Ark The Legend - ตอนที่ 444 : ลิซผู้เป็นอมตะ!
ตอนที่ 444 : ลิซผู้เป็นอมตะ!
“นี่ก็น่าจะใกล้ถึงสุดทางแล้วนะ”
อาร์คพูดกับตัวเองหลังตรวจสอบแผนที่ ด้วยทักษะวาดแผนที่ของเขา ดันเจี้ยนแห่งนี้มีพื้นที่กระจ่างชัดกว่า 95% เรียบร้อยแล้ว เหลืออีกเพียงแค่ไม่เท่าไหร่เขาก็ใกล้จะเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้ได้
“ไปกันต่อเลยดีกว่า”
อาร์คเมื่อฟื้นฟูพลังชีวิตหลังกินอาหารแล้วจึงลุกขึ้นยืน หลังจัดการซอมบี้เชื้อราบริเวณนี้ให้เป็นวัตถุดิบเรียบร้อย เขาก็เริ่มเข้าไปด้านในต่อ ผลของยาฆ่าเชื้อจะอยู่ได้อีกยี่สิบนาที อาร์คเดินตามเส้นทางสายเดียวไปจนกระทั่งถึงทางตัน
“อะไรกัน?”
อาร์คเหม่อมองทางตันด้วยอาการโง่งมไปไม่ถูก เขามาจนสุดทางอย่างยากลําบากเพื่อมาเจอทางตันอย่างนั้นหรือ? แม้ความจริงเดิมทีแล้วจะมาเพื่อรวบรวมเห็ดมงฟิชก็ตามที ทว่าตอนนี้เขายังไม่เจอเห็ดเลยสักต้น ทั้งเสาะหาตามผนังหรือตามพื้น เขาไม่พบเจอเลย กลับกัน เขาได้พบบ่อน้ําที่มีน้ําสีดําสนิทอยู่มุมหนึ่ง
“ถ้าหากเห็ดมงฟิชเติบโตในถ้ําแห่งนี้ มันก็ต้องไหลไปตามทางน้ําจนกระทั่งถึงทิ้งด้านล่างงั้นสินะ?”
และน้ําสีดําตรงหน้าก็ไหลนองเต็มพื้นเป็นทาง โดยต้นกําเนิดของน้ําก็มาจากบ่อน้ําสีดําดังกล่าว
“น้ําค่อนข้างไหลเอื่อย มันน่าจะเชื่อมต่อไปยังอีกที่หนึ่งที่มีน้ํา นี่ต้องมีทางเชื่อม
“ พวกนายตามมาทางนี้”
อาร์คกระโดดลงไปในบ่อน้ําอย่างไม่ลังเล เมื่อเข้ามาภายในน้ําสีดํานี้เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย อาร์คพยายามใช้มือสัมผัสตรวจสอบบ่อ แต่เพียงชั่วครู่ เขารู้สึกได้ถึงกระแสน้ําที่กําลังไหล นี่หมายความว่าบ่อนี้มันมีต้นกําเนิดน้ําจากที่อื่น!
“ทางนั้น!”
อาร์คเริ่มทําการเขี่ยก้อนหินให้พ้นทางเพื่อว่ายย้อนเส้นทางน้ํา
ขึ้นไป
ข้างบนนั่น น่าจะเป็นถ้ําอีกส่วน!”
อาร์คว่ายขึ้นมาเหนือผิวน้ําแล้วมองไปรอบ สถานที่ที่อาร์คเพิ่งมาถึงนี้เป็นบ่อน้ําอีกแห่งที่อยู่ใกล้ผนัง ทั้งยังมีน้ําตกไหลลงมา น้ําจากบ่อนี้ไหลไปยังบ่ออีกแห่งแล้วค่อยไหลต่อไปยังบึงน้ําอีกที่หนึ่ง
“ไม่ผิดแน่ เห็ดมงฟิชน่าจะต้องอยู่แถวนี้”
อาร์คพ้นจากน้ําแล้วเริ่มทําการสํารวจพื้นที่ เขาไม่มีพลังมานาจึงทําให้ไม่สามารถใช้งานเนตรแห่งแมวได้ เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมได้อย่างเด่นชัด ทว่า ดวงตาของเขาไม่ช้าก็เริ่มปรับรับกับความมืดของถ้ําจนเริ่มเห็นรูปร่างโดยคร่าว
“ที่นี่เหมือนเป็นเหมือง?”
