Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1088 ฝนโลหิตคาววายุหน้าชายฝั่ง
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1088 ฝนโลหิตคาววายุหน้าชายฝั่ง
“ไอ้เด็กสวะ เจ้ารนหาที่ตาย!”
ณ ที่นั้นโก่วหยางซิวโกรธจนดวงตาแทบถลน เดือดดาลหาใดเปรียบ ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายชวนประหวั่นกระหายเลือดดุดัน
เขาคือราชันคนหนึ่ง ยามโก่วเหยียนเจินถูกสังหารก็ห่างจากเขาไม่ถึงจั้ง
แต่ด้วยระยะห่างแค่นี้เขากลับช่วยเหลือไม่ทัน
โก่วเหยียนเจินคือบุคคลขอบเขตมกุฎของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ มีพลังแฝงในระดับยอดมกุฎรุ่นเยาว์ ต่อไปยามมหายุคมาเยือนยังต้องช่วงชิงโอกาสการกลายเป็นราชัน
แต่ตอนนี้กลับจิตสิ้นวิญญาณสลาย ตายไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูก
นี่ทำให้โก่วหยางซิวโกรธจัด
ตูม!
เขาหาได้ลังเล ทะลวงขึ้นเหนือเมฆ แววตาแดงก่ำเจือไอสังหารดุดัน ทั่วร่างมีแสงมรรคโหมกระหน่ำ พลานุภาพน่าหวาดกลัวล้นฟ้า
เสมือนย่อระยะเหลือเพียงคืบ ชั่วพริบตาเขาก็มาอยู่บนทะเลหมากดารา ฟาดฝ่ามือหนึ่งไปทางหลินสวินอย่างหนักหน่วง
ราชันที่เดือดดาลคนหนึ่ง น่าสะพรึงโดยไม่ต้องสงสัย
เมื่อเห็นภาพนี้ผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจอื่นในที่นั้นต่างสูดหายใจเย็น เจ้าสุนัขเฒ่านี่เห็นชัดว่าโกรธเข้าจริงๆ แล้ว ทันทีที่ออกโจมตีก็ใช้กระบวนสังหาร!
ทว่าไม่รอให้ฝ่ามือนี้ฟาดลงมา ดาบยาวเจิดจ้าดุจหิมะสายหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ ผสานรวมจากประกายดาราเจิดจรัส
ตึง!
ฝ่ามือปะทะดาบ ที่แห่งนี้พลันเหมือนฟ้าถล่มดินทลาย ผีร้องไห้เทพคร่ำครวญ
อาณาเขตทะเลใกล้เคียงต่างทลายแยกจาก แสงมรรคบาดตาพลุ่งพล่านทั่ว ผลกระทบที่น่าหวาดกลัวหาใดเปรียบแผ่กระจายเป็นวงกว้าง ทำจนห้วงอากาศบิดเบือนทรุดตัวลงเหมือนจะถูกหลอมละลาย
ทว่าภาพที่ทำให้ทุกคนต่างสนเท่ห์ได้เกิดขึ้นแล้ว
หลินสวินที่มีปราณแค่ระดับกระบวนแปรจุติไม่เป็นอะไรเลย กลับเป็นโก่วหยางซิวราชันที่ก้าวสู่ระดับอมตะผู้นี้ถูกฟันแขนขวาขาด ร่างกายครึ่งหนึ่งเกือบถูกทำลายแยกออกจากกัน โลหิตแดงสดสาดพรมราวน้ำตก
“นี่ไม่ใช่พลังของเจ้า!”
โก่วหยางซิวกรีดร้อง จากความเดือดดาลแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวและใจสั่น
การโจมตีเดียวก็ทำเขาบาดเจ็บหนักเกือบตาย นี่ใครจะกล้าเชื่อ
กลิ่นอายอันตรายถึงชีวิตทำให้โก่วหยางซิวหันหลังถอยโดยไม่ลังเล
โพละ!
