Ark The Legend - ตอนที่ 433 : คาร์ม่าที่บ้าคลั่ง
ตอนที่ 433 : คาร์ม่าที่บ้าคลั่ง
ครืน คืน คืน!
เสียงดังกึกก้องและแรงสั่นสะเทือนพุ่งผ่านอากาศ มันมีต้นเหตุมาจากบอลสีดําที่กําลังลอยอยู่เหนือสิ่งปลูกสร้างที่ใจกลางโอเบเรียม บอลสีดําดังกล่าวได้ยื่นขยายออกแล้วหดลงประหนึ่งหัวใจกําลังเต้นตุบตับ พลังงานความมืดโดยรอบบอลสีดํานั้นก็ยิ่งมายิ่งหนาแน่นมากขึ้น พลังงานจากบอลสีดําที่ปลดปล่อยออกมาไม่ใช่เพียงแค่ความมืดทั่วไป แต่มันคือความมืดที่ลึกล้ํา! มันเหมือนกับความมืดได้ทําการควบแน่นเพราะความชั่วร้ายจนเกิดขึ้นเป็นเปลวเพลิงสีดําทมิฬอันบ้าคลั่ง! ภายในมันกําลังสั่นกระตุกพร้อมเผยเสียงที่ไม่น่ารับฟังดังออกมา
“นั่นมันอะไรกัน?”
อาร์คจ้องมองออกไปด้วยความสับสน
ลมกระโชกที่รุนแรงเกิดขึ้นโดยมีต้นตอจากบอลสีดํา อีกทั้งออร่าสีดํายังเริ่มแผ่ขยายไปทั่วทุกทิศทาง ออร่าสีดําเริ่มพัดผ่านซากปรักหักพังเสมือนงที่กําลังเลื้อยไปหาอาหาร โดยมีคนตายเป็นเป้าหมาย
“ช่วยด้วย!”
ไม่
“โม โม!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทั่วทุกที่ คนตายพวกนี้คล้ายยังมีความทรงจําถึงตอนที่โดนเวทมนตร์คําสาปที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน คนตายที่ไม่เคยสนใจอะไรแต่ตอนนี้กลับต้องซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวต่อออร่าสีดํา พวกเขากลิ้งไปมากับพื้นเพื่อพยายามหลบหนี แต่คล้ายต่อต้านไปก็สูญเปล่า
“ว้าก!”
คนตายคนหนึ่งกรีดร้องดังออกมาเมื่อโดนจับไว้ กลุ่มแก๊สสีเทาเริ่มพวยพุ่งออกจากร่างแล้วกระจายตัวไป มันคือวิญญาณของคนตาย ดวงวิญญาณเหล่านั้นถูกดึงดูดกลับเข้าไปยังบอลสีดําที่เป็นเสมือนแม่เหล็กดูดวิญญาณ บอลสีดํายิ่งนานยิ่งใหญ่โตขึ้น มันคล้ายสัตว์ที่หิวโหยคิดดูดกลืนทุกดวงวิญญาณให้หมดสิ้น
“ดวงวิญญาณ… โดนมันกินเข้าไป?”
อาร์คส่งเสียงครางต่ําดังออกจากปาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง มันคือความหวาดกลัว! คนตายที่โดนทําให้ตายซ้ําอีกครั้งเป็นภาพที่น่าสะพรึงเกินไป เสียงกรีดร้องของพวกเขาดังไปทั่วทุกหนแห่ง และคนตายเหล่านี้ก็ไม่มีทางหลบหนีพ้นจากออร่าสีดํา ท้ายที่สุดทุกคนต่างโดนจับไว้ ออร่าสีดําพวกนั้นพยายามดูดเอาดวงวิญญาณของพวกเขาไป จากนั้น ดวงวิญญาณจะถูกกลืนกินเข้าสู่บอลสีดํา และยิ่งเกิดเหตุการณ์นี้วนซ้ําหลายครั้ง บอลสีดําก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น ออร่าสีดําก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น มันเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อหลายร้อยปีก่อนที่เกิดขึ้นกับโอเบเรียม!
“เรื่องบ้าอะไรกันแน่เนี่ย? แล้วเราจะทํายังไงดี?”
อาร์คตอนนี้ยังคงไม่ทราบว่าจะจัดการเรื่องราวตรงหน้าอย่างไร ถึงตอนนั้น อะไรบางอย่างเริ่มปรากฏออกมาจากปากของบอลที่กลืนดวงวิญญาณเข้าไป รูปลักษณ์ของมันคล้ายมนุษย์ตัวใหญ่ยักษ์!
“คาร์ม่า!”
