Ark The Legend - ตอนที่ 392 : อาหารอันโอชะ
ตอนที่ 392 : อาหารอันโอชะ
คาราคุลตอนนี้กําลังส่งสายตาเกรี้ยวกราดมองอาร์ค ทว่าอาร์คคล้ายยังไม่เข้าใจเรื่องราว อันที่จริงเขาก็พอรู้อยู่ว่าธรรมชาติของแวมไพร์ต้องการดูดเลือด ทว่าไม่ใช่ในหมู่บ้านมีคนอยู่มากมายหรือไร? แล้วอัลเบิร์ตล่ะ? ทหารยามที่ทํางานในปราสาทแห่งนี้ล่ะ?
“แวมไพร์อยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์…”
“เกินเยียวยาแล้ว แวมไพร์เนี่ยนะจะอยู่ร่วมกับมนุษย์?”
คาราคุลพลันโบกสะบัดผ้าคลุมหลังจนเกิดขึ้นเป็นพายุหมุนสีดํา จากนั้นใครคนหนึ่งได้เข้ามาคว้าเอวของอาร์คไว้จากด้านหลัง เมื่อมองกลับไปเขาจึงพบว่าเป็นทหารยาม ไม่สิ อะไรสักอย่างที่คล้ายทหารยามต่างหาก ทหารยามที่ร่างกายใกล้จะแยกออกเป็นเสี่ยง
“โอ!”
ปากนั้นเละเน่าคล้ายถูกฉีกกระชากแต่กลับยังสามารถเปล่งเสียง ฟันที่แหลมคมพลันปรากฏจากปากพร้อมกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนสัตว์ป่า ขณะเดียวกันนั้น ผิวหนังของมัน เริ่มปริแตกก่อนจะแปรเปลี่ยนร่างเป็นมอนสเตอร์สีแดงน่าสะพรึง
‘ตะ-ตัวอะไรกันเนี่ย?’
อาร์คตอบสนองการโจมตีของทหารยามด้วยการพยายามใช้ดาบฟาดฟัน จากนั้นทหารยามพลันเปลี่ยนร่างเป็นมอนสเตอร์เพียงพริบตาและหลบเลี่ยงการโจมตีของ เขา ในความมืด ดวงตาของมันเป็นสีแดงฉาน! อาร์คเร่งร้อนใช้งานเนตรแห่งแมวเพื่อยืนยันข้อมูลจึงทราบว่าพวก มันมีชื่อว่า ปีศาจเลือด ไม่ช้าทหารยามคนอื่นต่างก็ฉีกกระชากผิวหนังออกเปลี่ยนร่างเช่นเดียวกัน
‘สวรรค์ ทหารยามพวกนี้ทั้งหมดในปราสาทต่างก็เป็น ปีศาจเลือด?’
ท้ายที่สุดเขาก็เข้าใจว่าตนเดินเข้ามาอยู่ในเงื้อมมือของแวมไพร์ตรงหน้าได้อย่างไร คาราศุลกล่าวว่าไม่มีมนุษย์อยู่ที่นี่ หรือก็คือ อาร์คเป็นอาหารอันโอชะที่ปรากฏกายขึ้นในรอบหลายร้อยปี คาราศุลหวาดเกรงว่าอาร์คจะหลบหนีไปได้จึงทําการส่งอัลเบิร์ตออกไปหลอกล่อเขามาที่ปราสาท เป็นเขาโง่เองที่เชื่อคนง่ายจนตามมาถึงที่นี่
ไม่เคยคิดเลยว่ามอนสเตอร์จะมีสติปัญญาเฉียบแหลมได้ขนาดนี้
ถูกต้อง นั้นก็เป็นเหตุผลว่าทําไมเขาจึงเชื่อคําพูดของอัลเบิร์ต แวมไพร์เองก็นับเป็นมอนสเตอร์ เขาไม่เคยคิดเลยว่ามอนสเตอร์ในเกมจะมีลูกไม้ต่ำช้าเช่นนี้ ทว่ามันก็ไม่ใช่อะไรที่อาร์คจะไม่เคยพิจารณา เดดริคเองก็เป็นอีกคนที่คอยช่วยเหลือเขาโดยมักมีแผนการต่ำช้ามาบอกกล่าว เช่นเดียวกัน
‘ถ้ามีแค่พวกปีศาจเลือดพวกนี้ก็ยังพอไหว..’