กลางอากาศหลินสวินพลันกำหมัดจู่โจม พลังหมัดพร่างพราวดั่งประกายดาวทั่วหล้า พริบตานั้นก็ครอบคลุมเงาร่างโก่วหยางซิว จากนั้นจึงระเบิดออกสนั่นหวั่นไหว
ฝนโลหิตสาดพรม ภายใต้สายตาหวาดหวั่นทั้งหมดที่จับจ้อง โก่วหยางซิว ราชันที่พลังต่อสู้ชวนประหวั่นผู้นี้ถูกหมัดเดียวซัดกระจุย!
ทุกคนตรงนั้นเงียบกริบไร้สุ้มเสียง เงียบสงัดหาใดเปรียบ
หากกล่าวว่าการตายของโก่วเหยียนเจินก่อนหน้าคือความไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนเกินคาดหมายและตื่นตระหนก
เช่นนั้นการตายของโก่วหยางซิวก็เหมือนสายฟ้าฟาด สะเทือนจนทุกคนหนังศีรษะชาวาบ ขวัญหนีแตกตื่น ขนพองสยองเกล้า!
“นี่เป็นไปได้อย่างไร เขาๆๆ… ทำไมถึงสังหารราชันคนหนึ่งง่ายดายเช่นนี้”
พวกอวี่หลิงคง หลี่ชิงผิง ข่งหลิงไม่อาจสงบใจโดยสิ้นเชิง สีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่
พวกเขาเฝ้ารออยู่ที่นี่ ร้อนอกร้อนใจอยากสังหารหลินสวิน กำจัดศัตรูที่ถูกพวกเขาเห็นเป็นภัยแฝงนี่ซะ
ไหนเลยจะคิดว่าสภาพการณ์กลับผกผันราวพลิกกระดานเช่นนี้
นั่นเป็นถึงราชัน!
ถูกสังหารอย่างง่ายดายเช่นนี้หรือ
ไม่เพียงแค่พวกเขา สัตว์ประหลาดเฒ่าขุมอำนาจอื่นก็ตกใจจนลูกตาปูดโปนยากจะเชื่อ
“นี่เป็นไปไม่ได้!”
หลี่ชิงผิงตวาดลั่น สูญเสียการควบคุม ไม่อาจยอมรับ
โพละ!
ที่ไกลออกไป หลินสวินดีดนิ้วเบาๆ ประกายดาราสายหนึ่งควบรวมทิ้งแล้วตัวลง จากนั้นร่างหลี่ชิงผิงก็ระเบิดออกตายอย่างกะทันหัน ณ ที่นั้น!
ชั่วขณะทุกคนตรงนั้นเกือบคลุ้มคลั่ง
หลินสวินในตอนนี้อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาโดยสมบูรณ์ ประหนึ่งนายเหนือหัวควบคุมความเป็นตาย ระหว่างขยับเคลื่อนก็สามารถช่วงชิงชีวิต!
“เพราะอะไร นี่เป็นเพราะอะไร”
ข่งหลิงเองก็กำลังกรีดร้อง ใบหน้างามซีดเผือดยังคงไม่กล้าเชื่อ
ภาพต่างๆ นี้เหมือนเป็นฝันร้าย เกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป ไม่ว่าใครเกรงว่าคงสูญสิ้นสติสัมปชัญญะ
“หนีเร็ว!”
สีหน้าหม่าหยวนชิงที่อยู่ด้านข้างพลันแปรเปลี่ยน สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่งก็พาพวกผู้สืบทอดรุ่นเยาว์อย่างข่งหลิงหนีไปทางทุ่งน้ำค้างแข็งผลึกเร้น
เขามองออกว่าไม่ใช่พลังต่อสู้ของหลินสวินแปรสภาพไปจนถึงขั้นน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต แต่เพราะยืมพลังต้องห้ามในทะเลหมากดาราต่างหาก!
“ไป!”
“รีบไปจากที่นี่!”
“เจ้าเด็กนี่ยืมพลังต้องห้ามของทะเลหมากดารา ในฟ้าดินแถบนี้เขาไร้คู่ต่อกร ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้เขา!”
