Ark The Legend - ตอนที่ 389 : แดนแห่งแวมไพร์!
ตอนที่ 389 : แดนแห่งแวมไพร์!
“ห้องของอิสซาเบลเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ มีเพียงแค่ดิฉันเท่านั้นที่ใช้ คนอื่นจะไม่มีทางทราบเรื่องนี้ นอกจากนี้ คงจะดีบ้างถ้าได้พบเจอสัตว์เลี้ยงตัวน้อยน่ารักพวกนี้ ว่ายังไงคะ?”
ซื่อ ซื่อ? ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
ราดันเร่งร้อนพยักหน้าตกปากรับคําอิสซาเบล ตามปกติแล้วหญิงงามมักเกลียดงู ทว่าอิสซาเบลรู้จักกันดีกับอาร์ค และสถานที่ปลอดภัยที่สุดในซอแทนดาลย่อมต้องเป็นห้องของอิสซาเบลที่ตั้งอยู่ในแคว้นตะวันออกโดยมีองครักษ์นับร้อยคุ้มกัน แต่มีเท่านั้นหรือ? แชมบาร่ายังนับเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวของอิสซาเบล แบบนั้นแล้วก็จะกลายเป็นผู้คุ้มกันให้ราดันไปด้วย นับว่าดี และมันจะดีมากหากแชมบาร่าไม่รู้
อาร์คเข้าไปในห้องของอิสซาเบลก่อนจะนําเอาพอร์ตอัญเชิญออกมาวางในตําแหน่งที่เหมาะสม เมื่อเชื่อมต่อด้วยเวทมนตร์ อัญมณีที่ส่วนบนของแท่นจึงเริ่มส่องประ ายพร้อมหน้าต่างข้อความที่ปรากฏ
——–
โปรดเลือกเป้าหมายที่ต้องการลงทะเบียน
——–
“ราดัน”
ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
——–
สัตว์อัญเชิญของอาร์ค “ราดัน” ได้ทําการลงทะเบียนกับพอร์ตอัญเชิญ
หากยกเลิกอัญเชิญสัตว์เลี้ยง พวกมันจะถูกส่งกลับมายังตําแหน่งนี้ และจะมีผลเช่นเดียวกันกรณีสัตว์เลี้ยงตายจะไม่สามารถอัญเชิญได้เป็นระยะเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง หากตายในแว่นแคว้นนี้จะไม่ได้รับบทลงโทษของความตาย แต่หากพอร์ตอัญเชิญถูกทําลาย สัตว์เลี้ยงจะตายและสูญเสียค่าสถานะ 10%
——–
“นอกจากเรื่องเลือกตําแหน่งฟื้นคืนของสัตว์เลี้ยงแล้ว มันก็ไม่มีอะไรต่างจากก่อนหน้า ยกเว้นก็เรื่องค่าใช้จ่าย 700 เหรียญทอง…”
ใครจะทราบกันว่ากับแค่สัตว์อัญเชิญพวกนี้ต้องสูญเสียเงินไปเท่าไหร่?
“ตอนนี้ก็ไปหาอีกสองตัวที่เหลือ”
อย่างไรแล้ว สัตว์อัญเชิญของอาร์คอย่างราดันในตอนนี้ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงของอิสซาเบลไปเรียบร้อย
“ก่อนออกเดินทางต้องไปเตรียมตัวก่อน”
อาร์คออกจากเมืองขณะมุ่งหน้าไปยังพื้นที่การค้า ระหว่างทางที่ผ่านมาเขาเจอร้านกว่าสิบแห่ง ทว่าซอแทนดาลยังประสบปัญหาอยู่จึงค่อนข้างขาดแคลน กว่าครึ่งของร้านค้า ยังไม่เปิดทําการ นอกจากนี้ เหรียญตรายังจําเป็นสําหรับใช้งานร้านค้า เพราะงั้นแล้วพื้นที่การค้าแห่งนี้จึงค่อนข้างว่างเปล่าเสียส่วนมาก อย่างไรแล้วก็มีจุดหนึ่งที่ผู้เล่นไปมาไม่หยุดเช่นกัน
“ขายโพชั่นคุณภาพเลิศและม้วนคัมภีร์หายากเฉพาะทวีปแห่งนี้ ไม่ต้องลังเล ราคาไม่แพง! อยากซื้ออยากหารีบเข้ามาโดยด่วน อีกไม่ช้าจะหมดแล้ว!”
