Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1056 วิชาแยกฟ้าและเข็มร้อยสวรรค์
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1056 วิชาแยกฟ้าและเข็มร้อยสวรรค์
ตอนที่ 1056 วิชาแยกฟ้าและเข็มร้อยสวรรค์
น้ำเสียงชิงเหวินเจวี้ยนเพิ่งแผ่วลง แค่ชั่วพริบตาหลินสวินก็นึกถึงเซียวชิงเหอที่ถูกเห็นเป็นผืนผ้าวาด ประสบความทรมานก่อนแพ้พ่าย ไอสังหารที่สั่งสมในใจมานานพลันถาโถมเต็มทรวงอย่างไม่อาจระงับ
“สวรรค์เมตตาหรือไม่ข้าไม่รู้ ข้ารู้เพียงครานี้หากไม่ทำให้ข้าพอใจ เจ้าก็อย่าได้หวังจะออกจากสนามประลอง!”
นัยน์ตาดำของหลินสวินเยียบเย็น กล่าวเน้นทีละคำ ไอสังหารไร้รูปแผ่กระจายจากร่างเขาประหนึ่งกระแสน้ำปกคลุมฟ้าดิน ทำให้อานุภาพพลังเขาเปลี่ยนแปลงฉับพลัน
ชิงเหวินเจวี้ยนหัวเราะ บนหน้าอ่อนโยนแปลกประหลาดเปี่ยมความบ้าคลั่ง กล่าวว่า “เทพมารหลิน ข้าจะรังสรรค์เจ้าเป็นดอกลำโพง รับรองว่าเจ้าต้องพอใจ!”
ตูม!
ยามกล่าววาจาทั้งสองเคลื่อนไหวพร้อมกัน เงาร่างทั้งคู่กลายเป็นสายฟ้าแลบ ดุจดาวหางสองดวงพุ่งเข้าหากัน ระเบิดแสงศักดิ์สิทธิ์แสบตา เสียงกัมปนาทดั่งฟ้าคะนองสะเทือนเก้าสวรรค์
ขณะนี้ศึกใหญ่ได้ปะทุขึ้นแล้ว
ในลานประหนึ่งเตาหลอมผลาญพิภพสองใบเข้าชนกัน ทำให้ห้วงอากาศสั่นสะเทือนไร้ระเบียบ ชั้นบรรยากาศส่งเสียงระเบิด
บนสนามประลองโชควาสนาเต็มไปด้วยหมอกควันโหมกระหน่ำ แสงมรรคพลุ่งพล่านโดยสมบูรณ์ แผ่ไพศาลราวมหาสมุทรไร้ขอบเขต การปะทะของพลังชั้นยอดนั้นทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี
“แข็งแกร่งนัก!”
“เปรียบเทียบกันแล้ว การประลองนี้ดุเดือดที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย ประหนึ่งศึกสุริยันจันทรา พลานุภาพน่าตื่นตา!”
ตรงเชิงเขา ผู้ชมการประลองทุกคนต่างไหวหวั่น
ยอดมกุฎรุ่นเยาว์คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่บนยอดเขาก็กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด บัดนี้พวกเขาต่างรู้แล้วว่าเทพมารหลินแข็งแกร่งยิ่ง แต่จะทรงพลังมากแค่ไหนใครก็ไม่อาจให้คำตอบที่แน่ชัด
ในการประลองนี้อาจได้เห็นร่องรอยบ้าง!
ตูม!
บนสนามประลองโชควาสนา ทั้งสองฝ่ายห้ำหั่นดุเดือดแล้วแยกห่าง ผ่านไปครู่หนึ่งที่นั่นจึงฟื้นคืนความสงบ แสงมรรคประกายศักดิ์สิทธิ์นานัปการเลือนหาย
เงาร่างทั้งคู่คุมเชิงกันห่างไกล ยืนอยู่คนละฝั่ง
“สมเป็นเทพมารหลิน ได้ยินว่าหลายวันก่อนเจ้าเคยทำลายสถิติส่วนหนึ่งที่อวิ๋นชิ่งไป๋สร้างไว้เมื่อสิบปีก่อน หากวันนี้ข้าสังหารเจ้าได้ ก็หมายความว่าอวิ๋นชิ่งไป๋เมื่อสิบปีก่อนสู้ข้าในวันนี้ไม่ได้ใช่หรือไม่”
แววตาชิงเหวินเจวี้ยนวาบประกาย มีแสงมรรคเจิดจรัสไหลบ่าอยู่ภายใน
ทันทีที่วาจานี้กล่าวออกมา ผู้แข็งแกร่งสำนักกระบี่เทียมฟ้าต่างสีหน้าไม่น่าดู ถึงกับนำอวิ๋นชิ่งไป๋ที่เหมือนดั่งเทพไท้ในใจพวกเขามาเปรียบเทียบ ช่างเหิมเกริมจริงๆ!
