CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2347 ความเป็นมาของสุสานสมุทรฝังมรรค

  1. Home
  2. Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
  3. ตอนที่ 2347 ความเป็นมาของสุสานสมุทรฝังมรรค
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 2347 ความเป็นมาของสุสานสมุทรฝังมรรค

ยามสมัยยังเด็ก คึกคักแปลกใหม่ เปี่ยมชีวิตชีวา

ยามนี้ได้พบกันใหม่ ผ่านเรื่องราวระหกระเหิน ต่างฝ่ายต่างร่ำสุราพูดคุยกัน ที่มากกว่าคือการทอดถอนใจและครวญคร่ำ

จนกระทั่งต่อมาพวกเจ้าคางคก อาหลู่ดื่มจนเมาแล้ว แต่ละคนนอนแผ่อ้าซ่า กรนเสียงดัง

เสี่ยวอิ๋น เสี่ยวอู่ยังคงกรอกสุรากันอยู่

ผีเสื้อมารแยกฟ้าเสี่ยวเทียนเป็นทัพเสริมให้เสี่ยวอิ๋น วิญญาณกระบี่เย่จื่อ อู้เชวียเป็นทัพเสริมให้เสี่ยวอู่ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร

เจ้านกดำเดิมตั้งใจจะเป็นผู้ตัดสิน แต่กลับถูกสองฝ่ายที่แข่งกันดื่มร่วมกันโห่ไล่ เจ้านกโจรนี่เอาแต่สุมไฟใส่เชื้อเพลิง กลัวแต่ใต้หล้าจะไม่วุ่นวาย เป็นผู้ตัดสินที่ไหนกัน

สุดท้ายระฆังไร้กฎต้องออกหน้า รับหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน คราวนี้จึงทำให้สองฝ่ายต่างพึงพอใจ

ไกลออกไป

หลินสวินนอนหนุนสองแขนเอนตัวบนพื้นหญ้าอย่างเกียจคร้าน มองดูเห็นภาพนี้ก็อดยิ้มไม่ได้

“คุณชาย ต่อไปข้าควรเรียกท่านว่าอาจารย์อาเล็กหรือไม่”

ข้างๆ กันมือหยกเรียวยาวขาวเนียนของอาหูกอดรอบเข่า นั่งอย่างงดงามอยู่ด้านข้าง ใบหน้างามละเมียดละไม ทอประกายผุดผ่องภายใต้แสงดาวยามค่ำคืน

คิ้วนางดำเข้มดุจหมึก ผมยาวนุ่มสลวยดั่งน้ำตกม้วนขึ้นเป็นมวยลวกๆ เนตรดาราสุกสกาวแวววาว ริมฝีปากบางแดงชุ่มฉ่ำยกขึ้นน้อยๆ แต้มรอยยิ้มจางๆ

และรูปร่างของนางก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ไหล่ดุจฝักมีด กระดูกไหปลาร้างาม เอวดั่งผูกเส้นเชือกมือเดียวโอบรอบ หน้าอกนูนเป็นเส้นโค้งเอิบอิ่มที่ชวนให้ปั่นป่วนจิตใจ

ในบรรดาผู้หญิงที่หลินสวินรู้จักทั้งหมด อาหูคือคนที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ หน้าตาดุจเทพธิดา มีเสน่ห์เย้ายวนชวนลุ่มหลงคนหนึ่ง ทุกท่วงท่าอิริยาบถงามสง่าโดเด่น

“อาจารย์อาเล็ก?” หลินสวินส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ช่างมันเถอะ พวกเราเป็นสหาย ย่อมต้องพูดคุยกันอย่างเท่าเทียมอยู่แล้ว”

เขารู้นานแล้วว่าอาหูเป็นศิษย์ฝากนามคนหนึ่งที่ศิษย์พี่จวินหวนรับไว้ ตามลำดับอาวุโสในคีรีดวงกมลก็เรียกตนว่าอาจารย์อาเล็กได้จริงอย่างว่า

“เช่นนั้นหากอาจารย์รู้เข้าต้องลงโทษข้าแน่” เสียงหัวเราะของอาหูร่าเริงสดใส เจือแววชุ่มฉ่ำอ่อนโยน ดวงตาจันทร์เสี้ยวหรี่ลง น่ามองจริงๆ

“ข้าช่วยเจ้าขอร้องก็สิ้นเรื่อง”

หลินสวินก็หัวเราะเช่นกัน ในโลกฝึกปราณ ลำดับอาวุโสเป็นเรื่องวุ่นวายมาโดยตลอด

อย่างเช่นบรรดาศิษย์พี่เหล่านั้นของเขา ในสมัยดึกดำบรรพ์ล้วนเป็นรุ่นเดียวกันที่นั่งทัดเทียมยักษ์ใหญ่เทียมฟ้าเหล่านั้นได้!

