Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1641 ประทับนรกมืดดำ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1641 ประทับนรกมืดดำ
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าถึงกับเป็นผู้ฝึกปราณระดับมกุฎอริยะขั้นสมบูรณ์แล้ว!”
บนอากาศบุตรนรกเผยสีหน้าประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าในหลายปีมานี้ไม่เพียงแค่เขาที่พลังปราณพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ศักยภาพของศัตรูอย่างหลินสวินเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
“แต่น่าเสียดาย ก็แค่เท่านั้น”
ตอนที่เสียงอันเย็นเยียบดังขึ้น ร่างของบุตรนรกก็ขยายออก
เปรี้ยง!
สายฟ้าสีเลือดที่หนาราวกับลำต้นต้นไม้พุ่งตัดผ่านอากาศ
แทบจะในชั่วพริบตา บุตรนรกเคลื่อนไหวอีกครั้ง ถือประทับกระจกสีเลือดทุบผ่านอากาศออกมาราวกับเทพชั่วร้ายโดยพลัน
ประทับกระจกอันหนึ่ง ขนาดประมาณหมัดเท่านั้น แต่ตอนที่ปรากฏกลางอากาศกลับเผยนรกสีเลือดสามสิบหกชั้น
นรกทุกชั้นล้วนมีร่างมายาปานเทพมารกำลังคำราม จำนวนนับหมื่นพัน โหดเหี้ยมน่ากลัว จู่ๆ กลางฟ้าดินนั่นก็ราวกับมาถึงแดนนรก!
สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งสูดหายใจหนาวเยือก นี่เป็นสมบัติดุดันพลิกฟ้าที่ยอดเยี่ยม ภายในซ่อนนรกสามสิบหกชั้น มีพลานุภาพน่ากลัวที่สามารถหลอมห้วงอากาศว่างเปล่าได้
“ทะยาน!”
แตกต่างจากการจู่โจมอันดุดันรุนแรงของบุตรนรก
หลินสวินยืนอยู่ที่เดิม สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่งในอากาศปรากฏปราณกระบี่เป็นชั้นๆ ปราณกระบี่แต่ละชั้นล้วนรวมตัวจากกระบี่หนึ่งหมื่นแปดพันเล่ม ประกายเย็นเยียบสะดุดตา กว้างใหญ่ไพศาลราวกับมหาสมุทรกระบี่
ชั่วขณะนี้ท้องฟ้าประหนึ่งถูกปราณกระบี่แน่นขนัดท่วมท้น
กระบี่สามสิบสามชั้น!
“ไป!”
เมื่อความคิดไหวเคลื่อน กระแสปราณกระบี่แต่ละชั้นก็ม้วนตัวออกไปเหมือนดั่งดันภูเขาคว่ำสมุทร
ปังๆๆ!
ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งชนนรกเป็นชั้นๆ
ปราณกระบี่ของหลินสวินเผด็จการเพียงใด ได้หลอมรวม ‘ปราณกระบี่สามชุ่น’ ของจักรพรรดิกระบี่คนหนึ่งเข้าไปและควบรวมเป็นเจตกระบี่เมื่อไม่นานมานี้ เพียงพอจะทำให้มกุฎอริยะทุกคนอกสั่นขวัญแขวน
ในเสียงกึกก้องสะเทือนหูหลายระลอก อานุภาพปราณกระบี่ราวกับทะลุทะลวง ทำลายนรกมากมาย
“กำราบ!”
ประทับนรกมืดดำในมือบุตรนรกพลันเปล่งแสง
โลกแห่งนรกแต่ละชั้นวิวัฒน์ออกมาอีกครั้ง อีกทั้งอานุภาพยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม ปรากฏเงาร่างมายาราวกับเทพมารมากมาย ทุกคนล้วนอานุภาพท่วมฟ้า เหี้ยมโหดน่ากลัว
ตูม โครม!
