Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3031 ขบวนรับเจ้าสาว
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3031 ขบวนรับเจ้าสาว
ตอนที่ 3031 ขบวนรับเจ้าสาว
ในเรือนกลางไหล่เขาของเขาไผ่อักษร
เรือนที่เดิมที่ประดับประดาด้วยผ้าและโคมไฟงดงามเปลี่ยนเป็นสะอาดตา
จี้ซานไห่กำลังชงชาอยู่ ส่งเสียงหัวเราะพราวเสน่ห์
ซีเปลี่ยนชุดจากมงกุฎหงส์และผ้าคลุมหน้ามาสวมกระโปรงยาวสีม่วง
นางรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตระกูลจี้จากปากของหลินสวินเช่นเดียวกับจี้ซานไห่ หลังจากตกใจในตอนแรกสุด จิตใจของทั้งคู่ก็เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายลง
เพียงแต่บางครั้งยามมองไปที่หลินสวิน ในใจทั้งคู่ก็สั่นไหวเป็นระลอกอย่างเลี่ยงไม่ได้
อันที่จริงสองพี่น้องคิดไม่ถึงว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินในตอนนี้จะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้
บดขยี้เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหนึ่งได้ด้วยตัวคนเดียว!
พวกนางเหมือนกับบิดาจี้หวังถู ที่ตอนแรกหลังจากรู้ข่าวพวกนี้ก็ยังไม่กล้าเชื่อ เหม่อลอยไปเนิ่นนานจนท้ายที่สุดถึงตระหนักได้ว่าตระกูลจี้ ‘ฟ้าเปลี่ยน’ โดยสิ้นเชิงแล้ว!
และเป็นตอนนั้นอีกเช่นกันที่หลินสวินมอบพลังระเบียบที่แปรสภาพเป็นบรรทัดหยกสีเขียวคืนให้จี้หวังถู
ตระกูลจี้ในยามนี้ แม้ว่าศัตรูพวกนั้นจะถูกกำลังพลของจี้หวังถูกวาดล้างไปจนหมด ทว่าสถานการณ์กลับโกลาหลสุดขีด
หลินสวินคร้านจะไปทำเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ และการมอบให้จี้หวังถูมาทำจึงจะเหมาะสมที่สุด
อย่างไรจี้หวังถูก็เป็นผู้นำของตระกูลจี้
“ผู้อาวุโส รอจัดการขบวนรับเจ้าสาวของตระกูลไท่เฮ่าพรุ่งนี้แล้วข้าก็จะไปตระกูลไท่เฮ่าสักรอบ กำจัดตระกูลนี้ให้สิ้น”
หลินสวินนั่งสบายๆ อยู่ตรงนั้น ดื่มน้ำชาที่จี้ซานไห่ต้มให้ด้วยตัวเองพลางกล่าวเสียงเบา
ยามนี้แค่จัดการเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางกับตระกูลจี้ไปเท่านั้น ในน่านฟ้าที่เก้านี้ยังมีเผ่าเทพนิรันดร์อีกสิบตระกูล หลินสวินย่อมไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้ได้
“ในเมื่อตอนนี้เจ้าเป็นหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ของลัทธิแรกกำเนิด ทั้งยังเป็นผู้ที่เหยียบย่างมรรคานิรันดร์ ต่อไปไม่ต้องเรียกข้าว่าผู้อาวุโสแล้ว”
เสียงของซีเยือกเย็นเช่นเคยทว่าสีหน้ากลับนุ่มนวลอย่างหาได้ยาก ใบหน้างามล้ำเปล่งประกายงดงามใต้เงาโคมไฟ ครู่หนึ่งนางก็ยิ้มมุมปากกล่าวว่า “ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ามีศักดิ์เท่าน้องสาวข้าแต่กลับเรียกข้าผู้อาวุโส อย่างไรก็ไม่เหมาะ ต่อไป… เจ้าเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อข้าตรงๆ ก็พอ”