อาร์คมองไปยังร่างของปีศาจเลือดที่กําลังรุกคืบเข้ามาในความมืด ร่างของมันไม่ต่างกับอสูรกายที่สร้างขึ้นจากโลหิต ภายในความมืด มันน่ากลัวยิ่งกว่าภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องใด ทว่าอย่างไรแล้วมันก็แค่เรื่องภายในเกม มันไม่ใช่อะไรที่อาร์คจะต้องไปหวาดกลัว เลเวลเฉลี่ยของพวกปีศาจเลือด คือ 350 อีกทางหนึ่ง อาร์คตอนนี้เลเวล 314 ด้วยความสามารถโลหิตมืดอาจเป็นผลด้านลบต่อผู้เล่นอื่น ทว่ามันคือ โบนัสสําหรับอาร์ค ด้วยโบนัสจากความมืดถึง 40% ทําให้อาร์คเลเวลทัดเทียม 439! กระทั่งว่ามีปีศาจเลือดรายล้อมอยู่มากมายก็ไม่ใช่เรื่องยากหากต้องหนีให้พ้น ทว่าอาร์คกลับ รู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าหลังตรวจสอบเลเวลของคารากุล
“มอนสเตอร์เลเวล 500!”
“หึหึหึ ให้ข้าได้เห็นถึงพลังอํานาจของคนต่างถิ่นหน่อย เป็นอย่างไร?”
คาราคุลแสยะยิ้มและหัวเราะออก
“ฮือ กะไว้แล้ว กะไว้แล้วเชียว! เกมนี้มันเป็นแบบนี้ตลอดเลย!”
“หุบปากได้แล้ว อยากกลายเป็นเหยื่อของพวกมันหรือไง? คมดาบแห่งความมืด!”
อาร์คคว้าคอเสื้อของบุคซิลไว้ขณะปล่อยคมดาบแห่งความมืดออกไปอย่างสุ่ม
“ถ้าหากคาราคุลเข้าช่วยเหลือเราจบเห่แน่ โชคดีที่หมอนั่นเห็นการต่อสู้ไม่ต่างอะไรกับความบันเทิง เราต้องพยายามผลักดันเจ้าพวกนี้แล้วค่อยหาทางหนี!”
ขณะนั้นเอง ปีศาจเลือดพลันหลบคมดาบแห่งความมืด แล้วเหวี่ยงกรงเล็บเข้าใส่อาร์ค อาร์ครู้สึกถึงแรงปะทะที่น่าจะมหาศาลจึงพยายามถอยกลับ แต่แล้วมอนสเตอร์ที่เหลืออีกสองกลับพุ่งเข้าใส่เขา อาร์คคิดรอโอกาสให้เกิดช่องโหว่ แล้วค่อยหาทางหนี ทว่าอีกฝ่ายไม่คิดเปิดโอกาสนั้นพร้อมรุกเข้าโจมตีอย่างดุดัน
“อะไรกัน? เจ้าพวกนี้ เลเวล 300 จริงงั้นเหรอ?”
ปีศาจเลือดพวกนี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่คาดคิด พลังโจมตีจากเขี้ยวและกรงเล็บของพวกมันสามารถลดทอนพลังชีวิตของเขาได้เรื่อยทั้งที่หลบหลีกไปหลายส่วนแล้ว แถมพวกมันยังมีแค่สามตัว แต่อาร์คกลับไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะชนะพวกมัน! ค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้นเพราะโลหิตมืดก็ใช้ แต่เสาบัพพื้นที่พวกนั้นถูกสร้างขึ้นจากแวมไพร์ ชัดเจนว่าพวกมันย่อมต้องเสริมค่าสถานะให้แวมไพร์และปีศาจเลือดด้วย
“เป็นเราพลาดไป มีบัพนั่นอยู่ก็ใช่ แต่มันก็ไม่ต่างอะไรใน เมื่อพวกมันก็ได้บัพ!”
