Ark The Legend - ตอนที่ 459 : สวาล่า?
ตอนที่ 459 : สวาล่า?
ขั้นตอนที่ 3 การเจริญเติบโตอยู่ระหว่างดําเนินการ
นี่เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการสร้างเม็ดยาเนโครแมนเซอร์อมตะสิ่งที่เหลือต้องทําในตอนนี้คือปล่อยให้เม็ดยาเจริญเติบโตเพื่อดึงศักยภาพของวัตถุดิบทั้งหมดออกมาอย่าง 100% โปรดทําให้มั่นใจว่าได้ปิดผนึกหม้ออย่างสมบูรณ์ หลีกเลี่ยงการกระทบ แสงแดดเก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง
ขั้นตอนการเจริญเติบโต ระยะเวลาคงเหลือ : 81 ชั่วโมง 37 นาที
“เฮ้อ ดีนะที่ไม่เจอปัญหาอะไร”
อาร์คถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยืนยันข้อมูลผ่านหน้าต่างระบบเรียบร้อยแล้ว
“เราไม่น่าโลภเกินไปเลย…. คิดว่าจะประหยัดเวลาได้อยู่แล้วเชีย
แผนการเดิมของเขาคือการขึ้นเรือโดยสารเพื่อจัดทําเม็ดยาอมตะได้อย่างสบายใจระหว่างการเดินทางไปด้วยในตัวแน่นอนว่าหากเรือโดยสารมาเทียบท่าก็จะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นทว่าทั้งลําเรือต้องประสบพบเจอเหตุการณ์น่าตื่นตะลึงเพราะพวกโจรสลัดเข้ามาขวางทางและยังไม่จบเพียงเท่านั้น เบรดยังปรากฏตัวมาโดยไม่ท ราบว่ามีข้อพิพาทอะไร ท้ายที่สุดเขาต้องแบกรับความเสียหายกับความโชคร้ายเพียงเพราะคิดอยากทําเม็ดยาอมตะโดยประหยัดเวลาการเดินทางไปด้วยเรื่องราวท้ายสุดกลับกลายเป็นเรื่องยากลําบากเกินจะกล่าวอาร์คต้องปกป้องหม้อในมืออย่างสุดชีวิตเรือโจรสลัด ก็โจมตีเบรดก็ไม่รามือทั้งยังต้องขี่ปลาโลมาหนี้เขาต้องคอยเขย่าหม้อระหว่างขี่ปลาโลมาไปด้วยจนกระทั่งขั้นตอนที่หนึ่งเสร็จสิ้น รียบร้อยและตอนที่เขามาถึงชายฝั่งของบริสทาเนียก็เสร็จสิ้นขั้นตอนที่สองอย่างการตกผลึกเมื่อขั้นตอนที่สองเสร็จสิ้นเรียบร้อยดีแล้วขั้นตอนที่สามก็เริ่มต่อเนื่องโดยทันที เวลาที่ต้องใช้สําหรับ กระบวนการเจริญเติบโตคือแปดสิบเอ็ดชั่วโมงด้วยเหตุนี้อาร์คจึงนําหม้อไปฝังไว้ใต้ทรายอย่างไม่มีทางเลือก
“ขั้นตอนเจริญเติบโตเป็นส่วนสําคัญที่สุดเหมือนกันและยังต้องใช้เวลาตั้งแปดสิบเอ็ดชั่วโมง หรือเราต้องฝังมันเอาไว้ที่นี่และรอจนกว่าแปดสิบเอ็ดชั่วโมงจะผ่านไป แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะมีอะไร เกิดขึ้นไหม ถ้าผู้เล่นอื่นมาเจอเข้าล่ะหรือถ้าเจอมอนสเตอร์โผล่มาล่ะ”
“เจ้านาย เจอแล้วขอรับ!”
ถึงตอนนั้นเอง ราคาร์ดที่บินเข้าไปสํารวจปาใกล้เคียงชายหาดกกลับมาอาร์คที่กําลังระแวดระวังราวคนเสียสติถึงกับสะดุ้งจนหม้อสั่นพร้อมกันนั้นหน้าต่างข้อความแจ้งเตือนก็สว่างวูบตรงหน้าโดยทันที
การสั่นไหวของหม้อระหว่างขั้นตอนเจริญเติบโตอาจทําให้เกิดอันตราย!
