Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2325 โหดเหี้ยมยิ่งยวด
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2325 โหดเหี้ยมยิ่งยวด
ตอนที่ 2325 โหดเหี้ยมยิ่งยวด
แม้รู้สึกผิดปกติมาก แต่เมื่อได้ยินคำพูดข่มขู่ของหลินสวิน มหาจักรพรรดิอีกาทองก็อดหัวเราะเสียงดังไม่ได้
เหมือนได้ยินเรื่องตลกอย่างไรอย่างนั้น
ตั้งแต่บรรลุจักรพรรดิจนตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนรุ่นหลังระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่งข่มขู่
“เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งมาก”
ต้าหวงสายตาอึมครึม
“เดี๋ยวก็หัวเราะไม่ออกแล้ว”
หลินสวินสีหน้านิ่งสงบ
ตามคาด ไม่นานมหาจักรพรรดิอีกาทองก็หัวเราะไม่ออกแล้ว เพราะจู่ๆ เขาก็พบว่า สายตาของหนึ่งคนหนึ่งสุนัขที่มองมาเผยความเวทนา เหมือนกำลังมอง… คนโง่คนหนึ่ง!
นี่ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบอย่างที่สุด พูดด้วยเสียงเรียบเฉย “เห็นแก่ที่เมื่อครู่นี้พวกเจ้าทำลายผนึก ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสำนึกผิด จำไว้ว่าไม่ว่าพวกเจ้าเป็นใคร ที่แห่งนี้อย่างไรก็เป็นพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ เป็นที่ที่ไม่ยอมให้ใครมากำเริบเสิบสาน!”
ต้าหวงคลี่ยิ้มพูด “หลายปีมานี้ ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณไม่ได้ช่วยอีกาทองเฒ่าอย่างเจ้าออกมาเหมือนพวกข้าหรอกนะ”
นี่ก็คือจุดที่มหาจักรพรรดิอีกาทองรู้สึกผิดปกติ ไม่เช่นนั้นมีหรือเขาจะพูดมากความ คงลงมือตั้งแต่แรกแล้ว
“พวกเจ้า…”
มหาจักรรดิอีกาทองสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้ เพิ่งหมายจะพูดอะไรก็เห็นร่างหลินสวินพริบไหวกลางอากาศ โจมตีเข้ามา เห็นได้ชัดว่าหมดความอดทนแล้ว
นี่ทำให้มหาจักรรดิอีกาทองอดเดือดดาลไม่ได้ คนรุ่นหลังสมัยนี้ เหตุใดจึงไม่มีความอดทนเลย
“รนหาที่ตาย!”
เขาตวาดเสียงเย็นเยียบ ตรงหน้าปรากฏกระแสกฎเกณฑ์ที่ราวกับสุริยันดวงโต สุดท้ายควบรวมเป็นประทับใหญ่ชิ้นหนึ่งโจมตีเข้าไปอย่างรุนแรง
ประทับโลกมหาเพลิงผลาญ!
ภายในสั่งสมเพลิงศักดิ์สิทธิ์อีกาทอง เต็มไปด้วยอานุภาพทำลายล้างยิ่งยวด ภายใต้ประทับเดียวก็สามารถผลาญฟ้าทำลายดิน
มหาจักรรดิอีกาทองมั่นใจว่าด้วยพลังของระดับจักรพรรดิขั้นแปดสัมบูรณ์อย่างเขา แค่ประทับนี้ก็สามารถสังหารพวกที่อยู่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิขั้นแปดทุกคนได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกตัวเล็กๆ อย่างระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่ง
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาระแวดระวังและป้องกันกลับเป็นต้าหวง เขาจำได้รางๆ ว่าเคยมีสุนัขตัวหนึ่งมีฉายาว่าจักรพรรดิสงครามคำรน อาละวาดข้ามฟ้าดารา อานุภาพดุดันล้นฟ้า
เพียงแต่เขาไม่กล้ามั่นใจ ว่าสุนัขที่อยู่ตรงหน้าจะใช่จักรพรรดิสงครามคำรนหรือไม่
ดังนั้นเมื่อซัดประทับนี้ออกไป ในใจเขาจดจ่ออยู่ที่ต้าหวงมากกว่า กำลังดำเนินการเตรียมพร้อมและป้องกัน
ทว่าภาพที่ทำให้มหาจักรรดิอีกาทองป้องกันไม่ทันปรากฏแล้ว
ก็เห็นเงาร่าของหลินสวินพุ่งปราด โบกมือลวกๆ ก็โจมตีประทับโลกมหาเพลิงผลาญแหลกละเอียดแล้ว ละอองแสงสะดุดตานับพันหมื่นพวยพุ่งออกมา
ภายใต้ฝ่ามือของเขา ประทับโลกมหาเพลิงผลาญราวกับกระดาษเปื่อย!
