Ark The Legend - ตอนที่ 359 : หน่วยรบพิเศษ (4)
ตอนที่ 359 : หน่วยรบพิเศษ (4)
“จริงเหรอเนี่ย พลังโจมตีพวกเราน้อยเกินไป”
อาร์คพร่ำบ่นออกมาขณะหลบเลี่ยงการโจมตีสวนกลับของดราเค็นไปด้วย ตามปกติแล้วการโจมตีของพวกเขาสมควรทะลวงผ่านดราเค็นกลุ่มนี้ได้ แต่กลุ่มของอาร์คตอนนี้เกิดอาการอ่อนแรงเพราะอากาศร้อนจนทําให้ไม่อยู่ในสภาวะกําลังสูงสุด มันไม่ใช่เรื่องของค่าสถานะและพลังโจมตีที่ลดน้อยลง ทุกลมหายใจที่เขาเหวี่ยงดาบออกไปมันจะต้องสูด เอาอากาศร้อนอบอ้าวไม่ต่างกับซาวน่าเข้าไป และปัญหากยังไม่ได้จบแค่นี้
“อั่ก เล็งไม่ได้”
“ควบคุมปลากระเบนกับสู้ไปด้วยไม่ได้…”
ไม่เหมือนกับอาร์ค แชมบาร่าและกลุ่มทัณฑ์บนต่างไม่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กลางอากาศ มันแทบต้องทําให้พวกเขาฝืนอย่างสุดความสามารถเพื่อทําให้ปลากระเบนที่โดนดราเค็นคุกคามสงบลงได้ อีกทั้งการเล็งปืนใหญ่ยังไม่อาจกระทําขณะปลากระเบนกําลังบินอยู่ นอกจากนี้ดราเค็นปาตรงหน้าต่างมีเลเวลค่อนข้างสูงกว่าคณะของอาร์คพอสมควร
“ว้าก อั่ก!”
ท้ายที่สุด นักรบบารันสองคนร่วงหล่นลงสู่ลาวาเพราะดราเค็นเข้าโจมตี จากนั้นไม่นานนัก นักรบบารันอีกคนก็โดนดราเค็นกัดเข้าจนเสียชีวิต นักรบบารันตอนนี้ต่างขวัญหนีเพราะภาพฉากอันน่าสะพรึง
“ดราเค็นเยอะขนาดนี้สู้ต่อไม่ไหวแล้ว ต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
“ช่วยไม่ได้ละนะ แชมบาร่า พวกพี่ชายช่วยรวมดราเค็น ไว้ที่เดียวกันด้วย!”
อาร์คตะโกนขณะนําเอาดาบเล่มหนึ่งออกจากกระเป๋า
“ขะ-เข้าใจแล้ว อีก!”
สมาชิกกลุ่มทัณฑ์บนพยายามหลบเลี่ยงการโจมตีของดราเค็นจนบินฉวัดเฉวียนไปมาทั่วพื้นที่ไม่ช้าดราเห็นก็เริ่มอยู่เป็นแถวเป็นแนว ขณะนั้นอาร์คพลันโยนดาบออกไปเหนือพวกมัน และดาบเล่มดังกล่าวได้ระเบิดออกอย่างกะทันหัน
“ คมดาบวายุ!”
ครืน ครืน!
ลมพายุอันรุนแรงที่ประกอบไปด้วยเศษดาบมากมายกําลังโหมกระหน่ำเข้าใส่! ดราเค็นโดนแรงพัดของพายุ เข้าสะกดข่มจนเริ่มโรยรา ขณะที่เขาคิดว่าพวกมันกําลังจะ หล่นสู่ลาวานั้นเอง ดราเค็นกลับรักษาสมดุลร่างเอาไว้ได้ขณะบินขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทว่าครั้งนี้การเคลื่อนไหวของดราเค็นสามารถสกัดเอาไว้ได้เพราะผลพวงจากคมดาบวายุ
“ตอนนี้แหละ! นําหน้าไปเลย พวกเราต้องไปให้ถึงทางออก!”
นักรบบารันและกลุ่มของอาร์คเร่งร้อนพุ่งผ่านถ้ำไปด้วยความเร็วสูงสุด
คว๊าก!
เสียงร้องเกรี้ยวกราดของดราเค็นดังไล่หลังมา พวกมันกรีดร้องอย่างดุร้ายจนทําเอาแทบรู้สึกว่าดราเค็นอยู่เพียงด้านหลังเท่านั้น แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแม้แต่จะหันกลับ คณะ ของอาร์คพุ่งตรงอย่างเดียวราวกําลังแข่งขันหนีความตายออกจากถ้ํา และขณะที่พวกเขากําลังผ่านทางเลี้ยวที่น่าจะเป็นจุดสิ้นสุด
“พวกเราใกล้ถึงแล้ว! ทางออกอยู่ข้างหน้านี้แล้ว…เฮือก!”
