Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1208 คันฉ่องเขาม่วง
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1208 คันฉ่องเขาม่วง
ระหว่างมกุฎราชันกับมกุฎราชันถือเป็นคนรุ่นเดียวกัน อยู่ในระดับเดียวกัน
การดวลของคนรุ่นเดียวกัน น้อยมากที่จะเกิดเหตุการณ์ที่สามารถตัดสินแพ้ชนะได้ในชั่วพริบตา
แต่ตอนนี้ ชายชุดคลุมขาวนั่นกลับต้านทานไม่ได้แม้แต่การโจมตีเดียว!
หลินสวินสังหารเขาเหมือนอย่างเชือดไก่ให้ลิงดูไม่มีผิดเพี้ยน วิธีการที่เด็ดขาดตัดชีวิตภายในการโจมตีเดียวนั่นจึงดูสะเทือนใจคนมากเป็นพิเศษ
เลือดสาดกระเซ็น ย้อมอากาศเป็นสีแดงน่าสยดสยอง
มกุฎราชันคนหนึ่งตายง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ
ในบรรยากาศที่เงียบสงัด สีหน้าของทุกคนล้วนอดงุนงงไม่ได้
ในฐานะมกุฎราชันเช่นกัน พวกเขาจึงยิ่งเข้าใจว่าการที่หลินสวินสามารถทำถึงขั้นนี้ได้อย่างง่ายดาย เป็นเรื่องน่าตกใจแค่ไหน!
พวกเจิ้นอวิ๋นเฟิง โม่เทียนเหอกำลังคิดว่า หรือจินตู๋อีจะเป็นลูกหลานเผ่าเจินหลงสายเลือดบริสุทธิ์ที่แท้จริง
มิฉะนั้นเหตุใดพลังต่อสู้จึงวิปริตเช่นนี้
และยามนึกถึงเมื่อครู่นี้ตอนที่อีกฝ่ายบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พวกเขากลับไม่เชื่อ ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกก็พรวดพราดขึ้นในใจ
ส่วนพวกอู่ซานหลิน ปฏิกิริยาแรกก็คือไม่เชื่อ!
ถึงขั้นสงสัยว่าเป็นชายชุดคลุมขาวประมาทไป ถึงได้ถูกโจมตีสังหารอย่างง่ายดายเช่นนี้ มิฉะนั้นทุกอย่างนี้ล้วนไม่สามารถอธิบายได้
แต่ที่น่าขันคือ ตอนนี้เองหญิงสาวชุดขนนกคนหนึ่งบนยานเพิ่งจะได้สติ กรีดร้องเสียงหลงออกมาว่า “เขา… เขาถึงกับฆ่าสหายยุทธ์กงซุน!?”
เสียงทำลายความเงียบสงบในที่นั้น
และทำให้ทุกคนล้วนได้สติ
“ตาเจ้าแล้ว”
หลินสวินไม่ได้ไปช่วงชิงเพลิงมรรคสีเงิน นัยน์ตาดำของเขาราวกับสายฟ้า จับจ้องอู่ซานหลินที่อยู่บนยานด้วยแววตาลุ่มลึกเย็นชา
เขาไม่ลืมหรอกนะว่าเมื่อครู่นี้เจ้าหมอนี่ทำกับตนอย่างไร!
“เจ้านี่รนหาที่ตาย”
สีหน้าของอู่ซานหลินมืดทะมึน ผมยาวทั้งศีรษะพลิ้วไหว ในดวงตาประกายสายฟ้าโลดแล่น มือถือธนูยักษ์กระดูกสัตว์ ไอโลหิตที่น่าตกใจแผ่ไปทั่วทั้งตัว
แสงมรรคกู่ก้อง ทำให้เขาเปล่งแสงไปทั่วทั้งตัว เสื้อผ้าโบกสะบัดท่ามกลางสายลมจนเกิดเสียงดัง ราวกับเทพเซียน
ตึง! ตึง!