บุคคลที่กําลังยืนอยู่หน้าซุ้มบริเวณถนนและกําลังตะโกน เรียกลูกค้าอยู่ก็คือบุคซิล
“ไงบุคชิล”
“ครับ ยินดีต้อนรับครับ หือ? อาร์คนิม!”
บุคซิลวิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าสุขสันต์ยินดี
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับเนี่ย?”
“เมื่อกี้นี้เอง ค้าขายเป็นยังไงบ้าง?”
“ที่หนี้ ผมคิดอยู่แล้วว่าต้องถาม ธุรกิจที่นี่ดีล้ำเลิศมากเลยครับ โพชั่นพิเศษทั้งหมดถูกจําหน่ายออก ตอนนี้โพชั่นฟื้นฟูและม้วนคัมภีร์ยังพอมีอยู่บ้าง ตอนนี้รายได้จาก การขายทั้งหมดคือ 3,320 เหรียญทอง”
“เยอะกว่าที่คิดไว้อีกนี่?”
“ไม่รู้เหรอครับ? นี่ก็เพราะความสามารถของผมเลยนะ ผมไปทั่วซอแทนดาลเพื่อตรวจสอบว่าที่ไหนมีอะไรน่าขายบ้างจากนั้นก็ค่อยกดราคามาทีละน้อย อุปสงค์กับอุปทานตอนนี้ค่อนข้างสวนทางกัน หลังจากขายสินค้าออกไปกว่า 70% ถึงตอนนั้นก็ค่อยเพิ่มราคาให้กระโดดขึ้นมาอีกขั้นครับ”
“โห หมอนี่ทําได้ดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
อาร์คมองบุคซิลใหม่อีกครั้ง อันที่จริงอาร์คก็คิดอ่านมาบ้างว่าสมควรมีรายรับประมาณ 2,500 เหรียญทองกับไอเทมที่ได้รับจากห้องทดลองของมากาโร เป็นเพราะระบบข้อจํากัดของซอแทนดาลมีเหรียญตรามาเกี่ยวข้องกับการใช้งานร้านค้า เขาจึงสามารถทํากําไรเพิ่มขึ้นจนแตะ 3,000 เหรียญทองมาได้ เพราะบุคซิลทั้งมีหัวการค้า และต้องการให้ส่วนแบ่ง 109% ของตัวเองเพิ่มขึ้น
“นี่หมายความว่าส่วนแบ่งการค้าครั้งนี้ผมต้องได้ 332 เหรียญทองใช่ไหมครับ?”
บุคซิลถูไม้ถูมือไปมาขณะดวงตาเป็นประกาย แน่นอนว่า 10% ต้องเป็น 332 เหรียญทอง แต่ว่า….
“ไม่ 132 เหรียญทองต่างหาก”
“ครับ? วะ-ว่าอะไรนะครับ?”
“ค่าลิขสิทธิ์วิดีโอ”
บุคชิลสะอีกคําไปเพราะเสียงเย็นเยียบของอาร์ค
“อย่าบอกนะว่านายจะคิดไม่ถึงกัน ว่าฉันจะโทรไปถามสถานีโทรทัศน์แล้วได้รายละเอียดมา?”
“เป็นนายได้รับค่าสิทธิ์ในวิดีโอนั่นสองล้านวอนหรือไม่จริง?”
บุคชิลเริ่มเหงื่อแตกพลั่กขณะพยายามจะกล่าวอะไรสักอย่าง ถูกต้อง อาร์คได้โทรไปถามสถานีโทรทัศน์โดยทันที่ตั้งแต่ถึงบ้านหลังแยกจากโฮมย็องฮวัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์ ดังนั้นแล้วอาร์คจึงติดต่อผ่านโฮมย็องฮวันอีกทีเพื่อรับทราบถึงจํานวนเงินที่ได้รับ ทั้งสิ้นคือสองล้านวอน ดังนั้นแล้วสองล้านวอนนั้นต้องถูกหักออกจาก 332 เหรียญทอง บุคซิลร่างสั่นขณะเท้า เริ่มอยู่ไม่ติดพื้นก่อนจะเอ่ยคําออกมาได้
“ตะ-แต่ผมคือคนที่ถ่ายวิดีโอพวกนั้น ต้องได้ส่วนแบ่งจากสองล้านบ้างสิครับ…”
“ว่าอะไรนะ?”
