Ark The Legend - ตอนที่ 367 : เปลี่ยนทิศ
ตอนที่ 367 : เปลี่ยนทิศ
“ไอ้เจ้าวิลกุริม่า ทําได้ดีเลยทีเดียว”
สายตาหนึ่งกําลังมองต้นไม้โลกยูซูเรีย…
ร่างที่ยิ่งใหญ่และเจือจางของนาคูจักคนหนึ่งหัวเราะและพึมพํา
“หลังมันได้กลืนหัวใจแห่งต้นไม้โลกไป มันอหังการขึ้นมาก”
ชายคนนี้เป็นนักรบเผ่านาคูจักนามว่า ‘คูรันก้า’ อันที่จริงประมุขดั้งเดิมของเผ่านาคูจักคือคูรันก้า แต่ช่วงที่เขาไม่อยู่วิลกุริม่าได้กลืนกินหัวใจแห่งต้นไม้โลกพร้อมทั้งฉกฉวยตําแหน่งไป เพราะเหตุนั้นครันก้าจึงโดนลดฐานะลงจากประมุขเป็นผู้พิทักษ์เผ่า อย่างไรแล้วเพราะอดีตนี้คูรันก้าจึง ไม่คิดยื่นมือเข้าช่วยเหลือวิลกุริม่า
“พวกมันทั้งหมดจะเป็นพลังให้ท่าน”
คูรันก้าเอ่ยกับชายที่ยืนข้างกาย เป็นผู้ชายผมสีแดงและ สวมใส่หน้ากากสีขาว! อาร์คได้รับภารกิจระดับตํานานมา บอสของภารกิจเช่นนี้ไม่มีทางโค่นล้มได้โดยง่าย ถูกต้องแล้วเดิมที่สมควรต้องมีคูรันก้าและผู้พิทักษ์เผ่าอีกสิบคนเข้าช่วยเหลือวิลกุริม่าที่อ่อนกําลัง ส่วนสุดท้ายของภารกิจคือต้องต่อสู้กับพวกมันทั้งหมด…นั่นคือในตอนแรกอย่างที่ควรเป็น แต่กลับมีคนผู้หนึ่งเข้าหยุดยั้งและฉกชิงการควบคุมจากเผ่านาคูจักหรือก็คือชายสีแดง เขากําลังพยักหน้ารับและกล่าวตอบ
“ทุกสิ่งอย่างจะเป็นไปตามคําทํานาย”
“หึหึหึ ตอนนี้พวกเรากําลังจะสมปรารถนานานนับหนึ่งร้อยปีของเผ่านาคูจัก โลกใต้พิภพกําลังจะตกอยู่ในมือพวกเราๆ”
คูรันก้ายิ้มด้วยความพึงใจขณะมองไปยังชายสีแดง
“ว่าแต่ทางกลุ่มของจีเวลจะทําเช่นไร? พวกมันยังมีค่าอะไรอีกหรือไม่? สัญญาที่จะมอบพื้นที่ทางใต้ของโลกใต้พิภพให้พวกนั้นจําเป็นต้องรักษา?”
“กิลด์เฮอร์มีสและจีเวลค่อนข้างมีพลังอํานาจในโลกกลางในเมื่อเผ่านาคูจักไม่อาจทําทุกสิ่งอย่างได้ พวกเขาล้วนยังมีค่าอยู่ เรื่องนี้ให้ปล่อยไปตามกระแสน้ํา”
“หากนายท่านว่าเช่นนั้น…”
คูรันก้าคล้ายไม่พึงพอใจแต่ก็ยังโค้งกายรับอย่างมีมารยาท จากนั้นจึงค่อยมองไปยังอาร์คและพึมพําด้วยน้ําเสียงตึงเครียด
“ว่าแต่ ชายคนนั้นคิดทําอะไร?”
อาร์คกําลังเผชิญหน้ากับดอกไม้ขณะถือนิวเคลียสของยูซูเรียไว้ ชายสีแดงพึมพําเล็กน้อยก่อนที่จะผสมผสานเสียงหัวเราะปล่อยออก
“เขาก็แค่คนที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้กอบกู้ ตอนนี้ก็ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ทั้งหมดที่หมอนั่นทําก็เพื่อฟื้นคืนชีพให้ยูซูเรีย จะมีอะไรอื่นให้ทําอีกได้กัน?”
และขณะนั้น ระหว่างที่ชายสีแดงกําลังพูดอยู่นั่นเอง ฉับพลันอาร์คได้นําเอาบางสิ่งออกจากกระเป๋า เขาเริ่มวาดวงเวทโดยใช้ทรายประหลาดเรืองแสงภายในมือ ดวงตาของชายสีแดงนั้นถึงกับเบิกออกกว้างมองภาพตรงหน้าอย่างไม่ เชื่อสายตา
“นะ-นั่นมันผงเคลื่อนย้ายมิติของมากาโร! ไม่มีทาง ไอ้หมอนี่…หยุด เข้าไปหยุดมัน!”