ขณะเดียวกันสัตว์ประหลาดเฒ่าขุมอำนาจอื่นก็มองเห็นความจริงเช่นกัน มีหรือจะยังกล้าล่าช้า ต่างเลือกถอยร่น หมายหนีห่างจากทะเลหมากดาราโดยไม่ลังเล!
แม้พวกเขายังไม่รู้ว่าหลินสวินยืมใช้พลังต้องห้ามของทะเลหมากดาราได้อย่างไร แต่ตอนนี้พวกเขาไม่อาจไม่ถอย
ตัวเลือกนี้ช่างน่าอึดอัดโดยไม่ต้องสงสัย
ก่อนหน้านี้พวกเขารออยู่ที่นี่อย่างยากลำบาก ยกทัพใหญ่โตชุมนุมเหล่าราชัน มองหลินสวินเป็นเหยื่อ ไม่ห่วงว่าจะสังหารเขาไม่ได้ แต่กังวลว่าใครจะสามารถสังหารหลินสวินได้คนแรกกันแน่!
ไหนเลยจะคาดคิดว่าทุกอย่างกลับเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน!
เหยื่อไม่ใช่เหยื่ออีกต่อไป กลับกลายเป็นนายเหนือหัวที่ไม่อาจทัดเทียม สังหารราชันเหมือนเชือดไก่ นี่คือสิ่งที่ใครต่างไม่คาดฝัน
และหลินสวินในตอนนี้ แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยศัตรูพวกนี้จากไปต่อหน้าต่อตา
ยามอีกฝ่ายเลือกหลบหนี เขาก็เปิดฉากจู่โจมแล้ว!
ครืน!
ทะเลหมากดาราที่เดิมราบเรียบนิ่งสงบพลันม้วนซัดกระหน่ำ ประกายดาราราวหมอกควันพวยพุ่ง บนเวิ้งฟ้าดวงดาวจรัสแสงนับไม่ถ้วนเผยปรากฏ
ทั่วร่างหลินสวินถูกอาบไล้อยู่ภายใน ประหนึ่งผู้อยู่เหนือดารา!
นัยน์ตาดำของเขาล้ำลึกเยียบเย็น สำแดงพลังต้องห้ามของค่ายกลใหญ่วัฏจักรดาราออกมาอย่างสุดความสามารถ
ก็เห็นกลางอากาศ แสงดาราหลากสายพุ่งโฉบดั่งรุ้งเทพปกคลุมฟ้าดิน ผสานรวมเป็นลักษณ์ต่างๆ ทั้งดาบ กระบี่ ทวน ง้าว โถมซัดกระหน่ำ
ฟุ่บๆๆ
ชั่วขณะผู้แข็งแกร่งหลายคนถูกกำจัดลงตรงนั้น ความเร็วในการหนีของพวกเขาว่องไวยิ่ง ทว่าไหนเลยจะเร็วกว่าการสังหารชั้นยอดเช่นนี้
ฝนโลหิตกำลังลอยล่อง
เสียงร้องโหยหวนสะท้อนก้อง
กลางฟ้าดินประหนึ่งเปลี่ยนเป็นแดนนรก
ผู้แข็งแกร่งในขุมอำนาจใหญ่อย่างสำนักกระบี่เทียมฟ้า แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ สำนักยุทธ์สมุทรคราม แดนพิสุทธิ์อมตะ เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ ขณะนี้ต่างกระสับกระส่ายดั่งสุนัขไร้เจ้าของ ตระหนกขุ่นเคืองและหวาดกลัวถึงขีดสุด!
ทุกเวลาทุกขณะต่างมีผู้แข็งแกร่งร่วงหล่น ถูกปลิดชีพลงตรงนั้น จิตสิ้นวิญญาณสลาย
แม้แต่สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันเวลานี้ก็ราวกับวัชพืช ต่อให้ใช้พลังทั้งหมดก็ยังไม่อาจต้านการสังหารเช่นนี้ได้ ชีวิตถูกปลิดทิ้งง่ายดาย
ภาพเหตุการณ์นี้น่าสะพรึงโดยไม่ต้องสงสัย!