หลินสวินก้าวย่างกลางอากาศ ทุกย่างก้าวที่เหยียบลงไปห้วงอากาศถล่มทลาย เสียงสะเทือนชั้นเมฆ
และพร้อมๆ กับการก้าวเดินของเขา อานุภาพรอบตัวก็เพิ่มขึ้นไปด้วย เงาร่างสูงสง่าแผ่อานุภาพปานกลืนกินแปดทิศ
อู่ซานหลินหรี่ตา น่าสะท้านขวัญปานคมดาบประกายสายฟ้า ส่วนในมือของเขาธนูยักษ์กระดูกสัตว์ถูกเขาดึงง้าง
ครั้งนี้เขาใช้พลังทั้งหมด ไม่กล้าออมมือแม้สักนิด
ปัง! ปัง! ปัง!
ธนูเทพทะลวงผ่านอากาศ ส่งเสียงระเบิดก้องหู ลูกธนูทุกดอกล้วนพร่างพราวดุจรุ้งเทพ สะท้อนปรากฏการณ์ประหลาดที่น่ากลัว
ฝนธนูหนาแน่นไหลลู่ ทำให้สีหน้าของพวกจี้ซิงเหยา เจิ้นอวิ๋นเฟิงต่างเปลี่ยนไป
พลังต่อสู้ของอู่ซานหลินแข็งแกร่งมากอย่างไม่ต้องสงสัย ในฐานะสัตว์ประหลาดยุคโบราณเผ่าแรดพลิกฟ้าที่เหยียบย่างระดับมกุฎราชัน พลังที่ครอบครองเห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าคนในรุ่นเดียวกัน
“พี่อู่ ต้องฆ่าเขาให้ได้! แก้แค้นให้กับสหายยุทธ์กงซุน!”
พวกคนบนยานตะเบ็งเสียง เสริมอานุภาพให้อู่ซานหลิน
เหนือความคาดหมายของทุกคน เผชิญกับการโจมตีที่มืดฟ้ามัวดินระดับนี้ สีหน้าของหลินสวินยังคงเหมือนเดิม ไม่หลบไม่หลีก เหยียบอากาศก้าวขึ้นไป
ปัง!
ตอนที่ธนูเทพดอกแรกยิงออกมา กลับถูกหลินสวินสกัดเอาไว้ในระยะห่างหนึ่งฉื่อ ราวกับจมสู่วังวนดินโคลน ส่งเสียงครวญหึ่ง
จากนั้นหลินสวินดีดนิ้ว ธนูดอกนี้ระเบิดแหลกทุกกระเบี้ยด เปลี่ยนเป็นละอองแสงสาดพรม ท่าทางสบายๆ ไม่เสียแรงสักนิด
“นี่…”
ทุกคนพลันเบิกตาโพลง สูดหายใจด้วยความตกใจ เช่นนี้ก็ได้เหรอ
พลังของลูกธนูนั่นเพียงพอจะทะลวงทองทลายหิน สยบมกุฎราชันคนใดๆ แต่ตอนนี้กลับดูไร้พลังอย่างมาก!
นี่ทำให้ทุกคนต่างใจสะท้าน
ปังๆๆ!
ฝนธนูหนาแน่นพรั่งพรู ลูกธนูทุกดอกเมื่อมาถึงตรงหน้าหลินสวินกลับประหนึ่งจมลงในโคลน ความเร็วลดลง สูญเสียประกายคม
ระหว่างที่หลินสวินดีดนิ้ว ก็เห็นพวกมันระเบิดแหลกทีละดอก เหมือนปัดไล่กลุ่มแมลงตัวน้อยอย่างไรอย่างนั้น
และในระหว่างนี้ฝีเท้าของเขาก็ไม่เคยหยุด ทะยานขึ้นจนห่างจากยานสำเภาลำนั้นไม่ไกลแล้ว
นี่ทำให้สีหน้าของอู่ซานหลินอึมครึมไม่นิ่ง พลันกัดฟันทิ้งคันธนู เปลี่ยนเป็นทวนวงเดือนสวรรค์ กระโดดลงจากยานพุ่งสังหารเข้ามา
ตูม!