ผนังถ้ําใต้ดินทั้งหมดคล้ายถูกขุดเจาะสร้างขึ้นมา หลังนํามือไปสัมผัสตรวจสอบ เขาก็พบคราบเขม่าสีดําเหมือนถ่านหินติดมือ ขณะเดินผ่านไป บ่อยครั้งเขาจะได้เห็นก้อนถ่านหินที่เหมือนก้อนหินทั่วไป น้ําที่ไหลผ่านถ้ําและเป็นสีดําก็น่าจะเพราะถ่าน พวกนี้ร่วงหล่นลงไป ไม่ช้า ราคาร์ดที่ดําน้ําตามมาก็บินขึ้นแล้วร้องตะโกน
“เจ้านาย เห็ด เห็ด!”
“มีเห็ดอยู่ที่นี่ใช้ไหม?”
อาร์คพลันอารมณ์ดีขึ้นมาขณะเร่งให้ราคาร์ดนําทางไป เห็ดพวกนี้เติบโตใกล้กับถ่านหิน? พวกมันคือเห็ดมงฟิชที่อาร์คกําลังตามหา! เห็ดมงฟิชพวกนั้นเติบโตขึ้นภายในกลุ่มก้อนถ่านอย่างน่าประหลาด
“เยี่ยมไปเลย!”
อาร์คยื่นแขนไปพยายามหยิบเห็ดขึ้นมา ตั้งแต่ที่หยิบพวกมันขึ้น เขาไม่ได้หยุดมือเลยแม้สักนิด แต่พวกมันก็คล้ายยังไม่หมดไม่สิ้น เห็ดมงฟิชสามารถให้ผลลัพธ์อันน่าตื่นตาตื่นใจกับเขาได้หากนําไปใช้งานให้ถูกวิธี และตอนนี้ก็คล้ายว่าต่อให้เขาเรียกบุคซิลกับแบกิวมาก็ไม่น่าจะรวบรวมเห็ดพวกนี้ไปให้หมดได้
“ยิ่งมีเยอะยิ่งดีเลย”
ตราบเท่าที่มีเห็ดอยู่ เขาคิดอยากเก็บพวกมันไปให้หมด และมันจะเป็นตัวการที่ทําให้เขาสามารถรับมือกับมอนสเตอร์เลเวลสูงกว่า ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร อาร์คตอนนี้เด็ดเห็ดไป พร้อมทั้งฝันกลางวันถึงความหวานหอมในอนาคตขณะเห็ดในกระเป๋าเริ่มกองสูงขึ้น
[เจ้าเด็กโสโครกช่างกล้าทําให้ที่พํานักของข้าสกปรก]
เสียงคํารามดังลั่นพื้นที่พร้อมหน้าต่างข้อความสีแดงแจ้งเตือน
บอสมอนสเตอร์ ลิซผู้เป็นอมตะ “คารัต” ปรากฏตัว
“ลิซ คือ ผู้วิเศษที่เสียชีวิตและยังมีความอาลัยต่อโลก เป็นอันเดตที่แข็งแกร่ง
“บอสมอนสเตอร์?”
