฮยอนอูไม่น้อยที่เกิดความเกียจคร้านขึ้น อย่างนักเล่นเกมส่วนใหญ่ แล้วจะเป็นพวกอยู่ติดบ้านเอาแต่เล่นเกมแทบไม่ลุกไปไหน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมฮยอนอูต้องออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งและฝึกเทควันโดเพื่อไม่ให้ร่างกายถดถอย การฝึกซ้อมและออกกําลังกายในแต่ละวันจะอยู่ราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เมื่อเสร็จการออกกําลังแล้วฮยอนอูจะกลับมาเปิดคอมพิวเตอร์ตรวจสอบเว็บไซต์ประมูลอีกครั้ง นับว่าการกระทําเหล่านี้เป็นกิจวัตรประจําวันไปแล้วก็ว่าได้
“หือ? เราตาฝาดไปหรือเปล่า?”
ฮยอนอูจ้องมองหน้าจอด้วยสีหน้าสับสนไปพักหนึ่ง
[นี่มันเหลือเชื่อ!]
[ไม่เคยคิดเลยว่าทักษะไถลตัวจะใช้งานแบบนั้นได้)
[ตอนที่ดูวิดีโอนี่ครั้งล่าสุดก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าการเคลื่อนไหว แบบนั้นทําได้ยังไงกัน เป็นออพชั่นของรองเท้านี่เอง วิเศษ วิเศษมาก!!
[แค่เป็นรองเท้าของดาร์ควูล์ฟผู้โด่งดังก็คุ้มค่าจะซื้อแล้ว]
[ต้องซื้อ คนอื่นไสหัวไป]
(อย่ามาพูดให้จํา? คิดว่าตัวเองมีเงินคนเดียวหรือไง]
[ว่าแต่ ถ้าหากคนที่ขายรองเท้านี่กล้าเอามาขาย ไม่ใช่หมายควา มว่าได้ใหม่ที่ดีกว่าไปแล้วหรือไง? น่าอิจฉาชะมัด ถ้าได้รองเท้าแบบ นี้มาไว้สักคู่นะ..]
ช่วงสี่วันที่ผ่านมา รองเท้ามีการเสนอราคาแค่ยี่สิบครั้ง และมีผู้ เข้าร่วมเสนอราคาแค่เจ็ดคนเท่านั้น แต่แล้วตอนนี้ผ่านไปเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่งหลังไปออกกําลังกาย การประมูลดันมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมถึงหนึ่งพันสามร้อยคน และผู้เข้าร่วมประมูลตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นเป็นแปดสิบสี่คนแล้ว ทั้งยังมีการแสดงความคิดเห็นต่อการประมูลสินค้านี้กว่าสี่ร้อยรายการ ไม่ว่าจะกลิ้งเมาส์สักแค่ไหน เขาก็ยังไม่เห็นสุดปลายของการพูดคุยผ่านความคิดเห็นเลย ด้วยเหตุนี้เอง เว็บไซต์ประมูลจึงเกิดความร้อนแรงขึ้น
“สิบสามล้าน? เพิ่มขึ้นหกล้านแปดแสนหลังผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่งเนี่ยนะ?”
ฮยอนอูแทบอ้าปากเหวอปิดไม่มิด กลยุทธ์การโฆษณาโดยเสนอ วิธีใช้งานนับว่าสําเร็จด้วยดี และด้วยเพราะชื่อเสียงของดาร์ควูล์ฟ รองเท้าจิตวิญญาณวายุจึงกลายเป็นประเด็นร้อนแรง
“เหลืออีกสามวันกว่าการประมูลจะจบลง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็…”
เขาแทบจินตนาการไม่ถึงเลยว่าราคามันจะถีบตัวไปถึงขนาดไหน ในตอนแรกนั้นแม้เขาจะคิดแบบโลภยังไงแต่จํานวนเงินที่ผู้คนจะจ่ายได้กับไอเทมเพียงแค่หนึ่งชิ้นย่อมมีจํากัด แม้ว่าจะได้รับความสนใจจํานวนมาก แต่ฮยอนอูเดาว่าราคามันไม่น่าจะเกินกว่าสิบห้าล้านวอนมากนัก ในตอนแรกฮยอนอูเพียงคิดว่าหลายคนที่มามุงก็เพราะเป็นรองเท้าที่ดาร์ควูล์ฟผู้โด่งดังใช้งานต่างหาก แน่นอนว่าฮยอนอูทราบถึงชื่อเสียงของดาร์ควูล์ฟเป็นอย่างดี แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าราคาจะสามารถพุ่งกระโดดได้ถึงขนาดนี้เพียงเพราะว่ามันเป็นของที่ดาร์ควูล์ฟเคยใช้
“เอาเถอะ ถือว่าประสบความสําเร็จแหละนะ”
ฮยอนอูแทบจะเผยดวงตาปรากฏเป็นเหรียญทองสว่างไหววูบขณะมองราคาที่เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น กลยุทธ์การแนบวิดีโอเสนอวิธีใช้งานไอเทมประสบความสําเร็จอย่างงดงาม! และมันจะกลายเป็นกลยุทธ์การนําเสนอขายสินค้าหลังจากนี้ ถ้าหากทําการโฆษณาเช่นเดิมเหมือนครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ไม่น้อยว่าราคาน่าจะถีบตัวสูงขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อย เพราะเหตุนี้เองฮยอนอูจึงได้แนวคิดการโฆษณานําเสนอสินค้าให้ผู้คนสนใจ
“ถ้าเราขายด้วยกลยุทธ์นี้ ราคาที่ได้ย่อมต้องดีกว่าเก่า!?
ฮยอนอูมองไปยังเครื่องเกมด้วยสีหน้าตื่นเต้นอย่างอดไม่อยู่ แต่แล้วขณะที่กําลังจะเข้าเครื่องเกม เขาก็ได้ยินเสียงแม่จากนอกห้อง
“ฮยอนอู มีคนโทรศัพท์มาหา”
“หือ? โทรศัพท์? ทําไมถึงเช้าขนาดนี้กันล่ะ?”
ขณะที่ฮยอนอูกําลังจะรับสาย แม่ของเขาก็บอกด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“อีกฝ่ายบอกว่าเป็นตํารวจ”
“ตํารวจเหรอครับ?”
เมื่อรับสาย เขาก็ได้ยินเสียงที่กระจ่างชัดดังจากปลายสาย
“ฉันเอง”
“ครับ? ใครกัน? เดี๋ยวนะ… อาจารย์เหรอครับ?”