Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2431 เก็บเกี่ยวอย่างต่อเนื่อง
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2431 เก็บเกี่ยวอย่างต่อเนื่อง
สีที่เข้มข้นราวกับเลือดลุกโชนซึมอยู่ในพื้นดินสีแดงสดไม่มีสิ้นสุดใต้ฝ่าเท้า
ในพื้นดินอันกว้างใหญ่ไพศาลและรกร้างนี้ ทางน้ำพุเหลืองเส้นหนึ่งยืดยาวไปยังส่วนลึก ที่อื่นๆ ล้วนถูกหมอกดำปกคลุม
แม้แต่จิตรับรู้ยังไม่สามารถมองทะลวงหมอกดำได้
จากคำแนะนำของนกกระจอกเขียว หลินสวินไม่ได้เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ แต่ทะยานอยู่บนทางน้ำพุเหลืองสีเลือดนี้
ความเร็วแน่นอนว่าไม่สามารถเทียบกับการเคลื่อนย้ายได้
แต่นี่กลับเป็นการกระทำที่มั่นคงและปลอดภัยที่สุด
ระหว่างทางหลินสวินรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ากลิ่นอายกลางฟ้าดินเย็นเยียบและรุนแรง เจือกลิ่นประหนึ่งคาวเลือด
ดุจดั่งแดนแห่งเลือดหลั่งริน และเหมือนสนามรบเก่าแก่ที่น่าอนาถ ในอากาศมีกลิ่นคาวเลือดที่ทำให้คนคลั่ง
หากเจตจำนงไม่มั่นคงแม้เพียงน้อย ก็อาจจะถูกกลิ่นอายคาวเลือดชักนำมารในใจ อารมณ์เสียการควบคุม กลายเป็นคนบ้าที่เข่นฆ่าอย่างบ้าคลั่งกระหายเลือด ถึงขั้นอาจจะธาตุไฟเข้าแทรก ทำลายฐานมรรค!
แม้เป็นหลินสวินยังจำต้องโคจรพลังปราณไปพลาง รักษาความกระจ่างของจิตมรรค และมุ่งหน้าอย่างระมัดระวัง
ตูม!
ทันใดนั้นในหมอกหนามืดทึบมีทหารนรกกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมา พวกเขาขี่ม้าศึกหมอกดำตัวใหญ่ ตาทั้งคู่ของม้าศึกดำสนิท ปากจมูกพ่นกระแสสีดำปานกัดกร่อน กลิ่นอายดุร้ายรุนแรง
และทั่วตัวทั้งบนและล่างของทหารนรกเหล่านี้ปกคลุมด้วยเกราะศึกสีดำ เผยเพียงดวงตาแดงก่ำที่แปลกประหลาดคู่หนึ่ง สาดประกายเย็นชาไร้ปรานี
ทั่วร่างของพวกเขาเต็มไปด้วยหมอกสีดำ ทุกคนสวมเกราะถืออาวุธคมกริบ มีสิบสามคน กลิ่นอายแต่ละคนล้วนไม่ด้อยกว่าระดับจักรพรรดิขั้นสาม
แต่กลับให้ความรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนเป็นร่างเดียวกัน กลิ่นอายของกันและกันผสานรวม อานุภาพดุร้ายที่เกิดขึ้นเหนือกว่าระดับจักรพรรดิขั้นสามมาก!
“ฆ่า!”
ทหารนรกทั้งกลุ่มตะโกน เสียงเป็นหนึ่งเดียวกัน กลิ่นอายเข่นฆ่าที่เหี้ยมโหดไร้ใดเปรียบแผ่ออกจากร่างของพวกเขา ปั่นป่วนพื้นที่แถบนี้
ฟึ่บ…
พวกเขาบังคับม้าก้าวเดิน ถึงกับเป็นการเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ ชั่วพริบตาก็มาถึงตรงหน้าหลินสวิน เกือกม้ายกชู เหยียบมาทางหลินสวินเต็มๆ
ส่วนทหารนรกที่อยู่บนหลังม้าก็แทงทวนสีดำในมือออกมา ดุดันรุนแรงราวกับสายฟ้า พลังน่ากลัวที่เผยออกมาบดขยี้ห้วงอากาศจนทรุดทลาย
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า คือทั่วร่างของพวกเขาถึงกับปลดปล่อยพลังแห่งมหามรรคที่ลึกลับอย่างที่สุด!
ภายใต้การโจมตีนี้ หลินสวินสีหน้านิ่งสงบ เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลับพุ่งออกมา ละอองแสงมหามรรคอันงดงามมากมายไหลเคลื่อน
ในเสียงปะทะดุเดือด ทหารนรกสิบสามคนรวมทั้งม้าศึกของพวกเขา ล้วนถูกกำราบระเบิดเป็นเสี่ยงๆ โดยพลันในชั่วขณะนี้ กลายเป็นหมอกสีดำและถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลืนกินจนหมดสิ้น
การโจมตีเดียว ทำลายทุกอย่างอย่างง่ายดาย กวาดล้างเหล่าศัตรู!
เพียงแต่หลินสวินกลับอึ้งไป การโจมตีนี้เขาออมมือไว้ เดิมตั้งใจจะหยั่งเชิงรากฐานรวมถึงความลึกลับของพลังที่ทหารนรกครอบครองสักหน่อย
ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายกลับระเบิดราวกับกระดาษเปื่อยตรงๆ!
