Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1261 ใกล้ดุจสุดหล้า
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1261 ใกล้ดุจสุดหล้า
บุตรนรก มกุฎราชันอมตะเคราะห์ด่านสี่ สัตว์ประหลาดยุคโบราณผู้หนึ่งที่ฟื้นตื่นปรากฏตัวสู่โลกจากแท่นบูชานรกเทพ ครอบครองศุภโชคใหญ่มากมาย
เขามีพรสวรรค์อันน่าอัศจรรย์ ทั้งมีพลังต่อสู้เลิศล้ำ ถูกมองว่าเป็นผู้ที่สวรรค์โปรดปรานก็ไม่ปาน
ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่เขาปรากฏตัวจวบจนบัดนี้ ขุมอำนาจแดนนรกที่อยู่ใต้อาณัติเขาทวีความแข็งแกร่ง ผงาดกร้าวในแดนเก้าบน อานุภาพสยบสิบทิศ โดดเด่นไม่เป็นสองรองใคร
ไม่ต้องสรรหาคำใดมาบรรยาย นี่ก็คือผู้กล้าจากสวรรค์ที่สามารถเป็นผู้นำแห่งยุคสมัยได้!
ทว่าบัดนี้…
กลับถูกสังหารเบื้องหน้าเขาจำศีลหัวโล้น!
ร่างของเขาถูกฟันเป็นเศษเนื้อ เลือดย้อมท้องนภาคราม
ในลานเงียบเชียบดุจความตาย ภายในใจของทุกคนประหนึ่งถูกความตะลึงลานปกคลุม
ผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจแดนนรกล้วนอึ้งค้างอยู่ที่เดิม วิญญาณหลุดลอย ยากจะปักใจเชื่อ
ครั้งนี้พวกเขายกทัพมาสังหารอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร ดึงดูดความสนใจจากทั่วทุกทิศ เดิมทีคิดว่าการสังหารหลินสวิน ล้างบางเขาจำศีลหัวโล้น คงเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่ง
ไฉนเลยจะคาดคิดว่าบุตรนรกออกโรงก่อนยังกำจัดอีกฝ่ายไม่ได้ กลับถูกสังหารในชั่วพริบตาเดียว!
นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดไว้
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ที่ชมการต่อสู้จิตใจก็ไหวหวั่นไม่หยุดเช่นกัน
นับตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น แทบไม่มีผู้ใดให้ค่าหลินสวิน ถึงอย่างไรในด้านพลังปราณหลินสวินก็ยังด้อยกว่าหนึ่งขั้น
ทว่าบัดนี้ หลินสวินที่ไม่มีใครให้ความสำคัญกลับรอดมาได้ในท้ายที่สุด!
ทั้งหมดเห็นชัดว่าคาดไม่ถึงอย่างยิ่ง
แม้แต่ยอดบุคคลที่ชื่อเสียงสะท้านฝั่งหนึ่งอย่างพวกราชันเผิงปีกทองน้อย เย่หมัวเฮอ ลั่วเจีย ยังล้วนจมสู่ความเงียบงัน
ภายในสมองย้อนคิดถึงภาพการต่อสู้ดุเดือดเมื่อครู่ทีละฉาก ทำเอาจิตใจของพวกเขายากจะสงบลงได้
ศึกนี้อันตรายเกิดขึ้นรอบทิศ มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งยังนองเลือดน่าเวทนาหาใดเปรียบ!
ไม่ว่าหลินสวินหรือบุตรนรก ต่างเหมือนเป็นผู้เล่นชั้นยอดบนโลก ฝีมือและพลังต่อสู้ทั้งหมดที่ใช้ล้วนเหนือกว่าความคาดหมาย ทลายการคาดเดาของพวกเขาไปสิ้น พาให้พวกเขาเกิดความประหลาดใจ ตะลึง มึนงง อึ้งงัน เสียการควบคุมอยู่บ่อยครั้ง!
บนเขาจำศีลหัวโล้นก็เงียบงันไปเช่นกัน
ใครเล่าจะรู้ว่าในช่วงเวลาสามวันนี้พวกเขาได้รับแรงกดดันเช่นไรบ้าง ในใจของพวกเขาดั่งเส้นสายธนูที่ดึงรั้งจนตึง ใกล้จะแตกสลายแล้ว!
