Ark The Legend - ตอนที่ 462 : โบซากะ
ตอนที่ 462 : โบซากะ
ขณะที่อาร์คนั่งพัก เขาจ้องมองออกไปยังหุ่นไม้ ห้าด่านแรกค่อนข้างง่ายจนน่าใจหาย เพียงแค่คอยหลบหมัดของหุ่นไม้ที่พุ่งมาเป็นเส้นตรงแล้วสวนกลับไปก็สามารถทําได้ 300 คะแนนอย่างง่ายดาย แต่เรื่องราวก็ต้องพลิกผันเมื่อถึงด่านที่หก หุ่นไม้ปรากฏแขนหกข้าง และโจมตีเข้าพร้อมกัน ในเมื่อเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจึงพลาดท่าที่ด่านหกถึงแปดไปทั้งสิ้นสี่ครั้ง
“ถ้าเราไม่ได้ขัดเกลาฝีมือผ่านพวกซอมบี้เชื้อรา บางทีคงไม่มีทางชนะด่านที่สิบมาได้ เราเรียนเทควันโดมา เพราะแบบนั้นสําหรับผู้เล่นทั่วไปคงเป็นเรื่องยากมาก
กับคนที่ต้องเสียไปแล้วถึง 100 เหรียญทองย่อมต้องทราบว่าควรหยุดเมื่อใด อย่างไรก็ดี ตอนที่เขาพลาดไปสี่ครั้งเขาก็เริ่มใหม่โดยทันที่จนผ่านด่านทั้งสิบมาได้ ทั้งหมดที่จ่ายไปคือ 1 เหรียญทองกับอีก 40 เหรียญเงิน เขาได้รับค่าสถานะความอดทน 44, ความคล่องตัว +3 และพละกําลัง +3 นอกจากนี้แล้วโบนัสของการชนะด่านทั้งสิบทําให้ได้รับค่าสถานะพละกําลัง ความคล่องตัว และความอดทนอีกอย่างละ 5 หน่วย!
“แค่สามสิบนาทีเองนะเนี่ย”
หากเทียบกับที่เสียไป มันไม่ต่างอะไรกับได้ค่าสถานะมาฟรีเลยด้วยซ้ํา
“ถึงจะเป็นเมืองเลเวลต่ําก็จะทําเป็นเมินเฉยไม่ได้ ที่นี่คือบริสทาเนียไม่ใช่ชอร์เดนเบิร์ก ใครจะรู้กันว่าจะมีอะไรแบบนี้อยู่ที่นี่ด้วย? เราต้องคอยตรวจสอบทุกหมู่บ้านและเมืองที่จะไปถึงหลังจากนี้ให้อาร์คที่คิดกับตัวเองอยู่ก็โดนขัดคําขึ้น
“ในที่สุด สวาล่า สวาล่า ท่านคงเป็นคนสุดท้ายแล้ว สวาล่า สวาล่า ขอแสดงความยินดีด้วย”
“หมายความว่ายังไงกันครับ?”
อาร์คถามออกไป พ่อค้าฮอบบิทชี้ไปยังโรงฝึกด้วยอาการหมองหม่นเล็กน้อย
“ดังที่เห็น สวาล่า สวาล่า ในอดีตพวกเรามีผู้คนไปมาหาสู่ไม่น้อย สวาล่า สวาล่า แต่ตอนนี้ผู้คนที่คิดฝึกฝน สวาล่า สวาล่า ลูกค้าก็น้อยลง สวาล่า สวาล่า พวกเขาไม่กล้าที่จะลอง! แล้วก็อย่างที่เห็น โรงฝึกนี้ไม่อยู่ควรในอาณาจักรแห่งเวทมนตร์ สวาล่า สวาล่า ที่นี่ก็แทบจะล้มละลายอยู่แล้ว สวาล่า สวาล่า”
ฮอบบิทถอนหายใจขณะหันกลับไปมองรูปปั้น
“หลังจากนี้คงไม่มีแล้ว สวาล่า สวาล่า ข้านั้นไม่อาจหาผู้มีพรสวรรค์เพียงพอที่จะสืบทอดเคล็ดวิชาลับของท่านผู้ก่อตั้ง สวาล่า ส วาล่า น่าเสียดายจริงๆ สวาล่า สวาล่า อา ใช่แล้ว สวาล่า สวาล่า บางที่ท่าน สวาล่า สวาล่า อยากจะลองไหม?”
