Ark The Legend - ตอนที่ 397 : ท่านลอร์ดเดดริค
ตอนที่ 397 : ท่านลอร์ดเดดริค
ท่านได้หลบหนีออกจากอาณาเขตของคาราศุล
พันธนาการโลหิตถูกยกเลิก
ตรวนแห่งความเจ็บปวดถูกยกเลิก
“ทําได้แล้ว!”
มันเป็นเวลากว่าสิบนาทีแล้วตั้งแต่ที่เขาหลบหนีโดยการปล่อยมิสไซล์หมูน้อยใส่คาราคุล หลังข้ามผ่านธารน้ําขนาดเล็กและผืนปาสักพักหนึ่ง หน้าต่างข้อความก็ปรากฏขึ้นพร้อมตรวนที่หลุดออกไป
“เราหนีออกจากอาณาเขตของคาราคุลได้แล้ว พวกปีศาจเลือดก็ยากจะตามมา แวมไพร์ไม่อาจออกจากอาณาเขตของตนเอง เพราะแบบนั้นเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องคาราคุลจะไล่ล่า”
อาร์คเริ่มมองหาสถานที่เหมาะสมแล้วจึงค่อยร่อนลงสู่พื้น
“มันอาจมีประโยชน์ภายหลังเวทมนตร์ฟื้นคืน!”
เขาตัดสินใจใช้เวทมนตร์ฟื้นคืนขั้นสูงเพื่อซ่อมแซมเครื่องร่อน อาร์ครู้สึกอะไรสักอย่างขณะมองมัน มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้ทักษะในช่วงแปดวันที่ผ่านมานี้ ทว่าเขาไม่มี เวลาให้ยินดีอะไรมากนัก เขาหลบหนีออกจากอาณาเขตของคาราคุลได้ แต่อย่างไรเขาก็ยังอยู่ในดินแดนของแวมไพร์อยู่ดี เขาไม่อาจรับประกันได้ว่าถัดจากนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“คงดีกว่าถ้าใช้ลอบเร้นไปหาสถานที่ซ่อนตัว จากนั้นค่อยเริ่มดําเนินการค่อยเป็นค่อยไป
อาร์คเก็บเครื่องร่อนโดยฝากราดันเอาไว้ขณะใช้งาน ลอบเร้น แต่แล้วหน้าต่างความสีแดงพลันปรากฏตรงหน้าอาร์ค
กองกําลังไม่เป็นมิตรกําลังจับตาท่านอยู่ ท่านไม่สามารถใช้ลอบเร้น!
“อะไรกัน? นี่เรายังไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์ที่มีเลยนะ!”
หากอยู่ในสภาวะการต่อสู้จะไม่สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์สวมใส่ได้ โชคดีที่ดาบและโล่เป็นข้อยกเว้นเพราะงั้นเขาจึงสามารถนําเอาดาบออกมาได้ ทว่าเขายังขาดพลังป้องกัน ไม่เท่านั้น เขาไม่อาจหลบหนีอย่างหน้ามืดตามัว แบบนั้นแล้วจะกลายเป็นเขาดึงดูดความสนใจทัพศัตรูมาทางนี้
“บัดซบ หวังว่าจะไม่ใช่ปีศาจเลือดของแวมไพร์ตัวอื่นนะ ถ้าจะโดนแวมไพร์ตัวอื่นจับตัวขอยอมฆ่าตัวตายยังจะดีกว่า”
ในกรณีเลวร้ายที่สุด อาร์คจะยินยอมฆ่าตัวตาย เพราะแบบนั้นเขาต้องพิจารณาโดยรอบให้ดี ทว่าความเงียบตรงหน้ามันยิ่งทําเอาเขาไม่สบายใจ
“ที่นี้ที่ อาหาร…”
เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นภายในปาที่มืดมัว
“ข้าไม่เคยเห็นเจ้านอยู่แถวนี้มาก่อนเลย”
“แม้จะสกปรกไปหน่อย แต่อย่างน้อยเอาไปทําความสะอาดก็เป็นอาหารที่ดีได้”
ให้ตายสิ พวกมันมีถึงสาม!”