ทวนวงเดือนสวรรค์ฟาดฟันออมา ตัดห้วงอากาศ พลิกเปิดแสงชาด น่ากลัวไร้ขอบเขต
บนสมบัติชิ้นนี้สลักลายมรรคแปลกประหลาดสารพัดอย่าง เห็นได้ชัดว่าที่มาไม่ธรรมดา มีอานุภาพสะเทือนฟ้าดิน
ในเวลาเดียวกันหลินสวินที่ก้าวย่างอยู่ อานุภาพรอบตัวก็เร่งเร้าสำแดงออกมาถึงขีดสุดเช่นกัน พุ่งปราดไปทันที
ฟิ้ว!
ราวกับลำแสงพุ่งทะลวง หลินสวินหายไปจากจุดเดิมแล้ว
ดวงตาของอู่ซานหลินพลันหดรัดลง หลินสวินในตอนนี้เคลื่อนไหวเร็วจนน่าตกใจ ทำให้เขาแทบไม่สามารถจับตำแหน่งได้
ในครรลองสายตาเห็นเพียงหมัดที่พร่างพราวเป็นประกาย ความเร็วเพิ่มขึ้นไม่หยุด!
เคร้ง!
ทวนวงเดือนสวรรค์สะเทือนรุนแรง ปะทะกับพลังหมัดของหลินสวินจนเกิดเสียงกึกก้อง คลื่นที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองทำให้อากาศแถบนี้ระเบิดปั่นป่วน
พรูด!
การโจมตีเดียว อู่ซานหลินเลือดลมพลิกตลบ กระอักเลือดทันที
ในใจเขาหวาดหวั่น ถึงขั้นรู้สึกเหมือนถูกภูผาเทพเคลื่อนที่มาปะทะร่าง เอ็นกระดูกทั่วร่างกายล้วนมีสัญญาณว่าจะต้านทานไม่ไหวแล้ว
แต่เขาไม่อาจห่วงเรื่องพวกนี้แล้ว ส่งเสียงตะโกนคล้ายเสียการควบคุม กวัดแกว่งทวนใหญ่เข้าสู้สุดชีวิต พิชิตเต็มกำลัง
เคร้งๆๆ…
เพียงไม่กี่ลมหายใจทั้งสองก็ปะทะกันมากกว่าร้อยครั้งแล้ว พลังหมัดที่แน่นขนัดของหลินสวินล้วนกระแทกใส่ทวนใหญ่อย่างจัง ทำเอาฝ่ายหลังส่งเสียงครวญรุนแรง
ร่างของอู่ซานหลินสะท้านหนักหน่วง แก้มแดงก่ำ ง่ามนิ้วหลั่งเลือด ซวนเซถอยหลังต่อเนื่อง ถูกกำราบอย่างสิ้นเชิง ต้านทานการรุกโจมตีที่ดุร้ายรุนแรงเช่นนี้ไม่ไหว
ทุกคนเพียงรู้สึกว่าเสียงปะทะนี้ราวกับเสียงมารดังกรอกหู เลือดลมพลิกตลบขึ้นมาระลอก สีหน้าต่างหวาดหวั่น
เพิ่งจะปะทะกันครั้งเดียว แม้แต่อู่ซานหลินยังถูกสยบอย่างหมดจด!
เขาก่อนหน้านี้เผด็จการและโอหังเพียงใด ทันทีที่มาถึงก็มองหลินสวินเป็นเหยื่อ ลงมือโดยตรง ทั้งยังใช้ท่าทาง ‘แคะหู’ แสดงออกถึงความเหยียดหยามและดูถูกของตนอยู่ตลอดเวลา
แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินกำราบโดยตรง!
ท่าทางกระอักเลือดอย่างสะบักสะบอมนั่นทำให้ทุกคนต่างหวั่นหวาด อกสั่นขวัญแขวน
“เขา… เป็นใครกันแน่!?”
บนยานสำเภา ชายหญิงเหล่านั้นไม่มัวส่งแรงใจแล้ว ต่างตะโกนออกมา ตระหนักได้ว่าครั้งนี้ล่วงเกินคนน่ากลัวเข้าเสียแล้ว
ปัญหานี้พวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงเองก็อยากถามมาก พวกเขาก็ตกใจกับพลังต่อสู้ที่หลินสวินแสดงออกมาเช่นกัน
บนเวิ้งฟ้ารอบตัวหลินสวินมีแสงมรรคสว่างไสว ราวกับเทพมารมาเยือนโลก พลังกฎระเบียบวนเวียนรอบๆ กำปั้นทั้งคู่ ระเบิดแสงประกายที่น่ากลัวออกมา
ตูมโครม!