จินมู่อวิ๋นเองก็แค่นเสียงเย็นชา แววตาดุดันเจือความไม่พอใจ
“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” หลินสวินสีหน้าเยียบเย็น
เวลานี้ผู้คนมากมายล้วนมองออก แม้ทั้งคู่กำลังสนทนา แต่อานุภาพพลังของพวกเขากลับกำลังพุ่งทะยาน เปลี่ยนเป็นน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
ชุดหลินสวินส่งเสียงสะบัด ผมดำแผ่สยาย ประหนึ่งเทพมารตื่นขึ้นในกาย!
อีกฟากหนึ่ง รูขุมขนทั่วร่างชิงเหวินเจวี้ยนเปิดกว้าง ประกายศักดิ์สิทธิ์หลากสายพรั่งพรู ทั้งตัวดั่งมีเปลวอัคคีห้อมล้อม ทำให้ห้วงอากาศละแวกใกล้เคียงต่างบิดเบี้ยวร้อนแรง พลานุภาพสะท้านฟ้า
บรรยากาศในลานเปลี่ยนเป็นกดดัน แม้อยู่ห่างไกลกันมากก็ยังทำให้ผู้ฝึกปราณไม่น้อยตรงเชิงเขาสัมผัสได้ถึงความกดดันปิ่มจะหายใจไม่ออก
ตูม!
ชิงเหวินเจวี้ยนบุกโจมตีก่อน เขาเยื้องย่างลอยชาย ก้าวสู่ห้วงอากาศดั่งหงส์เขียวร่ายรำบนเวิ้งฟ้า กลางฝ่ามือปรากฏลายมรรคแถบหนึ่ง ประกายแสงสีแดงชาดพุ่งโจมตีไปข้างหน้า น่าหวาดกลัวอย่างที่สุด
ขณะนี้กลิ่นอายเขาคลั่งระห่ำ พลังฝ่ามือส่องประกายท่วมฟ้า ประหนึ่งทวยเทพออกเคลื่อนไหว สั่นสะเทือนทั่วทั้งลาน
“ยอดวิชามรดกเผ่าหงส์เขียว… วิชาแยกฟ้า!” มีพวกผู้อาวุโสเอ่ยเสียงต่ำ ไหวหวั่นไปกับมัน
เกือบจะเวลาเดียวกัน ทางด้านหลินสวินแผ่ประกายศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์แถบใหญ่ เงาร่างเขาดุจภาพมายา สง่างามไร้มลทิน แต่กลับระเบิดคลื่นพลังวิญญาณหาใดเทียมออกมา
ตูม!
เขากำหมัดสำแดงนัยเร้นลับของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ ชั่วพริบตาห้วงอากาศทรุดตัวลง พลังหมัดราวทะลวงผ่านกาลเวลาแต่โบราณ ปะทุพล่านเหนือสนามประลอง
เสียงปะทะสะเทือนโสตดังขึ้นราวภูเขาไฟระเบิด!
ทั้งสองต่อสู้กันดุเดือด รวดเร็วรุนแรงดุจอสนี พลังดั่งบรรพต ต่างสำแดงวิชาต่อสู้ล้ำเลิศ ยึดกุมทุกโอกาส สำแดงความแข็งแกร่งของบุคคลแห่งยุคที่แท้จริงอย่างเต็มที่
แถบเชิงเขาเงียบสนิท ผู้ชมการประลองต่างกลั้นหายใจจดจ่อ จิตวิญญาณปั่นป่วนอลหม่าน
ต่อให้เป็นเหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์ที่ยืนตระหง่านบนยอดเขาแต่ละยอด เวลานี้ล้วนเผยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ดวงตาไม่แม้แต่จะกะพริบ ด้วยเกรงจะพลาดรายละเอียดอะไรไป
ตูม!