“ขอรับ? ท่านคิดทํา…เฮือก!”
ครันก้าก้มหน้าลงไปมองอย่างโง่งม แต่อาร์คตอนนี้ก็สร้างวงเวทเสร็จพร้อมประตูที่เปิดออก ไม่ช้า อาร์ค แชมบาร่า และลาริเอ็ตเต้ก็กระโจนตัวเข้าใส่ประตูดังกล่าวก่อนจะหายวับไป
“นะ-นี่ บัดซบ! มันเอายูซูเรียไปแล้ว? นี่เรื่องบ้าอะไร…ไม่มีทาง…มันรู้แผนการของเรา? เรื่องแบบนั้น…”
ชายสีแดงไม่อาจสะกดข่มอารมณ์และความสับสนได้ก่อนจะพึมพําออกมา แต่แล้วร่างกายกลับต้องสันสะท้านอย่างฉับพลัน
“มัน… มันคิดฟื้นคืนชีพยซูเรียไปอาณาเขตของเผ่าบารัน! ไม่เคยคิดเลยว่ามันที่ลําบากมาถึงที่นี่จะมีความคิดสับปลับ เช่นนี้ได้ ต้องไปหยุดมันไม่งั้นแผนการได้พังหมดสิ้น เรียกรวมกําลังพล การฟื้นคืนชีพยซูเรียไม่ใช่เรื่องง่าย ยังพอมีเวลาอยู่ จับตัวมันแล้วเก็บกู้หัวใจแห่งยูซูเรียคืนมา!”
“ขอรับ ข้าจะรีบไปรวมพล!”
คูรันก้าเร่งร้อนจากไป
“หึหึหึ ทําไมเราฉลาดแบบนี้กันนะ”
อาร์คยิ้มขณะเดินออกจากประตู อันที่จริงอาร์คคิดจะฟื้นคืนชีพยซูเรียที่อาเกรอนจริง ไม่สิ เขาคิดว่าต้องฟื้นคืนชีพที่นั่นอย่างเดียวต่างหาก แต่เขาพลันพบบางสิ่งขณะตร วจสอบหน้าต่างข้อมูลหัวใจแห่งยูซูเรียคําอธิบายที่ว่า “เงื่อนไขที่จําเป็นต้องครบถ้วนในสถานที่ เพื่อการฟื้นคืนชีพให้ต้นไม้โลก ถ้าหากหัวใจแห่งยูซูเรียรวมเข้ากับดอกไม้ ดั้งเดิมแต่แรกเขาคงไม่มีทางทราบข้อมูลนี้ อีกสิ่งที่ทําให้เขาคิดขึ้นได้ก็เพราะตอนเห็นวิลกิรุม่ากลืนกินหัวใจแห่งยูซูเรีย เข้าไปหรือก็คือ ยูซูเรียสามารถฟื้นคืนชีพในสถานที่ใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นนอกหรือในอาเกรอน ขอแค่มีเงื่อนไขที่ต้องการครบเท่านั้นก็พอไม่ใช่หรือ?