นักรบบารันที่ออกนําไปก่อนถึงกับร่ำร้องออกมาก่อนจะกระชากบังเหียนอย่างกะทันหันให้หยุด พวกเขาตอนนี้ต่างจ้องมองเส้นทางด้านหน้าด้วยท่าทีสิ้นหวัง
“ไม่จริง!”
ทางออกที่นักรบบารันกล่าวถึง ตอนนี้มันไม่ใช่ ทางออกอีกต่อไป
ครึก ครึก ครึก!
ลาวาจํานวนมหาศาลไหลหลั่งจากด้านบนเพดานราวน้ำตกอยู่ตรงหน้าทางออก กระทั่งว่ามีภูมิต้านทานธาตุไฟ 75% อาร์คก็ต้องรับความเสียหายมหาศาลหากโดนลาวาสักหนึ่งหยด แชมบาร่าและกลุ่มทัณฑ์บนหากแตะต้องพวกมัน เข้าร่างกายคงเหลือเพียงแค่กระดูก
“ให้มันได้อย่างนี้สิ!”
“อาร์ค ดราเค็น!”
เขาหันกลับไปตามคําเตือนของแชมบาร่า ดราเค็นตอนนี้ กําลังโผล่พ้นหัวมุมมาแล้ว แต่ตอนนี้ดราเค็นกลับไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ถ้าหากพวกเขาตั้งใจให้ดีทุ่มเทพละกําลังก็เป็น ไปได้ว่าจะสามารถจัดการดราเค็นได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากทางออกถูกปิดกั้นเอาไว้รับมือดราเค็นไปก็ไร้ความหมาย
“อีกไม่นานก็จะเย็นแล้ว พระจันทร์จะเต็มดวงอยู่แค่สี่ชั่วโมงเท่านั้น เราไม่มีเวลามากพอจะหันกลับเพื่อหาทางอื่นแล้ว
หากย้อนกลับออกจากหุบเขาแห่งเขี้ยวพวกเขาก็จะไม่มี เวลามากพอไปถึงอาเกรอนทันช่วงพระจันทร์เต็มดวง เวลาสําหรับปฏิบัติการครั้งนี้มีจํากัดจนถึงแค่ตอนพระจันทร์ลาลับเท่านั้น แถมก่อนหน้านั้นพวกเขายังต้องหาทางเล็ดรอดผ่านศูนย์บัญชาการของเผ่านาคูจักให้ได้ก่อนด้วย
“ซวยอะไรขนาดนี้ ถ้ารู้แต่แรกเราควรเริ่มปฏิบัติการให้เร็วกว่านี้
อาร์คหลบหลีกการโจมตีของดราเค็นไปด้วยขณะกัดฟัน ตนเองแน่นไปด้วยหนทางเดียวที่จะเข้าถึงอาเกรอนตอนนี้ ได้คือทางออกตรงหน้า
มันพอจะมีวิธีเพื่อผ่านน้ำตกลาวานี้หรือเปล่า?”
แต่ไม่ว่าเขาจะคิดเท่าไหร่ก็ไม่อาจนึกออกบางทีเขา อาจจะต้องใช้ร่มโลหะที่มีภูมิต้านทานธาตุไฟ 1000% เลยที่เดียว…
แต่คล้ายฉับพลันเขากลับนึกอะไรขึ้นมาได้
ร่มงั้นเหรอ? บางที… ไม่สิ มีร่มอยู่นี่นา!”
“แชมบาร่า!”
อาร์คเร่งร้อนเข้าถึงตัวแชมบาร่าขณะเริ่มอธิบายสิ่งที่คิดไว้ออกมา จังหวะช่วงเวลานี้แทบไม่มีอะไรให้เสียแล้ว คนเดียวที่พอจะประสานกับเขาในจังหวะที่เหมาะสมได้มีเพียงแค่แชมบาร่าเท่านั้น เรื่องนี้อาร์คมั่นใจตั้งแต่ได้สู้ร่วมกันที่อีวิลซิลริออนอารีน่า ดวงตาของแชมบาร่าทอประกายเมื่อรับ ฟังแผนการของอาร์คก่อนพยักหน้าให้อย่างรวดเร็ว
“ทํานะได้ นายมั่นใจหรือเปล่า?”
