Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2276 ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2276 ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง
ตอนที่ 2276 ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง
ลั่วเจียรับคำสั่งในทันที ในใจคิดอย่างค่อนข้างดีใจว่าคราวนี้จะได้ไปแจ้งเรื่องกับพี่หลินได้เสียที
บนบัลลังก์ ในเวลานี้หวงชางเทียนแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจเด็ดขาดของหัวหน้าเผ่า ออกคำสั่งสามข้อติดต่อกันโดยไม่ลังเล
“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ให้ตรวจค้นชาวเผ่าทุกคนโดยละเอียด ไม่ว่าใครถูกหนอนเทพกักวิญญาณควบคุม ให้จับตัวไว้ทันที!”
“ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านพาคนมุ่งหน้าไปเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง ระดมกำลังทั้งหมดของเผ่าเรา หากพบเจอคนเผ่าเสือขาว เต่าดำสองเผ่านี้ ฆ่าทิ้งสถานเดียว!”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แดนลับหงส์เซียนให้เพิ่มความเข้มงวดทุกด้าน ชาวเผ่าทุกคนหากไม่ได้รับคำสั่งห้ามออกไปข้างนอกโดยพลการ หากฝ่าฝืนให้ลงโทษสถานหนัก!”
คำสั่งสามข้อกังวานดังสนั่น ทำให้บรรยากาศโถงใหญ่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมา
ทันใดนั้นก็มีเฒ่าดึกดำบรรพ์รับคําสั่งและจากไปอย่างรีบร้อน เริ่มดำเนินการ
ทุกคนล้วนสังหรณ์ใจได้ว่าวันนี้คลื่นลมกำลังจะแผ่ขยายออกไป
ลั่วเจียและลั่วฉางเฟิงบิดาของนางก็ออกไปเช่นกัน ในโถงใหญ่เหลือเพียงหวงชางเทียนและผู้เฒ่าเผ่าหงส์เซียนจำนวนหนึ่ง
จวบจนตอนนี้หวงชางเทียนเพิ่งจะเผยแววหวั่นวิตกออกมา กล่าวว่า “มาตอนไหนไม่มา ตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งดันส่งคนใหญ่คนโตมาเอาตอนนี้ ทุกท่านคิดว่าพวกเขามีเจตนาอะไร”
“ต้องมีคนปล่อยข่าวเรื่องที่บรรพชนของเผ่าเราใกล้จะตื่นจากนิพพานแน่ๆ เลยชักนำหายนะครั้งนี้มา!”
เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งสีหน้าเคร่งขรึม “ทุกท่านอย่าลืมสิ ตอนนั้นเพราะช่วยลั่วชิงสวิน บรรพชนเจินหลงจึงต้องถูกกำราบอย่างน่าสังเวช บรรพชนสองเผ่าอย่างเสือขาวและเต่าดำต่างเลือกยอมจำนน ก่อนหน้านี้นานมาแล้วจึงได้มุ่งหน้าไปฝึกปราณที่ตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง”
“มีเพียงบรรพชนของเผ่าเรา ปีนั้นเนื่องจากเรื่องนิพพานจึงไม่ได้เลือกฝั่งไหน ครั้งนี้… เกรงว่าตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งจะอาศัยช่วงที่ใต้เท้าบรรพชนของเผ่าเราตื่นขึ้นมา บีบให้ใต้เท้าบรรพชนตัดสินใจเลือกสักทางอย่างแน่นอน!”