“อะไรกัน? นายทําฉันตกใจนะ ลงมาแล้วพูดคุยให้มันดีกว่านี้หน่อย!”
อาร์คตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดขณะที่เหงื่อแทบจะไหลท่วมใบหน้าเขาจะไม่ทราบระดับของผลิตภัณฑ์จนกว่าเม็ดยาอมตะจะเสรีจสมบูรณ์เพราะแบบนั้นแล้วเขาจึงต้องระวังทุกฝีก้าวว่าจะไปทํา อะไรให้อัตราการสําเร็จของมันลดน้อยลงหรือไม่จนประสาทแทบตี งเครียดไม่เคยหยุดพักแต่แล้วราคาร์ดกลับกระทําการอย่างเด็กที่ตะโกนไม่รู้เรื่องจนเขาต้องเอ็ดไปรอบ
“ขะ-ข้า? ข้าไม่ได้ตะโกนอย่างไร้เหตุผลนะขอรับ”
“ระวังหน่อย รู้ไหมว่าวัตถุดิบพวกนี้มันยากแค่ไหนกว่าจะรวบรวมมาได้”
“เข้าใจแล้วขอรับ”
“เจอหมู่บ้านแล้ว?”
“ใช่ขอรับ…. ถ้าพวกเราเดินเท้าไปประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านปาจะเจอขอรับ”
“ทําได้ดี นําทางไปเลย เพราะจะมีปัญหาได้ถ้าเจอมอนสเตอร์เข้า”
อาร์คตอนนี้โอบอุ้มหม้อเอาไว้อย่างนุ่มนวลสุดชีวิตในช่วงขั้นตอนการเจริญเติบโต หากมันเกิดการเคลื่อนไหวมากเกินไปก็ต้ องเป็นกังวลว่าอัตราความสําเร็จจะลดน้อยลงหรือไม่ ดังนั้นแล้วปัญ หาเรื่องตรวจสอบเส้นทางว่ามีมอนสเตอร์ระหว่างทางไปหมู่บ้านจึง เป็นประเด็นเคร่งเครียด เพราะแบบนั้นอาร์คจึงส่งราคาร์ดออกไปใช้โหมดดาวเทียมสอดแนมให้ทั่วถึงก่อน โชคดีที่แถวนี้ไม่มีมอนสเตอร์เลเวลสูงและยังไม่ใช่ประเภทที่โจมตีก่อน เพราะกระทั่งว่าเป็นหมาป่าเลเวล 10 ก็เป็นภัยคุกคามต่อหม้อของอาร์คได้ ราคาร์ดบอกว่าเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่เขาต้องคอยหลบเลี่ยง พวกมอนสเตอร์ด้วย เพราะแบบนั้นแล้วจึงต้องใช้เวลาเพิ่มเข้าไปอีกสามสิบนาที
โชคดีที่เราเจอพวกโจรสลัดในช่วงขั้นตอนการผสมถ้าหากเป็นขั้นตอนการเจริญเติบโตล่ะก็…”
เพียงแค่คิดก็ทําเอาเขาหวาดกลัวได้ไม่น้อยแล้ว อะไรก็ดีระหว่างทางเจอหมู่บ้านหนึ่งแห่ง หลังจากเดินผ่านหมู่บ้านไปอีกครึ่งชั่วโมงจึงค่อยถึงสถานที่ที่ราคาร์ดบอก มันใกล้เคียงกับคําว่าเมื่องมากกว่าหมู่บ้าน
“นี่คือเมืองในอาณาจักรบริสทาเนีย?”