หลินสวินยิ้มพลางตอบรับไป แต่สภาวะจิตกลับซับซ้อนขึ้นน้อยๆ
ตั้งแต่ยังเยาว์เขาก็เรียกซีว่าผู้อาวุโส ผ่านมาหลายปีเช่นนี้ เมื่อต้องเปลี่ยนคำเรียกจริงๆ กลับรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก
ราวกับภูเขาสูงลูกหนึ่งที่ทำได้แค่แหงนมองเมื่อวัยเยาว์ ทว่าตอนนี้ถูกตัวเองก้าวข้ามไปแล้วจึงย่อมรู้สึกทอดถอนใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ฉวยโอกาสที่ว่างอยู่นี้ ไม่สู้เจ้าประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปีนี้ให้ข้าฟังเป็นอย่างไร” ซีกล่าวเสียงเบา
แต่ก่อนนางแค่ได้ยินข่าวลือที่เกี่ยวกับหลินสวิน แต่กลับไม่รู้ชัดว่าหลินสวินผ่านอะไรมาบ้างตั้งแต่ออกจากทางเดินฟ้าดารามาถึงตอนนี้
หลินสวินพยักหน้าน้อยๆ นัยน์ตาเผยแววหวนรำลึกพลางเล่าชีวิตที่ผ่านมาหลายปีนั้น
ชั่วขณะหนึ่งในห้องเงียบลง มีเพียงเสียงของหลินสวินดังขึ้นไม่หยุด สองพี่น้องฟังจนจมสู่ภวังค์
กระทั่งตกดึก
ร่างที่เต็มไปด้วยความอิดโรยของจี้หวังถูก็ปรากฏตัว
เขาปลอบขวัญคนในตระกูลได้ชั่วคราวแล้ว แต่หากอยากให้สถานการณ์มั่นคงโดยสมบูรณ์กลับต้องเสียเวลาอยู่มาก
“ผู้อาวุโส ตามความเห็นข้า ตระกูลจี้ไม่เหมาะจะอยู่ในน่านฟ้าที่เก้าอีกต่อไปแล้ว”
หลินสวินเอ่ยปาก
จี้หวังถูเป็นบิดาของซี เขาจึงเรียกด้วยความเคารพว่าผู้อาวุโสเช่นกัน
“ข้ารู้”
ใบหน้าจี้หวังถูเผยสีหน้าหม่นหมอง
เพียงวันเดียวตระกูลจี้ก็ร่วงหล่นจากเผ่าเทพนิรันดร์ที่อยู่อันดับต้นๆ ลงมาหลายพันจั้ง จี้เป่ยเฟิงถูกจับเป็น จี้เซียวอวิ๋นฆ่าตัวตาย แม้แต่คนใหญ่คนโตในตระกูลก็ถูกชำระล้างเลือดนอง เสียหายหนักหน่วง เรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อน
นี่ทำเอายามจี้หวังถูเจอหน้าหลินสวิน สภาวะจิตจึงซับซ้อนแปลกประหลาด
สำหรับทั้งตระกูลจี้ หลินสวินเป็นศัตรูของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่สำหรับจี้หวังถู หากหลินสวินไม่ลงมือวันนี้ เขาไม่เพียงปกป้องบุตรสาวทั้งคู่ของตนไม่ได้ ที่แย่ยิ่งกว่าคือคนในตระกูลทั้งหมดจะประสบเคราะห์ไปด้วย
และตอนนี้ต่อให้ตระกูลจี้เสียหายหนักหน่วง แต่อย่างไรระเบียบระดับเทพก็ยังอยู่ สายเลือดของตระกูลยังอยู่ นี่ก็เป็นโชคดีในโชคร้ายแล้ว
ทว่าจี้หวังถูก็รู้ชัดเช่นกันว่าเป็นดังที่หลินสวินว่า ตระกูลจี้ในตอนนี้อยู่น่านฟ้าที่เก้าไม่ได้อีกแล้ว
ลองคิดดู ต่อให้หลินสวินมีความสามารถทำลายเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลอื่นในน่านฟ้าที่เก้าได้ แต่ถ้าพวกน่ากลัวในเผ่าเทพนิรันดร์ที่ไปแหล่งสถานคุณหลุนกลับมา ตระกูลจี้ของเขาย่อมเดือดร้อนเช่นกัน
เรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดของจี้หวังถูก็คือ ถ้าพวกผู้อาวุโสของตระกูลจี้ที่ไปแหล่งสถานคุณหลุนรู้ข่าวพวกนี้ ย่อมไม่อาจจบลงด้วยดีเป็นแน่!