เฒ่าดึกดำบรรพ์คนอื่นๆ ต่างก็พยักหน้า และมีเพียงคำอธิบายเช่นนี้เท่านั้นจึงจะฟังขึ้น
จู่ๆ ก็มีคนกล่าวว่า “ยังมีความเป็นไปได้อีกข้อ อาจเพราะเสือขาวและเต่าดำสองเผ่านี้กำลังยุยงประโคมไฟ หมายยืมมีดฆ่าคนหรือไม่”
“หมายความว่าอย่างไร” หวงชางเทียนถาม
“ตอนนี้ในหมู่สี่เผ่าวิญญาณฟ้าประทานของพวกเรา บรรพชนเจินหลงถูกกำราบ บรรพชนเผ่าพวกเราเข้าภวังค์หลับใหล บรรพชนสองเผ่าอย่างเสือขาวและเต่าดำกลับมอบชีวิตให้ตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง ระหว่างสองฝ่ายเรียกได้ว่าคู่คี่สูสี”
คนผู้นั้นกล่าวต่อ “แต่หากบรรพชนของพวกเราตื่นจากนิพพาน ต้องทำลายสมดุลนี้ลงแน่นอน เผ่าเจินหลงมีสัมพันธ์อันดีกับเผ่าพวกเรา ย่อมไม่ห่วงว่าจะได้รับภัยคุกคามจากเผ่าพวกเรา แต่ทั้งสองเผ่าอย่างเสือขาวและเต่าดำเกรงว่าคงไม่คิดเช่นนี้แล้ว”
คำพูดนี้ทำเอาทุกคนต่างครุ่นคิด
ทุกคนล้วนรู้ดีว่าเผ่าหงส์เซียนตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งเพราะลั่วชิงสวิน แน่นอนว่านี่เป็นเจตจำนงที่สืบทอดต่อมาของบรรพชนหงส์เซียน
หากบรรพชนหงส์เซียนตื่นขึ้นมา และรู้ว่าทุกวันนี้สองเผ่าอย่างเสือขาวและเต่าดำมอบชีวิตให้ตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งมาตลอด มีหรือจะไม่เกิดใจเป็นปรปักษ์
ด้วยพลังหลังตื่นขึ้นของบรรพชนหงส์เซียน แน่นอนว่าสามารถคุกคามสองเผ่าอย่างเสือขาวและเต่าดำได้!
“หากเป็นเช่นนี้ แผนชั่วครั้งนี้เกรงว่าคงไม่ง่ายดายเพียงเท่านี้”
หวงชางเทียนพยักหน้าน้อยๆ สีหน้าท่าทางเจือแววเคร่งขรึม “ตั้งแต่พรุ่งนี้ข้าจะไปเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ คุ้มครองการตื่นขึ้นมาของใต้เท้าบรรพชนด้วยตนเอง!”
บรรพชนหงส์เซียนหลับใหลอยู่ในส่วนลึกที่สุดของทะเลเพลิงใต้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมานี้ ล้วนอารักขาโดยจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพมาตลอด
เรื่องนี้มีเพียงคนระดับสูงแกนหลักในเผ่าหงส์เซียน รวมถึงเฒ่าดึกดำบรรพ์ไม่กี่คนในเผ่าจักรพรรดิช่างเทพเท่านั้นที่รู้
ทว่าตอนนี้หวงชางเทียนกลับค่อนข้างกังวลว่าข่าวจะรั่วไหลไปแล้วหรือไม่…
…
ขณะเดียวกันภายในเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ
หัวหน้าเผ่าเลี่ยนจิ่วเซียวรวมถึงเหล่าคนใหญ่คนโตทั้งกลุ่มต่างกำลังหารือกัน เพียงแต่หัวข้อที่พูดถึงกลับเกี่ยวข้องกับคนผู้หนึ่ง
หลินเต้ายวน!