โจมตีอีกครั้งแล้ว อู่ซานหลินต้านทานไม่ไหวอย่างสิ้นเชิง ตะโกนออกมาทีหนึ่ง ทวนวงเดือนสวรรค์หลุดลอยออกจากมือ เกราะศึกบนร่างแตกละเอียด ร่างกายกระแทกลงมาจากกลางอากาศอย่างรุนแรง
แต่ไม่รอร่วงถึงพื้นก็ถูกหลินสวินชิงเคลื่อนมาถึงก่อนแล้ว!
แย่แล้ว!
บนยานรบ ชายหญิงเหล่านั้นสีหน้าต่างเปลี่ยนไป ตระหนักได้ว่าอู่ซานหลินอาจจะประสบเคราะห์
เพียงแต่ไม่รอให้พวกเขาช่วยเหลือ ขาข้างหนึ่งของหลินสวินก็เหยียบบนร่างอู่ซานหลินแล้ว ฝ่าเท้าออกแรงหนัก
ปึง!
อู่ซานหลินกระแทกลงพื้นด้วยความเร็วที่ว่องไวยิ่งกว่า กระแทกเป็นหลุมใหญ่บนพื้น กระดูกทั่วร่างแตกหักไม่รู้กี่ท่อน
เขาส่งเสียงเจ็บปวด ขึ้งโกรธถึงขีดสุด
ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าเจ้าคนที่ถูกเขามองว่าเป็นเหยื่อ จะดันเป็นคนร้ายกาจที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งเช่นนี้
ทุกคนต่างอึ้งงันอยู่กับที่ อู่ซานหลินเป็นถึงสัตว์ประหลาดยุคโบราณแห่งเผ่าแรดพลิกฟ้า พลังต่อสู้น่ากลัวยิ่งกว่ามกุฎราชันทั่วๆ ไป
แต่ตอนนี้กลับถูกกำราบอย่างง่ายดาย!
และตอนนี้เองหลินสวินกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย จากพลังที่เท้าของเขาเมื่อครู่นี้ สามารถบดขยี้ภูเขาลูกใหญ่ให้แหลกละเอียดได้ ทว่าอู่ซานหลินกลับเพียงบาดเจ็บ แต่ไม่ได้ถูกสังหาร
ฉึบ!
เขาจะโจมตีอีกครั้ง เท้าข้างหนึ่งลอยกลางอากศ
“หยุดมือ!”
เหล่าชายหญิงบนยานตะเบ็งเสียง แต่กลับถูกพวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงขวางไว้ทั้งหมด จ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ก่อนหน้านี้พวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงอดกลั้นไฟที่สุมอก กำลังกังวลว่าไม่มีที่ระบาย จะปล่อยให้คนพวกนี้ล้อมโจมตีหลินสวินได้อย่างไร
ตูม!
อู่ซานหลินพุ่งออกจากหลุมใหญ่ หมายจะถอยหนี
แต่ไร้ประโยชน์ ถูกหลินสวินเหยียบบนร่างซ้ำอีกครั้ง กระแทกลงพื้นไป
“อ๊าก…!”
เขาส่งเสียงร้องคำราม ลูกตาถลนออกมา เจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว ในใจมีความรู้สึกอับอายที่พูดไม่ออก ถูกคนในรุ่นเดียวกันเหยียบหยามเช่นนี้ นี่ทำให้เขาแทบคลั่ง
วู้ม!
ในอกของเขาระลอกคลื่นประหลาดสายหนึ่งพลิกหมุน แสงสีม่วงงดงามแถบหนึ่งไหลเวียน พาเขาหลุดพ้นจากการเหยียบย่ำของหลินสวิน
“สมควรตาย!”