‘แน่นอนว่าต้องจํากัดอยู่ในเงื่อนไขโลกใต้พิภพและจันทร์เต็มดวง แต่ว่า…’
สถานที่ซึ่งต้นไม้โลกให้การค้ําจุนจะได้รับบัพอันมหาศาล โปโป้ที่เป็นเพียงแค่เมล็ดไม่ใช่ว่ามอบผลประโยชน์มหาศาลให้กับหมู่บ้านแลนเซลเช่นกันหรือ? ถ้าหากเขาฟื้นคืนชีพยูซูเรียในอาเกรอน แบบนั้นผลประโยชน์ได้ตกไปอยู่ในมือเผ่านาคูจักกันพอดี
‘จะบ้าหรือยังไง? เพราะอะไรทําไมต้องไปช่วยเผ่านาคูจักด้วยกัน? ยังคงมีเวลาอีกพอสมควรก่อนจันทร์เต็มดวงจะหมดช่วงเวลา ระหว่างนี้เราต้องเตรียมการฟื้นคืนชีพ ซูเรียที่ป้อมปราการฮามาน บางทีเงื่อนไขที่จําเป็นน่าจะมีอยู่ในหน้าต่างข้อมูลเช่นเดียวกัน’
อาร์คเริ่มคาดเดาว่าสิ่งที่ต้องใช้ในการฟื้นคืนชีพต้นไม้โลกมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าย่อมต้องมีดินศักดิ์สิทธิ์ และอาร์คก็ทราบสถานที่ซึ่งมีดินดังกล่าวจํานวนมาก หมู่บ้านแลนเซล…สถานที่ซึ่งโปโป้ถูกปลูกเอาไว้และพื้นที่การเกษตร ทั้งหมดล้วนมีดินศักดิ์สิทธิ์ผสมอยู่ ตอนนี้ปัญหาผลิตผลขาดแคลนของหมู่บ้านแลนเซลคลี่คลายแล้ว มันคงไม่มีปัญหาอะไรหากต้องนําดินศักดิ์สิทธิ์มาใช้ทางนี้สักหน่อย นอกจากนี้แล้วประสิทธิภาพของดินศักดิ์สิทธิ์ยังเพิ่มมากขึ้นเพราะในอดีตอาร์คได้ใช้การเยียวยาปาฏิหาริย์ไป ประสิทธิภาพเหล่านั้นกับการเอาไปปลูกพืชไร่พืชสวนนับว่าเกินเลยไปมาก
‘ถ้าเราฟื้นคืนชีพยซูเรียที่ป้อมปราการฮามาน แบบนั้นแล้วคงได้ผลกําไรชิ้นใหญ่’
ถูกต้อง อาร์คหาได้ตระหนักถึงแผนการซ่อนเร้นของผู้ชายสีแดงแต่อย่างใด เขาเพียงแค่คิดว่าจะทํายังไงถึงช่วยให้ตัวเองได้รับเงินเพิ่มจนนําไปสู่การความคิดที่แตกต่าง
“อา อาร์คเนี้ยว~!”
เมื่ออาร์คปรากกฏตัวกลางหมู่บ้านแลนเซล จาน่าที่กําลังร่ายรําอยู่ก็พุ่งเข้าหาเขาโดยทันที แต่แล้วเมื่อเธอพบเห็นลาริเอ็ตเต้จึงเริ่มกระดิกหู
“อะไรกันเนี้ยว? คราวนี้เป็นหญิงอื่นเหรอเนี้ยว? นายมันคนเจ้าชู้!”
“ไม่เอาน่า ฉันไม่มีเวลาเล่นนะจาน่า!”
อาร์คดันจาน่าให้พ้นทางก่อนวิ่งไปยังจัตุรัส
“เหมียว! ผลักฉันเลยเหรอเนี้ยว? กล้าหาญขนาดนี้แล้ว? อาร์คกลายเป็นคนไม่ดีไปแล้วเหมียว”
จาน่าหรี่ตาลงแคบก่อนกระดิกหางไปมา
“เนี๊ยว เนี๊ยว เนี๊ยว แต่จาน่าก็ไม่รังเกียจแบดบอยหรอกนะเหมียว กลายเป็นน่าสนใจขึ้นอีกเยอะเลยเนี๊ยว~”
ขณะนั้นเอง คล้ายคําพูดของจาน่าไปจุดประกายเหล่าแฟนคลับเข้าให้
‘กระแสแบดบอยกําลังมาแรงหรือยังไงกัน?’
‘ลองเลวบ้างดีไหมนะ?’
อย่างไรแล้วอาร์คหาได้สนใจเรื่องพวกนี้แต่อย่างใด นับจากนี้ทุกวินาทีคือการต่อสู้ เขาจําเป็นต้องฟื้นคืนชีพยซูเรีย ให้ได้ในช่วงที่โลกใต้พิภพยังเป็นจันทร์เต็มดวง เพราะเขาใช้เวลากับที่อาเกรอนไปสมควร ตอนนี้จึงเหลือเวลาอีกเพียงแค่สองชั่วโมงเท่านั้น เขาจําเป็นต้องขนย้ายดินศักดิ์สิทธิ์จํานวนหนึ่งเพื่อเตรียมการฟื้นคืนชีพให้ยูซูเรีย
“คุณลุงกาเลน!”
“โอ้อาร์ครึ? เจ้ามาก็ดี ร้านของเจ้า…”
“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาครับ ได้โปรดเรียกรวมพลเร่งด่วนด้วย!”
“รวมพล? เกิดอะไรขึ้นกัน?”
กาเลนเอ่ยถามขณะอาร์คอธิบายเรื่องราวตอนนี้ในโลกใต้พิภพให้ฟังโดยสรุป
“หมายความว่าโลกใต้พิภพที่พวกโบนาและเด็กพวกนั้น จากมากําลังหาทางกู้คืนงั้นสินะ? เผ่าบารันตอนนี้มีมูลค่ากับบรรดาลูกค้าของหมู่บ้านมากเอาเรื่อง นอกจากนี้ เจ้ายังเป็นเจ้าของดินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ข้าจะกะเกณฑ์ชาวบ้านทั้งหมดให้รวบรวมดินศักดิ์สิทธิ์จากในพื้นที่มา ว่าแต่เจ้าต้องการเท่าไหร่?”