เรื่องที่เกิดขึ้นในร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขสิบถึงหมายเลขสอง บรรดาคนใหญ่คนโตเผ่าจักรพรรดิช่างเทพอย่างเลี่ยนจิ่วเซียวล้วนรู้กระจ่างแล้ว หลังผ่านความสะท้านและประหลาดใจในช่วงแรกสุด ในใจก็ผุดความสงสัยข้อหนึ่งขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
หลินเต้ายวนนี่มาร้านช่างเทพครั้งนี้ จะมาแค่เพื่อชมและประเมินสมบัติเท่านั้นหรือ
“หงซิ่ว เจ้าบอกว่าหลินเต้ายวนคนนี้ต้องการพบใต้เท้าจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงหรือ” จู่ๆ เลี่ยนจิ่วเซียวก็ถามขึ้น
เลี่ยนหงซิ่วพยักหน้า “ถูกต้อง แต่ข้าคิดว่าสหายยุทธ์หลินไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง เรื่องนี้อวิ๋นเทียนและเฟยเจี่ยต่างพิสูจน์ได้”
เลี่ยนอวิ๋นเทียน เลี่ยนเฟยเจี่ยที่อยู่ข้างกันล้วนพยักหน้า
“หัวหน้าเผ่า ไม่ว่าสหายยุทธ์หลินมาครั้งนี้เพราะอะไร พรุ่งนี้เขาก็จะมุ่งหน้ามาที่ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งของพวกเรา ถึงตอนนั้นลองถามให้กระจ่างเองก็ได้”
มีคนกล่าวเสนอ
“ใช่ ข้าเองก็อยากลองดูว่าฝีมือของสหายยุทธ์หลินคนนี้จะน่าทึ่งแค่ไหนกันแน่”
เฒ่าดึกดำบรรพ์บางส่วนพากันเอ่ยปากขึ้น ล้วนสนอกสนใจยิ่ง
ใคร่ครวญอยู่นานเลี่ยนจิ่วเซียวก็พยักหน้ากล่าวว่า “ก็ดี แต่ทุกท่านก็ต้องระวังไว้บ้าง เผื่อหลินเต้ายวนคนนั้นมีจุดประสงค์แอบแฝงอะไรจริงๆ พวกเราจะติดกับไม่ได้เด็ดขาด”
ทุกคนต่างตอบรับด้วยความยินดี
…
ในวันนี้ถูกกำหนดให้ไม่อาจสงบ
ดึกสงัดแล้ว ในเรือนห่างไกลแห่งหนึ่งปกคลุมด้วยผนึกคลุมเครือเป็นชั้นๆ
ภายในเรือนไม่มีแสงไฟ มืดมิดเงียบสงัด แต่กลับมีเงาร่างกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ในนั้น เห็นได้ชัดว่าลึกลับหาใดเปรียบ
“วันนี้นายน้อยอู่ฝ่าเทียนของเผ่าพวกเรา รวมถึงสี่ผู้อาวุโสที่มีปราณระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดล้วนถูกคนฆ่าตายหมดแล้ว…” เสียงต่ำลึกเย็นเยียบสายหนึ่งดังขึ้น
“เฮอะ! นายน้อยไป๋ซาจวินและคนใหญ่คนโตปราณระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนหนึ่งของเผ่าพวกเราก็ประสบเคราะห์เหมือนกัน!” มีคนแค่นเสียงเย็น
มีคนเอ่ยเสียงต่ำลึก “หรือว่าเผ่าหงส์เซียนเริ่มไหวตัวและเคลื่อนไหวแล้ว”
“ไม่มีทาง! หมากที่เผ่าพวกเราแทรกซึมไว้ในเผ่าหงส์เซียนยังไม่พบความผิดปกติอะไร”
“แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องในวันนี้ต้องกระทบเผ่าหงส์เซียนแล้วเป็นแน่ หากไม่เหนือคาด หวงชางเทียนต้องเริ่มเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน”
“เผ่าหงส์เซียนยากจะหนีเคราะห์พ้นแล้ว เวลานี้แม้จะเริ่มเคลื่อนไหวก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้ รอเพียงคนใหญ่คนโตตระกูลลั่วคนนั้นมุ่งหน้ามา ก็ถึงเวลาที่พวกเราสองเผ่าต้องจะลงมือเต็มที่แล้ว!”
