Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3056 มาดสง่างามสูงส่ง
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3056 มาดสง่างามสูงส่ง
ตอนที่ 3056 มาดสง่างามสูงส่ง
อะไรที่เรียกว่าเคลื่อนกวาด
สิ่งที่หลินสวินเผยออกมายามนี้ก็คือพลังเคลื่อนกวาด
ระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎนับร้อยคน ยามเปลี่ยนเป็นกระบวนรบเหมือนม่านเหล็กขวางน่านฟ้า แต่กลับถูกหลินสวินพุ่งตัวกระแทกกวาดล้างเกินครึ่ง ขั้นล่วงกฎหลายสิบคนถูกบดขยี้กลางอากาศ เปราะบางเหมือนฟองสบู่ แขนขาดเลือดสาดพรมทั่วฟ้า ท้องนภาเปี่ยมเศษซากขาดวิ่น
ขั้นล่วงกฎบางคนอยู่ห่างออกไป แต่ถูกอานุภาพแหวกผ่านห้วงอากาศของหลินสวินกวาดโดน ทั้งเหมือนถูกกระบี่สวรรค์ฟาดฟัน ร่างกายกว่าครึ่งล้วนแหลกละเอียด กรีดร้องโหยหวน แตกตื่นพุ่งถอยหลัง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“แค่ใช้พลังจากกายมรรคนิรันดร์ก็น่ากลัวเพียงนี้หรือ”
ขั้นล่วงกฎเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลโดดเด่นในอารยธรรมแห่งยุคสมัยหนึ่ง สายตาเฉียบคมระดับใด แน่นอนว่ามองออกโดยง่ายว่าหลินสวินไม่ได้ใช้อภินิหารวิชาใด อาศัยเพียงกายเนื้อสำแดงอานุภาพ
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
ถึงตอนท้ายเหลือขั้นล่วงกฎที่โชคดีรอดชีวิตแค่สามสิบกว่าคน แต่ก็ถูกทำให้ตกใจจนสีหน้าซีดเผือด ขวัญหนีดีฝ่อกันหมด
เทียบกับความตื่นตระหนกหวาดกลัวของขั้นล่วงกฎพวกนี้แล้ว เหล่าขั้นสรรสร้างนั้นกลับไม่กล้าเชื่อ
ขั้นสรรสร้างสิบเก้าคนอย่างพวกเกาหยางไหว เจียงเถาเดิมเป็นกองหนุนอยู่ห่างไกล คอยถล่มหลินสวินกลางอากาศ แต่การโจมตีทั้งหมดของพวกเขาล้วนคว้าน้ำเหลว ไม่อาจขวางการโจมตีของหลินสวินได้โดยสิ้นเชิง
เร็วเกินไปแล้ว!
ยามพวกเขามีปฏิกิริยา ก็เห็นภาพความตายนองเลือดเหล่านั้นแผ่ขยายกลางฟ้าดารา กระตุ้นจนพวกเขาพลันใจสั่น ไม่อาจยอมรับ
ความจริงผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่เห็นภาพนี้ล้วนตื่นตระหนกกันหมด
พลังที่หลินสวินเผยออกมาแข็งแกร่งและน่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ อยู่เหนือความเข้าใจที่พวกเขามีต่อขั้นล่วงกฎอย่างมาก
ต่อให้ผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎคนหนึ่งเย้ยฟ้าแค่ไหน สามารถกำราบคนระดับเดียวกันเจ็ดแปดคนถือว่าหายากแล้ว แต่ฆ่าคนระดับขั้นเดียวกันเหมือนเชือดไก่ฆ่าสุนัข ถึงขั้นพุ่งตัวชนขั้นล่วงกฎหลายสิบคนจนตายอย่างหลินสวิน ทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด
“ท่านพ่อ… แข็งแกร่งมาก!”