ปราณกระบี่สามสิบสามชั้นที่เดิมก็อานุภาพทะลุทะลวงอยู่แล้ว สุดท้ายยังถูกสกัดกั้นจนแตกซ่าน เปลี่ยนเป็นละอองแสงกระเซ็นในอากาศ
เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าต่างเผยสีหน้าแปลกประหลาด
แม้เพิ่งจะต่อสู้กัน แต่ความแข็งแกร่งของศักยภาพที่เผยออกมาก็ทำให้พวกเขาต่างได้เปิดโลก รู้สึกประหลาดใจ
บุตรนรกถือสมบัติโบราณ อานุภาพดุร้ายเพียงพอจะกวาดล้างคนรุ่นเดียวกัน
หลินสวินมีปราณกระบี่ไพศาล ดุจดั่งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ทับซ้อนเป็นชั้นๆ เจตกระบี่ประหนึ่งกระแสน้ำ ความยิ่งใหญ่ของอานุภาพระดับนั้นทำเอาฟ้าดินยังเปลี่ยนสี
แต่นี่เพียงแค่เริ่มประชันเท่านั้น
รอตอนที่พวกเขาลงมือเต็มกำลังอย่างแท้จริง จะมีอานุภาพที่น่ากลัวตะลึงโลกเพียงใด
“สมบัติชิ้นนี้ไม่เลว ข้าเอา”
ทันใดนั้นหลินสวินหัวเราะพลางเดินขึ้นหน้า เท้าเหยียบดารา ราวกับเจินหลงตัวหนึ่งท่องอากาศ
ในเวลาเดียวกันหมัดหนึ่งของเขาซัดออกไป
แหล่งกำเนิดอริยะและพลังกฎเกณฑ์ที่พลุ่งพล่านหลอมรวม ทำให้หมัดง่ายๆ หมัดหนึ่งกลับปรากฏอานุภาพยิ่งใหญ่ที่ทำเอาฟ้าดินทรุดทลาย หยินหยางปั่นป่วน
ห้วงอากาศถูกซัดทำลาย ล่มสลายแยกแตกเป็นรอยที่น่าตกใจมากมาย
หนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์!
ในดวงตาแดงก่ำของบุตรนรกเผยความประหลาดใจเสี้ยวหนึ่งในยามนี้
เมื่อลงมืออย่างแท้จริง เขาถึงเพิ่งตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่า คู่ต่อสู้ที่ทำให้ตนเกลียดเข้ากระดูกคนนี้ พลังต่อสู้ที่มีตอนนี้ถึงกับแข็งแกร่งเพียงนี้แล้ว
ภายในใจความเดือดดาลในตอนแรกพลันแปรเปลี่ยนเป็นความสงบ ส่วนไอสังหารของบุตรนรกก็เพิ่มพูนขึ้น
หลินสวิน เจ้าจะเก่งกาจแค่ไหนแล้วอย่างไร!
ครั้งนี้จะต้องทำให้เจ้าคุกเข่าตบหน้าตัวเองให้ได้!
บุตรนรกสูดหายใจเข้าลึกคราหนึ่ง สีหน้าเย็นเยียบและเคร่งขรึม
ประทับนรกมืดดำลอยขึ้นจากมือเขาไปอยู่กลางอากาศ
สมบัตินี้สร้างขึ้นจาก ‘หยาดเลือด’ เหล็กเทพแดนนรก ภายในซ่อนนรกสามสิบหกชั้น สลักลายมรรคสามพันหกร้อยชั้น เคยถูกจักรพรรดินรกเลือดทมิฬหลอมเป็น ‘บ่อโลหิตไร้ขอบเขต’ แปดพันปี
นับตั้งแต่บุตรนรกฟื้นตื่นจากการหลับใหล ก็ใช้เลือดพิสุทธิ์ของตนหลอมสมบัตินี้ทุกวันคืน ตอนนี้อานุภาพของมันเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว
ชั่วขณะนี้เมื่อบุตรนรกใช้ฝีมือที่แท้จริง ประทับนรกมืดดำพลันเปล่งแสงไพศาลในอากาศ ส่องสว่างจักรวาล นรกสามสิบหกชั้นราวกับโลกสีเลือดมากมาย ตั้งอยู่ในอากาศกลางฟ้าดิน
ทันใดนั้นบุตรนรกราวกับนายเหนือหัวแห่งนรก ถูกล้อมพิทักษ์อยู่ภายใน!
