Ark The Legend - ตอนที่ 388
“จะบอกว่าไม่มีทางเข้าไปเหรอครับ?”
“หากเป็นเมื่อก่อนก็เป็นไปไม่ได้เลยแหละนะ”
“งั้นตอนนี้เป็นไปได้สินะครับ?”
เบซอทิวเผยอาการกังวลอยู่ชั่วครู่กับคําถามของอาร์คก่อนจะตอบกลับไป
“เจ้าก็รู้ดีว่าจนถึงไม่นานมานี้ซอแทนดาลติดอยู่ในพายุแห่งมิติ เป็นเพราะพายุนั่นทําให้ไม่มีทางไปถึงพื้นที่ภายนอก เช่นนั้นได้อันที่จริงจนกระทั่งถึงตอนนี้สถานที่แห่งนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับสุดขอบโลก แต่เพราะซอแทนดาลปรากฏในโลกกลาง ตอนนี้มันจึงมีสภาพคล้ายเกาะ
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ทางทะเลสินะครับ”
อาร์คเข้าใจคําตอบโดยทันที ถูกต้องแล้ว สถานที่ซึ่งอาร์คจะไปย่อมต้องมีพื้นที่ติดทะเล ถ้าหากเขาไม่อาจข้ามภูเขาไปได้ เขาก็ต้องไปทางทะเลแทน
“กล่าวตามตรง ข้าไม่อยากให้เจ้าไปนัก เหมือนที่กล่าวไว้ พวกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้นเลยสักนิด ที่ทราบก็มีเพียงพวกแวมไพร์ที่น่าหวาดกลัวพร้อมดูดเลือดมนุษย์อาศัยอยู่ที่นั่น”
“ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปนะครับ”
เขาไม่มีทางเลือกอื่นจริง ๆ เป้าหมายของเขาล้วนอยู่ที่นั่น
“เป็นเช่นนั้น…”
“ว่าแต่ พอจะมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับพื้นที่ของพวกอันเดตบ้างไหมครับ?”
“ใช่ สถานที่แห่งนั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักดี ไม่ใช่ก่อนหน้านี้ข้าบอกเจ้าไปแล้วหรือว่าอันเดตเป็นพวกที่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อซอแทนดาล? เป็นเพราะช่องว่างมิติ อันเดตพวกนั้นเลยไปไหนมาไหนได้อิสระโดยมุดไปใต้พื้น ยิ่งนานวันพื้นที่ใต้ดินยิ่งขยายใหญ่มากขึ้นเพราะพายุมิติ แต่อัตราการกัดกร่อนนั่นก็เริ่มลดน้อยลงตั้งแต่ซอแทนดาลปรากฏในโลกกลาง”
เบซอทิวอธิบายออกมาขณะชี้ไปยังจุดหนึ่งบนแผนที่ มันคือสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือสุดขอบของภูเขาอีสต์มูน
“โทษที่ที่กล่าวนอกเรื่องไปหน่อย สถานที่แห่งนี้แหละ ที่พวกอันเดตมักชอบโผล่ออกมาเมืองแห่งคนตาย” มันคือ อาณาเขตของพวกอันเดต ที่นี่เดิมทีนั้นอยู่ใต้ดิน แต่มันก็กลับมาเป็นปกติอยู่บนพื้นดินอีกครั้งหลังซอแทนดาลเป็นปกติ แต่อาณาเขตของพวกอันเดตจะยังไงก็อันตราย
“ขอบคุณครับ ช่วยไว้ได้มากเลย”
ขณะอาร์คกําลังจะลุกขึ้นยืน เบซอทิวพลันเอ่ยปากขึ้น
“รอเดี๋ยว ข้ามีอะไรจะมอบให้เจ้า”
“ครับ? ของขวัญ?”