และยามนี้เมื่อภาพเหตุการณ์ที่บุตรนรกถูกสังหารนั่นปรากฏ พวกเขาก็รู้ว่าสถาการณ์ที่แสนลำเค็ญและอันตรายนี้ ในที่สุดก็ถูกทำลายลงแล้ว!
ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ!
“บุตรนรก ตายแล้ว…”
ในที่สุดก็มีคนเอ่ยงึมงำขึ้นมา ทำให้ทลายความเงียบในลานลง
จากนั้นกลางฟ้าดินผืนนี้เกิดเสียงฮือฮาดังกระหึ่ม ประหนึ่งหม้อที่มีน้ำมันเดือดปะทุ
ทุกผู้คนล้วนแต่ยากจะควบคุมอารมณ์ บ้างก็ทอดถอนใจ ประหลาดใจ สะอื้นไห้ ตะโกนร้อง… เสียงอึกทึกครึกโครมผสมผสาน ประหนึ่งภูเขาถล่มทะเลคำราม
“เทพมารหลิน เป็นคนที่ไร้แพ้พ่ายดังคาด!”
“เงียบหายไปสี่ปี บัดนี้เมื่อปรากฏตัวก็สังหารบุตรนรกสร้างอำนาจบารมี เหมือนกับเทพโดยแท้”
“น่าเสียดายบุตรนรกนั่นก็เป็นคนที่เหมือนสิงห์ร้ายเลิศล้ำ ทว่ายังไม่เคยสร้างชื่อเสียงให้ลือเลื่องทั่วดินแดนรกร้างโบราณอย่างจริงจัง ก็มาถูกสังหารไปเสียแล้ว”
“เทพมารหลิน…”
ท่ามกลางเสียงอึกทึก ยามผู้คนจับจ้องไปยังหลินสวิน แววตาต่างก็แปรเปลี่ยนไปจากเดิม
เสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาขาดรุ่งริ่งและเปื้อนเลือด ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยบาดแผล สีหน้าขาวซีดจนถึงขีดสุด ทว่า… กลับไม่มีผู้ใดกล้าดูเบา
เพียงแต่ภายใต้บรรยากาศกระสับกระส่ายพลุ่งพล่านนี้ หลินสวินกลับกระทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกคน
ตูม!
ชายเสื้อของเขาปลิวสะบัด แสงมรรคทั่วฟ้าลู่ลงมา ปกคลุมเศษเนื้อของบุตรนรกที่ถูกสังหาร
หืม?
ผู้แข็งแกร่งที่สังเกตเห็นภาพนี้ ไม่มีผู้ใดที่ในใจไม่หนาวสั่น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย หรือว่าบุตรนรกจะยังไม่ตาย?
หึ่งๆ!
ดังคาด ก็เห็นชิ้นเศษเนื้อโชกเลือดพวกนั้นประหนึ่งมีชีวิตขึ้นมา ส่งเสียงแหลมเล็กเป็นระลอกออกมาโดยพลัน
จากนั้นกลายเป็นสายรุ้งเทพสีเลือดขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือสายแล้วสายเล่า พุ่งโฉบออกไปทั่วทุกสารทิศ
แน่นขนัดมากมายจนไม่อาจนับได้
ถึงแม้ส่วนใหญ่จะถูกแสงมรรคที่หลินสวินปล่อยออกมากำจัดสิ้นซาก แต่ก็ยังมีบางส่วนชิงหนีไปกลางห้วงอากาศ
“นี่…”
ทุกคนต่างก็ปากอ้าตาค้าง ตกใจยิ่งแล้ว
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้บุตรนรกเคยถูกบั่นศีรษะ ตอนที่คิดว่าเขาร่วงหล่นอล้วเขากลับกลายร่างเป็นยุงโลหิตแปดปีก เปิดฉากการตอบโต้
มาบัดนี้เห็นหลินสวินฟันร่างเขากลายเป็นเศษเนื้อไม่เหลือชิ้นดี ขณะที่คิดว่าเขาตายแน่แล้ว กลับปรากฏเรื่องอัศจรรย์พันลึกเช่นนี้ขึ้นอีก!
ภายในใจทุกคนพลันหนาววูบขึ้นมาระลอกหนึ่งโดยไม่รู้ตัว หรือว่าจะไร้หนทางจัดการกับบุตรนรกอย่างราบคาบ?
แปลกประหลาดเกินไปแล้ว!