ภาพนี้ทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่ในลานต่างตะลึง จำต้องถอนหายใจ บุตรนรกนี่ช่างสมกับเป็นลูกหลานของจักรพรรดินรกเลือดทมิฬจริงๆ ไม่เพียงแค่รากฐานพลังน่ากลัว แม้แต่สมบัติในมือก็ยอดเยี่ยมอย่างที่สุด
และตอนนี้ ในที่สุดหนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์ของหลินสวินก็จู่โจมเข้ามาแล้ว
ตูมโครม!
พลังหมัดระเบิดก้อง แรงสะเทือนไหลหลั่ง ฟ้าดินสั่นสะเทือน
เห็นเพียงว่าพลังหมัดของหลินสวินเหมือนมังกรตัวหนึ่งที่พุ่งเข้าไปในนรกสามสิบหกชั้น กระแทกชนและพลิกตัวอย่างดุเดือด นำพาแสงมรรคที่เจิดจ้ามากมาย
เพียงแต่สุดท้ายก็ถูกสกัดไว้
“ดูท่าเทพมารหลินอย่างเจ้าจะไม่อาจหาญเหมือนตอนนั้นแล้ว!”
บุตรนรกหัวเราะ ผมสีเลือดปลิวพลิ้ว
นรกสามสิบหกชั้นนั่นเหมือนกับกรงที่กักฟ้าขังดิน กดลงมาจากห้วงอากาศ หมายจะขังหลินสวินไว้ภายในแล้วหลอมให้สิ้น
เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าต่างหนังตากระตุก
“คำพูดเช่นนี้พูดไวเกินไปไม่ได้ ระวังหน้าแตก”
กลับเห็นหลินสวินส่งเสียงหัวเราะยาว ก้าวทะยานขึ้นอากาศ ราวกับเทพมารโบราณทะยานขวาง ซัดหมัดโจมตีอีกครั้ง
ตูมๆ! โครมๆ!
ในสังเวียนเทพมารเสมือนมีฟ้าร้องสะท้านสะเทือน
พลังหมัดของหลินสวินทะลวงผ่านห้วงอากาศแกไปอย่างกึกก้อง ซัดห้วงอากาศว่างเปล่าจนจมทลาย เกิดเสียงระเบิดสะเทือนหู
ทว่าไม่ว่าหมัดนี้จะแข็งแกร่งและเผด็จการเพียงใด ก็ไม่สามารถโจมตีนรกสามสิบหกชั้นที่กำราบลงมาอย่างต่อเนื่องให้สลายได้
ในสายตาของคนนอก หลินสวินดูเหมือนเสียเปรียบแล้ว
ทว่าสายตาของเหล่ากึ่งจักรพรรดิในลานช่ำชองเพียงใด แวบเดียวก็ดูออกว่าทุกหมัดที่หลินสวินโจมตีออกมา พลังหมัดจะก่อแรงสะเทือนน่ากลัว ทำให้นรกสามสิบหกชั้นนั่นก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรงไปด้วย แม้ดูเหมือนสมบูรณ์ไร้ความเสียหาย แต่ความจริงแทบจะสลายอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ตามคาด ครู่ต่อมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแปลกประหลาด
“หมัดที่เก้า!”
หลินสวินตวาดกลางอากาศ พลังหมัดเรียบง่ายหยาบกระด้าง กลับมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ที่มหามรรคราบเรียบ ย้อนคืนสู่จุดเริ่มต้น
ต่อให้เป็นผู้มากสามารถที่สร้างเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ในตอนนั้น ยามเห็นหมัดนี้ของหลินสวินก็ต้องอดชื่นชมไม่ได้
หลินสวินได้ทำให้หนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์กลายเป็นอานุภาพและแก่นจริงแท้ของตนแล้ว!
ตูม!