“แย่แล้ว!”
ในที่สุดมหาจักรรดิอีกาทองก็ตระหนักได้ถึงความไม่เข้าที ริมฝีปากส่งเสียงคำรามยาว จู่ๆ ปีกทองอร่ามคู่หนึ่งควบรวมออกมาด้านหลังเขา
ปีกอีกาทองเฉือนสวรรค์!
ปีกสีทองคู่นี้ก็เหมือนกรรไกรที่ตัดท้องฟ้า แผ่กฎเกณฑ์เพลิงเทพที่รุนแรงบาดตา ฟันลงมาอย่างเดือดดาล
ฟ้าดินผืนนี้ล้วนถูกกรีดออก ห้วงอากาศปนเป สรรพสิ่งทรุดทลาย!
อานุภาพทำลายล้างที่ดุดันหาที่เปรียบไม่ได้นั่นเรียกได้ว่าสะเทือนฟ้าดิน น่ากลัวอย่างไม่อาจจินตนาการ
หลินสวินไม่เร่งไม่รีบ สีหน้าสงบนิ่ง กระทั่งปีกกฎเกณฑ์สีทองคู่นั้นฟันออกมาก็พลันยื่นสองมือออกไป คว้าจับแล้วฉีกกระชากกลางอากาศ
แคว่ก!
ปีกสีทองยาวพันจั้งเต็มๆ ที่เจือพลังแห่งการทำลายล้างอันน่ากลัว กลับถูกหลินสวินใช้สองมือฉีกทึ้งทั้งอย่างนั้น สาดละอองแสงเพลิงเทพสีทองทั่วฟ้า
“กระบวนท่าฉีกด้วยมือเปล่าที่ยอดเยี่ยม!” ต้าหวงซึ่งอยู่ห่างออกไปจุ๊ปากชื่นชม
มหาจักรรดิอีกาทองโกรธจนแทบจะกระอักเลือด แต่ในขณะเดียวกันในใจเขาก็เกิดคลื่นโหมซัดสาด ขนลุกซู่ไปทั้งตัว
เขาเพิ่งตระหนักได้ ว่าเจ้าหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง! พลังต่อสู้สำแดงออกมาพลิกฟ้า ถึงขั้นล้มล้างการรับรู้และจินตนาการของเขาทั้งหมด!
มหาจักรรดิอีกาทองใช้พลังทั้งหมดอย่างไม่ลังเล พลันอ้าปากออก
เสียงชิ้งดังขึ้นคราหนึ่ง กระบี่ปีกที่หลอมขึ้นจากทองเทพทะยานออกมา ทั้งตัวกระบี่แดงเพลิงราวกับลุกโชน กลิ่นอายทำลายล้างสะเทือนเก้าฟ้าทั้งบนล่าง
กระบี่จักรพรรดิขนเพลิง!
ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ที่มหาจักรรดิอีกาทองหล่อเลี้ยงมาไม่รู้นานเท่าไหร่ ภายใต้กระบี่นี้ สรรพสิ่งกลายเป็นฝุ่นผง หมื่นลักษณ์เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน!
“ฟัน!”