อาร์คกลืนน้ําลาย ในโลกมืดนับว่ามีมอนสเตอร์อยู่น้อยนัก เพราะส่วนใหญ่แวมไพร์ในพื้นที่ต่างจับตัวพวกมันไปกันหมด หรือก็คือ เขาอาจพบเจอลูกน้องของลอร์ดแวมไพร์หรือไม่ก็มอนสเตอร์ที่มีพลังทัดเทียมกัน ดังนั้นแล้ว อาร์คที่ขาดพลังป้องกันจะไม่สามารถต่อสู้กับพวกมันได้ง่ายนัก
“บ้าบอที่สุด! เรามันคนโชคร้ายขนาดไหนกัน. แค่เพิ่งหลบหนีออกมาจากปราสาทแวมไพร์ได้ หรือเราควรฆ่าตัวตายก่อนจะสายเกินไป?”
อาร์คเริ่มพิจารณาทางเลือกฆ่าตัวตายเป็นจริงเป็นจัง จากนั้น บางสิ่งคล้ายลูกธนูพลันพุ่งออกจากป่า อาร์คละทิ้งความคิดก่อนจะตอบสนองด้วยการเหวี่ยงดาบออก หากเป็นปี ศาจเลือด หลบหนีจากการโจมตีแล้วค่อยสวนกลับจะไม่ใช่ เรื่องยากแต่อย่างใด แม้เขาจะตึงเครียด แต่ดาบของเขาก็ยังสามารถพุ่งตรงเข้าถึงเป้าหมายได้
“อัก!”
อะไรบางอย่างคล้ายโดนวิถีดาบจนร่างกระทบกับพื้น
คลิปหลุด
“อีก มันโจมตีพวกเรา!”
“มันแข็งแกร่งมาก ใช้แผน A-3 แยกเคลื่อนย้ายซ้ายขวา!”
อาร์คเริ่มประหลาดใจกับคู่ต่อสู้มากขึ้น หนึ่งที่ติดแหงกอยู่กับพื้นเป็นค้างคาวที่พยายามกระพือปีก ทั้งหมดนั้นเป็นค้างคาวที่ค่อนข้างอ่อนแอยิ่ง
“ไอ้เจ้าพวกนี้มันตัวอะไรกัน? แล้วเมื่อกี้พูดว่าแผน A-3งั้นเหรอ?”
“เหอะ ไอ้สารเลว! มันแข็งแกร่งมาก!”
“มันเชี่ยวชาญการใช้ดาบ มันรับมือพวกเราได้เร็วมาก”
“เจ้า… ต่อให้เจ้าจะเหมือนมนุษย์ อั่ก อะ-อะไร? เหวอ! ช่วยข้าด้วย!”
อาร์คกดเท้าลงที่ท้องของค้างคาวก่อนจะรับชมปีกที่กําลังกระพืออยู่ จากนั้นเขาค่อยถอนเท้าออกแล้วนิ้วหัวค้างคาวตรงหน้าขึ้นมา
“จะ-เจ้าจะทําอะไร?”
“อยากตายใหม?”
“เมื่อกี้ข้าแค่ไม่ระวัง ถ้าให้โอกาสข้าสู้ให้ดี”
“โอกาส?”
อาร์คก้มหน้าลงเหยียดหยันค้างคาวตรงหน้า มันเริ่มใจถอยทีละน้อย มันเริ่มพิมพ์ด้วยน้ําเสียงเจือปนน้ําตา
“เจ้า เจ้า เจ้าจะต้องเสียใจ”
“เสียใจ? ฉันไม่เสียใจหรอก”
“เจ้าต้องถอยไป ท่านลอร์ดของเราอยู่บริเวณนี้!”
“ ชะ-ใช… ท่านลอร์ดของเราแข็งแกร่งเกินคาดคิด!”
“เอิร์ลคาราคุลที่อยู่ใกล้เคียงยังไม่กล้ายั่วยุท่านลอร์ดเรา!”