นรกสามสิบหกชั้นของบุตรนรกระเบิดแหลกทันที
ไม่ใช่เพราะถูกพลังหมัดบดขยี้ทีละชั้น แต่ในชั่วพริบตานี้ นรกทั้งสามสิบหกชั้นถูกทำลายสลายไปทั้งหมด
พลังหมัดที่น่ากลัวไร้ขอบเขตนั่น ราวกับคลื่นคลั่งซัดท้องฟ้า กดข่มไปยังบุตรนรก!
‘เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งเพียงนี้เชียวหรือ’
ในที่สุดบุตรนรกก็หวั่นไหวแล้ว ในดวงตาเผยความตะลึง ชั่วขณะนี้เขาพลันเร่งเร้าอานุภาพทั้งหมดของประทับนรกมืดดำออกมาอย่างไม่ลังเล
แต่ไม่ว่าเขาจะแปลงอย่างไร พลังหมัดของหลินสวินก็ราวกับไร้เทียมทาน ซัดการโจมตีเป็นชั้นๆ นั่นจนสลาย แข็งแกร่งอย่างที่สุด
นี่ทำเอาเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าต่างอึ้งงัน คนรุ่นเยาว์สมัยนี้ ถึงกับดุดันขนาดนี้แล้วหรือ
ควรรู้ว่าตอนพวกเขาอยู่ในระดับอริยะแท้ พวกเขาไม่ได้มีพลังต่อสู้ที่สะท้านโลกขนาดนี้!
ปัง!
สุดท้ายหนึ่งหมัดของหลินสวินซัดใส่ประทับนรกมืดดำนั่น ห้วงอากาศใต้เท้าของบุตรนรกระเบิดออกโดยตรงภายใต้เสียงกึกก้อง
ส่วนบุตรนรกถูกซัดจนเซถอย เลือดลมพลิกตลบระลอกหนึ่ง พอมองหลินสวินอีกครั้ง แววตาก็เผยความเดือดดาลแล้ว
การโจมตีนี้เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทำให้เขาเสียหน้า
“ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้เจ้าก็ไม่ได้พัฒนามากนัก”
ตอนที่หลินสวินพูด เงาร่างเคลื่อนย้ายกะทันหัน พลันยื่นมือคว้า หมายจะช่วงชิงประทับนรกมืดดำนั่น
“เจ้ากล้า!”
บุตรนรกตะโกน ไอสังหารดั่งเดือดพล่าน เจ้าหมอนี่ดันจะชิงสมบัติจริงๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นตนในสายตา!
ตูม!
เงาร่างของเขามีแสงเลือดเย้ยฟ้าพวยพุ่ง พุ่งตัวขึ้นมาต่อสู้กับหลินสวินอย่างดุเดือด
ชั่วขณะเดียวในสังเวียนเทพมารนั่น เสียงมรรคเป็นคลื่น แสงเลือดไหวทะลัก พลังหมัดพลุ่งพล่าน ทำเอาฟ้าดินเปลี่ยนสี เมฆแปดด้านทรุดตัว ห้วงอากาศล่มสลาย!
ปรากฏการณ์ประหลาดที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นภายใน มีเทพมารคำราม มีฝนเลือดโหมกระหน่ำ มีฟ้าทลายดินสลาย มีดาราจมดิ่งจันทราร่วงหล่น… สภาพการต่อสู้ที่เหลือเชื่อนั่นสามารถทำให้โลกตะลึงได้
“ตอนนั้นพวกเรา… สู้พวกเขาไม่ได้จริงๆ…”
ซุ่นจี้ถอนหายใจ
สัตว์ประหลาดเฒ่าคนคนอื่นๆ ก็ทอดถอนใจเช่นกัน จิตใจกระเพื่อมไหว
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงที่สุดกลับเป็นหลินสวิน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นหลินสวินลงมือ ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ของหลินสวิน ล้มล้างการรับรู้เดิมของพวกเขาโดยสมบูรณ์
พวกเขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่า ที่แท้เจ้าหนูนี่ไม่ใช่แค่อัจฉริยะแห่งยุคที่มีความสามารถระดับปฐมาจารย์ในวิถีสลักวิญญาณ
เขายังเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎที่พลังต่อสู้สะท้านฟ้าคนหนึ่ง!