“ความจริงแล้วข้ากะว่าจะมอบให้ตอนที่กองกําลังอิสระอยู่ครบทุกคน แต่เจ้าดูแล้วไม่ค่อยชอบอะไรเอิกเกริก ข้าเลยจะมอบให้เงียบ ๆ ก็แล้วกัน อีกอย่างพวกเขายังค่อนข้างยุ่งเรื่องสืบสวนสํานักงานท่องเที่ยวโดนโจมตีด้วย ข้าขอกล่าวในตัวแทนเผ่าเลยก็แล้วกัน”
เบซอทิวนําเอากล่องขนาดเล็กออกจากกระเป๋าก่อน เอ่ยคําด้วยน้ําเสียงจริงจัง
“เผ่าบารันได้เรียนรู้หลายสิ่งหลังได้พบกับเจ้า พวกเราคงสูญสิ้นทุกสิ่งอย่างหากไม่ได้เจ้าเข้าช่วยเหลือ เพราะ แบบนั้นพวกผู้อาวุโสจึงเริ่มพูดคุยกันหลังซอแทนดาลปรากฏในโลกกลางว่าพวกเราควรตอบแทนเจ้าอย่างไรดี และนี่ก็เป็นข้อสรุปที่พวกเราหารือกันออกมาได้”
“ครับ?”
“ไม่ใช่ก่อนหน้านี้ข้าบอกไว้หรือ? ผู้ช่วยเหลือเผ่าพันธุ์เราครั้งก่อนคือราลูกัน ดังนั้นแล้วพวกเราจึงจัดทําแหวนแห่งราลูกันเพื่อส่งมอบให้เขา ก็เหมือนดั่งราลูกัน เจ้าก็เป็นผู้กอบกู้ แห่งชาวเรา ดังนั้นแล้วพวกเราจึงจัดทําแหวนแห่งอาร์คขึ้นเพื่อตอบแทน แม้ว่าจะไม่มีภูมิความรู้สอดแทรกดัง เช่นแหวนแห่งราดูกันคงเหลือ แต่พวกผู้อาวุโสก็
หลอมมันขึ้นจากแร่วิเศษเพื่อจัดทําขึ้นมา
กล่องพลันเปิดออกขณะแหวนที่ประดับด้วยอัญมณีห้าสีปรากฏ
แหวนแห่งอาร์ค (ยูนีค ไม่สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนได้)
ประเภท : แหวน
ข้อจํากัดการใช้งาน : เลเวล 200 ขึ้นไป
แหวนที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษโดยผู้อาศัยในโลกใต้พิภพ แด่อาร์คนิมผู้กอบกู้เฒ่าบารัน
แหวนนี้ถูกจัดทําขึ้นโดยการหลอมแร่วิเศษซึ่งถูกส่งต่อมานานยิ่งในบรรดาผู้อาวุโส โชคร้ายที่ภูมิความรู้โบราณของเผ่าบารันสูญหายไป ดังนั้นแล้วพลังอํานาจแท้จริงของแร่ วิเศษจึงไม่อาจเป็นได้อย่างที่ควร ทว่าอัญมณีทั้งห้าที่ประดับไว้ต่างก็มีพลังอํานาจช่วยเสริมความสามารถของร่างกาย ภายในแหวนยังสลักคําว่า ด้วยความเคารพแด่ อาร์ค ผู้กอบกู้แห่งชนเผ่าบารัน
‘ยะ-ยูนิค!’
ดวงตาของอาร์คเบิกออกกว้าง มันเป็นแหวนที่ช่วยเพิ่มทุกค่าสถานะให้กับเขายกเว้นโชค! นอกจากนี้ความสามารถของมันยังนับได้ว่าเป็นไอเทมชั้นเลิศ แม้จะไม่อาจแลกเปลี่ยนหรือขายให้ร้านค้าได้ แต่การมีไอเทมสลักชื่อของตัวเองเช่นนี้ในเกมก็ออกจะเกินคาดคิด
‘โอ้ เป็นเพราะเราไม่ได้รับรางวัลใดจากเผ่าบารันหลังจัดการเผานาคจักและทําให้ซอแทนดาลปรากฏในโลกกลางได้นี่เอง มิน่าทําไมใจเราถึงไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่…’
ตอนนี้เขาได้รับสิ่งตอบแทนจากเผ่าบารันหลังผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวเช่นนี้ก็เคยเกิดขึ้นเหมือนตอนเขาได้รับจากชาวเงือกและชาวเหมียวเช่นกัน
“หวังว่าพี่ชายจะชอบแหวนวงนี้นะครับ”
โบนายิ้มกว้างกล่าวคําออกมาหลังได้เห็นว่าอาร์คบิดสีหน้าดีใจไม่มิด เขาจําได้ดีว่าอาร์คเคยทําแหวนแห่งราลูกันหล่นด้วยซ้ําเพราะตื่นเต้นยินดีมากเกินไป ทว่านี่ก็ไม่ใช่ รางวัลเพียงหนึ่งเดียวที่เขาจะได้รับ
“ท่านผู้แทนอิสซาเบลก็ต้องการพบเจ้าด้วย”
“โห ยังมีอะไรอีกมั้นสินะ?”