นิ้วมือชิงเหวินเจวี้ยนดุจคมดาบแหลมคมคู่หนึ่ง ห้อมล้อมเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีชาด เฉือนตัดห้วงอากาศแหลกสะบั้น เปลวเพลิงโหมกระหน่ำ ยามทอดสายตามอง กลางสนามประลองลมฝ่ามือดุจอัคคี แปรเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิง
การเคลื่อนไหวเขาแคล่วคล่องดุจหงส์เขียวโฉบเวิ้งฟ้า มีความเร็วสูงสุดที่ทำให้ผู้คนสับสนตาลาย กลิ่นอายชวนประหวั่นดั่งวิญญาณเทพสัญจรผ่านเปลวเพลิง
หลินสวินใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งปะทะกลับอย่างรวดเร็วเช่นกัน พลังหมัดเรียบง่ายธรรมดา ไม่เจือกลิ่นอายผลาญเผาเพียงเสี้ยว แต่ทุกหมัดต่างมีอานุภาพสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ไม่ถอยหลีกแม้แต่น้อย
ชั่วพริบตากลางฟ้าดินเต็มไปด้วยเสียงครั่นครืน เสมือนมีหงส์เขียวส่งเสียงเดือดดาล เสียงเทพมารกู่ก้อง
ทั้งสองห้ำหั่นกันดุเดือด เพลิงศักดิ์สิทธิ์สีชาดกับประกายอัศจรรย์สีเขียวแผ่ลอย ระเบิดแสงไร้สิ้นสุดปกคลุมสนามประลอง
“ไม่เลวๆ!”
ขณะนี้เห็นได้ว่าชิงเหวินเจวี้ยนตื่นเต้นนัก ใบหน้างามประหลาดหล่อเหลาปรากฏสีแดงเรื่อราววิกลจริต เขาหัวเราะลั่น กลิ่นอายทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
ทั่วร่างเขาปรากฏมายาโคมเขียวเก่าแก่มากมาย เพลิงศักดิ์สิทธิ์พร่างพราว ลักษณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้า นี่คือสิ่งสะท้อนถึงวิชาลับมหามรรค
คือพลานุภาพที่แข็งแกร่งที่สุดของมรดกวิชาแยกฟ้าแห่งเผ่าหงส์เขียว โคมเขียวเรืองอัคคี สามารถแหวกทลายเวิ้งฟ้า!
ทว่าแม้เขาจะแข็งแกร่ง หลินสวินก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ยามขยับเคลื่อนพลังหมัดแผ่ไพศาล สะท้านฟ้าครอบปฐพี ปั่นป่วนทลายห้วงอากาศ
การต่อสู้ระหว่างทั้งคู่ช่างน่าตื่นตะลึง แค่เพิ่งเริ่มต้นก็ปรากฏพลานุภาพที่เหนือกว่าขอบเขตมกุฎทั่วไป วิชามรรคยิ่งใหญ่เกรียงไกร ประกายแสงล้นฟ้า
ทุกคนหน้ามืดตามัว จิตใจไหวสั่น ต่างสูดหายใจเย็นไม่หยุด
เปรียบเทียบกันแล้ว เหล่าบุคคลแห่งยุคที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยดันตนขึ้นสู่กระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์นั้น เห็นได้ชัดว่าจืดจางเกินไปโดยไม่ต้องสงสัย!
สิ่งนี้ได้พิสูจน์โดยไร้ข้อกังขา ว่าอย่างน้อยบนมกุฎมรรคา ไม่ว่าหลินสวินหรือชิงเหวินเจวี้ยนต่างบรรลุถึงระดับสูงที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงตาค้าง
ความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น ความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ของชิงเหวินเจวี้ยน แน่นอนว่าอยู่ในอับดับสูงของสามสิบหกยอดมกุฎรุ่นเยาว์
แม้แต่เหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์ที่ชนะในการต่อสู้ก่อนหน้า ก็ล้วนเฝ้ามองอย่างหวาดหวั่น
คนไม่น้อยถึงขั้นยินดีที่การแข่งขันชิงโชควาสนารอบแรกไม่เจอสองคนนี้ ไม่เช่นนั้น… ผลที่ตามมาคงยากจะเอ่ย!