มหาจักรรดิอีกาทองตะโกน เส้นผมปลิวสยาย อานุภาพดุจดั่งเทพอัคคีดึกดำบรรพ์ เผด็จการอหังการ์
กลับเห็นเตากระบี่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหลินสวิน เสียงปังดังขึ้นคราหนึ่งก็กำราบกระบี่จักรพรรดิขนเพลิงที่ฟันมาอย่างรุนแรงเอาไว้ได้ ถาให้เกิดเสียงครวญสะเทือนหู
มหาจักรรดิอีกาทองตกใจจนหน้าถอดสี
และก็เป็นยามนี้ที่หลินสวินโจมตีเข้ามา หนึ่งหมัดซัดออกไป แสงมรรคพันหมื่นพรั่งพรูออกจากหมัดของเขา ทลายการสกัดกั้นของมหาจักรรดิอีกาทองอย่างง่ายดาย พลังป้องกันทั้งหมดรอบตัวเขาระเบิดออกทุกกระเบียดภายใต้หมัดนี้
ตูม!
หนึ่งหมัด ระดับจักรพรรดิขั้นแปดอย่างมหาจักรรดิอีกาทองหน้าอกยุบลง ร่างงอเหมือนกุ้ง พุ่งถอยออกไปอย่างรุนแรง
ไม่รอให้เขาทรงตัวได้ หลินสวินก็มาถึงกลางอากาศแล้ว กุมคอเขากระแทกภูเขาไฟที่สูงตระหง่านอย่างแรง
โครม!
ภูเขาใหญ่ทั้งลูกทรุดตัวระเบิดแหลก ฝุ่นควันคละคลุ้ง สะเทือนจนฟ้าดินแถบนี้ปั่นป่วน
ต้าหวงปากอ้าตาค้าง ตอนนี้เจ้าหนูนี่เพียงใช้พลังต่อสู้ของตนก็ร้ายกาจขนาดนี้แล้วหรือ
มองดูสนามรบอีกครั้ง พื้นดินทรุดเป็นหลุมใหญ่ หัวของมหาจักรรดิอีกาทองฝังอยู่ภายใน ขาทั้งคู่โผล่พ้นพื้น ถูกตอกอยู่ตรงนั้นเหมือนคว่ำหัวหอม
หลินสวินซึ่งอยู่ด้านข้างมองเหยียดลงมา เอ่ยอย่างเย็นเยียบ “จะพูดไหม”
“เจ้า… รนหา… ที่ตาย…!” มหาจักรรดิอีกาทองลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ใบหน้าบิดเบี้ยวดุร้าย ตาแทบถลนออกมา คำรามคลุ้มคลั่ง
เพียงแต่เขาเพิ่งหมายจะลงมือก็ถูกหลินสวินคว้าร่างเอาไว้ แล้วกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนทุบฆ้อน
ปัง! ปัง! ปัง!
พื้นดินแตกกระจาย ฝุ่นควันแผ่กระจายราวกับลมพายุ พลังที่เผด็จการระดับนั้น ต้าหวงเห็นแล้วยังรู้สึกเจ็บปวด
เพียงแค่ครู่เดียวมหาจักรรดิอีกาทองก็ใบหน้าบวมช้ำแล้ว ร่างกายเสียหาย ผมเผ้ายุ่งเหยิง รูปลักษณ์น่าอนาถจนสามารถใช้คำว่าครึ่งคนครึ่งผีมาเปรียบเทียบได้แล้ว
“จะพูดหรือไม่” หลินสวินถาม
“ทรมานแค่นี้ก็อยากให้ข้าก้มหัว ฝันไปเถอะ!” มหาจักรรดิอีกาทองตะคอก ชิงชังจนแทบคลั่ง
เขาเป็นถึงระดับจักรพรรดิขั้นแปด ตอนนี้กลับถูกเจ้าหนุ่มคนหนึ่งคว้าตัวทุบตี ทำให้เขาอับอายจนแทบคลั่งแล้ว
“ไม่พูดใช่ไหม ก็ได้ ดูสิว่าเจ้าเฒ่าอย่างเจ้าจะยืนหยัดได้ถึงเมื่อไหร่”
หลินสวินพูดพลางคว้าตัวมหาจักรรดิอีกาทองกระแทกอย่างรุนแรง กระแทกจนฟ้าถล่มดินทลาย กระแทกจนเลือดกระเซ็น กระแทกจนเกิดลมโบก กระแทกจนหายใจไม่ออก…
ในโลกที่ประหนึ่งเปลวเพลิงนี้ ได้ยินเสียงหนักทึบก้องสะท้อนไม่หยุดราวกับระเบิดปั่นป่วนเป็นระลอก ต้าหวงเห็นแล้วอดลอบพึมพำไม่ได้ เหี้ยมเกินไปแล้ว! โหดร้ายทารุณโดยสมบูรณ์!