พอได้ยินเสียงบุคซิลก็แทบจะวิ่งหนีไปเสียให้ได้
“อันที่จริงฉันไม่คิดหน้าด้านเอา ทั้งหมดสองล้านวอนหรอก ไม่สิ กล่าวตามตรงค่าลิขสิทธิ์นั้นฉันไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ แต่นั่นมันเป็นกรณีที่นายบอกกับฉันก่อน ไม่ใช่ให้ฉันมารู้ความจริงทีหลัง”
แน่นอนว่าโกหก ถ้าหากอีกฝ่ายบอก อาร์คย่อมต้องเจรจาต่อรองกับสถานีโทรทัศน์เองด้วยซ้ําเพื่อได้รับเงินเพิ่ม เพราะอย่างไรมันก็คือสินค้าที่อีกฝ่ายต้องการ หมายความว่ายอมต้องทําเงินได้ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเผยให้บุคซิลทราบแต่อย่างใด
“แล้วที่นายทําคืออะไร? ไม่บอกกับฉันแม้สักคํา นายคิดว่าฉันจะไม่รู้ที่หลังงั้นสินะ? ฉันเชื่อใจนายนะ ฉันคิดว่านายเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แต่นายกลับหักหลังฉันกับเงิน แค่สองล้านวอน เข้าใจความรู้สึกฉันหรือเปล่า?”
อาร์คสร้างความเงียบจนทําให้บุคซิลเกิดอาการกระอักกระอ่วนมากขึ้น
“ผมต้องขออภัยจริง ๆ ครับ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย ทั้งที่อาร์คนิมคิดกับผมแบบนั้น แต่ผมก็ยัง…”
“เงียบ! ฉันไม่ให้อภัยนาย! นายคิดว่าฉันต้องเสียใจถึงขนาดไหนกัน? เพราะแบบนี้ฉันถึงไม่อยากเชื่อใจใคร! สองล้านวอนงั้นสิ? พูดตามตรงนะ นายจะเอา 332 เหรียญทองไปก็ได้แล้วไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก”
“อีก มะ-ไม่นะครับ มันเป็นเพราะผมซื้อสินค้าให้มาส่งที่บ้านมากเกินไปก็เลยต้องการเงินมาใช้สอย ได้โปรดให้อภัยผมด้วยเถอะครับ! ฮือ ผมสัญญาว่าจะไม่ทําอีก ผมจะไม่ทําโดยไม่ขออนุญาตอาร์คนิมในอนาคตอีกแน่นอนครับ ได้โปรดเชื่อผมเถอะครับ!”
“อนาคต?”
อาร์คพลันเปลี่ยนท่าที่ไปขณะพูดออกมาเสียงเบา
“งั้นหลังจากนี้นายจะถ่ายวิดีโอของฉันต่องั้นเหรอ?”
“ครับ ครับ ครับ ผมจะทําทุกอย่างที่อาร์คนิมต้องการเลย วิดีโอ เอ๋? ครับ? วิดีโอ?”
ท้ายที่สุดบุคซิลจึงตระหนักได้ว่ามีอะไรผิดแผก ทว่าอาร์คได้กลบเกลื่อนไปขณะกล่าวต่อ
“ได้ งั้นครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้นาย”
“ดะ-เดี่ยวครับ ถ่ายวิดีโอนั้นเหรอครับ?”
“ก็มีหลายเรื่องเกิดขึ้นอยู่นะ ฉันต้องการถ่ายวิดีโอนับตั้งแต่นี้ นายก็จะทํางานตําแหน่งนี้นับตั้งแต่นี้ด้วยถูกไหม? ต้องขอบคุณนายมากเลย ฉันเลือกจ้างนายนั่นแหละ ถือว่าเป็นตากล้องส่วนตัวเลยแล้วกันตกลงนะ”
“เดี๋ยวก่อนสิครับ นี่พูดถึงเรื่องอะไรอยู่กันครับเนี่ย?”
“อา ไม่ต้องกังวลไป ฉันไม่ใช่คนใจร้ายใจดําอะไร ฉันจะให้เงินเดือนนาย 50 เหรียญทอง คิดว่าไง? ดีไปเลยใช่ไหมล่ะ?”