“ไม่มีทางเลือกแล้วนี่นะ”
“ได้ ฉันเชื่อนายก็แล้วกัน”
แชมบาร่าจับบังเหียนแน่นก่อนที่จะไต่ขึ้นไปบนเพดาน
“ที่เหลือให้รักษาแนวป้องกันเอาไว้ที่นี่ อดทนเข้าไว้เ”
“ขะ-เข้าใจแล้ว ไม่ชอบสู้กลางอากาศแบบนี้เลยจริง ๆ
สมาชิกกลุ่มทัณฑ์บนและนักรบบารันต่างเริ่มบินหลบไป ทั่วพร้อมเสียงร้องดังไม่ขาดสาย โชคยังดีที่หนึ่งในทักษะของลาริเอ็ตเต้คือ ‘สมดุลแห่งวิญญาณ’ เมื่อทักษะถูกใช้งาน บุคคลที่ได้รับผลจะช่วยให้มาตรความแม่นยําเล็งเป้าได้ง่ายขึ้น ต่อให้นั่งอยู่บนรถไฟเหาะก็ตาม เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของพวกดราเค็นไปได้ จนเป็นผลให้ทั้งดราเค็นและนักรบบารันสามารถต่อสู้กันได้อย่างทัดเทียม การที่นักรบบารันสองคนเสียชีวิตไปนั้น ไม่ใช่เพราะพวกเขาขาดพละกําลัง แต่เป็นเพราะหน้าที่หลักของพวกเขาคือคุ้มกันสมาชิกกลุ่มทัณฑ์บน
“พวกเราไม่เกี่ยงหากต้องเสียสละ ทั้งเผ่าบารันตอนนี้เป็นตายขึ้นอยู่กับภารกิจครั้งนี้”
ช่างเป็นความภาคภูมิในภาระที่น่านับถือเป็นอย่างยิ่ง แต่มันก็จะยิ่งทําให้อาร์คตึงเครียดมากขึ้นทุกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง หลังจากที่นักรบบารันคนที่ห้าตายตก ในที่สุด แชมบาร่าก็ส่งเสียงเรียกมา
[อาร์ค ฉันพร้อมแล้วนะ! ทางนี้มีที่ว่างพอแล้ว]
[ได้ ตอนนี้รอสัญญาณจากฉัน อย่าลืม จังหวะสําคัญมาก!]
[อย่าได้ห่วง ฉันมั่นใจเรื่องนี้ดี]
“เดดริคถึงคราวนายแล้ว พาพวกดราเค็นนั่นไปใกล้น้ำตกลาวา!”
“เอ่อ ในสายตาเจ้านายเห็นข้าเป็นอะไรหรือขอรับ?”
เดดริคโอดครวญออกมาขณะหลบเลี่ยงกรงเล็บของดราเค็นไปด้วย
“คือคนที่ฉันเชื่อใจและมอบตําแหน่งเบอร์สองให้ยังไงล่ะ! สถานการณ์ตอนนี้ราซาคและราดันไม่อาจช่วยฉันได้”
“เชอะ เข้าใจแล้วขอรับ เฮ้ยไอ้พวกกิ้งก่ายักษ์ แน่จริงก็จับข้าให้ได้สิ!”
เดดริคใช้ทักษะยั่วยุเข้าใส่ดราเค็น พวกมันเริ่มบินไล่หลังเดดริคไปทางน้ำตกลาวา ผ่านไปเพียงชั่วครู่ ดราเค็นก็ไปถึงหน้าน้ำตกลาวาแล้ว!
[ตอนนี้แหละแชมบาร่า]
“ดาบเพชฌฆาต!”
แชมบาร่าใช้งานดาบเพชฌฆาตเข้าใส่บริเวณเพดานโดยทันที จากนั้นหินแหลมคมที่ประดับอยู่บนเพดานก็เริ่มร่วงหล่นลงมาเสียงดังสนั่น
“ตอนนี้แหละ รอ รอ รอ รอ!?
อาร์คเพ่งสมาธิอย่างหนักหน่วงจ้องมองก้อนหินที่ร่วงหล่นลงมา เขาได้เรียนรู้วิธีการจับจังหวะเวลาของวัตถุเคลื่อนไหวผ่านการเรียนเทควันโด อาร์คคาดคํานวณเวลาภายในหัวขณะเริ่มเร่งความเร็วพุ่งเข้าใส่ก้อนหินอย่างเต็มที่ ชั่วขณะที่เขากําลังจะปะทะเข้ากับหินนั้นเอง อาร์คได้ใช้งานสวนกลับฉับพลันออกไป
ครึก ตึง!