สีหน้าสนุกสนานที่ไม่เชื่อคําของค้างคาวพวกนี้ได้เลือนหายจากใบหน้าอาร์ค ค้างคาวพวกนี้อ่อนแอเป็นอย่างมากจนเขาขาดความระวัง หากเป็นอาณาเขตถัดจากของ คาราคุลก็ไม่ใช่หมายความว่าลอร์ดของที่แห่งนี้แข็งแกร่งทัดเทียมกันหรืออย่างไร? และค้างคาวนี่ยังเป็นลูกน้องของแวมไพร์ตนนั้น!
“ลืมไปเลย ที่เราต้องสู้ด้วยไม่ใช่แค่ไอ้ค้างคาวพวกนี้!”
อาร์คเร่งร้อนถอนตัว เพราะค้างคาวพวกนี้ เขาจึงไม่สามารถใช้งานลอบเร้นได้ เพราะแบบนั้นเขาจึงยังไม่มีโอกาสได้สวมใส่อุปกรณ์ เขายังไม่พร้อมเผชิญหน้ากับแวมไพร์ ความได้ใจพลันย้ายไปฝั่งพวกค้างคาวทันทีเมื่อเห็นอาร์คถอยกลับ
“ หีหีห์ ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจเรื่องราวแล้วสิ”
“แต่สายเกินไป พวกเราแจ้งท่านลอร์ดของเราแล้วว่ามีผู้บุกรุก ท่านจะมาถึงในไม่ช้านี้”
“ท่านลอร์ดมาเมื่อไหร่แกตายแน่!”
และขณะนั้นเอง พุ่มไม้ใกล้เคียงพลันสั่นพร้อมเสียงหนึ่งร้องตะโกน
“ฮี่ม ใครหน้าไหนมันกล้ารุกล้ําอาณาเขตข้า!”
“ท่านลอร์ด ทางนี้!”
ค้างคาวพวกนี้ต่างกระพือปีกร้องเรียกกันยกใหญ่
“บัดซบ!”
เสียงดังขึ้นจากในป่าตรงหน้าเขานี้เอง ถ้าหากแวมไพร์สามารถเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นค้างคาวเหมือนคาราคุลได้ มันก็สายเกินที่เขาจะวิ่งหนีแล้ว
“ช่วยไม่ได้ คงมีแต่ต้องฆ่าตัวตายแล้ว”
อาร์คกัดฟันแน่นขณะเนื้อดาบขึ้น จากนั้นเสียงยังคงดังผ่านป่ามาอีกครั้ง
“ข้าจะนับถึงสาม ถ้ายังอยากรอดชีวิตจงหนีไปซะ!”
“หือ? ว่าอะไรนะ?”
อาร์คที่ปะติดปะต่อเรื่องราวได้พลันเปลี่ยนสีหน้า เขามีเวลาสามวินาทีเพื่อหนีไปงนเหรอ? นี่คือคําพูดของแวมไพร์ผู้สูงศักดิ์? และนั่นไม่ใช่เรื่องเดียวที่แปลก อีกฝ่ายเอาแต่สั่นพุ่มไม้ให้เห็นเท่านั้น แต่กลับไม่เผยตัวออกมา
“นี่เรื่องอะไร? เดี๋ยวนะ… เหมือนจะนึกขึ้นได้ เสียงนี้มัน? คุ้นนัก… ค้างคาวพวกนี้ยังเรียกใช้แผน A-3 ก่อนหน้านี้ หรือว่า?”
เสียงจากในพุ่มไม้คล้ายลังเลก่อนจะตะโกนออกมา
“สองกับอีกนิดนึง…. เจ้าควรรีบหนีไปโดยเร็ว ข้าไม่ไว้ชีวิตคนบ่อยนัก สองอีกครั้ง… ยัง เจ้ายังไม่หนี? โอกาสสุดท้ายแล้วนะ สองครึ่ง…”
“ใช่จริงด้วย เป็นอย่างที่เราคิด
อาร์คพาดดาบไว้บนไหล่ก่อนจะเดินไปที่พุ่มไม้ หลังเดินผ่านมาได้ เขาจึงเห็นร่างเด็กชายตัวสันเล็กน้อยขณะตะโกนใส่โทรโข่งทํามือ
“หึหึหึ นี้โอกาสสุดท้ายของเจ้าแล้ว สองกับอีกหน่อย….”