หากเป็นการต่อสู้ของอริยะทั่วไป สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกเขาคงคร้านจะสนใจ ไม่มีใจคิดอยากไปดู
ทว่าการต่อสู้ตรงหน้านี้กลับดึงดูดพวกเขาโดยสมบูรณ์ กลัวเพียงว่าจะพลาดรายละเอียดแม้แต่น้อย!
“สหายน้อยหลินสวินนี่ไม่ใช่คนทั่วไปแน่ คนอย่างเขาไม่มีทางเป็นคนไร้ชื่อเสียง ถึงขั้นทอดสายตามองไปทั้งดินแดนรกร้างโบราณ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยังเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะโดดเด่นในโลก ตอนนี้ข้ายิ่งสงสัยแล้วว่าเขามีอดีตอย่างไรกันแน่”
ดวงตาคู่งามของฮูหยินมู่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ข้ากลับเป็นห่วงว่าในตัวบุตรนรกจะมีสมบัติลับและไพ่ตายไม่น้อย”
ซุ่นจี้เอ่ยงึมงำ
พลังต่อสู้ของหลินสวินทำให้เขาตะลึงเช่นกัน แต่ขณะเดียวกัน เขาก็รู้ดียิ่งกว่าว่าในฐานะลูกหลานจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ รากฐานพลังของบุตรนรกน่าสะพรึงเพียงใด
ในสังเวียนเทพมารการต่อสู้ยิ่งดำเนินยิ่งดุเดือด จนถึงตอนท้ายแทบมองไม่เห็นเงาร่างของหลินสวินและบุตรนรกแล้ว เห็นเพียงแสงใสและแสงเลือดตัดประชัน ทุกครั้งที่พุ่งชนล้วนทำให้เกิดแรงลมและแสงมรรคทั่วฟ้า
โชคดีที่อยู่ในสังเวียนเทพมาร ไม่เช่นนั้นในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิแห่งนี้คงถูกทำลายย่อยยับ
ปัง!
พุ่งชนกันอีกครั้ง เงาร่างสีเลือดถอยร่นกลางอากาศ ถึงกับถูกหลินสวินซัดจนกระเด็นถอยในหมัดเดียว ห้วงอากาศรอบๆ ล้วนสะเทือนแตกออก
“บุตรนรก เอาความสามารถที่แท้จริงของเจ้าออกมา สร้างวิชาแห่งตนแล้วมิใช่หรือ แสดงให้ข้าดูสักหน่อยสิ อาศัยฝีมือในตอนนี้ของเจ้า ยังไม่น่าดูสักนิด”
หลินสวินยืนนิ่งอยู่กลางอากาศ เงาร่างเจิดจ้า บุคลิกราวกับเซียน อานุภาพกลับเหมือนเทพมาร ความองอาจนั่นเหนือกว่าที่เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าจินตนาการ ทำให้พวกเขาจุ๊ปากไม่หยุด
“เจ้ารนหาที่ตายเองนะ!”
บุตรนรกเดือดดาล สีหน้าเย็นเยียบจนน่ากลัว แม้ก่อนหน้านี้เขาถูกซัดกระเด็น เห็นชัดว่าสะบักสะบอมอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไร
“หลายปีมานี้ข้าอดทนอดกลั้น ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สิ้นเปลืองศุภโชคมากมาย ในที่สุดก็หยั่งถึงวิชาแห่งตนที่แท้จริง นามว่า ‘แท่นบัวเทพนรก’!”
บุตรนรกพูดเรียบๆ
รอบตัวเขาค่อยๆ ปรากฏท่วงท่าไร้ศัตรูที่ท่วมท้นฟ้าดิน เย่อหยิ่งไร้เทียมทาน กลิ่นอายทั้งตัวก็เปลี่ยนตามไปด้วย