Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1654 โกรธจึงฆ่า
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1654 โกรธจึงฆ่า
เวลานี้ในที่สุดหลินสวินก็โกรธแล้ว!
บางทีอาจเป็นเพราะตั้งแต่ต้น เขาเลื่อมใสผู้แข็งแกร่งทุกคนที่ประจำการอยู่ในสนามรบแนวหน้าเป็นอย่างยิ่ง หลังจากเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ขึ้นจึงเดือดดาลด้วยความผิดหวัง
เพราะบุตรนรกและนักพรตชิวมาด้วยท่าทีเหิมเกริม พอพูดไม่เข้าหูก็หมายจะสังหารตน
เพราะการตายของนักพรตชิว อันดับหนึ่งของกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิอย่างกู่เหลียงฉวี่จึงมาเยือน มองตนเป็นคนผิด
เพราะใบหิมะน้ำแข็งใบเดียว ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นเกิดความละโมบจับจ้องตาเป็นมัน ไม่สนใจผิดถูก หันปลายหอกใส่ตน
เพราะว่าตนเป็นคนรุ่นหลัง คำที่กล่าวออกมาจึงไม่มีใครเชื่อ!
เพราะ…
หลินสวินคร้านจะทำความเข้าใจอีก ต่อให้เอาใจเขามาใส่ใจเราก็ไม่อยากจะให้ความเคารพอีกต่อไปแล้ว!
มีสิทธิ์อะไร
พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาโอ้อวดบารมีคุณงามความดี คุยโตว่าตนทุ่มแรงกายแรงใจเพื่อดินแดนรกร้างโบราณไปตั้งเท่าไร จึงอาศัยสิ่งนี้มากระทำการตามอำเภอใจได้แล้วหรือ
ช่างน่าขันจริงๆ!
“นักพรตชิวข้าเป็นคนฆ่าเอง”
ทันใดนั้นหญิงสาวชุดกระโปรงแดงเอ่ยปาก นัยน์ตาของนางกวาดมองทั่วลาน ใบหน้างามมีความหยิ่งทะนงเย็นชาดุจหิมะ น้ำเสียงก็ไม่อบอุ่นเหมือนตอนที่คุยกับหลินสวิน ดูเยียบเย็นจนเสียดกระดูก
“ประจำการอยู่ที่นี่มาเจ็ดพันกว่าปี ฆ่ากึ่งจักรพรรดิไปได้แค่หกสิบเอ็ดคน ช่างเป็นตัวไร้ประโยชน์จริงๆ ตายไปก็ไม่น่าเสียดายสักนิด”
ประโยคเดียวเจือแววดูหมิ่นอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
พวกกู่เหลียงฉวี่สีหน้าพลันเปลี่ยนไป อึมครึมคร่ำเคร่ง
นักพรตชิวเป็นถึงยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่กลับถูกมองเป็นสวะให้อับอาย นี่จะไม่ให้พวกเขาโกรธได้อย่างไร
แต่พวกซุ่นจี้กลับเข้าใจได้ในทันที ที่แท้หญิงสาวกระโปรงแดงที่เยียบเย็นสันโดษ บุคลิกหยิ่งทะนงคนนี้ ก็คือดอกกระบี่ที่แปลกประหลาดต้นนั้น!
“ยังมีเจ้าสองคนที่อยู่บนพื้นนี่ แม้แต่การโจมตีเดียวของข้ายังรับไม่ได้ ต่อให้ถูกเหยียดหยามก็ถือว่าสมควร”
คำพูดของหญิงสาวกระโปรงแดงไม่มีเกรงใจสักนิด แม้จะตัวคนเดียว แต่กลับมีความหยิ่งทะนงมากพอจะเหยียดหยันปวงสวรรค์ มองข้ามเหล่าผู้กล้า
คำพูดเดียวทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยทั้งตกตะลึงทั้งเดือดดาล
แน่นอนว่าพวกเขาก็เดาฐานะของหญิงกระโปรงแดงออก ต่างหวาดกลัวอยู่ในใจ หากไม่ใช่เพราะเช่นนี้พวกเขาคงลงมือไปนานแล้ว
“เจ้าจะหนุนหลังเจ้าหนุ่มนี่หรือ” กู่เหลียงฉวี่กล่าวด้วยสีหน้าเยียบเย็น
เขาก็รู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้านี้ ต้องเป็นหนึ่งในพวกน่ากลัวที่ถูกผนึกอยู่ในใบหิมะน้ำแข็งนั่นแน่ นี่ทำให้เขาไม่อาจนิ่งสงบยิ่งกว่าเดิม
ใบหิมะน้ำแข็งนั่นมหัศจรรย์เช่นนี้จริงหรือ
“หนุนหลัง?”