ครืนโครม…
ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอย่างที่สุด การเคลื่อนไหวของหลินสวินกลับไม่ได้เชื่องช้าแม้แต่น้อย เขาโจมตีด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี ดาบหักโฉบพุ่งราวกับสายฟ้าฟาดอันน่าเกรงขาม สังหารรุ้งเทพสีเลือดที่กำลังหลบหนีสายแล้วสายเล่า
ก่อนหน้านี้เขาแค่ทดสอบเท่านั้น ในใจยังไม่กล้ามั่นใจว่าบุตรนรกยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ทว่าบัดนี้ในที่สุดหลินสวินกล้าเชื่อแล้ว ว่าเจ้าหมอนี่ยังไม่ตายอย่างสิ้นเชิง!
นี่สร้างความประหลาดใจให้หลินสวิน และยิ่งทำให้เกิดความแน่วแน่ว่าจะกำจัดให้สิ้นซาก
เหตุผลนั้นง่ายมาก เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว มีฝีมือแปลกประหลาดมากมาย หากปล่อยเขาหนีไปได้ หลังจากนี้ต้องกลับมาผงาดอีกคราแน่ ผลเสียคงร้ายแรงหาที่สุดไม่ได้
ฟุ่บๆๆ!
ชั่วขณะหนึ่งก็เห็นว่ารุ้งเทพสีเลือดบนท้องฟ้าทั่วทิศถูกสังหารลงทีละสาย ดับมลายลับไป
“น่าชังนัก…!”
ทันใดนั้นเสียงคำรามของบุตรนรกดังกึกก้อง ก็เห็นรุ้งเทพสีเลือดสายหนึ่งถึงกับหลบการสังหารของดาบหักได้ เสียงวู้มดึงขึ้นครั้งหนึ่งก็แปลงเป็นเงาร่างมายาเลือนรางสายหนึ่ง
เป็นบุตรนรกจริงๆ ด้วย!
เหนือศีรษะเขากาหลอมจิตลอยวน พร่างพรมประกายแสงขมุกขมัวคุ้มกันร่างเขาเอาไว้ภายใน
ในลานพลันบังเกิดเสียงครึกโครมขึ้นทันใด เจ้าหมอนี่ถึงกับไม่ถูกฆ่าตายจริงๆ!
“ฟัน!”
หลินสวินไม่ลังเลแม้แต่น้อย ดาบหักพาดขวางออกไป
กระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้!
เสียงปังดังกึกก้อง การโจมตีที่หมายมั่นไว้ของหลินสวินถึงกับถูกสกัดกั้น
นั่นคือโล่สำริดชิ้นหนึ่ง สภาพเก่าพังถึงขีดสุด พื้นผิวยังเปื้อนคราบเลือดแห้งกรัง
ทว่าบัดนี้กลับสกัดขวางการโจมตีของดาบหักเอาไว้ นอกจากละอองแสงบาดตาที่กระเด็นออกมาก็ไม่มีส่วนใดถูกทำลาย!
กระนั้นพลังของกระบวนเฉือนนี้ก็ยิ่งใหญ่นัก บุตรนรกไม่อาจแบกรับไหว เสียงสวบดังขึ้น ก็เห็นโล่สำริดที่น่าพิศวงนี้ถูกกระแทกกระเด็นออกไป
ปัง!
บุตรนรกสะท้านไปทั่วสรรพางค์กาย เดิมทีเงาร่างของเขาก็เลือนรางเต็มทีแล้ว เวลานี้ก็ไม่ต่างอะไรกับกระจกสีที่ร้าวใกล้แตก หากไม่ใช่พลังของกาหลอมจิตคุ้มกันไว้ เกรงว่าคงไม่อาจยืนหยัดได้นานแล้ว
“หลินสวิน ไม่ช้าก็เร็วข้าจะฆ่าเจ้า!”
บุตรนรกตะโกนด้วยความพยาบาทอย่างที่สุด
“เฉือน!”
หลินสวินไม่เอ่ยไร้สาระใดๆ พุ่งโจมตีเข้าไป ดาบหักโฉบพุ่งอีกหน
“พวกเศษสวะ ยังไม่ลงมืออีก?” บุตรนรกตื่นตระหนกจนตะคอกกราดเกรี้ยว
และความเร็วในการหลบหลีกก็ยิ่งไวขึ้น
ผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจแดนนรกที่แต่เดิมตกอยู่ความหวาดผวา จิตใจดุจดับสิ้นไปก่อนหน้านี้นานแล้ว จิตต่อสู้ล้วนพังทลาย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องการบุกโจมตีหลินสวินเลย
บุตรนรกตายไปแล้ว พวกเขามีหรือจะยอมเอาชีวิตเข้าแลก
ทว่าตอนนี้บุตรนรกกลับฟื้นคืนชีพอย่างเหนือความคาดหมาย นอกจากความประหลาดใจ ยังทำให้พวกเขามีกำลังใจด้วย
ทันใดนั้นก็มีคนพุ่งตัวออกไปหมายขัดขวางหลินสวิน!