หากไล่ลำดับอาวุโสกันจริงๆ ความอาวุโสของหลินสวินย่อมสูงกว่าเฒ่าชราส่วนใหญ่ทั่วหล้าอย่างแน่นอน!

“เช่นนั้นต่อไปข้าก็จะเรียกว่า ‘คุณชาย’ ต่อแล้ว” อาหูแย้มยิ้มยิงฟัน รอยยิ้มดุจดั่งดอกไม้ตูมแรกแย้มหลังฝน งดงามสดใส

จากนั้นอาหูเอ่ยถามถึงแผนการการเดินทางครั้งนี้

หลินสวินครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ไปดูที่จักรวรรดิจื่อเย่าสักหน่อยก่อน หากเป็นไปได้ ข้าตั้งใจจะโยกย้ายคนในตระกูลหลินพวกนั้นเจ้ามาในแดนลับดวงกมลนี่”

ก่อนหน้านี้ก่อนที่ศิษย์พี่สี่จะเข้าไปในเจดีย์ไร้สิ้นสุด ได้มอบ ‘กุญแจเขตแดน’ ที่ควบคุมการเข้าออกแดนลับดวงกมลให้แก่เขา

ด้วยกุญแจเขตแดนนี้ ต่อไปแดนลับดวงกมลนี่ก็เท่ากับมีหลินสวินคอยจัดการดูแลแล้ว

อาหูครุ่นคิดครู่หนึ่ง กล่าวเสียงแผ่ว “คุณชาย ท่านเคยคิดถึงวันข้างหน้าบ้างหรือไม่ อย่างเช่นพวกเจ้าคางคก อาหลู่ เจ้านกดำ?”

หลินสวินอึ้งไป จมสู่ภวังค์

ตั้งแต่ตอนอยู่แหล่งสถานคุนหลุน พวกเจ้าคางคก อาหลู่ก็มีปราณระดับมกุฎมหาอริยะแล้ว หลายสิบปีผ่านไปนี้ปราณของพวกเขาก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ตอนนี้ต่างเป็นระดับกึ่งจักรพรรดิสามชั้นฟ้ากันแล้ว ห่างจากระดับจักรพรรดิเพียงก้าวเดียวเท่านั้น

เสี่ยวอิ๋นและเสี่ยวเทียน หนึ่งเป็นทายาทหนอนกินเทพ อีกหนึ่งเป็นทายาทผีเสื้อมารแยกฟ้า การพัฒนาของพวกมันต่างจากผู้ฝึกปราณทั่วไป ตอนนี้ก็มีพลังต่อสู้เทียบเท่ากึ่งจักรพรรดิขั้นสมบูรณ์แล้ว

ส่วนเจ้านกดำ…

เจ้าหมอนี่เป็นอีกประเภทหนึ่งอย่างสิ้นเชิง จนป่านนี้ยังติดอยู่ที่ระดับมกุฎราชันอริยะ จากที่มันว่ามา สำหรับมันแล้วสามารถมองประตูระดับกึ่งจักรพรรดินี้ได้อย่างสิ้นเชิง รอแค่จุดเปลี่ยนเดียวของการพัฒนาเท่านั้น ก็สามารถพุ่งทะยานสู่ระดับจักรพรรดิได้ตรงๆ

หากต่อไปหลินสวินอยากกลับไปยังทางเดินโบราณฟ้าดาราอีก ย่อมพาพวกเจ้าคางคกไปด้วยได้อยู่แล้ว เพียงแต่ในการเคลื่อนไหวต่อไป เกรงว่าเขาจะไม่มีแรงไปพะวงในมรรควิถีของพวกเจ้าคางคกได้

“ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของพวกเขาแต่ละคนแล้ว” หลินสวินตัดสินใจ

เขาย่อมอยากให้พวกเจ้าคางคกอยู่ข้างกายตลอดไป แต่นี่ย่อมไม่เหมาะกับความเป็นจริง

ควรรู้ว่ามหามรรคที่แต่ละคนแสวงหาล้วนไม่เหมือนกัน มรรคาที่ก้าวเดินในวันหน้าก็ย่อมไม่เหมือนกัน เขาหลินสวินตอนนี้มีศักยภาพมากพอจะปกป้องคุ้มครองญาติมิตรข้างกายได้แล้ว

แต่สิ่งสำคัญคือ พวกเจ้าคางคกเต็มใจหรือไม่

ไม่กี่วันต่อมา

อาการบาดเจ็บของหลินสวินหายดีแล้ว ปราณก็มีเค้าลางจะทะลวงขั้นอยู่รางๆ

การต่อสู้กับศิษย์พี่สี่หลิงเสวียนจื่อครั้งนั้น ทำให้มรรควิถีของหลินสวินได้รับการขัดเกลาและยกระดับขึ้นอย่างน่าตกใจเช่นกัน

และเป็นวันนี้เอง หลินสวินพาพวกอาหู เจ้าคางคก อาหลู่จากไปด้วยกัน

….

นอกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์

ทะเลมรกตราวชะล้าง ฟ้าสูงเมฆลอยกว้าง

ในรอบๆ พื้นที่ท้องทะเลมีเงาร่างมากมายรวมกันอยู่นานแล้ว ต่างมาจากขุมอำนาจหมื่นเผ่าดึกดำบรรพ์ แต่ละคนล้วนกำลังรอคอย

ไม่กี่วันก่อนเกิดการต่อสู้สะเทือนโลกขึ้นในแดนลับอสูรมารอริยะ เรียกระลอกคลื่นปั่นป่วน ชักนำความโกลาหลครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นนานแล้ว

ท่านจอมมรรคที่เรียกได้ว่าเป็นนายเหนือหัวสูงสุด กลับถูกศิษย์น้องของตนโค่นล้มกำราบ!

เรื่องระดับนี้สั่นคลอนการรับรู้และการคาดเดาของขุมอำนาจเหล่านั้น

เงาร่างที่อยู่บริเวณแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้ต่างหลั่งไหลมาเพราะได้ยินข่าว หมายจะสืบต้นสายปลายเหตุ

ไม่มีใครทันสังเกตว่าพวกหลินสวินออกจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างไร้สุ้มเสียง มายังท้องทะเลที่อยู่ไกลโพ้นนานแล้ว

“ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การชมดูเรื่องสนุกคล้ายจะเป็นนิสัยดั้งเดิมที่สิ่งมีชีวิตทุกเผ่ามี”

อาหูอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ “คุณชาย ท่านไม่คิดจะไปแสดงตัวสักหน่อยจริงๆ หรือ จะได้ให้เจ้าพวกที่ชอบชมเรื่องสนุกเหล่านั้นมากราบไหว้งามๆ สักหน”

หลินสวินบื้อใบ้ไป ส่ายหน้ากล่าวว่า “นี่ออกจะน่าเบื่อเกินไปหน่อย ไปเถอะ”

เขาโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง ยานขนส่งอวกาศปรากฏออกมา

“คุณชาย ท่านยังเก็บสมบัตินี้ไว้อยู่หรือ”

เนตรดาราของอาหูวาววับ

ยานขนส่งอวกาศลำนี้นางเป็นคนมอบให้หลินสวินเมื่อหลายปีก่อน แค่สมบัติเก่าๆ ที่หักพังชิ้นหนึ่ง สำหรับหลินสวินในตอนนี้แทบจะไม่มีประโยชน์ใดๆ แล้ว

“สมบัตินี้ต่อสู้กรำศึกเคียงข้างมานานปี ใช้จนชินแล้ว เลยทำใจทิ้งไม่ลง”

หลินสวินกล่าวพลางพาทุกคนขึ้นยานขนส่งอวกาศ จากนั้นก็ทะยานออกไปไกลๆ

การไปจักรวรรดิจื่อเย่า จำเป็นต้องทะยานข้ามทะเลกลืนวิญญาณ จากที่หลินสวินคาดเดา ด้วยความเร็วของยานขนส่งอวกาศ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสิบวัน

ยังดีที่เขาไม่ได้รีบ

หนึ่งก้านธูปต่อมา

บนผิวทะเลไกลโพ้น ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่มีไอหมอกมืดสลัวสายแล้วสายเล่าลอยขึ้นมา คราแรกยังเห็นไม่ถนัดตา แต่เมื่อยานสมบัติค่อยๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้า ไอหมอกนั่นก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ พร่าเลือนลวงตา มืดมนลุ่มลึก ทำให้จิตใจผู้คนขนลุกขนชัน

สุสานสมุทรฝังมรรค!