หลินฝานรู้สึกว่ามึนงง ตกตะลึงอ้าปากค้าง
“อาจารย์…”
ซูไป๋ก็ตะลึงจนพูดไม่ออก
เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอู๋ยาง ซิงเจีย หลงเซี่ยงแต่ละคนต่างก็ตกใจจนเบิกตากว้าง มองภาพนองเลือดที่อยู่ห่างออกไปอย่างยากจะเชื่อ มองเงาร่างประหนึ่งเทพสวรรค์มาเยือนโลกนั้นของหลินสวินแล้วจิตใจพลุ่งพล่าน
แข็งแกร่ง!
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น หลินสวินก็เผยอานุภาพกดกำราบไร้คู่ต่อกรออกมาแล้ว!
ส่วนเหล่าผู้ฝึกปราณในเมืองเทพศุภโชค ทั้งหมดเหมือนหัวว่างเปล่า ตกใจจนอึ้งงันแล้ว
ก่อนหน้านี้เกาหยางไหวกับเจียงเถานำระดับนิรันดร์ของเผ่าเทพทั่วหล้ามาอย่างเอิกเกริก เผยอานุภาพทั่วฟ้าดารา ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกสิ้นหวังและหมดหนทาง
แต่ตอนนี้… ทุกอย่างกำลังถูกล้มล้าง!
“ไม่ถูกสิ!”
ทันใดนั้นกลางฟ้าดารามีเสียงร้องของขั้นสรรสร้างคนหนึ่งดังขึ้น “เจ้าหมอนี่ดูเหมือนแจ้งมรรคขั้นสรรสร้างแล้ว!”
“อะไรนะ”
พวกเกาหยางไหว เจียงเถาตัวแข็งทื่อ เมื่อพิจารณามองหลินสวินอย่างละเอียดก็ค้นพบทันที กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวหลินสวินลึกลับหาใดเปรียบ ล้ำลึกดุจหุบเหว ถึงกับไม่อาจถูกมองออก
“ถือว่าตาถึงอยู่บ้าง”
หลินสวินเอ่ยราบเรียบ ขณะกล่าวกลิ่นอายบนตัวเขาพลันเปลี่ยนไป ถึงกับยกระดับเพิ่มขึ้นถึงขั้นน่าเหลือเชื่อในชั่วขณะเดียว ทำให้ฟ้าดาราแถบนั้นสั่นสะเทือนครวญคร่ำ
บนเวิ้งฟ้าพลังระเบียบระดับเทพเก้าชั้นถูกโจมตีอย่างหนัก ม้วนซัดรุนแรง!
“บัดซบ!”
“ทำไมเป็นเช่นนี้”
“ก่อนเคราะห์แห่งยุคสมัยมาเยือนไม่มีจุดเปลี่ยนแจ้งมรรคทะลวงปราณแล้วไม่ใช่หรือ”
“อีกอย่างที่นี่คือแหล่งสถานศุภโชค เคราะห์มรรคนิรันดร์ที่ชักนำมายามแจ้งมรรคขั้นสรรสร้างย่อมถูกพวกเราสัมผัสได้ แต่ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่มีสัญญาณใดแม้แต่น้อย”
พริบตานี้สีหน้าของขั้นสรรสร้างอย่างพวกเกาหยางไหว เจียงเถาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ยามระดับนิรันดร์แจ้งมรรคข้ามด่านเคราะห์ การเคลื่อนไหวที่ชักนำมายิ่งใหญ่หาใดเปรียบ สามารถสร้างแรงกระเพื่อมทุกอาณาเขตฟ้าดาราทั่วแหล่งสถานศุภโชค
แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีใครสังเกตเห็นสัญญาณว่ามีการข้ามด่านเคราะห์!
นี่ทำให้พวกเขาไม่คาดคิด ผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎอย่างหลินสวินถึงกับแจ้งมรรคขั้นสรรสร้างโดยไร้สุ้มเสียงก่อนแล้ว
ทุกอย่างนี้โจมตีพวกเขาจนรับมือไม่ทัน!