อาร์คร้องโพล่งออกมาหลังได้เห็นใบหน้านั้น เขาจํามันได้ดีเพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งเผชิญหน้ากันเกิดเมื่อไม่นานมานี้ ใช่แล้ว คาร์ม่าที่เกิดขึ้นจากสมุนอัญเชิญของผู้กล้ามาบันที่เกิดปนเปื้อนจากคําสาปแล้วละทิ้งส่วนที่เสียออกมา คาร์ม่าตอนนี้กําลังใช้เวทมนตร์คิดทําลายล้างโอเบเรียม!
“พอจะเข้าใจบ้างแล้ว”
อาร์คพึมพําออกมา
“เป็นร่างสองของบอสงั้นสินะ?”
ถูกต้องแล้ว ในเกมส่วนมาก ผู้กล้าต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อล้มบอสตัวสุดท้าย แต่นั่นไม่ใช่ท้ายสุด บอสส่วนใหญ่จะต้องมีการเปลี่ยนร่างที่สองเพื่อให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทว่ากับบอสมอนสเตอร์ที่เลเวลเพียงแค่ 450 ทั้งยังเสียเวทมนตร์กาลเวลาไปแล้ว เพราะอะไรถึงเปลี่ยนเป็นร่างที่สองได้กัน?
“ไม่ได้ ข้าจะตายแบบนี้ไม่ได้”
อาร์คกําลังมองไปยังสายตาที่ขุ่นเคืองนั้น ระหว่างที่คาร์ม่าเคี้ยวดวงวิญญาณของเหล่าคนตาย มันก็จ้องมองมาทางอาร์ค
“เจ้า!”
ครืน!
อาร์คชักดาบออกมาแล้ว
“จบกันเสียที คมดาบแห่งความมืด!”
อาร์คเหวี่ยงสะบัดดาบออก ทว่าดาบนั้นไม่อาจทะลวงความมืดที่ปกคลุมเข้าไปได้
“อะไรกัน? โจมตีไม่ถึง?”
เรื่องนี้เกินกว่าที่อาร์คคาดคิดไว้ คล้ายมันมีวิญญาณความมืดที่มองไม่เห็นทําให้การโจมตีของอาร์คไม่สามารถตัดผ่านไปถึง
“เรื่องบ้าอะไรกัน?”
เขาจึงต้องใช้ทะลวงทักษะตรวจสอบ
ทักษะพิเศษของคาร์ม่า : กลืนกินดวงวิญญาณ
เมื่อเวทมนตร์นี้ถูกใช้งาน คาร์ม่าจะสามารถนําเอาดวงวิญญาณของคนตายมาเป็นของตัวเองได้ และเมื่อคาร์ม่าดูดซับดวงวิญญาณ มันจะสามารถได้รับพลังงานอันบ้าคลั่ง หากพลังงานบ้าคลังนี้สะสมรวมกันมาก คาร์ม่าจะสามารถใช้พลังงานดังกล่าวเพื่อใช้ทักษะพิเศษได้ ทว่า กลืนกินดวงวิญญาณสามารถใช้รวบรวมดวงวิญญาณได้จากคนตายและอันเดตเท่านั้น
อาร์ค ราคาร์ด และบุคซิลต่างมองเห็นออร่าความมืด แต่พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดกับคาร์ม่าในสภาพนี้ ดาบของอาร์คไม่สามารถโจมตีเข้าไปได้ และคาร์ม่าก็ไม่สามารถโจมตีอาร์คได้เช่นกัน
“เรากลัวไปเองสินะ
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“แต่ก็เหมือนจะมีอะไรผิดปกติอยู่
แม้เขาจะไม่สามารถโจมตีใส่คาร์ม่า แต่ความรู้สึกไม่สบายใจยังอยู่ และพลังงานที่บ้าคลั่งที่แจ้งในหน้าต่างข้อมูลก็ทําเขาอดคิดไม่ได้ อาร์คเพิ่งได้รับอัญมณีที่คาร์ม่าคาดหวังจะได้รับมาหลายร้อยปีไว้ในครอบครอง เพราะอะไรกันมันถึงต้องพยายามรวบรวมพลังงานบ้าคลั่งจากดวงวิญญาณคนตาย? ถ้าหากพลังงานบ้าคลั่งนั้นเต็มขึ้นมา เขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“พวกเราควรถอยไปดูสถานการณ์ในระยะห่าง”
“ครับ? แต่ยังมีคนตายเหลืออีกเยอะเลยนะ”
“ช่วยไม่ได้หรอก ฉันโจมตีมันไม่เข้าเลย”
อาร์คมองไปยังดวงตาของบุคซิลแล้วเกาศีรษะอย่างอับอาย แน่นอนว่าอาร์คอยากช่วยเหลือคนตายเหล่านี้ พวกเขาต่างโดนคําสาปและต้องทุกข์ทรมานมานานมากแล้ว แถมยังโดนโลกลืมเลือน แม้พวกเขาจะเป็นเอ็นพีซีในเกม แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเวทนาหลังได้ยินเรื่องราวจากอันกูราดอน แต่บอลตรงหน้ามันเอาแต่รวบรวมพลังงานและเขาก็โจมตีไม่ได้ กลิ่นอายอันตรายตอนนี้มันยิ่งมายิ่งเด่นชัดภายในใจ นอกจากนี้พวกคนตายจะเชื่อฟังคําสั่งอาร์คหรือหากสั่งให้อพยพ?
“ถึงจะรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีทางเลือกแล้ว”
แต่แล้วอาร์คก็ไม่อาจหลบหนี
ก่อนเขาจะขยับตัวด้วยซ้ํา เขาได้ยินเสียงของราซาคจากทางด้านหลัง ตามพื้นฐานข้อมูลของทักษะกลืนกินดวงวิญญาณ อาร์คและราคาร์ดจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขาลืมไป ราซาคเป็นอันเดตที่มีพื้นเพอยู่กับโอเบเรียม ถูกต้องแล้ว ราซาคกําลังโดนออร่าความมืดเข้าปกคลุมทันทีที่ออกมาจากหลุมฝังศพใต้ดิน
ราซาคโดนจับโดยทักษะกลืนกินดวงวิญญาณ
เมื่อถูกจับโดนทักษะกลืนกินดวงวิญญาณ ชีวิตของผู้ตายจะถูกดูดออกไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อพลังชีวิตหมดสิ้นและถูกคาร์ม่าดูดกลืน ดวงวิญญาณที่ติดอยู่ภายในร่างของคาร์ม่าจะไม่สามารถเป็นอิสระ
“บ้าฉิบ!”
อาร์คแทบสาปแช่งออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ก็สายเกินไป เดิมที่อันเดตก็ไม่ใช่อะไรที่หมายถึงตายไปแล้วจริง อันเดตในเกมก็คือสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วแต่ยังอยู่ในโลก เพราะงั้นแล้ว อันเดตจึงเป็นสิ่งที่สามารถตายซ้ําได้ ในกรณีที่เป็นมอนสเตอร์ ผู้เล่นย่อมสามารถสนุกสนานไปกับการฆ่ามันได้ เพราะเดี๋ยวยังไงระบบก็จะส่งพวกมันกลับมาใหม่อยู่ดี หากพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น อันเดตในเกมไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยยึดหลักการเกิดขึ้นใหม่ แต่เป็นการฟื้นคืนชีพ เพราะงั้นพวกมันจึงกลับมาใหม่ได้เร็วกว่ามอนสเตอร์อื่น นี่เป็นเพราะดวงวิญญาณของอันเดตไม่เคยออกจากร่าง แต่แล้วหากทักษะกลืนกินวิญญาณนี้มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ตายจะโดนดูดวิญญาณออกจากร่างแล้วไม่มีทางฟื้นคืนกลับมาได้อีก และนี่ก็กําลังจะเกิดขึ้นกับราซาค หากดวงวิญญาณของราซาคติดอยู่ภายในร่างของคาร์ม่า ก็หมายความว่าอาร์คจะไม่สามารถอัญเชิญอีกฝ่ายได้อีก
“อันตราย อันตรายเกินไปแล้ว!”
ข้อความสีแดงแทบผุดขึ้นภายในของอาร์คโดยทันที
“ไม่มีทางเลือกแล้ว! คมดาบแห่งความมืด!”
อย่างไรแล้วร่างของคาร์ม่าตอนนี้เป็นศูนย์รวมของเวทมนตร์ มันก็เหมือนกับก่อนหน้า การโจมตีทางกายภาพไม่สามารถทําอะไรได้ การโจมตีของอาร์คไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับออร่ามืดได้ ระหว่างนั้น ราซาคกกลิ้งไปมากับพื้นอย่างดิ้นรนและได้รับความเสียหายจากออร่ามีดอย่างต่อเนื่อง
กัก กัก!