“การคุ้มกันแห่งความมืด!”
อาร์คเรียกใช้งานทักษะพิเศษของแหวนโดยทันที พลังป้องกันและภูมิต้านทานเวทมนตร์ของเขาจะเพิ่มขึ้น 20%! ด้วยค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นนี้ อาร์คยังพอใช้งานคมดาบแห่งความมืดและร่ายรําแห่งความมืดบุกฝ่าออกไปได้
“เลือด เลือดสด!”
คาราคุลหัวเราะขณะสายตากลิ้งกลอก หลังปล่อยฝีมือออกอย่างเต็มที่ เขาทําได้เพียงแคโค่นล้มปีศาจเลือดไปตัวหนึ่งอย่างทุลักทุเล ระหว่างที่เตรียมโจมตีอีกตัวหนึ่ง อีกสองที่เหลือก็เข้ามาทางด้านหลังและโจมตีใส่ ความเสียหายมากมายพลันปรากฏจากการโจมตีทางด้านหลัง ทว่านี้ก็อยู่ในการคิดอ่านของอาร์ค ทางเข้าตอนนี้เปิดกว้างเพราะพวกมันอ้อมเข้าโจมตีเขาจากทางด้านหลัง
“ตอนนี้แหละ! บุคชิล วิ่ง!”
อาร์คคว้าคอเสื้อบุคซิลที่กําลังกรีดร้องขณะเริ่มออกวิ่ง ทว่าในช่วงเวลานั้นเอง บางสิ่งพลันปรากฏตรงหน้าประตู เป็นคาราคุลที่ตัดระยะมาโผล่ขวางตรงหน้า
“หึหึหึ หลังเวลานานนับหนึ่งร้อยปี มนุษย์ก็มีความฉลาดขึ้นมาบ้าง”
คาราคุลยังเอาแต่หัวเราะ
“ข้ารู้สึกยินดีนักที่เจ้าไม่ได้ไร้สมองเสียทั้งหมดอย่างที่ข้าคิด ฝีมือของเจ้าก็ไม่แย่ เลือดของเจ้าย่อมต้องมีรสชาติเยี่ยมไม่น้อยไปกว่าฝีมือนั้น ในที่สุดข้าก็จะได้ลิ้มรสเลือดของมนุษย์อีกครั้งหลังกาลเวลาอันยาวนาน อา อา อา ข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้ว โชคร้ายนักที่เจ้าคงไม่อาจหลีกหนีพ้น”
คาราคุลพลันร่างกายหายวับไป อาร์คแตกตื่นหันมองรอบ ก่อนที่จะพบว่าโดนการกระแทกรุนแรงเข้าใส่
——–
ท่านโดนคาราคุลโจมตี ความเสียหาย 500 หน่วย!
——–
‘อะไรกัน ?’
เขากลายเป็นมึนงงเพราะโดนการโจมตีนี้เข้า กระทั่งมีบัพช่วยเสริมการป้องกันยังได้รับความเสียหายมากถึง 500 หน่วย! นี่หมายความว่าหากเป็นตามปกติเขาสมควรได้รับความเสียหายราว 800 หน่วย สมแล้วที่เป็นมอนสเตอร์เลเวล 500 นับว่าไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง
“บางทีค่าสถานะของคารากุลน่าจะเพิ่มขึ้นด้วยเพราะบัพโลหิตมืด ก็น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เสาบัพนั่นสร้างขึ้นเพื่อแวมไพร์ ต้องเอื้อประโยชน์ให้แวมไพร์เป็นที่สุด”
ในการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง อาร์คไม่มีทางเอาชนะได้ ทั้งยังมีปีศาจเลือดร่วมด้วย มันไม่ใช่อะไรที่เขาจะต้านทาน
“นี่เราต้องกลายเป็นอาหารแวมไพร์เหรอเนี่ย!”
“คมดาบแห่งความมืด! ปะทะความมืด! สวนกลับฉับพลัน!”