ความจริงแล้วนี่คือสิ่งที่อาร์คหวังไว้แต่แรก วิธีการทดสอบเข้าทํางานเกิดความเปลี่ยนแปลง เขาจําเป็นต้องถ่ายวิดีโออย่างสม่ําเสมอนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ทว่า มันจะเป็นเรื่องยากหากต้องให้อาร์คถือกล้องไปด้วยต่อสู้ไปด้วยพร้อมกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาจึงเข้าหาบุคซิล บุคซิลเข้าใจดีว่าอาร์คต้องการเก็บซ่อนตัวตนเอาไว้จึงสามารถรับหน้าที่นี้ได้ อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นพิเศษเป็นกระเป๋าเสริม เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว! แต่สิ่งที่เขาเห็นว่า มีประโยชน์แท้จริงคือกระเปาเสริมนี่แหละ เขาจะได้พาบุคซิลไปไหนมาไหนด้วยทั้งมีตากล้องและกระเป๋าไปพร้อมกัน นับว่าวิเศษไม่น้อยเลยทีเดียว
“หมอนี้ได้รับสองล้านวอนจากลิขสิทธิ์วิดีโอ ถ้าเราได้หมอนี่มาถ่ายวิดีโอให้ฟรีและมีกระเป๋าเสริม ห้าแสนวอนต่อเดือนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
ปัญหาอยู่ที่บุคซิลแล้ว พ่อค้าคนหนึ่งกําลังจะมีโอกาสได้รับเงินก้อนใหญ่ แต่แล้วต้องติดสอยห้อยตามอาร์คไปตลอด แต่ตอนนี้เหตุผลไม่อาจยกอ้างได้ ดังคาด ร่างของบุคชิลแข็งเป็นหินไปแล้วเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“ตะ-แต่ผมมีแผนการของตัวเองแล้ว…”
“งั้นเหรอ? ก็ช่วยไม่ได้นะ”
“ไม่เอาแล้วเหรอครับ?”
“ก็นะ ฉันไม่ชอบบังคับคนที่ไม่เต็มใจ”
บุคซิลถอนหายใจอย่างโล่งอกกับคําตอบของอาร์ค ขณะนั้นเอง อาร์คเริ่มพึมพําสิ่งที่คิดออกมาเป็นเสียงค่อนข้างดัง
“แต่ว่านะ เหมือนจะได้ยินอะไรมาสักอย่าง น่าจะเกี่ยวข้องกับสิทธิ์การเผยแพร่ตัวละครในเกม…”
“ครับ? สิทธิ์การเผยแพร่?”
“ยกตัวอย่าง ถ้าหากมีใครบางคนเอาสิทธิ์ในวิดีโอไปขาย โดยไม่ถามไถ่ตัวละครในวิดีโอดังกล่าว บุคคลในวิดีโอสามารถร้องเรียนได้ละมั้งถ้าจําไม่ผิด? แบบนั้นแล้วจะยังออกอากาศได้เหรอ? สถานีโทรทัศน์คงต้องระงับการออกอากาศแล้วมาเรียกค่าปรับชดใช้กับคนที่ขายโดยไม่ดูตาม้าตาเรือแหละนะ”
“อะ-อะไรกัน?”
“ถ้าจําไม่ผิดค่าปรับน่าจะเป็นสิบเท่าของค่าสิทธิ์ที่ทางสถานีโทรทัศน์จ่ายเพื่อซื้อนะ สิบเท่าของสองล้านวอน ยี่สิบล้านวอนละมั้ง? โห! ไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย นายจะมีเงินจ่ายหรือเปล่า? โอ้ จริงสินายเพิ่งบอกว่าใช้เงินไปแล้วนี่นะ? อะไรกัน? ตัวสั่นทําไม? ฉันแค่ยกตัวอย่างให้ฟังเองนะ ว่าอะไร? ร้องให้ทําอะไรของนายเนี่ย? ฉันก็แค่พูดลอย ๆ นายคิดเหรอว่าฉันจะทําแบบนั้นจริง? แค่เรื่องวิดีโอเนี่ยนะ…”
“ให้ผมทําเถอะครับ! ได้โปรดให้ผมรับงานนี้ด้วย!”
“อะไรนะ? จริงเหรอ? กะไว้อยู่แล้วว่านายต้องรับ ก็ดี ถ้านายอยากทําฉันก็ไม่ห้ามอะไร งั้นก็มาพูดถึงเรื่องเงินค่าจ้างกัน เราจะทําสัญญาเงินเดือน 50 เหรียญทองเป็นระยะเวลาหกเดือน ตอนนี้ก็จ่ายค่าจ้างไปเลย 50 เหรียญทอง รวมเข้ากับ 132 เหรียญทองก็เป็น 182 เหรียญทอง!”