หญิงสาวกระโปรงแดงกล่าวลวกๆ “ไม่ ข้าแค่ทำตามคำสั่ง หากไม่เป็นเช่นนั้นข้าคงคร้านจะพูดมากความ ทำให้ข้ารำคาญก็โดนฆ่าทิ้งไปแล้ว”
สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยมุมปากกระตุกวูบ จริงดังคาด ใครยึดกุมใบหิมะน้ำแข็งนั่นไว้ได้ ก็จะทำให้พวกน่ากลัวที่ถูกผนึกอยู่ในนั้นทำตามคำสั่งได้!
นี่ทำให้พวกเขาทั้งอิจฉาน้ำลายหก ทั้งแปลกใจหวาดกลัว
กู่เหลียงฉวี่เงียบไปเล็กน้อย เหลือบสายตามองไปยังหลินสวิน “ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง รอข้ายืนยันข่าวของการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนแล้วจะพิจารณายกโทษให้เจ้า แต่เงื่อนไขแรกคือเจ้าต้องส่งใบไม้ในมือนั่นมาก่อน!”
หลินสวินเผยแววเย้ยหยัน โกรธจัดจนกลายเป็นยิ้ม “ว่ากันตามจริงก็แค่จะแย่งสมบัติเท่านั้น มายกโทษให้ข้า เจ้าคู่ควรรึ”
ไอสังหารในดวงตาของกู่เหลียงฉวี่สาดประกายทันใด สีหน้าอำมหิต “กำแพงเมืองด่านจักรพรรดินี้มีผู้แข็งแกร่งประจำการอยู่ไม่รู้เท่าไร หรือเจ้าคิดว่าอาศัยที่พึ่งในมือแล้วก็ไม่ต้องสนอะไรเลย”
นัยของคำพูดนั้นชัดแจ้ง ต่อให้บุคคลน่ากลัวอย่างหญิงสาวกระโปรงแดงนี้ร้ายกาจแค่ไหน มีหรือจะต้านการโจมตีของกึ่งจักรพรรดินับไม่ถ้วนได้
หลินสวินกล่าวเย็นชา “อย่างน้อยข้าก็รู้ว่าในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดินี้ เจ้ากู่เหลียงฉวี่ยังเอามือปิดฟ้าไม่ได้ ผู้แข็งแกร่งมากมายที่ประจำการอยู่ที่นี่ก็ใช่ว่าจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า ข้าว่าเจ้าอย่าคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปเลย!”
ตูม!
กู่เหลียงฉวี่โกรธจัดแล้ว ผมยาวแผ่สยาย ลักษณะพลังทั่วร่างสะท้านฟ้าดิน ไอสังหารแข็งกร้าวนับไม่ถ้วนถักทอกันเหมือนดั่งคงอยู่จริง ม้วนซัดแผ่คลุมรอบตัวเขา
ทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยที่อยู่ใกล้ๆ ต่างหน้าเปลี่ยนสี พลันหยุดหายใจ
นี่ก็คืออานุภาพของอันดับหนึ่งแห่งกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ!
สายตาของกู่เหลียงฉวี่มองไปยังหญิงสาวกระโปรงแดงแล้วกล่าว “ข้าจะช่วยเจ้าฆ่าเจ้าเด็กนี่ ตั้งแต่วันนี้ไปให้เจ้าได้หลุดพ้นจากสภาพที่ถูกคนควบคุมอย่างสมบูรณ์เป็นอย่างไร”
ประโยคเดียวทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยดวงตาเป็นประกาย
หญิงสาวกระโปรงแดงถูกใบหิมะน้ำแข็งในมือของหลินสวินควบคุม ด้วยความหยิ่งทะนงและพลังที่น่ากลัวของนาง มีหรือจะยินยอม
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาต่างตื่นตะลึงและคาดไม่ถึงคือ เผชิญหน้ากับข้อเสนอเช่นนี้ หญิงสาวกระโปรงแดงกลับปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “หึ ละเมอเพ้อพก!”