อาร์คกระหายที่จะไปหาอิสซาเบลโดยทันที และเมื่อพบตัวอิสซาเบลก็กล่าวขึ้นโดยทันที
“ยินดีต้อนรับอาร์คนิม ดิฉันได้มายังซอแทนดาลทันที่ตั้งแต่พระผู้ช่วยแห่งเราติดต่อมา ทว่าน่าเสียดายที่ตอนนั้นอาร์คนิมล่วงหน้าไปก่อนแล้ว”
อิสซาเบลได้กลายเป็นตัวแทนของซอแทนดาลก็เพราะ อาร์ค แต่ตอนนั้นเขาเร่งร้อนกลับไปกิรันก่อนที่เธอจะมาถึงเพียงไม่นาน
“ทางเราต้องขออภัยที่แคว้นตะวันออกตอนนี้ลง เงินทุนทั้งหมดไปกับการพัฒนา เพราะงั้นจึงไม่อาจส่งมอบ รางวัลให้ท่าน แต่ท่านจะยังคงเป็นที่นับถือและ ถูกจดจําเป็นผู้กอบกู้แห่งชาวเราไปตลอด นอกจากนี้ พวกเราจะช่วยอาร์คนิมเสมอตราบเท่าที่ต้องการนี่ไม่ใช่คําสัญญาในฐานะตัวแทนของซอแทนดาล แต่เป็นในฐานะผู้นําของแคว้นตะวันออก”
อิสซาเบลเมื่อกล่าวคําจบก็ปรากฏขึ้นซึ่งหน้าต่างข้อมูล
ท่านได้รับฉายา ‘ผู้กล้าแห่งซอแทนดาล’ จากผู้แทนอิสซาเบล
ท่านได้ผ่านความยากลําบากมากมายจนกระทั่งสําเร็จภารกิจหลักซึ่งเกี่ยวข้องกับซอแทนดาลโดยตรง ท่านได้เติมเต็มเป้าหมายนานนับของเผ่าบารันที่ต้องการหลบหนีให้พ้นจากเงื้อมมือของเผ่านาคูจัก ทั้งยังช่วยจัดตั้งแคว้นตะวันออก ซอแทนดาลตอนนี้ได้กลับคืนสู่โลกกลางหลังผ่านมาหลายร้อยปี มันเป็นเรื่องยากจะเชื่อที่คนเพียงผู้เดียวสา มารถกระทําความสําเร็จครั้งใหญ่เช่นนี้ได้! แต่ผู้กล้าแท้จริงซึ่งไม่หวั่นเกรงต่อโชคชะตาจนสําเร็จเป้าหมาย
ความดีความชอบของท่านจะถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ของซอแทนดาลตราบนานเท่านาน
ฉายาผู้กล้าแห่งซอแทนดาลเป็นหนึ่งในฉายาลับผู้กล้า
ท่านที่ไม่หวังชื่อเสียง และยังทําประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยไม่ได้หวังต่อชื่อเสียง ‘การแสวงหาความจริง’ นั้นอคุณสมบัติหลักของ ‘วีรบุรุษซ่อนเร้น’ ด้วยเหตุนี้จึงทําให้
ท่านมีโอกาสได้เรียนรู้ทักษะพิเศษเพื่อแลกเปลี่ยนกับชื่อเสียงระดับตํานาน
*ฉายาจากโบนัส ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้น 2
*ความสัมพันธ์กับทุกคนในแคว้นตะวันออกอยู่ในระดับสูงสุด
*ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 50
*เพราะผลของ ‘การแสวงหาความจริง’ เอ็นพีซีกับผู้ซึ่งสืบทอดและถ่ายทอดตํานาน จะสอนท่านถึงเทคนิคพิเศษเพื่อแลกกับค่าชื่อเสียงที่ถูกเก็บงํา ชื่อเสียงของท่านที่ ได้รับจะส่งผลต่อเทคนิคที่จะได้รับการเรียนรู้
‘อะไรกัน ไม่ใช่ไอเทมงั้นเหรอ?’