“ช่วงนี้ทุกท่านเก็บตัวเงียบหน่อย พยายามอย่าเปิดเผยร่องรอย”
“ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”
เสียงพูดคุยหารือเหล่านั้นค่อยๆ เลือนรางจนกระทั่งอันตรธานหายไป
ในเรือนมืดมิดดังเดิม เพียงแต่เงาร่างเหล่านั้นไม่อยู่แล้ว
…
เช้าวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าแจ่มใส
แต่เมื่อหลินสวินเดินออกจากโรงเตี๊ยม กลับพบว่าแม้บนท้องถนนจะยังคงคึกคักจอแจตามเดิม แต่กลับเต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียดหนาวสะท้าน
หลังสืบข่าวคร่าวๆ หลินสวินจึงรู้ว่า ตั้งแต่เมื่อคืนเผ่าหงส์เซียนก็ระดมกำลังมากมายเข้ามาลาดตระเวนทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง
ว่ากันว่าจะจับกุมหัวขโมยบางส่วน
หลินสวินมีหรือจะไม่เข้าใจ ว่า ‘หัวขโมย’ ที่ว่านี้คงหมายถึงผู้แข็งแกร่งเผ่าเสือขาวและเต่าดำสองเผ่า!
‘ตอบสนองเร็วใช้ได้’
ในใจหลินสวินสงบลง นี่พิสูจน์ว่าลั่วเจียนำข่าวกลับไปแจ้งเผ่าแล้ว และคนใหญ่คนโตระดับสูงเหล่านั้นก็ให้ความสำคัญ
เช่นนี้ก็ดี ขอเพียงไม่ถูกครอบในกะลาก็จะไม่เป็นฝ่ายถูกกระทำ
ขณะครุ่นคิดหลินสวินก็ย่างเท้ามุ่งไปยังร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง
“พี่หลิน”
เพิ่งเดินไปได้ครึ่งทางก็เห็นลั่วเจียมาจากไกลๆ สวมกระโปรงยาวสีม่วงอ่อน คิ้วตาดั่งภาพวาด งามล้ำเหนือธรรมดา ระหว่างทางไม่รู้ดึงดูดความสนใจมากมายเท่าไหร่
“ดูท่าเจ้าอารมณ์ดีทีเดียว”
หลินสวินกล่าวยิ้มๆ ในมือเขามีป้ายหยกที่ลั่วเจียมอบให้ชิ้นหนึ่ง ที่อีกฝ่ายหาตนพบก็อยู่ในการคาดหมายของเขา
ลั่วเจียพยักหน้ากล่าว “หัวหน้าเผ่าของพวกเราตอบตกลงแล้ว รอหลังจากคลี่คลายหายนะครั้งนี้เสร็จก็จะเปิดเส้นทางให้เจ้า ส่งเจ้ากลับทางเดินโบราณฟ้าดารา”
นี่ย่อมเป็นข่าวดีอย่างหนึ่ง แต่หลินสวินกลับได้ยินความหมายที่ต่างออกไป อดกล่าวหยอกล้อด้วยรอยยิ้มไม่ได้ “หรือกล่าวอีกอย่างคือ ก่อนที่จะกำจัดหายนะครั้งนี้เสร็จ ข้าก็ไปไหนไม่ได้หรือ”
ลั่วเจียร้องเอ้อคราหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรตอบกลับอย่างไรไปชั่วขณะ
หลินสวินกล่าว “อย่าคิดจริงจัง ถึงอย่างไรตอนนี้ข้าก็ไม่ได้รีบร้อนออกไปอยู่แล้ว”
ลั่วเจียถาม “จริงสิ นี่เจ้าจะไปไหน”
“ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง” หลินสวินกล่าวง่ายๆ
ลั่วเจียอึ้งไป จากนั้นจึงเอ่ยอย่างใคร่รู้ “ไปทำอะไรที่นั่น”
หลินสวินไม่ตอบ กล่าวยิ้มๆ “อยากไปดูด้วยกันหรือไม่”
“ในฐานะเจ้าบ้าน จะไม่อยู่เป็นเพื่อนจนถึงที่สุดได้ที่ไหน”
ลั่วเจียยิ้มสดใส เสียงนุ่มนวลกังวาน
จนกระทั่งตอนที่มองเห็นร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งอยู่ไกลๆ ลั่วเจียก็อดอึ้งไปไม่ได้ คนเยอะจัง!