ตูม!
เสียงปะทะสะท้อนก้องอีกครั้ง ทั้งสองประลองกันถึงตอนนี้ประมือกันแล้วมากกว่าร้อยกระบวนท่า สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือดรุนแรง ตาต่อตาฟันต่อฟัน เร็วจนผู้ฝึกปราณไม่น้อยถึงขั้นไม่อาจจับรายละเอียดในการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน
ชิ้ง!
ทันใดนั้นชิงเหวินเจวี้ยนเรียกเข็มทองเจิดจรัสที่มีประกายแสงไหลเวียนออกมา อาศัยความเร็วน่าเหลือเชื่อพุ่งแทงไปทางหลินสวิน
เขามีวิชาแยกฟ้า ทั้งมีเข็มร้อยสวรรค์!
เข็มทองนี้ก็คือวิธีสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
ฉึบ!
กลางอากาศปลายเข็มดุจอสนี ประกายทองดั่งพิรุณ แค่ชั่วพริบตาเข็มทองก็พุ่งแหวกอากาศ ร่ายเส้นแสงดุดันหมื่นพันสายราวตาข่ายยักษ์ หมายครอบคลุมเฉือนตัดหลินสวิน
พริบตานั้นแม้แต่เหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์อย่างเซี่ยวชางเทียน เยี่ยเฉิน จินมู่อวิ๋นล้วนอดไหวหวั่นไม่ได้ ตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของเข็มร้อยสวรรค์
‘ชิงเหวินเจวี้ยนที่มาจากเผ่าหงส์เขียวแห่งแดนฐิติประจิมนี่แข็งแกร่งเช่นนี้ ดูท่าบนโลกนี้นอกจากแดนชัยบูรพาแล้ว ในแดนวิภูอื่นยังมีพวกควรค่าแก่การใส่ใจไม่น้อย…’
แม้แต่เยี่ยนจั่นชิวตอนนี้ก็ตกตะลึงอยู่บ้าง ความสามารถของชิงเหวินเจวี้ยนก่อนหน้านี้แม้สะดุดตา แต่สุดท้ายก็มาจากแดนฐิติประจิม ชื่อเสียงในแดนชัยบูรพาไม่เด่นชัด
แต่ดูท่าตอนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือบุคคลขอบเขตมกุฎที่ไม่อาจดูแคลนคนหนึ่ง!
‘หลินสวินนี่โชคช่างไม่เข้าข้าง’ เยี่ยนจั่นชิวแอบกล่าวในใจ เพิ่งแย่งชิงโชควาสนารอบแรกก็เจอกับชิงเหวินเจวี้ยน ไม่อาจไม่พูดว่านี่เป็นโชคร้ายนัก
ทว่าไม่นานเยี่ยนจั่นชิวก็ไม่คิดมากอีก จิตจดจ่อไปในสนามประลองใหม่อีกครั้ง
ฉึบ… ฉึบ…
เข็มร้อยสวรรค์ประกายทองเอ่อล้นห้อมล้อม เส้นไหมทองนับไม่ถ้วนเฉือนตัดอากาศ ดุดันถึงขีดสุดราวไม่มีสิ่งใดไม่อาจทำลาย
แต่เหนือความคาดหมายของทุกคน เผชิญการสังหารเช่นนี้หลินสวินยังคงใช้มือเปล่า เพียงแต่พลังหมัดของเขาเปลี่ยนเป็นทรงอานุภาพไร้ขีดจำกัด ดั่งทะเลไร้สิ้นสุดม้วนซัดคลื่นระห่ำคลั่งโทสะ
หมัดเดียวที่ปล่อยออกมา แค่เพียงพลังนั่นล้วนกดอัดจนเส้นไหมทองหลากสายขาดสะบั้น ปั่นป่วนอลหม่าน
ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีใช้พลังขยี้กลเม็ด
ซ้ำที่น่าอัศจรรย์คือ หลินสวินกำราบการโจมตีของเข็มร้อยสวรรค์ได้สำเร็จ
นี่ทำให้ผู้ชมการประลองมากมายไหวหวั่น ชิงเหวินเจวี้ยนเผยพลังต่อสู้วิปริตยิ่งยวด แต่เทพมารหลินกลับมีแต่เหนือกว่า!