“ฆ่า!”
ผู้นำคือจันยวน มกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านสาม
“ฆ่า!”
ผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจแดนนรกคนอื่นๆ ต่างบุกโจมตี
กระนั้นส่วนใหญ่กลับเคลื่อนไหวอย่างเอื่อยเฉื่อย เห็นชัดว่าไม่มีใจจะเอาชีวิตเข้าแลกแต่แรก หลีกเลี่ยงการถูกสังหาร
นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าหัวมังกุท้ายมังกร
เมื่อบุตรนรกเพลี่ยงพล้ำ ขุมอำนาจแดนนรกย่อมแตกแยกซ่านเซ็นอย่างแน่นอน นี่หาใช่การกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด
ฉัวะ!
ในหมู่ผู้คน ลั่วเจียทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยพลัน เงาร่างพร่างพรมละอองแสงเย็นใส ประหนึ่งหงส์ที่แท้จริง สกัดกั้นการจู่โจมของจันยวน
ขณะเดียวกันนางกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใสว่า “หลินสวิน เจ้าสนใจแค่การสังหารบุตรนรกก็พอ พวกโง่เง่าพรรค์นี้ปล่อยให้ข้าจัดการแล้วกัน”
ทันใดนั้นทั่วลานล้วนตะลึงงัน ต่างคาดไม่ถึงว่าในเวลานี้ลั่วเจียผู้กล้าหญิงสายเลือดหงส์เซียนคนนี้จะปรากฏกายออกมา ช่วยหลินสวินขจัดเคราะห์สังหารอย่างไม่ลังเล
“ยังมีข้า!”
ปราณกระบี่แฝงไอสังหารเย้ยฟ้าสายหนึ่งโฉบออกไป สะเทือนฟ้าดิน
เยวี่ยเจี้ยนหมิงหนึ่งคนหนึ่งกระบี่ปรากฏตัวขึ้นกลางลาน
ชั่วขณะเดียวในลานเกิดความโกลาหลอย่างสิ้นเชิง เสียงเข่นฆ่าสะเทือนฟ้า
ตูม!
กาหลอมจิตจักรพรรดินรกสั่นส่าย ลองอองแสงที่ขมุกขมัวไหลวน ช่วยสกัดกั้นการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าให้บุตรนรก เห็นชัดว่าวิเศษอัศจรรย์หาใดเปรียบ
แต่แม้บุตรนรกยังไม่อาจถูกสังหาร แต่ร่างกายกลับถูกกระเทือนจนยิ่งทึบแสง แทบจะกลายเป็นเงามายาเลือนราง ใกล้สลายเต็มที
เขาคงยืนหยัดได้อีกไม่นานอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ฟัน!”
และอีกครั้งที่หลินสวินสำแดงกระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้ออกมา
แต่ในเวลาเดียวกันนี้ก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้น…
ลูกประคำสีดำเส้นหนึ่งลอยมาปรากฏ แต่ละลูกผลิออกปลดปล่อยอักษรธรรมแน่นขนัด จากนั้นแปลงเป็นเงามายามุนินทร์หลายองค์
ทั้งหมดรวมยี่สิบสี่องค์ แต่ละองค์สูงใหญ่ไร้ขอบเขต อัดแน่นเต็มฟ้าดิน ใบหน้าเคร่งขรึมปลดปล่อยแสงธรรมอันหาที่สุดไม่ได้ออกมา
นะโม! นะโม! นะโม!
ขณะเดียวกันเสียงสวดหลายเสียงดังก้องออกมาพร้อมกัน ประหนึ่งเสียงสยบมาร แผ่กลิ่นอายเวทนาเคร่งขรึม
ภาพเหตุการณ์นี้ช่างคุ้นตาถึงเพียงนี้!
ปีนั้นก่อนถูกกักขังไว้ก้นแม่น้ำนรก หลินสวินก็ถูกกู่ฝอจื่อลอบจู่โจมด้วยวิธีเดียวกันนี้
มาตอนนี้ภาพเช่นเดียวกันปรากฏให้เห็นอีกครา
ตูม!