เงาร่างแออัดยัดเยียด ถึงกับออกันแน่นทั่วพื้นที่แถบนั้น นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ
ที่ทำให้ลั่วเจียยิ่งประหลาดใจคือ เลี่ยนจิ่วเซียวหัวหน้าเผ่าเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ รวมถึงคนใหญ่คนโตทั้งกลุ่ม เวลานี้ล้วนยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ของร้านช่างเทพ เห็นได้ชัดว่าเกรียงไกรหาใดเปรียบ
ภาพเช่นนี้ในอดีตที่ผ่านมาพบเห็นได้ยากที่สุด!
“พี่หลิน ดูจากสถานการณ์แล้ว วันนี้พวกเราคงไปร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งนั่นไม่ได้แล้ว…”
ลั่วเจียเพิ่งกล่าวถึงตรงนี้ก็เห็นกลุ่มคนไกลๆ เริ่มแตกตื่น เสียงฮือฮาดังขึ้นระลอกหนึ่ง
“มาแล้ว! หลินเต้ายวนคนนั้นมาแล้ว!”
“ดูเร็ว นั่นก็คือหลินเต้ายวน ยอดฝีมือคนนั้นที่สร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองเมื่อวานนี้”
“ดูแล้วยังหนุ่มอยู่เลย…”
พร้อมๆ กันนั้นสายตานับไม่ถ้วนต่างหันมามองหลินสวิน ภาพที่ไม่ทันตั้งตัวนี้ทำเอาลั่วเจียอดอึ้งงันไม่ได้
นี่มันเรื่องอะไรกัน!?
นางเพิ่งออกมาจากเผ่าก็มาหาหลินสวินทันที จึงไม่รู้ว่าหลินสวินที่อยู่ข้างกายสร้างคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
เวลานี้เลี่ยนจิ่วเซียวหัวหน้าเผ่าเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ และสัตว์ประหลาดเฒ่าปฐมาจารย์หลอมอาวุธอย่างพวกเลี่ยนหงซิ่ว เลี่ยนอวิ๋นเทียน เลี่ยนเฟยเจี่ยต่างก็เดินมาจากไกลๆ พร้อมกัน
ยังห่างกันอีกไกล บรรดาสัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นก็เผยสีหน้ากระตือรือร้น เคารพนับถือ และต่างร้องทักทาย
“สหายยุทธ์หลิน ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว”
“ท่านนี้คือหัวหน้าเผ่าของพวกเรา หลังจากเขาฟังเรื่องราวของเจ้า ก็ตัดสินใจทันทีว่าจะมาดูความสง่างามของสหายยุทธ์”
“จริงสิ คนเหล่านี้เป็นพวกเฒ่าชราของเผ่าพวกเรา ไว้ข้าจะแนะนําให้เจ้ารู้จักทีละคนในภายหลัง”
บรรยากาศคึกคักมาก บรรดาปฐมาจารย์หลอมอาวุธที่ในอดีตแต่ละคนล้วนถือตัวเทียมฟ้า เวลานี้กลับแห่ห้อมเข้ามาทักทายปราศรัยกับหลินสวินอย่างกระตือรือร้น
นี่ทำให้ลั่วเจียล้วนงุนงง
เหล่าเฒ่าชราในเผ่าจักรพรรดิช่างเทพพวกนี้ แม้แต่ยามอยู่ต่อหน้าคนใหญ่คนโตเผ่าหงส์เซียนของพวกเขาก็ยังไว้ตัวและถือดียิ่งยวด
ทว่าตอนนี้กลับเคารพนับถือ และกระตือรือร้นต่อคนนอกอย่างหลินสวินถึงเพียงนี้!
นี่… เกิดอะไรขึ้นกันแน่
ยังไม่ทันเข้าใจ ลั่วเจียก็ถูกหลินสวินพาเดินเข้าร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งแห่งนั้นอย่างงงๆ ภายใต้วงล้อมของบรรดาคนใหญ่คนโตเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ และภายใต้สายตาจับจ้องนับไม่ถ้วนของเหล่าคนที่มามุงดู
——