ต่อสู้มานานเอาชนะไม่สำเร็จ ชิงเหวินเจวี้ยนที่กำลังประมืออยู่คล้ายหมดความอดทนอยู่บ้าง พลันส่งเสียงคำรามทุ้มต่ำ เหวี่ยงแขนเต็มกำลัง
ชิ้ง!
เข็มทองในมือพลันโฉบพุ่ง ใช้ความเร็วน่าเหลือเชื่อแหวกทะลวงพลังหมัดหลินสวิน ทะลุผ่านกำปั้นนั้น นำมาซึ่งโลหิตสีแดงก่ำ
ในเวลาเดียวกันนั้นพลังเสียดกระดูกเยียบเย็นหาใดเปรียบแผ่ลามจากปากแผล ประดุจสายฟ้าแลบพุ่งแทงจิตรับรู้หลินสวินอย่างหนักหน่วง
นี่คือพลังของเข็มร้อยสวรรค์ ผสานการโจมตีจิตวิญญาณ ผู้ฝึกปราณที่ไม่เข้าใจ ภายใต้การจู่โจมฉับพลันจะต้องเสียเปรียบใหญ่หลวง
เห็นชัดว่าหลินสวินเองต้องอุบายแล้ว
“อะไรกัน เทพมารหลินได้รับบาดเจ็บแล้วรึ” ห่างออกไปทุกคนตกตะลึง
ทุกคนล้วนเห็นภาพนี้กับตา โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งที่เคยประมือกับหลินสวิน รู้ดีว่าหลินสวินน่ากลัวแค่ไหน
แต่ตอนนี้กลับถูกชิงเหวินเจวี้ยนทำบาดเจ็บ!
เข็มร้อยสวรรค์ของเผ่าหงส์เขียว ทำไมน่าหวาดกลัวเช่นนี้
ไม่ใช่บอกว่าปริศนาที่แท้จริงของวิชาลับนี้ไม่ได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล ที่หลงเหลือไว้มีเพียงบทวิชาที่เสียหายหรอกรึ
เหล่าผู้อาวุโสส่วนหนึ่งก็ไม่อาจนิ่งสงบ
สำหรับเหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์บนยอดเขานั้น ส่วนใหญ่สีหน้าจริงจังเคร่งขรึม ยอดมกุฎรุ่นเยาว์บางส่วนที่มีความแค้นกับหลินสวินล้วนแปลกใจอยู่บ้าง
ความแข็งแกร่งของชิงเหวินเจวี้ยนอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาเช่นกัน
เวลานี้ชิงเหวินเจวี้ยนเผยรอยยิ้มตื่นเต้นวิกลจริต บังคับเข็มทองเข้าใกล้โดยไม่ลังเล หมายจะฉวยโอกาสนี้เริ่มสรรสร้างจิตรกรรม!
คิดจะใช้ร่างกายหลินสวินแทนผืนผ้าวาด ใช้โลหิตแดงสดของเขาแทนหมึกเขียน รังสรรค์เป็นดอกลำโพงสีเลือด!
แค่นึกถึงภาพนองเลือดนั่นก็ทำให้ชิงเหวินเจวี้ยนรู้สึกตื่นเต้น สั่นสะท้านเหลือจะเอ่ย
จากมุมมองเขา ภายใต้การลอบสังหารของเข็มร้อยสวรรค์ จิตวิญญาณหลินสวินต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ อีกเดี๋ยวก็ต้องกลายเป็นผลงานจิตรกรรมของตน เหมือนที่เขาจัดการกับเซียวชิงเหอก่อนหน้านี้!
ทว่าทันทีที่เขาเข้าประชิด เข็มร้อยสวรรค์เพิ่งเล็งไปทางหลินสวิน ทั่วร่างก็พลันแข็งทื่อ สัมผัสได้ถึงความกระสับกระส่ายและหวาดหวั่นอย่างเด่นชัด
ขณะเดียวกันเขาก็สบสายตาเยียบเย็นล้ำลึกดุจหุบเหวคู่นั้นของหลินสวิน แววตานั่นเหมือนกำลังจ้องมองคนตาย!
…………………..