อาร์คเร่งร้อนใช้งานทักษะหลายอย่างเข้าใส่คาราคลที่เอาแต่หัวเราะน่าสะอิดสะเอียนออกมา
“ทําได้ดี แต่ชะตาของเจ้าไม่มีทางเปลี่ยนได้นับตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาในอาณาเขตแห่งข้า”
ปีศาจเลือดสองตนวิ่งพุ่งเข้าใส่อาร์คจากทั้งซ้ายและขวา ตามคําสั่งของคาราคุล อาร์คเร่งร้อนหันกลับขณะใช้สวนกลับฉับพลันเข้าใส่ เขาพยายามก้าวเท้าถอย แต่แล้วกลับรู้สึกถึงอะไรประหลาดที่ด้านหลังคอของตน
อาร์คเกิดอาการแตกตื่นจึงหันไปมองพบว่าคาราคุลกับเช็ดคราบที่มุมปาก
“หลายร้อยปีแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ข้าได้ลิ้มรสเลือดมนุษย์ มันยังคงดีไม่เปลี่ยน”
ขณะนั้นเอง หน้าต่างข้อความสีแดงก็พลันปรากฎตรงหน้าอาร์คโดยทันที
——–
คาราคุลใช้ทักษะดูดเลือด
ผลของการดูดเลือดขึ้นอยู่กับแวมไพร์ การดูดเลือดของคาราคุลสามารถหน่วงเหนี่ยวจิตใจ เมื่อท่านโดนการ หน่วงเหนี่ยวจิตใจ พลังโจมตีและพลังป้องกันของท่านจะล ดลง 10% นอกจากนี้ทักษะอย่างสุ่มสามอย่างจะถูกผนึกการใช้งานเป็นระยะเวลา 10 นาที
——–
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?”
เมื่อเห็นหน้าต่างข้อมูลยิ่งทําเอาเขาใบหน้าซีดเผือด ในสถานการณ์แบบนี้ พลังป้องกันและพลังโจมตียังโดนลดทอน ทั้งร่ายรําแห่งความมืดและคมดาบแห่งความมืดยังโดนผนึกเอาไว้อีก? ไม่ใช่หมายความว่าอาร์คต้องตายแน่นอน แล้วหรือยังไงกัน?
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะดูดเลือดจากตัวเจ้าให้หมดทุกหยด!”
ระหว่างที่อาร์คแตกตื่น คาราศุลจึงแสยะเขี้ยวออกพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง
“ถ้าโดนมันกัดอีกครั้งจบเห่แน่!”
“ราดันเอาดาบมา คมดาบวายุ!”
ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
อาร์ครับดาบจากราดันก่อนจะระเบิดดาบออกเป็นชิ้น
“อึก สารเลว มันหนีไปไหนแล้ว? ไปจับตัวมัน!”
ในช่วงที่เศษดาบปลิวว่อน อาร์คได้เร่งร้อนพุ่งตัวหลบหนีออกผ่านประตูลงบันไดไป ไม่ช้าเขาจึงค่อยได้ยินเสียงกรีดร้องจากทางด้านหลัง เป็นบุคซิลที่เขาลืมเลือนไว้
“อื้อ อะ-อะ-อาร์คนิม!”
เมื่อเขาหันมองกลับไป เขาจึงได้เห็นคาราศุลกับฝังเขี้ยวลงบนคอของบุคซิล
“อา อา! คุณย่า ผมกําลังจะไปหาแล้ว…”
บุคซิลคล้ายสติหลุดลอยขณะโดนดูดเลือดจนร่างเริ่มผอมแห้งไม่ต่างมัมมีก่อนจะล้มลง
“เหอะ ไอ้เจ้านี่จัดการง่ายกว่านัก ปีศาจเลือด จับไอ้คนที่เหลือมาให้ข้า!”
“โอ้ โอ้ โอ้!”
ปีศาจเลือดอีกหลายตนเริ่มฉีกกระชากผิวหนังออกตามคําสั่งของคาราคุล ระหว่างที่ทหารยามและคนรับใช้ภายในปราสาทกลายร่างเป็นปีศาจเลือด อาร์คที่เร่งร้อนวิ่งลงบันไดไปกลับต้องเผชิญหน้ากับพวกมันถึงห้าสิบตัว! ตอนนี้อาร์คกําลังเผชิญหน้ากับปราสาทสยองขวัญของแท้
“ให้ตายสิ!”