เหน็บแนมและเย้ยหยันอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
กู่เหลียงฉวี่หัวใจจมดิ่งทันที ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขากดดันไม่น้อย หากไม่เป็นเช่นนั้นเขามีหรือจะห้ามใจมาถึงตอนนี้
“ฆ่าสองคนนี้ซะ”
หลินสวินพลันเอ่ยปาก สายตามองไปยังซิงเฟิงและเนี่ยถูที่อยู่บนพื้น น้ำเสียงเยียบเย็นจนไม่มีคลื่นความรู้สึกแม้แต่น้อย
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
กึ่งจักรพรรดิสองคนที่เดิมทีก็ถูกกำราบติดพื้น ตายคาที่พร้อมๆ กับความคิดที่ไหวเคลื่อนของหญิงสาวกระโปรงแดง จิตวิญญาณแหลกละเอียด พลังชีวิตหมดสิ้น
เพียงพริบตาเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นั้นต่างหน้าเปลี่ยนสี
“เจ้ากล้า!”
“เจ้าหนุ่ม เจ้ามันใจโฉดนัก!”
“ไม่อาจยกโทษให้ได้แล้ว!”
เสียงตวาดด้วยความเดือดดาลดังก้องฟ้าดิน เมฆลมเปลี่ยนสี บรรยากาศล้วนเปลี่ยนเป็นตึงเครียด เยียบเย็นหาใดเปรียบ
ใจของพวกซุ่นจี้ หลิงเซียวจื่อตกไปที่ตาตุ่ม คราวนี้… เท่ากับฉีกหน้ากู่เหลียงฉวี่อย่างสมบูรณ์แล้ว!
“ฆ่า!”
กู่เหลียงฉวี่หน้าเขียว น้ำเสียงราวกับลอดออกมาจากไรฟัน ไอสังหารปั่นป่วนไปทั่วฟ้าดิน
ตูม!
เขาลงมือโดยไม่ลังเลแล้ว
เมื่อเขาตบฝ่ามือหนึ่งออกมาฟ้าดินก็สั่นสะเทือน ไอสังหารแข็งกร้าวทั่วฟ้ารวมตัวกันที่กลางฝ่ามือ ตบผ่านอากาศไปทางหญิงสาวกระโปรงแดงอย่างหนักหน่วง
“ครึ่งก้าวสู้จักรพรรดิ ไม่แปลกที่จะกล้าเหิมเกริมเช่นนี้”
ในดวงตาคู่งามของหญิงสาวกระโปรงแดงฉายแววประหลาดใจ จากนั้นนางก็ลงมือ
ปราณกระบี่สลัวรางหลายสายปรากฏขึ้นดั่งภาพฝันลวงตา ราวกับหมอกฝนพร่าเลือนประกายเขียว งามตระการถึงขีดสุด ทำให้ผู้คนใจสั่นสะท้าน
ปึงๆๆ!
การโจมตีของกู่เหลียงฉวี่ถูกปราณกระบี่นับไม่ถ้วนที่เหมือนเส้นไหมนั้นบดขยี้ สลายหายไปทีละน้อย
เขาหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ลงมือเต็มกำลังโดยไม่ลังเลพลางตวาดว่า “ยังไม่ลงมืออีก”
“ฆ่า!”
ไอสังหารในดวงตาของสัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายสาดประกายทันใด หันปลายหอกเล็งไปที่หลินสวิน
ใครต่างก็รู้ว่าขอแค่ฆ่าหลินสวินและชิงใบหิมะน้ำแข็งในมือเขามาได้ ทุกอย่างก็จะคลี่คลายอย่างง่ายดาย
“ไร้ยางอาย!”
พวกหลิงเซียวจื่อ ซุ่นจี้ ฮูหยินมู่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ออกโจมตีอย่างเดือดดาลไปทางสัตว์ประหลาดพวกนั้นพร้อมกัน
ตูม! ครืน! ตูม!