“ปริมาณสองเท่าของจํานวนดินที่ใช้ปลูกโปโป้น่าจะพอครับ”
“นั่นคงต้องใช้พื้นที่สามถึงสี่แปลง ข้าจะไปเตรียมการทันที”
กาเลนเร่งร้อนจากไปขณะเรียกรวมชาวเกษตร อาร์คที่สร้างความประทับใจให้พวกเขาครั้งก่อนหน้านี้ตอนขนย้ายดินศักดิ์สิทธิ์ไว้มาก เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่บ่นกัน แม้สักครึ่งคํา หลังผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง พื้นที่แห่งหนึ่งซึ่งถูกจัดเตรียมไว้ก็เต็มไปด้วยดินศักดิ์สิทธิ์จํานวนที่ต้องการ
“งั้นผมไปก่อนนะครับ”
“ขอเจ้าประสบความสําเร็จ
อาร์คที่เตรียมการเสร็จสิ้นก็เริ่มวาดวงเวทขึ้นอีกครั้ง
‘เดี๋ยวนะ ดินพวกนี้มีหลายเกวียนเลยทีเดียว หมายความว่าเราต้องใช้ผงเคลื่อนย้ายมิติหลายกิโลกรัมเพื่อขนย้าย? ไม่ใช่สิ ไม่สําคัญอีกต่อไปแล้ว พอโลกใต้พิภพกลับคืนสู่โลกกลาง ผงพวกนี้ก็ไม่จําเป็นอีกต่อไป…’
อาร์คตอนนี้ตั้งใจแน่วแน่ขณะเริ่มใช้งานผงที่เหลือเพื่อสร้างประตูขนาดใหญ่ขึ้นที่มุมหนึ่งของหมู่บ้าน จากนั้นเขาจึงเข้าประตูดังกล่าวไปและปรากฏตัวที่ป้อมปราการฮามาน
“อาร์ค เกิดอะไรขึ้น?”
จัสติสแมนและกลุ่มทัณฑ์บนที่เหลือต่างเร่งร้อนเข้ามาถามไถ่เมื่อเขามาถึงป้อมปราการ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ไม่ใช่นายบอกเหรอว่าถ้าทําสําเร็จโลกใต้พิภพจะกลับคืนสู่โลกกลาง?”
“ล้มเหลวงั้นเหรอ?”
“ไม่ครับ แต่กําลังจะเริ่มเดี๋ยวนี้”
อาร์คยิ้มให้ขณะอธิบายสถานการณ์ จากนั้นจัสติสแมนจึงหัวเราะออกและค่อยตบไหล่อาร์ค
“ฮ่าฮ่าฮ่า สมแล้วที่เป็นอาร์ค ในสถานการณ์แบบนั้นใครกันจะคิดเหมือนนายได้? ดี ไม่ต้องพูดกล่าวอะไรแล้ว ไปเรียกรวมพลพวกทหารมา เริ่มงานกันได้เลย!”
“โอ้ พวกเราจะได้เห็นต้นไม้โลกฟื้นคืนชีพที่เมืองแห่งนี้ด้วยตาตัวเองกันเลยหรือ?”
เบซอทิวและเหล่าผู้อาวุโสต่างมองด้วยสายตาปลาบปลื้ม กองทหารชาวบารันที่เพิ่งมาถึงไม่นานก็เริ่มเตรียมขุดถมดินกันแล้ว พวกเขาต้องจัดทําบ่อดินเหมือนกับโปโป้เพื่อปลูกยซูเรียให้หยั่งรากลึก อาร์คตอนนี้กําลังก้มเงยมองจันทร์เต็มดวงไปด้วยระหว่างการดําเนินงานกําลังลื่นไหล ดวงจันทร์ใหญ่มหึมาตอนนี้คล้ายลงมาใกล้จนคล้ายสามารถสัมผัสได้หากไปยืนบนยอดเขา
‘ยังเหลือเวลาอีกสี่สิบนาที น่าจะพอนะ!’
อาร์คเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก แต่แล้วฉับพลันนั้นเองร่างใหญ่สีดําพลันปรากฏขึ้นขวางกลางจันทร์เต็มดวง มันคล้ายกลุ่มนกที่ยิ่งร่อนลงมายิ่งตัวใหญ่ขึ้น อาร์คหรี่ตามองก่อนจะเบิกออกกว้างด้วยความแตกตื่น