อาร์คร่ําร้องอยู่ภายใน ขณะนั้นเองหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ระหว่างบันไดพลันต้องตาเขาเข้า
“ก็ไม่แย่ ได้แต่ต้องลองดูแล้ว!”
อาร์คเร่งพุ่งตัวเข้าใส่หน้าต่างดังกล่าว ปีศาจเลือดที่กําลังเข้ามาใกล้พลันเหวี่ยงกรงเล็บออก ขณะนั้นเอง อาร์คใช้การข่มขู่ขั้นสูงสร้างอาการชะงักงันกับพวกมันก่อนจะกระโจนร่างออกนอกหน้าต่างไป มันเปรียบเสมือนฉากในภาพยนตร์อย่างไรอย่างนั้น ร่างของเขาหลุดลอยออกจากหน้าต่างพร้อมเศษกระจกที่ปลิวว่อน เขากระโดดออกจากหน้าต่างทั้งสภาพอย่างนั้น!
ตึง!
อาร์คคล้ายโดนแรงกระชากก่อนจะโดนโยนร่างกลับเข้า
คาราคุลพลันเข้าคว้าอาร์คที่คิดหลบหนีเอาไว้ อาร์คพยายามยันกายขึ้นก่อนจะเหวียงดาบอีกครั้ง ทว่าปีศาจเลือดต่างพุ่งเข้ามาเป็นโล่เนื้อขัดขวางเส้นทางดาบของเขา ระห ว่างนั้นเอง คาราคุลได้เข้ามาใกล้ก่อนจะกัดเข้าที่คอของอาร์ค พลังชีวิตของเขาที่เหลือเพียงน้อยนิดอยู่แล้วจึงเข้าอาการวิกฤต! พลังชีวิตลดต่ําลงอย่างรวดเร็วไม่ต่างกับโดนสูบเลือดออกจากร่าง ในขณะนั้นเอง เขารู้สึกได้ถึงสายตาที่เริ่มมืดมัวลง เหมือนกับบุคซิล ร่างของอาร์คกลายเป็นแห้งเหี่ยวคล้ายมัมมี่ก่อนจะล้มลง
“บ้าฉิบ… ตายในที่แบบนี้ นี่เราต้องขี่ปลาโลมาเพื่อมาอีกรอบเหรอเนี่ย?
ทว่าสถานการณ์ตอนนี้ตึงเครียดยิ่งกว่าที่อาร์คคิดนัก
——–
“พันธนาการโลหิต” ได้ถูกใช้งานโดยแวมไพร์ที่ใช้ทักษะดูดเลือด
วิญญาณของผู้เล่นโดนคาราคุลผู้สูบโลหิตคุมขังไว้ วิญญาณของผู้เล่นที่โดนคุมขังโดยแวมไพร์จะถูกบังคับเปลี่ยนสถานที่ฟื้นคืนชีพ นอกจากนี้ ทุกความสามารถของท่านจะถูกผนึก “พันธนาการโลหิต” จะคงอยู่จนกว่าคาราคุลจะเสียชีวิตหรือท่านหลบหนีออกจากอาณาเขตได้
*ตําแหน่งฟื้นคืนชีพของท่านถูกบังคับเปลี่ยนโดยความสามารถ “พันธนาการโลหิต
*อุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดถูกปิดการใช้งานโดย “พันธนาการโลหิต”
*ทุกค่าสถานะลดลง 80% โดย “พันธนาการโลหิต”
*ทุกความสามารถและทักษะถูกปิดการใช้งานโดย “พันธนาการโลหิต”
*สิทธิ์การใช้งานกระเป๋าถูกเพิกถอนโดย “พันธนาการโลหิต”
“ระ-เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?”
ครั้งนี้กระทั่งฮยอนอูในโลกความเป็นจริงยังต้องเผยสีหน้าไร้เลือดขณะตัวละครในเกมสูญสิ้นสติไป