อาร์คสะดุ้งขณะหันกลับไป อะไรบางอย่างที่ปกคลุมด้วยออร่าสีดํากําลังเดินตัดผ่านความมืดมา คารัตไม่ใช่โครงกระดูกหรือว่าซอมบี้ แต่เป็นเหมือนมอนสเตอร์อันเดตทั่วไปที่มีกระดูกโผล่มาบ้างประปราย ร่างนั้นมีฮูดปกคลุมพร้อมผ้าคลุมหลัง ทั้งยังถือแท่งยาวประหลาดไว้ในมือ ดูจากชุดน่าจะเป็นนักเวท ก็เหมือนเรื่องราวแฟนตาซีทั่วไป ลิซคือพ่อมดหรือแม่มดที่เกิดการแปดเปื้อนระหว่างการค้นหาความเป็นอมตะ ก่อนหน้าที่การัตจะเป็นอันเดต อีกฝ่ายต้องเป็นนักเวทมาก่อนอย่างแน่นอน
“บอสมอนสเตอร์… ฟ้ามีตา!”
รอยยิ้มพึงพอใจเหยียดผ่านใบหน้าของอาร์ค เขาเร่งจัดท่าทางตนเองเสียใหม่ “บอสมอนสเตอร์ = รางวัลชิ้นโต” นี่คือสูตรสําเร็จรูปภายในหัวของอาร์คก็ว่าได้
“ได้ทั้งเสบียงเห็ดจํานวนมาก แล้วตอนนี้ยังเจอบอสมอนสเตอร์อีก!”
สําหรับดันเจี้ยนแล้วเขามักยินดีอยู่เสมอ แน่นอนว่าที่นี่มีจุดไม่ดีอยู่บ้าง เพราะผลกระทบจากภายในถ้ําที่ทําให้ไม่สามารถใช้พลังมานาได้ จนส่งผลต่อเนื่องไปถึงทักษะเรียกใช้งานของเขา และตอนนี้ เขาก็ไม่มีพลังมานาเหลือให้ใช้เนตรแห่งแมวเพื่อตรวจสอบเลเวลของคารัตกับจุดอ่อน
“แต่คู่ต่อสู้เหมือนจะเป็นนักเวท”
เขาเคยต่อสู้กับจีเวลมาก่อน ทั้งยังไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ต่อสู้กันจนเบื่อขี้หน้าไปข้างกันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นแล้วอาร์คจึงตระหนักได้ดีว่าจุดอ่อนของนักเวทคืออะไร นักเวทมีพลังป้องกันต่ําและอัตราการตอบสนองที่ค่อนข้างช้า กลับกัน พลังโจมตีของนักเวทนั้นจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหากปล่อยให้มีเวลาได้ร่ายคาถาสําเร็จ แต่มันก็เป็นจุดอ่อนไปพร้อมกัน หากนักเวทไม่มีเวลามากพอจะร่ายคาถา แบบนั้นแล้วพวกเขาจะยิ่งยากลําบากในการรับมือศัตรู
และด้วยสภาพของเขาตอนนี้ ก็น่าจะพอให้ต่อสู้กับนักเวทได้อยู่
“แต่ก็นะ นักเวทยังมีที่เด็ดอย่างการวาร์ปให้ใช้…”
โชคดีที่ภายในนี้ไม่ได้กว้างขวางอะไร ต่อให้คารัตใช้วาร์ปได้ ก็มีไม่กี่ที่ให้หนีพ้น อาร์คเกิดความเชื่อมั่นไม่น้อยขณะเตะเข้าใส่บอส ก่อนที่อีกฝ่ายจะสามารถร่ายคาถาอันรุนแรงออกมา
“และเรายังมีสมุนอัญเชิญอยู่”
หากเขาจัดแจงให้พวกมันคอยไปดักตําแหน่งที่คารัตน่าจะทําการวาร์ปไป แบบนั้นจะสามารถช่วยให้ขัดขวางการร่ายคาถาอย่างทันท่วงที
“เรามีภูมิต้านทานเวทมนตร์อยู่ พอจะเมินเฉยพวกเวทมนตร์ระดับต่ําได้ ต้องเข้าประชิดแล้วรุก!”
อาร์คที่คิดอ่านวางแผนเรียบร้อยจึงเริ่มลงมือ
[ผู้บุกรุกต้องตาย!]