บริเวณใกล้เคียงชายฝั่งนี้เหมือนสมรภูมินองเลือด เสียงร้องทุรนทุราย โหยหวน คำรามเดือดดาล สะท้อนก้องฟ้าดิน ทำให้เมฆลมเปลี่ยนสี
ข่งหลิงถูกสังหาร ถึงแม้มีหม่าหยวนชิงปกป้อง นางก็ไม่สามารถรอดพ้นความตาย กระทั่งตายไปแล้วก็ไม่อาจเชื่อว่าตนจะตายลงที่นี่
ในมือนางยังมียันต์จักจั่นทองอยู่ เดิมสามารถใช้สิ่งนี้หนีไปได้ แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่ง
อวี่หลิงคงหนีพ้นเคราะห์ร้ายได้เพราะซั่งเหวินจิ่นขวางเคราะห์สังหารให้ แต่ซั่งเหวินจิ่นราชันผู้นี้กลับถูกสังหารลงตรงนั้น!
เหตุการณ์นองเลือดต่างๆ กำลังออกแสดง
พูดแล้วดูช้า ความจริงล้วนเกิดขึ้นในชั่วไม่กี่อึดใจ
ท้ายที่สุดขุมอำนาจแต่ละแห่งสูญเสียผู้แข็งแกร่งไปเกินครึ่ง มีเพียงส่วนน้อยที่หนีไปได้ หายไปในส่วนลึกของทุ่งน้ำค้างแข็งผลึกเร้นนั่น
ไม่มีคนกล้าหันกลับมา!
ณ ที่ไกลออกไป หลินสวินเก็บมือ
ถึงแม้ในใจเขาไม่พอใจอยู่เสี้ยวหนึ่ง แต่ที่จนปัญญาคือพลังต้องห้ามของทะเลหมากดาราจำกัดอยู่แค่ฟ้าดินแถบนี้ ไม่อาจติดตามเขาไปล่าสังหารศัตรูได้
ไม่อย่างนั้นวันนี้เหล่าผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจเหล่านั้นคงหนีไม่รอดสักคนแน่!
บนชายฝั่ง พื้นดินแตกระแหงแหลกลาญ ทุกหนแห่งล้วนเป็นบ่อโลหิตแดงก่ำชวนตะลึง กลิ่นอายนองเลือดเข้มข้นยิ่งนัก ไม่อาจเลือนหายตราบนานเท่านาน
สมรภูมินี้คือการสังหารหมู่โดยสมบูรณ์ ทุกขุมอำนาจเรียกได้ว่าสูญสิ้นกำลังคน ที่ตายไปไม่ได้มีแค่เหล่าผู้กล้ารุ่นเยาว์ ยังมีบุคคลระดับราชันอีกหลายคน!
ลมทะเลโชยอ่อน หลินสวินครุ่นคิดครู่หนึ่ง ไม่ได้ฉวยโอกาสนี้จากไป แต่หันหลังหวนคืนสู่ส่วนลึกทะเลหมากดารา
ประกายดาราโหมกระหน่ำราวหมอกควันยังเหมือนก่อน อบอวลฟ้าดินเหนือทะเลหมากดารา เร้นลับและทำให้คนใจสั่นดั่งเขตหวงห้าม
หลินสวินรู้ดีว่าการสังหารศัตรูครั้งนี้แม้จะสะใจ แต่ต้องก่อให้เกิดคลื่นลมม้วนแผ่ทั่วดินแดนรกร้างโบราณแน่!
และเมื่อเจอการจู่โจมหนักหน่วงเช่นนี้ สำนักโบราณเหล่านั้นคงไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวเป็นอันขาด!