บนยานขนส่งอวกาศ หลินสวินมองปราดเดียวก็จำได้ ใกล้จะเข้าเขตทะเลที่สุสานสมุทรฝังมรรคปิดครอบอยู่แล้ว

ย้อนคิดถึงปีนั้น เขายังเป็นเพียงเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณคนหนึ่ง ตอนที่ข้ามทะเลกลืนวิญญาณมุ่งหน้ามาแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับจ้าวจิ่งเซวียน รวมถึงผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ ก็เคยเข้าไปในสุสานสมุทรฝังมรรคนั่นมาก่อน

จนกระทั่งตอนนี้หลินสวินยังไม่อาจลืมเขตแดนทะเลที่น่ากลัว ลึกลับ และพิสดารแถบนี้

ที่นั่นเงียบไร้เสียง ถูกพยับหมอกสีดำปิดครอบนานปี บนผิวทะเลสามารถมองเห็นโครงกระดูกเก่าแก่แตกหักลอยผลุบโผล่บางส่วนเป็นครั้งคราว ร่วงหล่นนานหมื่นกาลแต่ไม่เน่าสลาย

และมีแท่นบูชาลึกลับ สร้างขึ้นจากศิลาแปลกประหลาดหายากทุกรูปแบบ ยาวนานและเยียบเย็น เสมือนสืบเรื่อยมาจากอดีตกาลจวบจนปัจจุบัน

เมื่อทอดสายตามองไป ครรลองสายตาก็จะเกิดภาพมายา เหมือนดาวเคลื่อนดาราโคจร กาลเวลาผันเปลี่ยน หมื่นสิ่งหมื่นเรื่องราวแปรเปลี่ยน ทำให้จิตวิญญาณผู้คนเกือบจะจมจ่อมอยู่ในนั้น!

ว่ากันว่าแท่นบูชาเช่นนี้สามารถเคลื่อนย้ายข้ามมิติเวลา เคลื่อนย้ายระหว่างเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ขนย้ายผู้คนไปยังจุดหมายใดๆ ก็ตามที่อยากไป ถึงขั้นสามารถทำลายปราการระหว่างโลก ทะลุผ่านไปนอกห้วงอากาศฟ้าดารา ไม่มีที่ใดไปไม่ถึง!

ตอนนั้นสำหรับหลินสวินที่ยังเด็ก แท่นบูชาเช่นนี้เรียกได้ว่าไม่อาจจินตนาการอย่างแน่นอน เป็นดั่งศุภโชค ดุจดั่งวัตถุเทพชัดๆ

แต่สำหรับเขาในตอนนี้ รู้แน่ชัดแล้วว่าแท่นบูชานั่นก็แค่ค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณอย่างหนึ่งเท่านั้น

“ปีนั้น ข้าก็ได้รู้จักกับเจ้าคางคกที่ทะเลกลืนวิญญาณแห่งนี้”

บนหัวยานหลินสวินยิ้มพลางทอดมองไปไกลๆ สายตาเจือแววทอดถอนใจ “และก็เป็นปีนั้นที่ยามกลับจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แม่นางอาหูก็พาข้ากับเจ้าคางคกเข้ามาซ่อนตัวในสุสานสมุทรฝังมรรคนั่น ถึงหลบเลี่ยงการไล่ล่าสังหารครั้งใหญ่ไปได้”

อาหูฉีกยิ้มแฉ่ง

เจ้าคางคกกลับสีหน้าซับซ้อนอย่างหาได้ยาก จู่ๆ ก็กล่าวขึ้นว่า “พี่ใหญ่ ท่านยังจำได้หรือไม่ ข้าเคยบอกกับท่านว่าหลังจากข้าได้สติตื่นจากการหลับใหลในกาลเวลานับไม่ถ้วน ก็เอาแต่สัญจรอยู่ในเขตทะเลที่สุสานสมุทรฝังมรรคนั่นตั้งอยู่”

หลินสวินพยักหน้า เขาย่อมจำได้อยู่แล้ว

“ตอนนี้ ความทรงจำที่ถูกปิดผนึกแต่เดิมของข้าฟื้นคืนมาแล้ว”

เจ้าคางคกแววตาวูบไหวไม่นิ่ง “และในที่สุดก็เข้าใจ ว่าเหตุใดก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้วข้าถึงหลับอยู่ในเขตทะเลแถบนี้”

จากนั้นเจ้าคางคกก็เล่าเรื่องในอดีตของสุสานสมุทรฝังมรรคให้ฟัง

ช่วงสมัยดึกดำบรรพ์ จอมจักรพรรดิไร้นามนำพลังระเบียบต้องห้ามมาเยือนทางเดินโบราณฟ้าดารา ผ่านไปไม่นานก็เกิดศึกมรรคสิบทิศ

ดินแดนรกร้างโบราณ เดิมทีเป็น ‘แดนต้นกำเนิดหมื่นมรรค’ แต่เพราะผ่านศึกมรรคสิบทิศครั้งนี้จึงเสื่อมโทรมอย่างสิ้นเชิง

และโลกชั้นล่างนี้ก็วิวัฒน์ขึ้นจากต้นกำเนิดแกนหลักของ ‘ดินแดนรกร้างโบราณ’

หรือกล่าวได้ว่า โลกชั้นล่างต่างหากที่เป็นสถานที่ใจกลางที่สุดของ ‘แดนต้นกำเนิดหมื่นมรรค’!