คารัตเริ่มทําท่าทางมือขณะร่ายคาถาออกมาปรากฏเป็นลูกธนูเวทมนตร์สีดําสนิทพุ่งลงมาประหนึ่งห่าฝน
“เยอะมาก หลบได้ไม่หมดแน่ ถ้าเป็นแบบนั้น…”
อาร์คทําการปิดใบหน้าและลําคอโดยใช้แขนทั้งสองขณะวิ่งพุ่งไปด้านหน้า แม้ว่าจะทําเช่นนี้ก็ไม่สามารถลดทอนความเสียหายได้ แต่มันจะช่วยให้เขาลดอัตราการเกิดโจมตีคริติคอลได้ พลังชีวิตของอาร์คลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อโดนโจมตีด้วยลูกธนูเวทมนตร์ ทว่า ความเสียหายนั้นไม่ได้มากอะไรหากเทียบกับจํานวนที่โดน เพราะเขาได้รับภูมิต้านทานเวทมนตร์จากเม็ดยาพังพอนอมตะนั่นเอง
“ราคาร์ด ราซาค กระจายตัวออกไปที่สองมุมห้อง!”
อาร์คเคลื่อนเข้าใกล้คารัตและตะโกนสั่งการ อาร์คที่แทบถึงตัว แล้วก็เตรียมพร้อมสําหรับการวาร์ปหนีของคารัต ดังคาด คารัตเริ่มทําการร่ายคาถาเพื่อวาร์ปทันทีเมื่ออาร์คใกล้ถึงตัว วาร์ปเป็นทักษะที่มีไว้ใช้เพื่อหายตัวอย่างสุ่ม มันไม่มีทางกําหนดสถานที่ได้ มันไปปรากฏตัวอีกครั้งที่บริเวณใกล้มุมทางขวาล่างและเตรียมใช้งานลูกธนูเวทมนตร์อีกครั้ง ทว่าราซาคคอยอยู่ก่อนแล้วจึงใช้โล่ปะทะเข้าขัดขวางการร่ายคาถา
“ทําได้ดี ใช้โล่โจมตีมันต่อไป!”
กรัก กก กก กก!
ราซาครับคําสั่งพร้อมใช้โล่กระแทกอย่างรุนแรงขณะที่คารัตเพิ่งวาร์ปมา และก็แน่นอน ราซาคย่อมไม่อาจขัดขวางบอสไว้ได้เพียงลําพังอยู่แล้ว
[โครงกระดูกที่โสมม!]
คารัตเหวี่ยงไม้เท้าใส่ราคาร์ดจนร่างกระเด็นถอยกลับไปหลายเมตร คารัตเริ่มทําการร่ายคาถาอีกครั้งหนึ่ง ทว่าอาร์คก็วิ่งพุ่งเข้าหาแทบถึงตัวก่อนที่จะร่ายคาถาเสร็จ
พี่บ! อึ้ง!
ดาบนั้นทะลวงร่าง และยังตามด้วยการใช้ลูกเตะหมุนตัว คารัตโดนเตะเข้าใส่สีข้างจนร่างสั่นและพยายามคิดถอยหนี อาร์คไม่พลาดโอกาสก่อนจะเตะรัวเข้าใส่ไม่ยั้ง นักเวทต้องร่ายคาถาเพื่อใช้เวทมนตร์ เพราะงั้นแล้วอาการ “มึนงง” จึงเกิดประโยชน์สูงสุดยิ่ง กว่าอาการผิดปกติอื่นใด และก็ดังคาด คารัตเริ่มออกอาการคล้ายจําบทคาถาที่ต้องร่ายไม่ได้
[เจ้า!]
คารัตเลือกช่องว่างระหว่างการโจมตีของเขาก่อนจะใช้วาร์ปหนีไปอีกครั้ง
“ทุกคนระวังตัวด้วย!”