เรียกได้ว่าต่อให้ตอนนี้ตระกูลจี้ถูกจี้หวังถูปกครอง แต่ภัยแฝงที่ต้องเผชิญกลับมากเหลือเกิน
“ตามความเห็นข้า ไม่สู้ผู้อาวุโสพาคนในตระกูลออกจากน่านฟ้าที่ไปด้วย และไปลัทธิแรกกำเนิดพร้อมกับข้า” หลินสวินกล่าว
หวังจี้ถูอึ้ง “ไปลัทธิแรกกำเนิดหรือ”
“ไม่ผิด” หลินสวินพยักหน้า
เขาเชื่อว่าจี้หวังถูคงรู้ดีว่าในโลกยอดนิรันดร์ตอนนี้ หากพูดถึงสถานที่ที่สามารถปกป้องสายตระกูลของจี้หวังถูได้ ก็มีเพียงลัทธิแรกกำเนิดเท่านั้น!
“ก็ดี!”
สุดท้ายจี้หวังถูกัดฟันตอบรับไป
ตราบใดที่ครอบครองระเบียบระดับเทพไว้ในมือ สุดท้ายตระกูลจี้ในภายหน้าย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะผงาดขึ้นใหม่อีกครั้ง!
เรื่องนี้ก็จบลงไปเช่นนี้
ถึงซีกับจี้ซานไห่จะไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับซาบซึ้งนัก
มีหรือพวกนางจะไม่รู้ว่าสาเหตุที่หลินสวินทำทุกอย่างนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะพวกนาง
…
ความมืดค่อยๆ จางหาย แสงจากฟ้าเริ่มสว่าง
ใต้ฟ้าที่อยู่ห่างกับเขาเทพตั้งต้นไปไกลโข ยานสมบัติลำหนึ่งที่ใหญ่โตราวแผ่นดินใหญ่บดอัดห้วงอากาศแล่นเข้ามา
ยานสมบัตินี้เปล่งแสงอาทิตย์ประกายฝน รุ้งเทพเวียนวน สง่างามเป็นอย่างยิ่ง เรียกเสียงตกใจและครั่นครามไม่รู้เท่าไรมาตลอดทาง
เพราะนี่เป็นยานสมบัติที่มาจากตระกูลไท่เฮ่า คนในยานย่อมเป็นขบวนรับเจ้าสาวของตระกูลไท่เฮ่า
“ตามการคาดการณ์ของผู้อาวุโสตระกูลเรา ด้วยพรสวรรค์และภูมิหลังของจี้ซี ภายหน้าไม่ว่าช้าเร็วก็ต้องเหยียบย่างมรรคานิรันดร์ได้ นายน้อยแต่งนางเข้าบ้าน ต่อไปยามรับช่วงตำแหน่งผู้นำตระกูลก็จะยิ่งมั่นคงมากขึ้นไปอีก”
บนยานสมบัติ ไท่เฮ่าอู่เอ่ยเนิบๆ “ยิ่งกว่านั้นจี้ซีนั่นเมื่อก่อนก็เป็นธิดาเทพอันดับหนึ่งในน่านฟ้าที่เก้า รูปโฉมและคุณสมบัติล้วนโดดเด่นเหนือใคร น้อยคนจะเทียบได้ คู่ควรกับฐานะของนายน้อยเช่นกัน”
เขามีมรรควิถีขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ เป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ในตระกูลไท่เฮ่า แขนเสื้อกว้างงามสง่า ใบหน้าหล่อเหลา ผมขาวหิมะทั้งหัวสยายลงระเอว ท่วงท่าโดดเด่น
“ผู้อาวุโสพูดถูก”
ไท่เฮ่าจื่อพยักหน้า บุคลิกเขาห้าวหาญ เงาร่างสูงใหญ่ สวมชุดแดงเพลิงไพล่หลังยืนอยู่ ท่าทางลึกลับยากหยั่งถึง
“นายน้อยท่านดู ข้างหน้าก็คือเขาเทพตั้งต้น”
ไท่เฮ่าอู่ชี้ออกไปไกลๆ เงาเทือกเขามหึมาที่ปรากฏขึ้นเหนือแผ่นดินนั่นก็คือเขาเทพตั้งต้น อาบไล้อยู่ในเมฆมงคลสีม่วงเจิดจ้า
ในสมองไท่เฮ่าจื่อปรากฏเงาร่างงดงามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ร่างเซียนผิวหยก โดดเด่นงามสง่า งดงามดั่งฝันอันเลื่อนลอย
ใจของไท่เฮ่าจื่อก็ปั่นป่วนขึ้นมาน้อยๆ เช่นกัน
ก่อนหน้านี้นานมาแล้วเขาก็เคยได้ยินชื่อของจี้ซี แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลังจากผ่านมามาหลายปีเขาจะมีโอกาสได้แต่งธิดาเทพที่มีชื่อเสียงในน่านฟ้าที่เก้าเข้าตระกูล…
ความเร็วของยานสมบัติเร็วมาก พริบตาเดียวก็ลงจอดหน้าทางเข้าเขาเทพตั้งต้น
จากนั้นขบวนรับเจ้าสาวของพวกไท่เฮ่าจื่อ ไท่เฮ่าอู่ที่มาจากตระกูลไท่เฮ่าก็เดินออกมาจากยานสมบัติ แต่เมื่อเห็นภาพหน้าทางเข้าภูเขา พวกเขาก็ล้วนอึ้งไป
วันนี้เป็นวันมงคลของตระกูลจี้กับตระกูลไท่เฮ่า แต่ยามนี้หน้าประตูเขานั่นกลับเงียบสงัดผิดปกติ ไม่มีพรมแดงปูพื้น ไม่มีผู้คนรายล้อมต้อนรับ และก็ไม่มีภาพฉลองครึกครื้นแม้แต่น้อย
มีเพียงร่างสูงโปร่งยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง สวมชุดขาวเอามือไพล่หลังคล้ายรอมานาน
ภาพที่ผิดปกตินี้ทำให้ขบวนรับเจ้าสาวนี้ล้วนอึ้งไป
“ในที่สุดทุกท่านก็มาแล้ว ข้าคนแซ่หลินรออยู่ตรงนี้มานานแล้ว”
กลับเห็นหลินสวินเอ่ยปากยิ้มน้อยๆ หน้าประตูภูเขา
“หลินสวิน!”