ฮอบบิทพลันชี้นิ้วไปยังสัญลักษณ์รูปฝ่ามือที่อยู่บริเวณด้านล่างของรูปปั้นฮอบบิท อาร์คตัดสินใจวางมือลงไปโดยไม่คิดอื่นใดให้มาก ความทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เสียงกลไกเริ่มดังขึ้นขณะรูปปั้นเกิดความเปลี่ยนแปลง ฮอบบิทเจ้าของโรงฝึกถึงกับร้องอุทานด้วยความตื่นตกใจ
“ไม่อยากจะเชื่อ สวาล่า สวาล่า จริงเหรอเนี่ย สวาล่า สวาล่า ผนึกกําลังคลาย สวาล่า สวาล่า!”
“ผนึก?”
อาร์คหันไปถามฮอบบิทที่กําลังมีท่าทีตื่นเต้นยินดีอยู่
“ความจริงแล้วผู้ก่อตั้งโรงฝึกแห่งนี้ สวาล่า สวาล่า ตํานาน สวา ล่า สวาล่า เจ้าแห่งศิลปะการต่อสู้กังฟู สวาล่า สวาล่า! หากแต่ตอนนั้น สวาล่า สวาล่า! ปีศาจ สวาล่า สวาล่า! คนคนนั้น สวา ล่า สวาล่า และชายคนนั้น สวาล่า สวาล่า จึงผนึกเคล็ดวิชาลับเอา ไว้ สวาล่า สวาล่า มีเพียงแต่ผู้ที่มีพลังซึ่งได้รับการยอมรับจึงจะสา มารถคลายผนึกเคล็ดวิชาลับ สวาล่า สวาล่า!”
เพราะไม่คุ้นเคยกับภาษามากพอ เนื้อหาส่วนใหญ่จึงแทบไม่สามารถเข้าใจได้ ทว่าเขาก็พอเข้าใจเนื้อหาใจความหลักของคําที่ได้ยิน อาร์คนําคําเหล่านั้นเชื่อมถึงกันก็เริ่มเข้าใจ บุคคลที่เป็นต้นแบบของรูปปั้นคือผู้สร้างโรงฝึกแห่งนี้ เป็นจ้าวแห่งกังฟูในตํานาน และน่าจะแข็งแกร่งขนาดที่สามารถโค่นล้มปีศาจได้! อีกทั้งยังเก็บและผนึกคัมภีร์เอาไว้ที่นี่ มีเพียงผู้ที่เหมาะสมถึงจะคลายผนึกเพื่อเรียนเคล็ดวิชาลับ แต่แล้วทําไมอาร์คถึงคลายผนึกได้? คําตอบง่ายมาก เมื่ออาร์คสัมผัสกับคัมภีร์ หน้าต่างข้อมูลก็ปรากฏโดยทันที
เพราะ “การแสวงหาความจริง” ท่านได้รับโอกาสเรียนทักษะระดับตํานาน
ทักษะระดับตํานานต้องการใช้ชื่อเสียง 7,000 หน่วย
“เป็นเคล็ดวิชาลับตัวจริงเสียงจริง!”
อาร์คเผยดวงตาเบิกออกกว้าง ใช่แล้ว การค้นพบโรงฝึกแห่งนี้จึงกับนําพามาซึ่งทักษะลับระดับตํานานให้แก่เขา
“โอ้ สวาล่า สวาล่า รีบรับคัมภีร์นั้นไว้ สวาล่า สวาล่า!”
ขณะที่อาร์คกําลังคว้าคัมภีร์ดังกล่าว ประกายไฟพลันบังเกิดจนทําให้เขาต้องหดมือกลับ
ท่านไม่มีค่าชื่อเสียงเพียงพอต่อการเรียนทักษะนี้!
“เดี๋ยวนะ ต้องใช้ค่าชื่อเสียง 7,000 หน่วย?”
อาร์คถึงกับชะงักขณะตรวจสอบหน้าต่างข้อมูล ครั้งก่อนหน้า เขาเพิ่งใช้ค่าชื่อเสียง 6,000 หน่วยเพื่อเรียนทักษะกองทัพอัศวิน วิญญาณจากโอเบเรียม แต่แล้วตอนนี้กลับต้องการถึง 7,000? หากว่าต้องการค่าชื่อเสียง 7,000 หน่วย มันจะเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมเพียงใดกัน?
“ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นถึงจ้าวแห่งกังฟู มันก็ต้องเป็นทักษะที่ชวนโลกตะลึงแน่!”
หลังจากที่ได้เห็นว่ามันต้องใช้ค่าชื่อเสียงถึง 7,000 หน่วยแล้ว ชื่อของมันก็น่าสนใจไม่น้อย ทักษะแสวงโชค
“ในเกม RPG ทั่วไป บางครั้งก็มีสมบัติใหญ่ซุกซ่อนอยู่ใกล้หมู่บ้านเริ่มต้น นี่เหมือนถูกรางวัลเลย!”
อย่างไรแล้ว อาร์คตอนนี้มีค่าชื่อเสียงแค่ 5,840 หน่วยเพราะเพิ่งเรียนทักษะกองทัพอัศวินวิญญาณไป เขายังต้องหาค่าชื่อเสียงอีก 1,160 หน่วยเพื่อเรียนทักษะนี้
“อา สวาล่า สวาล่า ผู้ก่อตั้งเคยกล่าว สวาล่า สวาล่า บุคคลที่สามารถเรียนเคล็ดวิชาลับได้ สวาล่า สวาล่า ผู้ที่ค้นหาความจริง สวาล่า สวาล่า ต้องมีค่าชื่อเสียงจํานวนที่เหมาะสมด้วย สวาล่า สวาล่า”
ฮอบบิทเจ้าของโรงฝึกเอ่ยทั้งสีหน้าผิดหวังเมื่อเห็นเขาไม่สามารถรับเอาคัมภีร์ตรงหน้าไว้ได้ แต่แล้วเขาก็เลือกเข้ามาจับมืออาร์คไว้แล้วกล่าวว่า
“ยังไงก็ตาม สวาล่า สวาล่า ท่านคือผู้ที่สามารถคลายผนึกมันได้ สวาล่า สวาล่า เป็นครั้งแรก สวาล่า สวาล่า นี่ต้องเป็นประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า สวาล่า สวาล่า เมื่อท่านกลับมาพร้อมค่าชื่อเสียงที่เหมาะสม มันจะยังคงรอคอยท่านอยู่ที่นี่ สวาล่า สวาล่า ได้โปรดเรียนรู้เคล็ดวิชาลับของท่านผู้ก่อตั้งด้วย สวาล่า สวาล่า”
“เข้าใจแล้วครับ!”
อาร์คเขย่ามือฮอบบิทน้อยเป็นการตอบรับ เขาถึงกับบังเอิญได้มาพบเจอเคล็ดวิชาลับในสถานที่เช่นนี้ ใครกันจะยอมปล่อยไป เพียงเพราะแค่ขาดค่าชื่อเสียงนิดหน่อย?
“ผมจะไปหาค่าชื่อเสียงมาเพิ่มโดยเร็วที่สุดแล้วกลับมารับเคล็ดวิชาลับนี้ครับ!”
อาร์คพลันวิ่งพรวดออกจากโรงฝึก
“ตอนนี้คําถามคือเราจะเพิ่มค่าชื่อเสียงได้ยังไง…”
มีหลายวิธีที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มค่าชื่อเสียงได้ มีสามวิธีที่ง่ายที่สุด ทําภารกิจ ได้รับฉายา หรือไม่ก็ทําอะไรที่เป็นประโยชน์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับเมือง ในกรณีของอาร์ค เขาได้รับค่าชื่อเสียงส่วนใหญ่ก็จากการเยียวยาปาฏิหาริย์
“แต่การใช้เยียวยาปาฏิหาริย์ไม่ใช่อะไรที่นึกจะทําก็ทําได้ การได้รับฉายาก็เหมือนกัน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เรามาเมืองนี้ด้วย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะไปทําคุณงามความดีครั้งใหญ่ให้กับเมือง”
งั้นก็เหลือทางเดียวคือทําการกิจให้สําเร็จ และเมืองนี้ก็ค่อนข้างใหญ่ เอ็นพีซีจํานวนมากกระหายอยากจ้างวานให้ทําภารกิจ แน่นอนว่าเขาจะไม่ได้รับทั้งเงินหรือว่าค่าประสบการณ์ แต่สิ่งสําคัญตอนนี้คือค่าชื่อเสียง อาร์คเร่งมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสของเมืองที่เอ็นพีซีชอบมามอบภารกิจให้
“ไม่ใช่ว่าเมื่อครู สวาล่า สวาล่า ปฏิเสธ?”