อาร์คเผยท่าทางแสร้งเป็นคนใจดีอย่างเต็มที่ส่งมอบ 182 เหรียญทองออกไปให้ อันที่จริงมันเกิดขึ้นจากเงินส่วนแบ่ง 332 เหรียญทองที่อาร์คหักค่าสิทธิ์การออกอากาศ 200 เหรียญทอง จากนั้นจึงค่อยเพิ่มค่าจ้างเข้าไป 50 เหรียญทอง จนกลายเป็น 182 เหรียญทอง
“เราหนีไม่พ้นแล้ว ไม่ใช่แค่หกเดือน แต่มันเป็นทั้งชีวิตการเล่นเกมของเรา…
นั่นคือสิ่งที่บุคชิลรู้สึกขณะรับเอา 182 เหรียญทองจาก อาร์คมา
“เอาล่ะ พวกเราก็ออกเดินทางกันได้เลย”
อาร์คมุ่งหน้าไปยังชายหาดทันทีโดยมีบุคซิลที่มีดมนตามมาด้านหลัง ตอนนี้เป้าหมายของเขาคือ “แดนแห่งแวมไพร์” และ “เมืองแห่งคนตาย” เขาเลือกเป้าหมายแรกคือแดนแห่งแวมไพร์ซึ่งมีชิ้นส่วนสุดท้ายของสามสิ่งมหัศจรรย์ก่อนเป็นที่แรก ปัญหาคือเขาสามารถไปได้แค่ทางทะเลเท่านั้น ทว่า ตอนนี้มันไม่มีเรือพาณิชย์หรือว่าเรือข้ามฟากไปยังสถานที่ที่เขาต้องการไป
“หรือเราต้องจ่ายค่าจ้างพิเศษให้เรือพ่อค้ากัน?
แต่เรื่องราวไม่ง่ายนัก กระทั่งเป็นเรือลําเล็กสําหรับสองคนยังต้องใช้จ่ายเงินถึง 200-300 เหรียญทอง และอีกไม่นานที่จะถึงนี้ก็จะครบกําหนดต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ดัง นั้นแล้วตอนนี้เขาจึงไม่อาจใช้จ่ายเงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้
“ไม่อยากจะเชื่อเลย จะให้เอาเกล็ดเงือก ไว้ในปากแล้วเดินข้ามผ่านมหาสมุทรก็ใช่ที่… เดี๋ยวนะ?”
เหมือนมีอะไรที่เขาได้รับเนิ่นนานมาแล้วจนลืมเลือน เป็นไอเทมชิ้นหนึ่ง
ให้ตายสิ ทําไมเราไม่เคยนึกถึงเลยกันนะ?”
“ราดัน ขอฟรุตแห่งชาวเงือก!”
ซื่อ ซื่อ!
ราดันพ่นฟรุตขนาดเล็กออกมา
หากเขาต้องเดินทางในทะเล เขาสามารถเรียกปลาโลมา ผ่านทางฟรุตแห่งชาวเลือกได้ ตั้งแต่ได้รับมาเขาก็ไม่เคยมีเหตุให้ต้องเดินทางในทะเลอีกเลยจนทําให้ลืมเลือนไป ถ้าเขาจําได้แต่แรกคงไม่ต้องไปจ่ายค่าโดยสารเรือขนส่งข้ามฟาก ระหว่างทวีปมาซอแทนดาลแน่
โชคดีนะที่บนเรือเราทํากําไรมาได้บ้าง… ที่เสียไปแล้วก็ให้มันแล้วไป หลังจากนี้ต้องไม่หลงลืมอีกอย่างเด็ดขาด
อาร์คเดินเข้าไปใกล้หาดทรายก่อนจะเริ่มเปาฟรุต จากทะเลที่เงียบสงบพลันเกิดคลื่นพร้อมเสียงปลาโลมาให้ได้ยิน อาร์คขึ้นขี่ที่หลังปลาโลมาก่อนตะโกนออกด้วยน้ำเสียงเปี่ยมพลัง
“เอ้า ไปกันได้! จุดหมายคือแดนแห่งแวมไพร์!”