ปีนั้นแปดดินแดนอื่นที่อยู่ในหมู่เก้าดินแดนเหมือนเช่นดินแดนรกร้างโบราณ ร่วมมือกันส่งทัพใหญ่ผู้ฝึกปราณเข้าร่วมในศึกมรรคสิบทิศ

สาเหตุก็เพื่อรุกราน ครอบครองสถานที่แห่งแดนต้นกำเนิดหมื่นมรรคอย่างดินแดนรกร้างโบราณ

เพื่อต้านจอมจักรพรรดิไร้นาม ผู้มากความสามารถของดินแดนรกร้างโบราณรวมพลกันอยู่เหนือกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ เปิดฉากการต่อสู้นองเลือดดุเดือดครั้งหนึ่ง

ขณะเดียวกันเพื่อจะต้านกองทัพพันธมิตรแปดดินแดน ผู้แข็งแกร่งอีกส่วนของดินแดนรกร้างโบราณรวมตัวกัน เข้าร่วมในสนามรบ เหิมฮึกสู้ศึกนองเลือด

สถานที่ที่ต่อสู้กัน ก็คือ ‘สุสานสมุทรฝังมรรค’ แห่งนี้!

ปีนั้นบรรพบุรุษของเจ้าคางคกเคยเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย น่าเสียดายกลับโชคร้ายประสบเคราะห์ในการต่อสู้

ก่อนที่จะประสบเคราะห์ บรรพบุรุษเผ่าคางคกทองสามคำผู้นี้ได้ซ่อนตัวอ่อนทายาทหนึ่งเดียวอย่างจินตู๋อีไว้ในส่วนลึกของสนามรบแห่งนี้ โดยใช้วิชาลับผนึกความทรงจำและกลิ่นอาย

เมื่อเข้าใจเรื่องเหล่านี้หลินสวินก็อดตกใจไม่ได้ คิดไม่ถึงเป็นอันขาดว่าสุสานสมุทรฝังมรรคถึงกับเป็นสนามรบแห่งหนึ่งในศึกมรรคสิบทิศ

อักทั้งยังเพื่อต้านทานศัตรูจากแปดดินแดนนั่นเป็นการเฉพาะ!

“นี่ไม่ได้หมายความว่าโครงกระดูกและวิญญาณอาฆาตในสุสานสมุทรฝังมรรคแห่งนี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งในกองทัพพันธมิตรแปดดินแดนเหลือทิ้งไว้หรอกหรือ” หลินสวินกล่าว

เจ้าคางคกพยักหน้า น้ำเสียงต่ำลึก “ปีนั้น ก็มีบุคคลเทียมฟ้ามากมายจากค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณร่วงหล่นในการต่อสู้อยู่ที่นี่”

เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าบรรพบุรุษของตน… ถึงกับตายจากการรุกรานของกองทัพพันธมิตรแปดดินแดนในศึกมรรคสิบทิศ!

“มิน่าที่แห่งนี้ถึงน่าสะพรึงพิสดารเช่นนี้ กาลเวลาไร้สิ้นสุดผ่านไป ยังคงมีโครงกระดูกและวิญญาณอาฆาตนับไม่ถ้วนรวมตัวอยู่ในนั้น…”

นัยน์ตาดำของหลินสวินลุ่มลึก

ก็ในเวลานี้เอง

บนเส้นทางเบื้องหน้า เหนือห้วงทะเลสีดำอันเงียบสงัดนั้น จู่ๆ เสียงเป่าเขาสัตว์ที่ต่ำลึก พิสดาร และสยดสยองสายหนึ่งก็ดังขึ้น

เหมือนดั่งกองทัพจากนรกเป่าเข่าสัตว์ส่งสัญญาณ หมายจะปรากฏตัวบนโลก

ขณะเดียวกันไอหมอกมืดสลัวที่ปิดครอบฟ้าดินก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ

พวกเขาเข้ามาในอาณาเขตที่สุสานสมุทรฝังมรรคปิดครอบแล้ว

……………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 2347 ความเป็นมาของสุสานสมุทรฝังมรรค"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์