“ไม่ครับ คือผมทําไปเพราะเพิ่งมาที่นี่เลยยังไม่รู้ความ ทั้งยังไม่ค่อยคุ้นชินกับภาษา เพราะงั้นจึงไม่ทราบว่าสถานการณ์ของท่านกําลังเผชิญความยากลําบาก แต่ตอนนี้ถ้าหากผมจะช่วยคลายความยากลําบากนั้นได้ล่ะก็ ได้โปรดบอกออกมาครับ”
“ถ้าหากเป็นเช่นนั้น สวาล่า สวาล่า พอจะหาสัมภาระของข้าได้หรือไม่?”
“สัมภาระงั้นเหรอครับ?”
“เดิมที่ข้านั้น สวาล่า สวาล่า รับส่งสินค้า สวาล่า สวาล่า แต่แล้วระหว่างเดินทางจากหมู่บ้านอื่นก็โดนพวกโคบอลท์เข้าโจมตี สวาล่า สวาล่า แล้วพวกมันก็เอาสัมภาระข้าไป สวาล่า สวาล่า พวกโคบอลท์นําสัมภาระของข้ากลับไปยังรังของพวกมัน สวาล่า สวาล่า ข้าอยากได้มันคืนในวันพรุ่งนี้ สวาล่า สวาล่า มีสิ่งของหลายอย่างในสัมภาระของข้า สวาล่า สวาล่า มันอันตรายไปบ้าง เจ้าจะช่วยได้หรือไม่?”
เมื่อชายชรากล่าวจบคํา หน้าต่างข้อมูลภารกิจก็ปรากฏขึ้นในทันที ด้วยความที่เขาเข้าใจภาษาบริสทาเนียแค่ 30% คําพูดของชายชราจึงผสมคําว่าสวาล่า สวาล่าเยอะมากจนเขาแทบไม่อาจเข้าใจ แต่โชคดีที่หน้าต่างภารกิจช่วยให้ข้อมูลที่สําคัญมีความครบถ้วน
ชายชราในซิเอลที่เป็นคนส่งสินค้าประสบปัญหา
ชายชราร้องขอให้ท่านช่วยค้นหาสัมภาระที่สูญหาย เพราะพวกโคบอลท์ ตามคํากล่าวของชายชรา สินค้าถูกพวกมันขโมยไป ทั้งยังมีหลายอย่างกวาดล้างรังของโคบอลท์แล้วนําสัมภาระทั้งสิบกระเป๋ากลับคืนมา
“ผมไปเลยแล้วกัน!”
อาร์ครับภารกิจก่อนจะรีบวิ่งไปประหนึ่งสายลม
จาก อาร์ค
ฉันมาถึงที่ซิเอลแล้ว แต่พอดีมีธุระเร่งด่วน เพราะงั้นถ้าเป็นไปได้ นายช่วยมาหาฉันโดยเร็วที่สุดด้วย
“เชอะ!”
บุคซิลพ่นลมออกจมูกขณะโยนจดหมายนั้นทิ้งไป
“ธุระเร่งด่วน? เจ้ากี้เจ้าการเหมือนเคยสิไม่ว่า”
“ไม่ไปหรือขอรับ?”
แบกิวเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีของบุคซิล
บุคซิลเพียงหัวเราะแล้วตอบกลับ
“ก็ต้องไปอยู่แล้ว ถึงอาร์คจะรังแกฉันแต่ก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ถึงจะบอกว่าเป็นธุระเร่งด่วน แต่ในที่สุดฉันก็ได้อยู่ห่างจากหมอนั่นสักพัก ขอสนุกกับวันหยุดช่วงนี้ก่อนแล้วกัน”
บุคซิลพูดเสียงเบาขณะมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีบรรยากาศ งานเทศกาล ความจริงบุคซิลคิดอยากกลับไปรวมกลุ่มกับอาร์คโดยทันทีที่ได้รับการติดต่อ ทว่าบุคซิลกลับพบหมู่บ้านที่เรียกว่า โบซากะนั้นอยู่ห่างจากซิเอลที่อาร์คอยู่เพียงแค่สองวันทางเหนือเท่านั้นเอง แล้วหมู่บ้านนี้ก็อยู่ช่วงมีงานเทศกาลพอดี
“ไหนๆก็มาหมู่บ้านนี้ช่วงงานเทศกาลพอดี เพราะงั้นฉันยังไม่ไปหรอก”
“ได้เจอหมู่บ้านครื้นเครงขนาดนี้หลังเดินจากชายหาดมา เหมือนสวรรค์ประทาน”
“แต่หากอาร์ครู้ภายหลัง…”
“ก็แค่บอกไปว่าไม่เห็นจดหมายก็แล้วกัน”
บุคซิลหัวเราะขณะตอบกลับแบกิว
“เหอะเหอะ หลังจากเดินทางกับอาร์คมานาน ในที่สุดฉันก็จะได้กลับมามีชีวิตสงบสุขบ้าง ฉันจะใช้โอกาสนี้กักตุนความสุขเอาไว้ก่อน เชื่อใจฉันก็พอ”
“ขอรับนายท่าน”
“งั้นก็ไปกันดีกว่า เป้าหมายแรกเอาเป็นขนมสายไหม!”