อาร์คมองหน้าต่างข้อมูลด้วยสีหน้าผิดหวังอยู่บ้าง เขาได้แก้ปัญหาและความปรารถนาของแคว้นตะวันออก ที่ต้องรอมาเนิ่นนานนับร้อยปีแต่กลับได้เพียงแค่ฉายา… แต่เขาก็ได้รับข้อตกลงทางการค้าและความเชื่อใจจากแคว้นตะวันออกมาแล้ว นับว่าเท่าที่ได้มานี้ก็ทําให้เขาพึงพอใจไม่น้อย
‘ว่าแต่ อะไรคือ ‘การแสวงหาความจริง’ กัน?’
ครั้งนี้เขาไม่ได้รับโบนัสจากฉายาอะไรมากมายนักกลับกัน ฉายานั่นได้มอบบางสิ่งอย่างเช่น ‘การแสวงหาความจริง’ ให้กับเขา
‘ถ้าเราพบเจอกับเอ็นพีซีลับ นั่นจะทําให้เราสามารถแลกเปลี่ยนค่าชื่อเสียงกับทักษะลับได้? แล้วมันแตกต่างจากทักษะทั่วไปยังไงกัน? ชื่อเสียงไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับผู้เดินทางแห่งความมืดเลยก็จริง แต่จะหาเอ็นพีซีลับเจอได้ที่ไหนกัน? เอาเถอะ สักวันเราคงต้องได้เจอบ้างแหละ ไว้ถึงตอนนั้นค่อยเรียนทักษะลับก็แล้วกัน’
อาร์คพูดคุยกับอิสซาเบลอยู่อีกพักหนึ่ง จึงได้ทราบจากอิสซาเบลว่า แชมบาร่าตอนนี้ออกไปทําภารกิจรวบรวมเศษ เสี้ยวของสมาคมแห่งความมืดที่กระจัดกระจายกันออกไปทั่วทั้งทวีปอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้มีแคว้นตะวันออกเป็นฐานแล้ว การรวมตัวพวกเขากลับมาจะยิ่งง่ายมากขึ้น
‘ถ้าเรายังช้าอยู่แบบนี้ แชมบาร่าได้เปลี่ยนอาชีพขั้นที่สองก่อนแหง’
อาร์ครู้สึกหน่วงขึ้นมาพอสมควรหลังได้ยินคําของอิสซาเบล พอสนทนากันจบอาร์คก็คล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้
“อา จะว่าไปที่นี่ก็เหมาะดีอยู่นะเนี่ย”
“เหมาะอะไรเหรอคะ?”
“ให้เจ้านี้ได้ใช้เป็นที่พักน่ะครับ”
อาร์คชี้ไปยังราดัน ราดันเป็นสมุนปีศาจของเขา ไม่เหมือนกับเดดริคและราชาคราดันตามปกติแล้วมักจะพันอยู่รอบเอวของเขาเสมอ แต่ราดันอย่างไรก็ต้องการสถานที่ตั้ง ถิ่นฐานในซอแทนดาลหากต้องการฟื้นคืนชีพเผื่อกรณีตายตกไป ดังนั้นแล้วพอร์ตอัญเชิญทั้งสามจึงเป็นสิ่งจําเป็น ในเมื่อเดดริคและราชาคตายไปแล้ว อาร์คจึงจําเป็นต้องไปหาพวกมันโดยตรง แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องหาสถานที่เหมาะสมเพื่อจัดตั้งพอร์ตอัญเชิญเสียก่อน นี่คงจะเป็นปัญหาใหญ่มากหากเกิดอะไรขึ้นแล้วราดันตายไปก่อนจะหาสถานที่เหมาะสมเจอ และไม่ใช่ว่าแคว้นตะวันออกแห่งนี้คือสถานที่ปลอดภัยที่สุดในซอแทนดาลหรือไร? อิสซาเบลยิ้มรับคําอธิบายของอาร์คก่อนพยักหน้ารับ
“งั้นห้องของดิฉันเป็นอย่างไรคะ?”