การต่อสู้ชุลมุนระหว่างกึ่งจักรพรรดิปะทุขึ้นมาในยามนี้ เพียงพริบตาฟ้าดินม้วนตลบ สุริยันจันทราหม่นแสง ห้วงอากาศล้วนระเบิดออก
แสงศักดิ์สิทธิ์ เสียงธรรม แสงสมบัติ วิชามรรค… เข้าปกคลุมพื้นที่แถบนั้นอย่างสมบูรณ์
การต่อสู้ของกึ่งจักรพรรดิน่ากลัวระดับใด
แค่อานุภาพก็สามารถทำให้ระดับอริยะแท้คนใดก็ตามถูกฆ่าในพริบตา!
หากไม่ใช่ว่าด่านตะวันนี้ปกคลุมด้วยผนึกต้องห้ามชั้นยอด อบอวลด้วยกลิ่นอายของระดับจักรพรรดิ เกรงว่าคงถูกทำลายจนไม่อาจฟื้นฟูไปในชั่วพริบตาแล้ว
ในการต่อสู้เช่นนี้อย่าว่าแต่ให้หลินสวินยื่นมือเข้าแทรก แค่ถูกคลื่นกระแทกก็อันตรายสุดๆ แล้ว
ตามสถานการณ์ปกติในระยะประชิดเช่นนี้ ต่อให้หลินสวินหลบหลีกหนีไป ก็ย่อมไม่มีทางหนีแรงกดดันของพลังกึ่งจักรพรรดิพ้น ต้องได้รับผลกระทบในชั่วพริบตาแน่
แต่สถานการณ์เช่นนี้กลับไม่เกิดขึ้น
หลินสวินยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนป้ายศิลาที่ตั้งตระหง่านไม่ขยับ ไม่ว่ารอบด้านจะมีพายุคลั่งแค่ไหนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อย
ด้วยกลางฝ่ามือเขาปรากฏใบไม้กระจ่างเหมือนหิมะน้ำแข็งใบหนึ่ง ตัวใบมีคลื่นประหลาดเร้นลับไหลวน อัศจรรย์เกินคาดเดา พลังที่ม้วนพัดมาจากทั่วสารทิศล้วนถูกคลี่คลาย
นัยน์ตาดำของหลินสวินเยียบเย็น ไอสังหารภายในใจพวยพุ่ง
หญิงสาวกระโปรงแดงกำลังห้ำหั่นอยู่กับกู่เหลียงฉวี่ สัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายใช้พลังเต็มกำลังจะพุ่งเข้ามาฆ่าตน ซุ่นจี้ หลิงเซียวจื่อ ฮูหยินมู่ที่สีหน้าเดือดดาลวางแผนจะขัดขวางทุกอย่างนี้…
ในที่นั้นอลหม่านและปั่นป่วน ไอสังหารปกคลุมฟ้าดิน
ด่านตะวันที่กว้างใหญ่นั้น ยามนี้ตกอยู่ในการต่อสู้ภายในที่ดุเดือด!
ไอสังหารที่เข้มข้นและพลุ่งพล่านราวกับหินหนืดปะทุขึ้นในใจของหลินสวินอย่างสมบูรณ์
“เป็นพวกเจ้าที่หาเรื่องใส่ตัวเอง!”
เขาพลันเงยหน้าขึ้น ผมดำพลิ้วไหว ใบหิมะน้ำแข็งในมือแผ่คลื่นสะเทือนน่าอัศจรรย์ออกมา
ตูม!
นกเสวียนที่มีปีกดุจหิมะตัวหนึ่งพุ่งออกมา ส่งเสียงก้องกังวานสะท้านเก้าชั้นฟ้า
“ถ้าอยากมีชีวิตรอดก็ไปฆ่าพวกเฒ่าสวะนั่นซะ นี่คือโอกาสเดียวของเจ้า”
หลินสวินกล่าวเย็นชา
บนร่างของนกเสวียนที่ขาวดุจหิมะพลันมีไอชั่วร้ายพวยพุ่ง กระพือปีกทะยานสู่ฟากฟ้าราวกับแสงสายหนึ่งที่คาดไม่ถึง
ฟุ่บ!