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเกิดขึ้นฉับพลัน ในชั่วพริบตาที่หลินสวินโจมตีอย่างประจวบเหมาะ จับจังหวะไว้ได้อย่างแม่นยำและอำมหิต
มองออกไปทั่วทิศ เงามายามุนินทร์แต่ละองค์ลงมือจู่โจมจนครอบคลุมไปทั่วฟ้าดินผืนนี้ กำราบได้ทุกสิ่ง พลานุภาพสะเทือนเลื่อนลั่น!
เพียงแต่ว่าไม่เหมือนกับคราก่อน ในช่วงเวลาแห่งความเป็นตายนี้ หลินสวินกลับมีท่าทีสงบนิ่งอย่างน่าอัศจรรย์
วู้ม!
เขาประกบนิ้วกดลงไป
คลื่นสะเทือนอันไร้รูปแผ่ออกจากปลายนิ้วในชั่วพริบตา
ทันใดนั้นการจู่โจมที่มาเยือนจากทุกทิศทาง ดูเหมือนกับเข้าใกล้เต็มที ทว่ากลับประหนึ่งอยู่ห่างออกไปไกลสุดขอบฟ้าก็ไม่ปาน ไม่ว่าวิชาใดๆ ก็ไม่อาจประชิดตัวหลินสวินได้แม้แต่น้อย
นี่เป็นภาพที่แปลกประหลาดและสะท้านใจคนเป็นอย่างยิ่ง
นี่ ก็กระบวนท่าที่สองของดรรชนีมหาอุดมสลายมายา…
ใกล้ดุจสุดหล้า
หนึ่งดรรชี ประหนึ่งตัดโลก ศัตรูอยู่ใกล้เพียงคืบ ข้าเหมือนอยู่ไกลสุดหล้า ไม่อาจเข้าใกล้!
เป็นวิธีป้องกันที่ดุจดั่งการ ‘จำกัดบริเวณ’ อย่างหนึ่ง ทว่าอัศจรรย์และพาให้ผู้คนประหลาดใจยิ่งกว่า
ลองตรองดู จุดที่ตนยืนอยู่ประหนึ่งห่างไกลสุดขอบฟ้า ศัตรูจะเข้าใกล้ได้อย่างไร
นัยเร้นลับของดรรชีนี้ เกี่ยวเนื่องไปถึงแก่นจริงแท้แห่งห้วงอากาศ!
ในห้วงอากาศ มีแต่อริยะจึงจะสามารถหยั่งรู้กฎเกณฑ์มหามรรค แน่นอนว่าหลินสวินย่อมไม่สามารถควบคุมได้ เขารู้เพียงแค่ผิวเผินแต่ไม่รู้ถึงแก่นแท้ภายใน ทำได้เพียงฝึกฝนท่วงท่าและสำแดงอานุภาพเล็กน้อยนั้นออกมาเท่านั้น
ก็เหมือนวาดภาพเพียงเค้าร่าง ยากจะวาดความน่าเกรงขามแท้จริงออกมา
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้พลานุภาพและความอัศจรรย์นั้นก็นับได้ว่าสะเทือนฟ้าสะท้านดิน !
อย่างน้อยที่สุดยามนี้ก็สามารถสลายการลอบจู่โจมที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวนี้ได้
ปัง!
ไกลออกไป ดาบหักที่ถูกหลินสวินปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ก็ฟันทะลวงแล้ว ผ่าจนกาหลอมจิตจักรพรรดินรกสั่นสะเทือนรุนแรง บุตรนรกพลันร้องโหยหวนไร้ใดเปรียบขึ้นมาพร้อมกัน
จากนั้นเสียงของเขาและกาหลอมจิตจักรพรรดินรกต่างสลายไปพร้อมกัน
“น่าเสียดาย…”
หลินสวินถอนหายใจในใจ
แต่ก็ไม่ถึงขั้นเสียดายมากมายอะไร
หากหลินสวินเดาไม่ผิด แม้คราวนี้บุตรนรกจะเคราะห์ดีรอดชีวิตไปได้ แต่พลังชีวิตของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก แบกรับบาดแผลที่ไร้หนทางเยียวยา
หากอยากฟื้นฟูให้กลับมาดังเดิมในระยะเวลาสั้นๆ ก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้!
………………