เมื่อมองระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎสามสิบกว่าคนที่เหลืออยู่นั้น แต่ละคนหน้าซีดเซียวราวกับสีดิน ในใจเปี่ยมความขมขื่นและนึกกลัว
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้ว
มิน่าหลินสวินถึงแข็งแกร่งเช่นนี้ ที่แท้ก็แจ้งมรรคขั้นสรรสร้างแล้ว ครองอานุภาพร้ายกาจเช่นนี้ แน่นอนว่ากวาดล้างขั้นล่วงกฎอย่างพวกเขาได้โดยง่าย!
ทั้งหลินสวินยังไม่ใช่คนที่ขั้นสรรสร้างทั่วไปเทียบได้
ตอนเขามีมรรควิถีขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ก็ใช้พลังของตัวเองทำลายเผ่าเทพตระกูลจี้ สังหารขั้นสรรสร้างสามคน กำจัดผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎได้มากมาย
นับประสาอะไรกับตอนนี้
‘ขั้นสรรสร้าง…’
เวลานี้พวกอู๋ยางล้วนเข้าใจกระจ่าง ไม่อาจบรรยายความสั่นสะท้านในใจได้โดยสิ้นเชิง
ตอนนี้พวกเขาเพิ่งรู้สาเหตุที่หลินสวินปิดด่านเมื่อหลายวันก่อนหน้านี้แล้ว เห็นชัดว่าเพื่อแจ้งมรรคขั้นสรรสร้าง!
ขั้นสรรสร้าง!
ในแหล่งสถานศุภโชคที่ไม่มีขั้นไร้ขอบเขตอยู่ ถือเป็นตัวตนชั้นยอดสูงสุดแล้ว
นี่จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร
กระทั่งว่าพวกเขาล้วนเหมือนพวกเกาหยางไหว ไม่อาจจินตนาการว่าช่วงเวลาก่อนเคราะห์แห่งยุคสมัยมาเยือนนี้ หลินสวินจับจุดเปลี่ยนแจ้งมรรคข้ามด่านเคราะห์นั้นได้อย่างไร
ทั้งเหตุใดตั้งแต่ต้นจนจบถึงไม่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวแม้เศษเสี้ยว
นี่ทำให้ผู้คนรู้สึกผิดคาดเกินไป น่าเหลือเชื่อนัก
เวลานี้หลินสวินเงยหน้ามองเวิ้งฟ้าพลางกล่าว “ตอนนี้สำหรับข้าแล้ว สิ่งที่ต้องหวาดกลัวอย่างแท้จริงไม่ใช่พวกเจ้า แต่เป็นผู้บงการหลังม่านเคราะห์แห่งยุคสมัยนั่น แต่ตอนนี้ดูท่าว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของพวกเจ้าคงไม่ได้รับการช่วยเหลือจากผู้บงการหลังม่านนี้”
คำพูดนี้กล่าวอย่างสบายๆ แต่กลับทำให้พวกเกาหยางไหวสีหน้าไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิมแล้ว
“ราชันไร้เทียมทานคนนั้นราวมหามรรค คงอยู่ทุกแห่งหน มีหรือจะเป็นผู้ที่เจ้าสบประมาทได้”
เจียงเถาตวาดลั่น
“อย่างนั้นหรือ ข้าอยากดูนักว่าหลังจากฆ่าพวกเจ้าแล้ว ราชันไร้เทียมทานที่พวกเจ้าเรียกจะปรากฏตัวหรือไม่”
หลินสวินเอามือไพล่หลังพลางก้าวเดิน นัยน์ตาลุกโชนเหมือนคบเพลิง อานุภาพกดดันชวนประหวั่นของขั้นสรรสร้างแผ่ออกมาดังสนั่น
“รีบลงมือพร้อมกัน!”
เกาหยางไหวคำราม
สถานการณ์วันนี้ถ้าพวกเขาถอยร่น เผ่าเทพเบื้องหลังจะเจริญรอยตามเผ่าเทพตระกูลจี้ นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่ว่าใครก็ไม่อาจยอมรับ
มีเพียงฆ่าหลินสวินที่นี่จึงจะกำจัดมหันตภัยได้ในคราเดียว!
“ฆ่า!”