เพียงแค่เพิ่งพบเจอเมืองแห่งเดียวก็ทําให้อาร์ครู้สึกได้แล้วว่านี่คืออีกอาณาจักรหนึ่ง ตอนนี้อาร์คมาถึงอาณาจักรบริสทาเนียที่อยู่ทางเหนือของอาณาจักรขอร์เดนเบิร์กแล้ว ด้วยความที่ทางภูมิศาสตร์จะอยู่ทางเหนือของชอร์เดนเบิร์ก บริสทาเนียจึงมีพื้นที่เป็นภูเขาสูงมากกว่าทุ่งหญ้าอย่างชอร์เดนเบิร์กนอกจากนี้ส่วนใหญ่เขายังเป็นหินขรุขระไม่ใช่เขียวชอุ่ม หากให้มารับชมก็นับว่าเป็นภาพที่สวยงามแปลกใหม่แต่ให้มาใช้ชีวิตที่นี่เขาก็คงไม่เอาด้วยอย่างแน่นอนนั่นก็เพราะชื่อของมันนั่นเอง อาณาจักรแห่งเวทมนตร์บริสทาเนียหมายความว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เริ่มเล่นที่นี่เลือกเล่น เป็นนักเวทมากกว่านักรบศาสตร์แห่งเวทมนตร์ที่ก้าวหน้าย่อมต้อง สร้างนักเวทได้มากกว่า อย่างไรแล้วประวัติศาสตร์เบื้องหลังของบริสทาเนียนั้นมีความลึกลับยิ่งกว่าอาณาจักรอื่น อาคารส่วนใหญ่จะสร้างขึ้นโดยมีออร่าเวทมนตร์ประกอบพร้อมรูปลักษณ์ที่เอนเอี ยงไปทางเรขาคณิตเป็นส่วนมากและร้านค้าส่วนใหญ่ก็จะค้าขาย พวกอุปกรณ์เวทมนตร์กระทั่งร้านขายอาวุธยังมีตําราเวทมนตร์หรือคัมภีร์เวทมนตร์ขายทหารยามของหมู่บ้านก็เป็นนักเวท
“ทําได้ดีกลับไปปราสาทของนายได้แล้ว”
เมื่ออาร์คยืนยันได้ว่าเป็นเมือง เขาจึงทําการส่งราคาร์ดกลับไปยังปราสาทแวมไพร์ ในเมืองนี้เขายังมีค่าความสัมพันธ์ต่ําหากประชากรในหมู่บ้านพบเห็นสมุนอัญเชิญของเขาอาจแสดงท่าที่เป็นปฏิปักษ์ได้
“นี่เป็นครั้งแรกที่เรามาเยือนเมืองต่างอาณาจักร ต้องระวังตัวไว้ก่อน
อาร์คเข้าไปในเมืองขณะยังคงถือหม้อเอาไว้
“สวาล่า สวาล่า สวาล่า สวาล่า!”
อย่างกะทันหัน เขาได้ยินคําอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่สามารถเข้าใจความหมาย
“มันแปลว่าอะไรนะ??
อาร์คหันกลับไปอย่างสงสัย เสียงนี้ดังมาจากทางเข้าเมืองซึ่งมีการ์กอยล์หินคอยส่องแสงประหลาดอยู่ ตามปกติสถานที่แบบนั้นในอาณาจักรขอร์เดนเบิร์กย่อมต้องเป็นฝ่ายพลาธิการของเมืองในบริสทาเนียการ์กอยล์ทําหน้าที่บอกทาง และตอนนี้เสียงก็ดังมาจากกลุ่มผู้เล่นที่รวมตัวกันอยู่บริเวณการ์กอยล์ อาร์คจ้องมองผู้ เล่นพวกนั้นด้วยสีหน้าสับสน
“สวาล่า สวาล่า สวาล่า สวาล่า สวาล่า?”
“สวาล่า สวาล่า สวาล่า สวาล่า!”
ไม่ใช่แค่ผู้เล่นคนเดียว แต่ทุกคนล้วนพูดภาษาประหลาดกันทั้งนั้น
“มันคืออะไรกัน? สวาล่า สวาล่า?หรือเป็นคําพูดติดปากยอดนิยม?”
แต่อาร์คไม่มีเวลาไปครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มากนักอาร์คตัดสินใจเดินเข้าไปหาทหารยามที่ทางเข้าเมืองแล้วถาม
“ขอโทษนะครับ เมืองนี้ชื่อว่าอะไร?”
“สวาล่า สวาล่า? สวาล่า สวาล่า?”
ทหารยามยังคงถามด้วยภาษาต่างดาวเหมือนผู้เล่นไม่มีผิดเพี้ยน
“อะไรกัน? เอ็นพีซีพูดแบบนี้ไม่แปลกเกินไปเหรอ? มันเรื่องอะไรเนี่ย?
อาร์คที่ไม่ทราบว่าควรทํายังไงดีจึงเกิดความลังเล ทหารยามกัมเงยมองอยู่พักหนึ่งก็คล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ ไม่ช้าก็ชี้นิ้วไปยังภายในเมืองสถานที่ที่ชี้ไปคือสมาคมเวทมนตร์ที่อยู่ศูนย์กลางของเมืองนั่นเอง
“อะไรนะ? บอกให้เราไปที่นั่นงั้นเหรอ?”