ในมุมมืด เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณทุกคนที่สังเกตเห็นภาพเหล่านี้ ต่างสูดหายใจสะท้าน หนังหัวชาวาบ ในใจหวาดหวั่นอย่างอดไม่อยู่
พวกเขารู้สึกเจ็บปวด รู้สึกใจสั่นเช่นกัน!
ไม่สามารถจินตนาการได้ ว่าคนที่แข็งแกร่งอย่างมหาจักรรดิอีกาทองจะถูกทรมานจนน่าอนาถเช่นนี้
ปัง!
สุดท้ายร่างของมหาจักรรดิอีกาทองก็โดนกระแทกระเบิด เหลือเพียงพลังจิตกลุ่มหนึ่ง ยังไม่ทันหนีก็ถูกหลินสวินคว้าไว้ในมืออย่างมั่นคงแล้ว
ครั้งนี้ไม่รอหลินสวินพูด มหาจักรรดิอีกาทองก็ร้องเสียงแหลมอย่างหวาดกลัว “พูด ข้าพูด…!”
“ไม่เอาไหน” ต้าหวงพึมพำอย่างดูถูก
ทว่ามหาจักรรดิอีกาทองไม่อาจห่วงเรื่องพวกนี้แล้ว เล่าบุญคุณความแค้นระหว่างเขากับเทียนเชวียในตอนนั้นออกมาอย่างหมดเปลือก
ที่แท้เทียนเชวียก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่เข้าสู่ทางเดินโบราณฟ้าดารา จากดินแดนรกร้างโบราณเหมือนมหาจักรรดิอีกาทอง
ทว่าทั้งสองเข้ากันไม่ได้ตั้งแต่เกิด เหมือนน้ำกับไฟ เกิดความขัดแย้งอยู่หลายครั้ง
ภายหลังระหว่างทางไปเสาะหาวาสนาที่แหล่งสถานคุนหลุน ตอนที่เทียนเชวียชิงวาสนาบนผาสยบมรรค ซึ่งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในแดนสามผนึกคุนหลุน กลับถูกศัตรูแข็งแกร่งที่มาจากหกเรือนมรรคใหญ่ล้อมโจมตี
ตอนนั้นเทียนเชวียต่อสู้กับศัตรูสิบทิศเพียงลำพัง เกิดศึกสะเทือนโลก
สุดท้ายยามฝ่าวงล้อมออกมา ร่างกายของเขาแตกสลายแล้ว เหลือเพียงพลังจิตเสี้ยวหนึ่ง
เดิมทีเทียนเชวียมีโอกาสหนีได้ แต่ก็เป็นตอนนั้นที่มหาจักรรดิอีกาทองซึ่งซุ่มอยู่ในที่มืดลงมืออย่างไม่ลังเล สังหารพลังจิตที่เหลืออยู่ของเทียนเชวีย
พูดถึงตรงนี้มหาจักรรดิอีกาทองกลับเผยสีหน้าดีใจ เอ่ยว่า “เจ้าเทียนเชวียนั่นคิดว่าตนรากฐานพลังโดดเด่น มรรคธนูเป็นเลิศในใต้หล้า ไม่เคยเห็นข้าอยู่ในสายตามาตลอด แต่เขาแข็งแกร่งแค่ไหนแล้วอย่างไร สุดท้ายก็ตายในมือข้าไม่ใช่หรือ”
“เจ้าโกหก!”
ทันใดนั้นเสียงตะโกนที่เดือดดาลถึงขีดสุดดังก้องขึ้น ก็เห็นอู้เชวียวิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารพุ่งออกมา แววตาเผยความชิงชังเข้ากระดูก จ้องมหาจักรรดิอีกาทองเขม็ง กัดฟันพูดว่า
“ตอนนั้นเพื่อช่วยเจ้า นายท่านของข้าจึงถูกศัตรูเหล่านั้นล้อมโจมตี แต่เจ้าเล่า หลังจากหลุดรอดไปได้แล้ว ไม่เพียงไม่สำนึกและทดแทนคุณ ระหว่างทางกลับยังลอบโจมตีนายท่านที่มีบุญคุณต่อเจ้าอย่างโหดร้าย!”
มหาจักรรดิอีกาทองสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นพลันหัวเราะเยาะ “ตอนนั้นเดรัจฉานต่ำต้อยอย่างเจ้าไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนั้น จะรู้เหตุการณ์ในตอนนั้นได้อย่างไร อย่าคิดจะมาใส่ความกัน!”
อู้เชวียสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เอ่ยทีละคำ “ที่เจ้าพูดไม่ผิด ตอนนั้นหากข้าเข้าร่วมการต่อสู้ ศัตรูที่ปิดล้อมนายท่านพวกนั้นย่อมหนีไม่รอดสักคน สารเลวที่เนรคุณคนอย่างเจ้า ก็ไม่มีทางทำร้ายนายท่านตายได้!”
“อะไรคือเนรคุณ ในพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าข้ากับเทียนเชวียเป็นศัตรูกัน” มหาจักรรดิอีกาทองเอ่ยเย็นชา
อู้เชวียโกรธจนผมตั้ง ใบหน้าคล้ำเขียว “ถึงขนาดนี้แล้วเจ้ายังจะเถียง นายท่านของข้าดูถูกคนสารเลวที่น่ารังเกียจไร้ยางอายอย่างเจ้าที่สุด”
“แต่ตอนนั้นเขาก็ทิ้งอคติ เสียสละชีวิตไปช่วยเจ้า เพื่ออะไร ก็เพราะนายท่านเห็นแก่ที่เจ้าก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ จะปล่อยให้ตายโดยไม่ช่วยไม่ได้”
“ใครจะคิดว่าคนในพันธมิตรที่เขาช่วยเอาไว้ กลับเป็นคนร้ายที่ฆ่าเขา!”
ได้รู้ทั้งหมดนี้แววตาที่หลินสวินและต้าหวงมองมหาจักรรดิอีกาทองล้วนแฝงความเย็นเยียบ เจ้าเฒ่านี่น่ารังเกียจและต่ำช้าเกินไปแล้ว!
ตอนนี้แม้แต่พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่จับตามองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ในมุมมืดยังอดหน้าเปลี่ยนสีไม่ได้
เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้เลยว่า บุญคุณความแค้นระหว่างมหาจักรรดิอีกาทองและเทียนเชวียยังมีเบื้องหลังเช่นนี้ซ่อนอยู่!
หากรู้เรื่องพวกนี้แต่แรก ทั้งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณจะยอมปล่อยคนสารเลวที่จิตใจชั่วช้าน่ารังเกียจถึงขีดสุดคนนี้ไว้ได้อย่างไร
“พูดปากเปล่าไม่มีหลักฐาน เจ้ามีอะไรมายืนยัน”
เสียงของมหาจักรรดิอีกาทองเย็นเยียบกว่าเดิม “อู้เชวีย เจ้าอย่าลืมว่าหากไม่ใช่เพราะเห็นแก่นายท่านของเจ้า ตอนนั้นหลังจากข้ากำราบเจ้า จะฆ่าเจ้าในทันทีก็ย่อมได้ จะปล่อยให้เจ้าอยู่รอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร”
อู้เชวียโกรธจัดจนยิ้มออกมา “เจ้าเฒ่าสารเลว เจ้าในตอนนั้นเรียกได้ว่าทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อจะสังหารข้า ทำทุกวิถีทาง แต่สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์ ทำได้เพียงกำราบข้าไว้ เหตุใดพอออกมาจากปากเจ้ากลับกลายเป็นเห็นแก่นายท่านของข้า”
มหาจักรรดิอีกาทองยิ้มเยาะ “เรื่องที่ไม่มีหลักฐาน ใครจะเชื่อ”
“เชื่อหรือไม่เชื่อไม่สำคัญแล้ว” ตอนนี้เองหลินสวินสายตาเย็นเยียบ กล่าวเรียบๆ “ถึงอย่างไรเจ้าก็จะตายแล้ว”
………………………..