ขณะเดียวกันไท่เฮ่าอู่ก็จำตัวตนของหลินสวินได้ นัยน์ตาอึ้งค้าง “เจ้า… ปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร”
เขาคิดไม่ถึงอย่างยิ่ง มีหรือจะกล้าจินตนาการว่าจะได้พบหลินสวินในอาณาเขตตระกูลจี้
“เขาก็คือหลินสวินหรือ”
ไท่เฮ่าอู่ก็อึ้งไปเช่นกัน เผยสีหน้ายากจะเชื่อ
ขบวบรับเจ้าสาวทั้งขบวนแตกตื่นไปหมด ทุกวันนี้ยังมีใครไม่รู้จักชื่อหลินสวินนี้อีกหรือ
เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึงเช่นกันว่าหลินสวินที่ถูกเผ่าเทพนิรันดร์มองเป็นหนามยอกอกจะถึงกับปรากฏตัวที่นี่
ชั่วขณะหนึ่งจึงล้วนสับสนขึ้นมา
“ว่าไปก็บังเอิญ ข้าคนแซ่หลินเพิ่งมาถึงตระกูลจี้เมื่อวาน จากนั้นถึงรู้ว่าเดิมทีวันนี้ทุกท่านก็จะมา ดังนั้นเลยตั้งใจรออยู่ที่นี่”
หลินสวินยิ้มน้อยๆ กล่าว
ไท่เฮ่าอู่ส่งเสียงหยันเย็นชา สายตากวาดมองทั่วเขาเทพตั้งต้น กล่าวว่า “จะบอกว่า… ตระกูลจี้เข้าพวกกับเจ้าแล้วอย่างนั้นหรือ”
เขาไม่มีทางไม่สงสัยเช่นนี้ อย่างไรนี่ก็เป็นหน้าประตูทางเข้าของตระกูลจี้
และคนทั้งโลกต่างรู้ว่าพวกตระกูลไท่เฮ่าจะมาเกี่ยวดองกับตระกูลจี้ในวันนี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้กลับปรากฏภาพผิดปกติเช่นนี้ ใครจะไม่สงสัยได้เล่า
“เข้าพวกหรือ ไม่ถึงขั้นนั้น ก็แค่ตระกูลจี้ในวันนี้ไม่ใช่ตระกูลจี้ในอดีตอีกต่อไปแล้ว”
หลินสวินพูดพลางก้าวเดิมเข้ามา “และข่าวร้ายก็คือ แม่นางจี้ซีจะไม่เป็นตัวหมากไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลไท่เฮ่าของพวกเจ้าอีก”
“น่าขัน! เรื่องของตระกูลไท่เฮ่าเรากับตระกูลจี้จะให้เจ้ามาพูดได้อย่างไร” ไท่เฮ่าจื่ออดกล่าวเสียงเย็นไม่ได้
หลินสวินยิ้มน้อยๆ “ขออภัย เรื่องนี้ให้ข้าพูดเองก็พอแล้วจริงๆ แน่นอนว่าทุกท่านจะเชื่อหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ”
ขณะพูดเขาก็โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง
ตูม!
ฟ้าดินเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ล้วนถูกกลิ่นอายนิรันดร์อันน่าสะพรึงจนไม่อาจจิตนาการปกคลุม ทำเอาเมฆถล่มสิบทิศ สุริยันจันทราอับแสง
“นายน้อยระวัง!”
สีหน้าไท่เฮ่าอู่เปลี่ยนไปอย่างมาก เข้าปกป้องไท่เฮ่าจื่อที่อยู่เบื้องหน้าทันที
ตูม โครม!
ร่างของเขาเปล่งแสง ประกายเทพนิรันดร์เงินยวงปรากฏขึ้นเข้าต้านทาน ทว่ากลับถูกพลังที่หอบม้วนมานั้นโจมตีจนร่างโซเซแทบกระอักเลือด
ขณะเดียวกันเสียงร้องน่าเวทนาก็ดังขึ้นใกล้ๆ ระลอกหนึ่ง
“ไม่…!
ผู้แข็งแกร่งของตระกูลไท่เฮ่าในที่นั้นล้วนเป็นคนใหญ่คนโตที่มีหน้ามีตา ผู้ที่มีปราณอ่อนสุดล้วนยังเป็นขั้นดับเทพ
แต่ยามนี้กลับล้วนร่างระเบิด เลือดสาดกระเซ็น กายจิตถูกทำลายไปทั้งหมด ไร้คนรอดชีวิต!
“เจ้าเหยียบย่างมรรคานิรันดร์แล้วดังคาด”
ชั่วขณะนั้นสีหน้าของไท่เฮ่าอู่เปลี่ยนไปจนไม่น่ามองยิ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
ส่วนไท่เฮ่าจื่อที่อยู่ข้างหลังเขาก็ถูกเขย่าขวัญจนใบหน้าซีดขาว ในใจผุดความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ หลินสวินนี่… ถึงกับแจ้งมรรคนิรันดร์แล้วจริงๆ!
——