พออาร์คทําท่าทางถามว่าสมาคมเวทมนตร์เหรอ? ทหารยามก็พยักหน้าให้อาร์คเกาตีรษะและเริ่มไปที่หอคอยของสมาคมเวทมนตร์เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยอาคารรูปทรงเรขาคณิตจํานวนมากขณะที่อาณาจักรชอร์เดนเบิร์กเหมือนเมืองในยุคกลางที่นี่ก็เหมือน โลกแฟนตาซีอย่างไรอย่างนั้น อาคารส่วนใหญ่ล้วนแปลกหูแปลกตาทั้งยังมีแสงและเอฟเฟคเวทมนตร์จากนักเวทที่อาศัยอยู่ภาย ในปรากฏให้เห็นทว่ากระทั่งตัวอักษรยังบิดเบี้ยวไม่อาจเข้าใจนอกจากนี้เอ็นพีซีที่เดินไปทั่วเมืองต่างก็พูดภาษาประหลาดกันทั้ง
“นี่พวกเขาโดนคําสาป? หรือเป็นเราที่โดนคําสาปกันแน่??
อาร์คเดินผ่านเมืองไปทั้งที่ยังมีอาการสับสนไม่น้อย ไม่ช้าอาร์คพลันชนเข้ากับเด็กชายคนหนึ่งที่เพิ่งวิ่งออกมาจากตรอกอาร์คที่เดินอยู่โดยถือหม้อจึงต้องเร่งร้อนถอยหลบ
อะไรเนี่ย? หม้อ หม้อเรา!”
อาร์คเร่งร้อนตรวจสอบหม้อ โชคยังดี ร่างของเด็กชายคนนั้นคล้ายคนแคระเพราะแบบนั้นแรงปะทะจึงไม่รุนแรงอะไรมาก
“เฮ้อ โชคดีไป อะไรของเด็กนี่กันเนี่ย?”
เมื่อครู่อาร์ครู้สึกหัวใจแทบวายเหมือนอายุสั้นไปสิบปีขณะจ้องมองเด็กชายแต่อาร์คก็ต้องกล้ํากลืนคําต่อว่าไปเพราะรูปลักษณ์ของ เด็กชาย
“สวาล่า สวาล่า สวาล่า สวาล่า!”
เด็กชายโค้งขออภัยพร้อมส่งเสียงเป็นการใหญ่ เขาไม่อาจเข้าใจว่าหมายถึงอะไร แต่เหมือนว่าเด็กชายกําลังขอโทษ ปัญหาคือเด็กชายดูสภาพไม่ปกติไม่เหมือนกับผู้คนในเมืองที่สวมใส่เสื้อผ้าสวยงามเด็กชายสวมใส่เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งและเสื้อผ้าพวกนั้นก็ชัดเจนว่ามีขนาดที่ไม่เหมาะสมกับเด็กชายเป็นอย่างยิ่งเด็กชายพยายามโค้งศีรษะหลายครั้งก่อนจะเร่งร้อนเก็บไอเทมที่หล่นกับพื้นพวกมันดูเป็นคัมภีร์ที่ไม่ค่อยมีราคาค่างวดสักเท่าไหร่
“เด็กคนนี้
อาร์คถึงกับต้องเผยความกระอักกระอ่วนเมื่อเห็นรูปลักษณ์ของเด็กชาย เด็กชายทําผิดเพราะวิ่งออกมาอย่างปุบปับแต่ว่าความรู้สึกผิดภายในใจของเขามันกลับพวยพุ่งออกมาเพราะชีวิตที่ดูยากลําบากของเด็กชาย
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อาร์คกลายเป็นกระอักกระอ่วนช่วยเก็บไอเทมให้ก่อนจะถามไถ่ออกไปเด็กชายมองด้วยสีหน้าคล้ายไม่เชื่อสิ่งที่เห็นขณะยื่นหนังสือที่รุ่งริ่งให้พร้อมดวงตาเป็นประกาย
“สวาล่า สวาล่า? สวาล่า สวาล่า! สวาล่า สวาล่า!”
“อะไรกัน? หมายถึงอะไรเนี่ย?”
อาร์คไม่เข้าใจคําพูดจึงเงยหน้าพยายามทําความเข้าใจหลังดูอยู่สักพักหนึ่งอาร์คจึงค่อยเดาได้ว่าเด็กชายพยายามจะพูดอะไร
“จะขอให้เราซื้อหนังสือนึ่งั้นเหรอ?”