“ทางนั้นก็ดี!”
บุคซิลลากแบกิวไปซุ้มร้านค้าตรงนั้นตรงนี้ขณะน้ําลายแทบไหลเป็นทาง ในตอนนี้เอง คนจํานวนสามสิบก็เข้ามาที่ประตูทางเหนือของโบซากะ
“ได้ยินมาไม่ผิดใช่ไหม?”
“ใช่ ตอนเล่นเน็ตก็บังเอิญไปเห็นเข้า วิดีโอนั่นถ่ายบรรยากาศของหมู่บ้านโบซากะ แล้วก็มีคนที่เหมือนหมูในวิดีโอนั่นด้วย”
บุคคลที่พูดกล่าวอยู่นี้คืออิสยูรัม อิสยูรัมทราบว่าอาร์คอยู่แถวทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ เพราะแบบนั้นพวกอาชญากรที่ออกค้นหาจึงแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม หนึ่งค้นหาทางชายหาด อีกหนึ่งคําค้นหาจากตะวันออกเฉียงเหนือถึงเฉียงใต้ หากพวกเขาไปทางตะวันออกเฉียงใต้อาจเจออาร์คได้ ด้วยความเร่งร้อน อิสยูรัมนึกขึ้นได้ ว่ามีใบปลิวโฆษณางานเทศงานที่ชายหาดจึงทําการล่อพวกอาชญากรมาที่หมู่บ้านโบซากะซึ่งอยู่ทางเหนือ การมพยักหน้ารับคําให้กับคําบอกกล่าวของอิสยูรัม
“โชคดีจริงที่นายเจอมันเข้า ถ้าพวกเราได้ตัวมัน ลูกพี่เจเพตอล จะได้เชื่อใจนายได้ 100% ออกค้นหากันเลยดีกว่า”
“อื้ม ไปกัน”
อัสยูรัมเผยรอยยิ้มเก้กังแล้วพยักหน้ารับ ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มและหญิงสาวก็เข้ามาที่ประตูทางใต้ของหมู่บ้านโบซากะ
“โห…. ชอบที่จอแจแบบนี้จัง แต่ว่าพวกเราต้องหาตัวไอ้เจ้าอาร์คนั่นนะ ไม่ได้มีเวลามาเล่นอะไรแถวนี้”
“เงียบน่า ต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็ต้องสนุกสนานกับงานเทศกาลบ้างนะรู้ไหม เพราะงานเทศกาลโบซากะเลยมีคนจากเมืองข้างเคียงมากันเยอะมาก ถ้ามันเข้าถึงอาณาจักรทางชายฝั่ง บางทีอาจมาที่นี่ก็ได้”
“ถ้าเธอว่าแบบนั้นก็ตามนั้น”
“หึหึหึ ใช่ไหมล่ะ? งั้นไปกินบาบีคิวกันก่อนเลยดีกว่า”
“ นี่เธอก็แค่อยากมาเล่นสนุกไม่ใช่หรือไง?”
“ไปก่อนเถอะน่า”
บุคคลที่กําลังเข้าไปเตรียมรับประทานบาบีคิวคือนักเวทสาวทรงเสน่ห์ที่สวมใส่ชุดเกราะโซสีขาว ชื่อของเธอคือเรเดียน ชายคนที่ตามมาด้วยเกาศรปะอย่างกังขา ร่าใหญ่โตนั้นคือเบรดนั่นเอง พวกเขาไล่ล่าอาร์คจนถึงชายฝั่งบริสทาเนียจนมาถึงหมู่บ้านโบซากะจนได้