อู่ซานหลินเงยหน้าคำรามราวกับปีศาจคลั่ง เผ้าผมยุ่งเหยิงโบกสะบัด ร่างกายสูงใหญ่ล่ำสันแผ่แสงเลือดท่วมฟ้า
และบริเวณอกของเขา แสงม่วงแถบหนึ่งไหลวน ลึกลับและงดงาม ถึงกับเป็นคันฉ่องป้องหัวใจ คุณลักษณ์เก่าคร่ำคร่า แม้ไม่ใช่สมบัติอริยะ แต่กลับมีกลิ่นอายที่ลึกลับและแปลกประหลาดอย่างที่สุด
ก่อนหน้านี้ที่หลินสวินไม่สามารถสังหารเขาได้ ก็เพราะถูกคันฉ่องป้องหัวใจนี้สลายพลัง
“คันฉ่องเขาม่วง!” บนยานรบมีคนร้องออกมา
“มิน่าเล่า นี่เป็นถึงสมบัติประหลาดที่สหายยุทธ์อู่ได้รับเมื่อไม่นานมานี้ สามารถช่วยสลายเคราะห์สังหารได้สามครั้ง!” มีคนอิจฉา
“สามครั้งหรือ” นัยน์ตาดำของหลินสวินลุ่มลึก ยืนอยู่กลางอากาศผมดำพลิ้วไหว รอบตัวถูกแสงมรรคสีใสปกคลุม ราวกับเทพองค์หนึ่งมาเยือนโลก
ได้ยินคำพูดนี้ทุกคนต่างใจกระตุกวูบ ลอบร้องว่าแย่แล้ว
ฟุ่บ!
ในเวลาเดียวกันหลินสวินก็ออกโจมตีแล้ว
ก่อนหน้านี้คันฉ่องเขาม่วงนั่นช่วยอู่ซานหลินไปสองครั้งแล้ว สำหรับหลินสวิน ในเมื่อสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้สองครั้ง ก็ย่อมสามารถฆ่าครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ได้…
อู่ซานหลินที่กำลังเคียดแค้นอยู่ก็ตระหนักได้ว่าไม่เข้าที มองเห็นหลินสวินพุ่งเข้ามา เขาจึงเลือกหนีอย่างไม่ลังเล
และในเวลาเดียวกันเขาก็ตะโกนออกมา “อูหลิงเต้า ถึงขนาดนี้แล้วเจ้ายังไม่คิดจะลงมืออีกหรือ”
ตูม!
หลินสวิพุ่งสังหารเข้ามาแล้ว รวดเร็วน่าเหลือเชื่อ
วสันต์สารทชั่วพริบตา!
พลันเห็นหลินสวินกดนิ้วหนึ่งออกมา ประหนึ่งรวบรวมอานุภาพแห่งหมื่นกาลฤดูไว้ในการโจมตีเดียว ครอบฟ้าคลุมดินไปทั้งแถบ
“หยุด!”
แต่ในเวลานี้เองมีเสียงที่ทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้น
ที่ไวกว่าเสียงนั่นคือเงาร่างสีทองที่พุ่งเข้ามา
เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นเสียงนี้หรือเงาร่างสีทอง เมื่อเทียบกับนิ้วนี้ของหลินสวินก็ยังช้ากว่าไปก้าวหนึ่ง
และตั้งแต่ต้นจนจบ หลินสวินไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย!
เดิมทีพอได้ยินเสียงของเงาร่างสีทองนั่น อู่ซานหลินก็ลอบโล่งอกแล้ว รู้ว่าอย่างไรอูหลิงเต้าก็ไม่มีทางมองตนประสบเคราะห์ตาปริบๆ
แต่ตอนนี้เขากลับพบอย่างตกใจว่า การโจมตีนี้ของหลินสวินพุ่งสังหารเข้ามาโดยไม่หยุดสักนิด อีกทั้งพลังระดับนี้ก็ทำให้เขาแม้แต่หายใจยังลำบาก รู้สึกหนีจนไร้ทางหนี หลบจนไร้ทางหลบ
“ไม่…!”
อู่ซานหลินตะโกนร้อง ต้านทานสุดชีวิตราวกับสัตว์ที่จนตรอก
ปัง!
เพียงแต่ครู่ต่อมาคันฉ่องเขาม่วงก็แตกระเบิด
ปัง!
ที่ตามมาติดๆ กันคือร่างของอู่ซานหลินที่ระเบิดแหลก
——