อาร์คมองหนังสือในมือเด็กชาย มันค่อนข้างรุ่งริ่งและไม่รู้ว่าจะใช้งานอะไรได้บ้าง
1
2
3
“ก็นะ รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน ควรซื้อขั้นสินะ?”
อาร์คมองชีวิตยากลําบากของเด็กชาย เขาพยายามถามราคาหนังสือเด็กชายยิ้มพร้อมเผยมือทั้งสองข้างเต็มสิบนิ้วยกขึ้นลงสองครั้ง
“20 เหรียญเงินงั้นเหรอ? ถ้าขนาดนั้น
แม้ตามปกติแล้วอาร์คจะไม่อยากใช้จ่ายแม้สัก 1 เหรียญทองแดงแต่เขากลับคิดอยากจ่ายเงินจํานวนเท่านั้นให้กับเด็กคนนี้ไม่ใช่ว่าอาร์คก็เคยเป็นเด็กที่ด้อยโอกาสไปครั้งหนึ่งหรอกหรือ?
“แล้วหนังสือนี่ก็ดูไม่มีประโยชน์ด้วยสิ
อาร์คยิ้มขณะนํา 20 เหรียญเงินออกมาให้ เด็กชายเผยสีหน้าว่าไม่ใช่และส่ายศีรษะ
หมายถึง 20 เหรียญทองแดงงั้นเหรอ? นั่นสินะ ก็ว่าอยู่กับหนังสือรุ่งริงทําไมราคาตั้ง 20 เหรียญเงิน”
อาร์คที่ทึกทักว่าเข้าใจผิดจึงนํา 20 เหรียญทองแดงออกมาแต่แล้วเด็กชายก็ต้องถอนหายใจแล้วนําเหรียญทองออกมาให้ดู
“อะไรนะ? เหรียญทอง? บ้าไปแล้ว จะบอกว่า 20 เหรียญทองงั้นเหรอ?”
อาร์คมองเด็กชายอย่างตื่นตะลึง หนังสือขาดรุ่งริ่งราคา 20 เหรียญทอง? นี่รายการล้อกันเล่น? ไม่ว่าอาร์คจะเวทนาเด็กชายมากเพียงใดเขาไม่มีทางซื้อหนังสือที่ไม่รู้ว่าคืออะไรในราคา 20 เหรียญทองแน่
ไม่สิ เด็กคนนี้รู้ว่าเรารู้สึกผิด? ก็เลยเรียกราคาหนังสือนั่น 20 เหรียญทอง? หรือบางที. เด็กนี่อาจแสดงให้ดูน่าสงสารเพื่อซื้อใจเรา?”
“ไม่เอาแล้ว!”
อาร์คตะโกนเสียงดังก่อนจะสายศีรษะให้ไหล่ของเด็กชายพลันห่อเหี่ยวพร้อมใบหน้าที่สูญเสียความสดใสไป ด้วยสภาพที่ ก้มหน้าคอตกเด็กชายก็หายกลับเข้าไปในตรอก
“ชิ อะไรกัน? ไม่เห็นจะมีเหตุผลเอาซะเลย”
แม้เขาจะรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่อาร์คก็ยังคงเลือกส่ายศีรษะ
“ไม่สิ เด็กนั่นอาจเตรียมโผล่พรวดมาอยู่ก่อนแล้ว แถมอาจจะคิดว่าเราต้องใจดีจนยอมซื้อหนังสือราคา 20 เหรียญทองเอาเถอะไปที่สมาคมเวทมนตร์ก่อนดีกว่า”
อาร์คผลักประตูทั้งที่ยังมีความรู้สึกไม่สบายใจปะปนอยู่และเข้ามาภายในหอคอยสมาคมเวทมนตร์ จากนั้น คนจากสมาคมเวทมนตร์ก็เข้ามาต้อนรับพร้อมรอยยิ้ม
“สวาล่า สวาล่า! สวาล่า สวาล่า?”
ดังคาด เขาก็ยังคงไม่เข้าใจเหมือนเดิม
“คือ…. คือว่า…”
พออาร์คพูดติดอ่าง นักเวทคนนั้นก็กลับหัวเราะแล้วพูดขี้นอีกครั้ง
“อา ท่านคงเป็นนักผจญภัยจากอาณาจักรขอร์เดนเบิร์กนั้นสินะ!”