เวลานี้หากออกจากทะเลหมากดารา ไม่ต้องคิดหลินสวินก็รู้ว่าที่รอคอยตนอยู่คือพายุคลั่งที่ไม่อาจคาดเดา
หลินสวินวางแผนเก็บตัวอยู่ในทะเลหมากดาราช่วงหนึ่งเพื่อเลี่ยงปัญหา
มีค่ายกลใหญ่วัฏจักรดาราปกป้อง เขามั่นใจว่าต่อให้อริยะมาเองก็ทำอะไรตนไม่ได้
…
บนเกาะสันโดษ เงาร่างหลินสวินลอยล่องลง นั่งขัดสมาธิบนหินสูงก้อนหนึ่ง
‘จากการคาดเดาของหญิงสาวในห้องโถงมรรคาสวรรค์นั่น มากสุดเหลือเวลาแค่หนึ่งปีมหายุคจะมาเยือน’
‘ถึงตอนนั้นกระดานทองคำผู้กล้าก็ต้องปรากฏขึ้นบนโลกแน่’
‘ทว่าก่อนหน้านั้นยังมี ‘การประลองกระดานดาราสี่แดนวิภู’ ผู้ที่สามารถดันตนขึ้นสู่สิบอันดับแรกล้วนเรียกได้ว่าเป็น ‘ยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎ’ ที่แท้จริง!’
หลินสวินสูดหายใจลึกนั่งสมาธิ ในหัวกำลังใคร่ครวญหนทางฝึกปราณหลังจากนี้
‘เหล่าผู้กล้ารุ่นก่อนอย่างเยี่ยนจั่นชิว หวังเสวียนอวี๋ หมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอ จัดอยู่ในระดับยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎนานแล้ว พลังต่อสู้แน่นอนว่าแข็งแกร่งหาใดเปรียบ หากหมายประชันกับพวกเขา อาศัยพลังต่อสู้ของข้าตอนนี้คงต่างกันไม่มาก’
‘เพียงแต่หากอยากโดดเด่นเหนือกว่า ข่มบุคคลที่กลายเป็นยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎนานแล้วพวกนี้ก็พูดลำบาก…’
หลินสวินไม่รู้ตัวเลยว่าหลังผ่านการแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ครั้งนี้ ทั้งปิดด่านฝึกตนในแดนลับไร้มรณะหนึ่งปี สายตาเขาได้มองข้ามคนรุ่นเดียวกันไปแล้ว!
และปัจจุบันในใจเขา บนโลกตอนนี้มีเพียงเหล่าบุคคลขอบเขตมกุฎรุ่นใหญ่อย่างเยี่ยนจั่นชิว หวังเสวียนอวี๋ หมีเหิงเจินที่คู่ควรให้ตนมอบความสำคัญ
แน่นอนว่ารวมถึงอวิ๋นชิ่งไป๋ด้วย!
จากมุมมองหลินสวิน อวิ๋นชิ่งไป๋ต้องแข็งแกร่งกว่าพวกเยี่ยนจั่นชิวอยู่บ้างแน่!
‘นัยเร้นลับไร้มรณะยังไม่เคยถูกข้าหยั่งถึง…’
‘หกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้าก็ไม่เคยศึกษาจนรอบด้านปรุโปร่ง…’
‘คิดยกระดับอานุภาพมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร มีแต่ต้องบรรลุมหามรรคเจินหลงเพิ่มขึ้นอีก…’
หลินสวินพิจารณาเงียบๆ ครู่ใหญ่ ในใจมีทิศทางเด่นชัด
เขาตัดสินใจเก็บตัวอยู่ที่นี่ ระหว่างที่หลีกเลี่ยงคลื่นลมในโลกภายนอก ก็ยกระดับพลังต่อสู้ที่ตนมีไปอีกขั้นพร้อมกัน!
ผ่านไปครู่ใหญ่ หลินสวินนั่งสมาธิอยู่บนก้อนหินเหมือนรูปปั้นดิน เข้าสู่การฝึกโดยสมบูรณ์
ณ ที่ห่างไกล ประกายดาราดั่งหมอกปกคลุมกลางฟ้าดิน
เหมือนที่หลินสวินคาดเดา วันนั้นทันทีที่ข่าวเข่นฆ่านองเลือดในทะเลหมากดาราแพร่ออกไป ก็ชักนำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไม่น้อย
อีกทั้งแรงสั่นสะเทือนเช่นนี้ยังกำลังกระจายออกไปด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง แผ่ขยายจากแดนชัยบูรพาไปยังสามแดนวิภูอื่นของดินแดนรกร้างโบราณ…
…………………..