“เอาจริงเหรอเนี่ย…”
สีหน้าของอาร์คเริ่มมืดมน ก็เหมือนกับคนตายอื่นก่อนหน้า ราซาคไม่มีทางต่อต้านทักษะกลืนกินดวงวิญญาณ
“ถ้าเรายกเลิกการอัญเชิญได้ก็น่าจะหยุดได้ แต่ว่า…”
เมื่อยกเลิกการอัญเชิญ ราซาคจะโดนพาตัวกลับไปที่คุกใต้ดินของโอเบเรียม ออร่าความมืดตอนนี้ได้แผ่กระจายไปทั่วทุกที่แล้ว จะยังไงก็ต้องไปถึงเบื้องล่าง นั่นทําให้อาร์คคิดไม่ออกว่าควรทํายังไง เขาต้องหาวิธี แต่พลังชีวิตของราซาคก็ไม่คอยท่าและลดลงอยู่ตลอด ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 30%… 29% 28%. 27%… มันลดลงอย่างต่อเนื่อง
“ไม่!”
ขณะนั้นเอง อาร์คกระโดดพุ่งเข้าหาราซาคที่กําลังกรีดร้องและทุบตีโล่ของตนเองกับพื้น แต่แล้วอาร์คกลับสูญเสียพลังมานา 300 หน่วยและหน้าต่างข้อมูลก็ปรากฏขึ้น
สมุนอัญเชิญ ราซาคได้ใช้พลังมานาของท่านเพื่อใช้งานความภักดีแรงกล้า
“ทักษะที่อันกูราดอนใช้ในหลุมฝังศพใต้ดิน?”
อาร์คมองไปทางราซาคอย่างอึ้งทึ่ง ร่างของราซาคได้แปรเปลี่ยนเป็นรูปปั้นโลหะ ก็เหมือนกับตอนที่ราดันเรียนรู้ทักษะสะกดรอยในอดีต อาร์คไม่ได้อยู่ด้วยจึงไม่เห็นหน้าต่างข้อมูลของทักษะนี้ อย่างไรแล้วราซาคตอนนี้สามารถหยุด การลดลงของพลังชีวิตได้เมื่อเปลี่ยนร่างเป็นโลหะ ในสภาพนี้พลังป้องกันจะเพิ่มขึ้น ทักษะดูดกลืนดวงวิญญาณจะไม่มีผลอีก
“ก็ยืดเวลาไปได้หน่อยละนะ”
อย่างไรแล้วตอนนี้ยังไม่สามารถถอนหายใจอย่างโล่งอกได้ ก็เหมือนกับอันกูราดอน ราซาคจะไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้ในสภาพนี้ และออร่ามืดก็ยังคงมีอยู่ภายในร่างของราซาค ตอนนี้พลังชีวิตเหลือเพียงแค่ 229% เท่านั้น เมื่อใดที่ทักษะคลายออก พลังชีวิตจะเริ่มถูกดูดออกไปพร้อมดวงวิญญาณอย่างสมบูรณ์
“ท้ายที่สุดเราก็ไม่มีทางเลือกอื่น ต้องจัดการมันให้ได้ถ้าอยากช่วยราชาคไว้ มันต้องมีวิธีฆ่าสิ มันต้องมีแน่ๆ ถ้าเราจัดการไม่ได้ ราซาคจะโดนกลืนกินเข้าไป แต่การโจมตีทางกายภาพทั้งหมดไม่มีผลกับมัน.. เดี๋ยวนะ? การโจมตีทางกายภาพไม่เป็นผล 100%? งั้นก็เหมือนกับตอนที่เราใช้ห้วงเวลาแห่งสไลม์หรือเปล่านะ? บางที…”
ตอนที่เขาใช้ห้วงเวลาแห่งสไลม์ การโจมตีที่เขาต้องระวังคือเวทมนตร์ นั่นทําให้อาร์คคิดได้
“ก็มีแต่ต้องลองแล้ว ดาบแห่งธาตุไฟ!”
พรึ่บ!
คาร์ม่าได้รับความเสียหายจากธาตุไฟ 50 หน่วย!
“ได้ผล!”
โดยทันที อาร์คนําดาบที่มีเปลวไฟปกคลุมฟาดฟันออก ออร่าความมืดนั้นถูกสะบั้นไม่ต่างกับเต้าหู้ คาร์ม่าตอนนี้มีภูมิต้านทานการโจมตีทางกายภาพ 100% หรือก็คือ มีเพียงแค่การโจมตีโดยเวทมนตร์เท่านั้นที่จะสร้างความเสียหายได้ และดาบแห่งธาตุก็จะมอบผลลัพธ์พิเศษโดยการเสริมความเสียหายทางธาตุให้ 10% จากพลังโจมตีพื้นฐาน หรือก็คือ อาร์คสามารถโจมตีไปได้เพียงแค่ 10% เท่านั้น นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมความเสียหายจึงทําได้แค่ 30-50 หน่วย
น้อยไปบ้างแต่ก็ได้ผล!”