จากนั้นกรงเล็บคู่ใหญ่ของมันก็ฉีกแขนของสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งขาด ส่งเสียงร้องทุรนทุราย
วู้ม…
ใบหิมะน้ำแข็งส่งเสียงคลื่นสะเทือนประหลาด ทยอยมีลิงยักษ์สีดำตัวมหึมา ทวนสำริดที่แตกหักเปื้อนเลือดเล่มหนึ่ง งูเหลือมยักษ์ที่ปกคลุมด้วยเกล็ดมังกรสีทองตัวหนึ่ง เตียวม่วงที่ร่างกายอบอวลด้วยแสงสายฟ้าจ้าตาตัวหนึ่งพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง…
แค่ชั่วพริบตา สิ่งมีชีวิตน่ากลัวสิบกว่าตัวที่เคยจำศีลอยู่ในป่าต้นหม่อนในกาลเวลาไร้สิ้นสุดก็ปรากฏตัวออกมาจนหมด!
ฟ้าดินแถบนี้ล้วนถูกอานุภาพน่ากลัวบนตัวของพวกเขากดข่มจนส่งเสียงครวญสะเทือน
ในที่นั้นมีเสียงร้องระงมดังขึ้นไม่รู้เท่าไร
สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยต่างตกตะลึงหน้าเปลี่ยนสี
ใครก็คิดไม่ถึงว่าใบหิมะน้ำแข็งในมือหลินสวินนั่น จะผนึกสิ่งมีชีวิตที่ทั้งน่าพรั่นพรึงทั้งน่ากลัวไว้มากเช่นนี้
นี่เหมือนการเปิดประตูนรกจริงๆ!
แม้แต่กู่เหลียงฉวี่ที่กำลังห้ำหั่นกับหญิงสาวกระโปรงแดง เวลานี้ก็พลันหนาวสั่นอยู่ในใจ หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ในความเข้าใจของเขา ใบหิมะน้ำแข็งในมือของหลินสวินแค่ผนึกเจียวมรกตตัวหนึ่ง มดสำริดตัวหนึ่ง และดอกอสูรมารต้นหนึ่งไว้เท่านั้น
ทั้งเจียวมรกตและมดสำริดยังคิดทรยศหลินสวินด้วย ต่อต้านการควบคุมของหลินสวินเป็นอย่างยิ่ง
แต่ใครเล่าจะคาดคิด…
ว่าจะเกิดเรื่องน่ากลัวเช่นนี้ขึ้น!
พวกซุ่นจี้ ฮูหยินมู่ต่างใจสั่นระรัว ลอบอุทานว่าแย่แล้ว เห็นได้ชัดว่าเจ้าหนูหลินสวินนี่โกรธจัดจนไม่สนใจอะไรอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ทั้งพวกเขาเองก็คิดไม่ถึง ว่าในสมบัติอัศจรรย์ในมือหลินสวินจะผนึกตัวน่ากลัวไว้มากเช่นนี้
เพียงแต่ยามที่พวกเขากำลังจะห้ามปราม หลินสวินก็กล่าวเย็นชา ริมฝีปากขยับคำหนึ่งอย่างแผ่วเบา
“ฆ่า!”
ราวกับความประสงค์ของนายเหนือหัวที่บัญชาลงมา ลิงยักษ์สีดำ งูมังกรสีทอง เตียวม่วงสายฟ้า ทวนเปื้อนเลือด… สิ่งมีชีวิตน่ากลัวทั้งหมดลงมือพร้อมกันแล้ว
พลังต่อสู้ของสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวแต่ละตัวพวกนี้ ล้วนไม่ด้อยไปกว่ามดสำริดหรือเจียวหลงเขียวมรกต!
แต่ละตัวล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ที่ขาดแค่จุดเปลี่ยนใหญ่เดียวก็จะบรรลุจักรพรรดิ จำศีลอยู่บนโลกมาไม่รู้กี่วันเวลา
ยามพวกเขาออกโจมตีพร้อมกัน ภาพนั้นแค่คิดก็รู้แล้วว่าน่ากลัวแค่ไหน
ตูม!
ฟ้าดินแถบนี้อลหม่านอย่างสมบูรณ์แล้ว สุริยันจันทราหม่นแสง ฟ้าดินมืดสลัว สิ่งมีชีวิตน่ากลัวทุกตนราวกับเทพสังหารที่เลือดเย็นอำมหิตมากมายอาละวาด ณ ที่นั้น!
…………………..