ก้อนหินกระเด็นออกจากตัวอาร์คราวลูกธนูที่ถูกยิงออก มันเป็นเหตุผลว่าทําไมอาร์คจึงเร่งเคลื่อนไหวแล้วค่อยใช้งานสวนกลับฉับพลัน หากเขาใช้แรงขณะอยู่กับที่เพื่อผลักหินก้อนใหญ่โดยสวนกลับฉับพลัน มันต้องกระเด็นไปอีกทิศทางเหมือนตามปกติ แน่นอนว่าแรงกระแทกก็ไม่ใช่น้อย อาร์คยังคงเพ่งสมาธิขณะจ้องมองหินก้อนต่อไป เป้าหมายของเขาคือทําให้หินกระเด็นไปกระแทกดราเค็นที่ไล่ตามเดดริค!
ฉีก ตึง ตึง ตึง!
ก้อนหินทะลวงผ่านหน้าอกของดราเค็นจนร่างถูกยึดติด เข้ากับผนังด้านหลังน้ำตกลาวา ดราเค็นตอนนี้ไม่ต่างกับแมลงโดนน้ำร้อนเพราะน้ำตกลาวา! ลาวาตอนนี้ไหลหลั่งผ่านร่างของดราเค็นที่กางปีกออกจนเกิดสภาพคล้ายร่ม ด้วยเหตุนี้ทางออกของอีกฝั่งจึงปรากฏขึ้น ดราเค็นเริ่มพยายามดิ้นรนหลบหนีออกจากผนังถ้ำที่โดนยึดติดเอาไว้แต่ก็ไม่อาจกระทํา นี่คือแผนการที่อาร์คคิดขึ้นมา
“สําเร็จแล้ว ตอนนี้แหละรีบออกไปกันเร็วเข้า!”
“ทางออก!”
กลุ่มทัณฑ์บนและนักรบบารันที่เหลือรอดต่างเร่งร้อนพุ่งผ่านใต้ร่างของดราเค็นไป อาร์ค แชมบาร่า และลาริเอ็ตเต้ก็ผ่านไปถึงทางออกแล้วเช่นเดียวกัน ขณะนั้นเอง พลังชีวิตของดราเค็นก็กําลังลดลงอย่างรวดเร็ว ผิวหนังของมันเริ่มหลอมละลายจากความร้อนอันมหาศาล กระทั่งเป็นดราเค็นที่อาศัยอยู่ใกล้ลาวาได้ยังไม่อาจทานทนต่อลาวาโดยตรง
“เร็วเข้า มันใกล้จะยันไว้ไม่อยู่แล้ว!”
“เข้าใจแล้ว!”
กลุ่มทัณฑ์บนต่างหยุดยิงปืนใหญ่และลูกธนูเข้าใส่ดราเค็น ขณะพุ่งผ่านทางออกไป ช่วงเวลานั้นเอง เสียงกระดูกดราเค็นหล่นกระทบพื้นก็ดังให้ได้ยินและจมหายไปภายในน้ำตกลาวา น้ำตกลาวาตอนนี้เริ่มเข้าขวางเส้นทางอีกครั้งจนทางออกเริ่มหดเล็กแคบ แฮกยอลซาที่กําลังจะเข้าถึง ทางออกถึงกับสบถออกมา
“บ้าฉิบ!”
“แฮกยอลซา!”
“ช่างมัน! ไปไม่ได้แล้ว…ฉันต้องอยู่ที่นี่…ไม่ต้องห่วง…ไปซะ…นักรบบารันกับฉัน…จะกลับไปรอที่ป้อมปราการฮามาน”
“พวกเราต้องขออภัยที่ไม่อาจติดตามต่อ… พวกเราเชื่อ มันในตัวผู้บัญชาการ”
เสียงของแฮกยอลซาและนักรบบารันที่ส่งเสียงอยู่อีกด้าน พลันขาดหายไปเพราะเสียงดังจากน้ำตกลาวา อีกทั้งพวกเขายังโดนล้อมเอาไว้ด้วยฝูงดราเค็นอีกต่างหาก เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะออกไปพ้นจากถ้ำลาวาแห่งนี้และกลับ ไปยังป้อมปราการฮามาน
“ช่วยไม่ได้ พวกเขาช้าเกินไป คิดแบบนี้ก็แล้วกัน”
จักตูกล่าวออกมาขณะส่ายศีรษะให้พร้อมตบไหล่ของอาร์ค ตอนนี้พวกเขาไม่มีวิธีการกลับไปเพื่อช่วยเหลือ แฮกยอลซาและนักรบบารันได้อีกแล้ว อาร์คมองน้ำตกลา วาคล้ายครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับและหันกายกลับ ภารกิจครั้งนี้ของอาร์คมีเดิมพันด้วยโชคชะตาของสมาคมแห่งความมืดและโลกใต้พิภพ เพียงแค่มีคนล้มลงด้านหลังไม่อาจทําให้เขากังวลจนต้องหยุดแผนการครั้งนี้