“โห..”
เด็กชายพลันสะดุ้งขณะถอยกลับเพราะเสียงของอาร์ค อีกฝ่ายจ้องมองอาร์คด้วยใบหน้าโง่งม
“ลอร์ด ท่านลอร์ด ไอ้เจ้านี่! หมอนี่แหละ!”
พวกค้างคาวที่ยังไม่อาจเข้าใจความผิดแผกของบรรยากาศระหว่างอาร์คกับเด็กชาย เด็กชายเผยท่าที่คล้ายไม่ได้ยินสิ่งใดก่อนหันกลับมาด้วยรอยยิ้มเก้กัง จากนั้นจึงค่อยเดินถอยห่างออกไปพร้อมอาการตะกุกตะกัก
“ท่านลอร์ด?”
“ท่านจะไปไหน? แล้วไอ้หมอนี่ล่ะ?”
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
อาร์คเผยรอยยิ้มขณะกล่าวออก มันทําเอาเด็กชายตัวแข็งที่อ เด็กชายชะงักงันไปก่อนจะหันกลับมาแล้วกล่าวคํา
“เอ่อ คือว่า… อืม.. สักพักหนึ่งแล้วสินะขอรับ?”
เด็กชายแวมไพร์ตรงหน้าคือเดดริค พวกค้างคาวที่เหลือ ยิ่งสับสนกับท่าที่ตอบสนองเช่นนี้ของเดดริค
“อา เอ่อ… คนผู้นี้คือคนที่อัญเชิญข้า….”
“เฮือก! งะงั้นหมอนี่ก็เป็นอาร์คที่ท่านลอร์ดพูดถึง?”
พวกมันต่างโพล่งคํากันออกมาและมองพิจารณาอาร์ค
“หนีห์ ไอ้พวกค้างคาวงี่เง่า เข้าใจเรื่องราวกันได้เสียที!”
อาร์คกอดอกขณะจ้องมองพวกค้างคาวตรงหน้า เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะพบเจอเดดริคเช่นนี้ หลังพบเจอเดดริค เขาจึงเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้ อาร์คเป็นเจ้านายของเดดริค ขณะที่ค้างคาวพวกนี้คือลูกน้องของเดดริคอีกทีหนึ่ง หรือก็คือ เขาเป็นเจ้านายใหญ่นั่นเอง เขาคิดว่าค้างคาวพวกนี้อาจกระทั่งหลั่งน้ําตาร้องขออภัยโทษหลังได้ยินชื่ออาร์คจากปากเดดริค
“เป็นมนุษย์ที่อัญเชิญท่านลอร์ดของเรา…”
“เหอะ ในที่สุดก็รู้ตัว? เอ้า ร้องขออภัยโทษเสียสิ แต่ฉันไม่คิดยกโทษให้หรอกนะ
อาร์คเผยสีหน้าจริงจังคล้ายคิดจับค้างคาวมาต้มยําทําแกง
“หมอนี่คือคนโฉดและต่ําช้าผู้นั้น?”
“ข้าได้ยินมาว่าโหดเหี้ยมมาก ไม่ใช่ว่าด้วยเสน่ห์ของท่านลอร์ดจึงสอนสั่งมนุษย์ผู้นี้ได้? ท่านลอร์ดของเราช่างวิเศษ!”
“ที่มนุษย์คนนี้แข็งแกร่งได้เพราะท่านลอร์ดสอนสั่ง”
สีหน้าของอาร์คแข็งยิ่งกว่าเก่าหลังได้ยินคําของพวกค้างคาว เดดริคตระหนักสถานการณ์ได้ ขณะนั้นอาร์คก็เริ่มเอ่ยคําแล้ว
“โห ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่เคยได้ยิน? เดดริคบอกพวกแกแบบนั้น?”