ราซาคและราคาร์ดต่างพยายามองหาโดยรอบตามที่อาร์คสั่ง หลังผ่านไปสักครู่หนึ่ง คารัตก็ปรากฏร่างให้เห็นอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ มันโชคดีที่ไปโผล่ตรงมุมหนึ่งซึ่งไม่มีการเฝ้าระวัง อาร์คและสมุนอัญเชิญนั้นรออยู่คนละทิศทาง
“ชิ ราคาร์ดไปหยุดมันไว้เ”
“ขะ-ขอรับ!”
ราคาร์ดบินพุ่งเข้าหาคารัต ทว่าครั้งนี้คารัตคล้ายจะเร็วกว่า
[ผู้บุกรุกที่โสมม รับนี่ไป ศรความมืด!]
ลูกธนูเวทมนตร์สีดําพุ่งออกมาจากมือของคารัต ราคาร์ดถึงกับกรีดร้องออกมาเมื่อโดนโจมตีเข้าใส่จนร่างหล่นลงกับพื้น ระหว่างนั้น เป็นอีกครั้งที่อาร์ควิ่งตามพุ่งเข้ามา แต่ก็สายเกินไป คารัตใช้การวาร์ปไปอีกครั้งแล้ว หากอาร์คไม่สามารถหยุดการใช้วาร์ปได้ เขาจะไม่มีทางรับมือกับการตได้โดยง่าย ในกรณีแย่สุดตอนนี้คือเขาไม่สามารถใช้ทักษะได้ ทว่าอาร์คก็ไม่ได้อยู่เพียงลําพัง
[ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะทําให้เจ้าได้เสียใจที่หาเรื่องใส่ตัว!]
[เวท…]
ครึก ทิ้ง!
(อัก]
คารัตเผยเสียงสั่นขณะโดนโล่เข้าปะทะจากอีกด้าน ครั้งนี้ราซาคอยู่ตรงบริเวณที่คารัตเพิ่งวาร์ปมา… การต่อสู้กับคารัตก็เหมือนสุ่มดวง หากมันไปปรากฏตรงที่อาร์คหรือสมุนอัญเชิญรออยู่ก่อน แล้วก็โดนเล่นงานไป และหากคารัตไปปรากฏตัวที่อื่นพวกเขาก็จะ โดนเล่นงานแทน ไม่ว่าอาร์คจะวิ่งได้เร็วขนาดไหน คารัตจะสามารถใช้งานเวทมนตร์ได้ก่อนแล้วค่อยหนีไปด้วยการวาร์ป เหตุการณ์เช่นนี้ดําเนินต่อเนื่องกว่ายี่สิบนาทีแล้ว
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ถ้าราดันใช้สะกดรอยคาดเดามัน…”
อาร์คพูดเสียงเบาขณะลมหายใจเริ่มขาดช่วง หากนักเวทหลบหนีโดยการใช้วาร์ป ราดันจะสามารถคาดเดาตําแหน่งได้โดยใช้การสะกดรอย! ทักษะนี้เป็นอะไรที่ทําให้จีเวลโดนต้อนเข้าจนมุม แต่ก็เหมือนเดิม อาร์คไม่สามารถใช้ทักษะสะกดรอยเพราะไม่มีพลังมานาเหลือแล้ว ท้ายที่สุดต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มลงก่อนอาร์ค และสมุนอัญเชิญต่างก็เริ่มหมดเรี่ยวแรงหลังวิ่งไปมากว่ายี่สิบนาที นอกจากนี้เขายังได้รับความเสียหาย เพราะวิ่งเข้าใส่คารัตเรื่อยมาจนพลังชีวิตเหลือแค่ 30% นอกจากนี้ภูมิต้านทานเวทมนตร์ของทั้งราคาร์ดและราซาคต่างก็มีน้อยจนทําให้พลังชีวิตเหลือนิดเดียวจนเข้าอาการวิกฤตแล้ว
“แต่พลังชีวิตของคารัตก็น้อยแล้วเหมือนกัน ดีล่ะ!”