เจียงเถากับขั้นสรรสร้างคนอื่นล้วนออกโรงแล้ว แต่ละคนต่างมีอานุภาพน่ากลัวพวยพุ่ง ลงมือจัดการหลินสวินพร้อมกัน
ตูม!
ฟ้ามืดดินหม่น พังทลายเหมือนดั่งแรกกำเนิด
พลังที่ขั้นสรรสร้างมีย่อมไม่ใช่สิ่งที่ขั้นล่วงกฎเทียบได้เป็น ปลดปล่อยพลังกฎระเบียบนานัปการออกมาโดยง่าย บดทลายเวิ้งฟ้า กำราบดินแดนหนึ่ง แข็งแกร่งหาใดเปรียบ
ขั้นสรรสร้างสิบเก้าคนนี้ คือผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างของเผ่าเทพหลายตระกูลในแหล่งสถานศุภโชค แต่ละคนล้วนเคยผ่านการเปลี่ยนแปลงและเด่นผงาดในกาลเวลาไร้สิ้นสุด อภินิหารและวิชาที่ครอบครองเรียกได้ว่าเป็นที่สุดในปัจจุบัน
ยามนี้เมื่อลงมือพร้อมกันก็ไม่ต่างอะไรกับเหล่านายเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดาราออกรบจริงๆ
เปรียบเทียบกันแล้วขั้นล่วงกฎพวกนั้นมืดสลัวหม่นแสงโดยสิ้นเชิง ดูไม่มีภัยคุกคามใดๆ
นอกจากนี้ระเบียบระดับเทพเก้าชั้นก็ถูกขั้นสรรสร้างพวกนี้ควบคุม ทำการล้อมโจมตีหลินสวินพร้อมกัน
ตูม!
พลังอภินิหารขั้นสรรสร้างที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรแผ่กระจาย บ้างกลายเป็นกระบี่เทพอัคคีเจิดจรัสดั่งดวงตะวันเจิดจ้า บ้างกลายเป็นภูเขาเทพดึกดำบรรพ์ค้ำโลกกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง บ้างกลายเป็นปักษาเทพสยายปีกแหวกผ่านเก้าชั้นฟ้า บ้าง…
นอกจากพลังยอดอภินิหารพวกนี้แล้ว ยังมีศาสตรามรรคนิรันดร์เปี่ยมอานุภาพน่ากลัวมากมายอย่างแส้ ค้อน บรรทัด กระบี่ ประทับ เจดีย์เป็นต้น
สมบัติแต่ละอย่างเปล่งแสงเจิดจรัสอัศจรรย์ ก่อให้เกิดลักษณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้าเหลือคณา!
ภายใต้การล้อมโจมตีเช่นนี้ทำให้ขั้นสรรสร้างคนใดก็ตามขวัญหนีดีฝ่อและสิ้นหวังได้!
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีเช่นนี้ สีหน้าหลินสวินกลับราบเรียบไร้คลื่นลม
เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าและยื่นมือออกไป
ตูม!
มือใหญ่เหมือนบดบังฟ้าข้างหนึ่งแหวกผ่านห้วงอากาศ ราวกับหุบเหวลึกแรกกำเนิดมาเยือนโลก เต็มไปด้วยคลื่นพลังกฎระเบียบลึกลับยากหยั่งถึง
เมื่อมือใหญ่ข้างนี้ปรากฏ พลังทำลายล้างไม่อาจบรรยายแผ่ตามมา แหวกทะลวงพลังโจมตีของระเบียบระดับเทพเก้าชั้นบนเวิ้งฟ้าให้ฟุ้งกระจายดุจกระแสน้ำ ห้วงอากาศทรุดตัวแยกจากกันเหมือนกระดาษเปื่อย
ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามือใหญ่ข้างนี้ปั่นป่วนฟ้าดารา บดขยี้สรรพสิ่งทั่วหล้าได้!
เมื่อมือใหญ่ข้างนี้ตบลงมา…
ตูม!
กระแสพลังซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันของขั้นสรรสร้างสิบเก้าคนน่าหวาดกลัวเพียงใด แต่พริบตานี้กลับถูกฝ่ามือหนึ่งซัดระเบิดอย่างแข็งกร้าว ละอองแสงไร้สิ้นสุดสาดกระจาย อภินิหารมากมายดับสลายกลางเสียงระเบิด ศาสตรามรรคนิรันดร์นานัปการถูกซัดกระเด็นครวญคร่ำ สั่นสะเทือนว้าวุ่น
ฝ่ามือเดียวถึงกับทำลายการจู่โจมของคู่ต่อสู้ขั้นสรรสร้างสิบเก้าคนได้!!
พวกเกาหยางไหวล้วนหน้าเปลี่ยนสี แต่ละคนถูกพลังของมือใหญ่นั้นโจมตีจนเงาร่างซวนเซ เลือดลมตีกลับ สีหน้าเผยแววจริงจังหาใดเปรียบ
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
หลินสวินที่แจ้งมรรคขั้นสรรสร้างคือสัตว์ประหลาดพลิกฟ้าคนหนึ่งที่ไม่อาจใช้ความเข้าใจทั่วไปมาคาดคะเนได้จริงๆ!
ฝ่ามือเดียวนี้ยังทำให้พวกอู๋ยางขนลุกชันทั้งตัว หวั่นหวาดอย่างสมบูรณ์แล้ว
หนึ่งคนสู้กับขั้นสรรสร้างสิบเก้าคนเพียงลำพัง ภายในนั้นไม่ขาดบุคคลร้ายกาจขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์ แต่หลินสวินกลับดูกร้าวแกร่งและเผด็จการเช่นนี้!
“ฆ่า!”
พวกเกาหยางไหวทุกคนตาแดงก่ำ สู้เต็มกำลังและทุ่มสุดตัว บุกเข้ามาอีกครั้งโดยไม่เก็บงำสักนิด
พวกเขาไม่ว่าใครก็รู้ดีว่าในแหล่งสถานศุภโชคนี้ หากแม้แต่ขั้นสรรสร้างอย่างพวกเขายังกำจัดหลินสวินไม่ได้ เช่นนั้นทุกเผ่าทั่วหล้าย่อมถูกหลินสวินคนเดียวเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าแน่!
นี่คือสิ่งที่พวกเขาต่างไม่อาจยอมรับ
“มดเขย่าไม้ใหญ่ รังแต่จะเพิ่มความน่าขัน”
ท่ามกลางเสียงเฉยชาเยียบเย็น หลินสวินก้าวไปข้างหน้า
ตูม! ตูม! ตูม!
แต่ละก้าวของหลินสวินทำให้ฟ้าดาราสั่นสะเทือนรุนแรง อานุภาพน่าหวาดกลัวที่ไม่อาจบรรยายแผ่ออกมาจากเงาร่างสูงโปร่งนั้นของเขา ราวกับผู้สูงส่งแห่งปวงสวรรค์ออกศึก
ยอดอภินิหารและศาสตรามรรคนิรันดร์ที่จู่โจมเข้ามาพวกนั้นล้วนถูกเขาซัดพ่ายยับเยินขณะโบกมือ ทำร้ายเขาไม่ได้แม้แต่เส้นผม
ภายใต้อานุภาพกดข่มของเขากลับทำให้คู่ต่อสู้พวกนั้นเหมือนเรือเล็กส่ายสั่นกลางคลื่นซัดสาด อานุภาพของการล้อมโจมตีถูกซัดซ่านสลายไม่หยุด
อานุภาพแข็งแกร่งไร้คู่ต่อกรเช่นนั้นทำให้หลินสวินเหมือนกลายเป็นแสงเจิดจรัสที่สุดในสนามรบ เผยมาดสง่างามสูงส่งที่กดข่มผู้คนระดับเดียวกัน ทั้งกำราบฟ้าดาราเพียงหนึ่งเดียวออกมา!
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วอานุภาพของขั้นสรรสร้างสิบเก้าคนอย่างพวกเกาหยางไหว ทั้งหมดล้วนถูกหลินสวินกดข่มไปอย่างสมบูรณ์
ตัดสินสูงต่ำได้ทันที!
…………………