“เอ่อ ข้าไม่”
อาร์คก้าวเข้าหาเดดริคที่กําลังคิดถอยด้วยสภาพหวาดเกรงดังคาด ท่าทีเมื่อครู่ก็แค่การข่มขวัญเท่านั้น หนึ่งในค้างคาวพลันกระแทกเข้าที่ศีรษะของอาร์คก่อนจะตะโกนออกมา
“ต่ําช้า! เป็นแค่ผู้ใต้บัญชาบังอาจเรียกชื่อท่านเดดริค?”
“ผู้ใต้บัญชา? ฉันเนี่ยนะ?”
“ช่างไม่รู้ความยิ่งนัก ไม่ใช่เจ้าเก่งกาจขึ้นเพราะท่านลอร์ดของเราหรอกหรือยังไง?”
“ท่านลอร์ดของเราอาจใจดีอภัยโทษให้เจ้า แต่พวกเราไม่ หากเจ้ายังกล้าเรียกชื่อท่านลอร์ดโดยตรงอีกล่ะก็…”
และแล้ว.. เส้นความอดทนสุดท้ายของอาร์คก็ขาด
“พูดอีกแล้วจะทําไม?”
อาร์คหัวเราะออกพร้อมเผยสีหน้าประหลาดขณะเข้ามาใกล้
“เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ? ฉันเรียกชื่ออีกแล้วจะเป็นยังไง?”
“ว่าอะไรนะ! โง่เขลายิ่งนัก แล้วท่าทีแบบนั้นคืออะไร!?”
พวกค้างคาวยังคงส่งท่าที่ไปให้เดดริค
“ท่านลอร์ด…”
“ช่างบังอาจ! ท่านลอร์ดของเราสูงศักดิ์กลับบังอาจเรียกชื่อ? มนุษย์เช่นเจ้ากล้าเอ่ยนามท่านลอร์ดเดดริค?”
อาร์คยังคงหัวเราะต่อไปขณะเดินเข้าไปใกล้ มันยิ่งทําให้เดดริคสีหน้าซีดเผือดและสั่นเทายิ่งขึ้น ขณะใกล้เพียงปลายจมูกนั้นเอง เดดริคลอบเข้ามากระซิบใส่หูของอาร์ค
“จะ-เจ้านายขอรับ! ดะ-ได้โปรดปล่อยวางเรื่องครั้งนี้! หลังจากนี้เจ้านายจะทําอะไรกับข้าก็ได้จนกว่าความโกรธจะจางหาย แต่ได้โปรดอดทนกับไอ้เจ้าพวกนี้ด้วยขอรับ ข้าขอร้อง นับจากนี้ข้าจะไม่พล่ามอะไรให้มากความอีกแล้วขอรับ ขะ…ข้าสัญญาเลยขอรับ! นับจากนี้เจ้านายต้องการอะไรข้า จะทําโดยไม่อิดออดอีกต่อไปขอรับ”
อาร์คพลันชะงักการเคลื่อนไหวไป อาร์คเริ่มเข้าใจเรื่องราวบ้างจากน้ําเสียงของเดดริค แม้จะโดนอาร์คทําร้ายมากมายเพียงใด แต่เดดริคก็ยังคงเป็นแวมไพร์ที่สูงศักดิ์ เป็นธรรมดาที่ต้องอวดโอ่บ้าง และมันก็สําคัญมากเสียจนถึงขนาดที่เดดริคยอมร้องขอความเมตตา
“ทําเอานึกขึ้นมาได้ ไม่ใช่เจ้านี่ช่วงที่ผ่านมาเก่งกาจขึ้นผิดหูผิดตา? ถ้าหากแหกหน้าที่นี่จะกลายเป็นยิ่งแย่กว่า ยอมตามน้ําไปก่อนน่าจะดีที่สุด… เดดริคร้องขอขนาดนี้ ก็หมายถึงย่อมติดหนี้น้ําใจเราแล้ว หลังจากนี้สั่งการเดดริคในอนาคตจะยิ่งง่ายมากขึ้น”
อาร์คถอนหายใจออกมาก่อนจะถอยเท้ากลับ
“ก็ได้ นับจากนี้ฉันจะระวังแล้วกันนะเดดริคนิม”