ควรรู้ว่าแม้จะเป็นระดับจักรพรรดิขั้นสามก็ไม่มีทางอ่อนแอขนาดนี้ และศักยภาพเมื่อทหารนรกเหล่านี้ร่วมมือกันก็เหนือกว่าระดับจักรพรรดิขั้นสาม
แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกทำลายล้างเช่นนี้
‘เป็นพลังของแดนนรกที่สั่งสมในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง…’
ไม่ทันไรหลินสวินก็สังเกตเห็น ว่าในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งมีลายมรรคประหลาดซึ่งแฝงกลิ่นอายแดนนรกเป็นสายๆ ผลุบโผล่คล้ายมีแต่ไม่มี
หลังกลืนกินหมอกสีดำที่กระจายออกมาของทหารนรกสิบสามคนนั้น ลายมรรคประหลาดเหล่านี้แม้จะยังคงพร่าเลือน แต่เห็นได้ชัดว่าเริ่มชัดเจนขึ้นบ้างแล้ว
หลินสวินนับดูคร่าวๆ ลายมรรคประหลาดเหล่านี้มีทั้งหมดแปดสิบเอ็ดสาย ทุกสายล้วนแผ่กลิ่นอายของแดนนรก
‘ดูท่าว่าหลังจากมีลายมรรคประหลาดเหล่านี้ ทำให้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็มีอานุภาพข่มทหารนรกโดยธรรมชาติ มีเพียงเป็นเช่นนี้ถึงสามารถโจมตีทหารนรกเหล่านี้ให้ยับเยินได้ง่ายดายขนาดนั้น!’
หลินสวินเข้าใจแล้ว
เขาเรียกพลังนี้ว่า ‘พลังแห่งนรก’ ชั่วคราว
เรียกลายมรรคเหล่านั้นว่า ‘ลายมรรคนรก’
และแดนนรกที่ถูกระเบียบนิพพานดูดซับและวิวัฒน์ออกมา ถูกเรียกว่า ‘ระเบียบนรก’
“ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของเจ้าเปลี่ยนไปจากเดิมจริงๆ ด้วย” นกกระจอกเขียวส่งเสียงทอดถอนใจ ท่าทางเหมือนบอกว่า ต่อให้เจ้าไม่บอกข้า ข้าก็สามารถมองทะลุความมหัศจรรย์บางส่วนออก
หลินสวินยิ้มแล้วเดินหน้าต่อ
ไม่นานก็เจอทหารนรกอีกกลุ่มหนึ่ง ครั้งนี้จำนวนมากกว่า มีถึงสามสิบกว่าคน แต่ละคนเต็มไปด้วยความดุดัน ไอสังหารพลุ่งพล่าน
ระดับจักรพรรดิทั่วไปเผชิญสถานการณ์เช่นนี้จะต้องหนีทันทีอย่างแน่นอน ไม่กล้าเข้าต่อสู้
แต่ในเมื่อหลินสวินรู้ความวิเศษของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแล้ว จะพลาดโอกาสเช่นนี้ได้อย่างไร
ตูม!
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งพุ่งออกมา
เพียงไม่กี่พริบตา ทหารนรกทั้งกลุ่มก็ถูกฆ่าจนหมด หมอกดำหลังสิ้นชีพล้วนถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลืนกิน
หลินสวินสังเกตเห็นทันที ว่าลายมรรคนรกแปดสิบเอ็ดสายในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งปรากฏชัดขึ้นมาอีกขั้น
โดยเฉพาะลายมรรคนรกสายหนึ่งในนั้น มีสัญญาณว่าจะชัดเจนสมบูรณ์อยู่รางๆ!
และพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงของลายมรรคนรก อานุภาพของพลังแห่งนรกที่ปลดปล่อยออกมาก็พัฒนาขึ้นช่วงหนึ่ง
ผลเก็บเกี่ยวเช่นนี้ทำให้หลินสวินอดตื่นเต้นและคาดหวังไม่ได้ ตอนที่ลายมรรคนรกแปดสิบเอ็ดสายนี้ชัดเจนและสมบูรณ์แบบ จะเกิดการแปรสภาพอย่างไร
หลินสวินมุ่งหน้าต่อไปอย่างว่องไวอีกครั้ง
หนึ่งวัน
สองวัน
สามวัน
…พร้อมๆ กับเวลาที่ล่วงเลยไป ระหว่างทางหลินสวินพบเจอการโจมตีของทหารนรกอย่างต่อเนื่อง ที่น้อยหน่อยก็สี่ห้าคน มากหน่อยก็หลายสิบคน
สำหรับเหยื่อที่ส่งตัวเองมาถึงที่ หลินสวินย่อมไม่เกรงใจ ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกำจัดทั้งหมด
และจากที่ดูดซึมพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ลายมรรคนรกแปดสิบเอ็ดสายภายในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งผ่านการแปรสภาพสามวัน มีห้าสายที่สมบูรณ์แบบอย่างสิ้นเชิงแล้ว สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เหมือนปลาตัวเป็นๆ ห้าตัว เต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่ลึกลับคาดไม่ถึง ลายมรรคนรกอื่นๆ ไม่อาจเทียบได้
และอานุภาพในการกำราบทหารนรกของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็ยิ่งน่ากลัว ปรากฏพลังล้นหลามชัดแจ้ง!
……
“เจ้าหมอนั่นคงไม่ใช่มกุฎมหาจักรพรรดิที่มาจากเผ่าจักรพรรดิอมตะคนหนึ่งกระมัง”
บนทางน้ำพุเหลืองที่อยู่ด้านหลังหลินสวิน มีเงาร่างกลุ่มหนึ่งติดตามอยู่ไกลๆ
ในสามวันนี้พวกเขาติดตามอยู่ด้านหลังหลินสวินตลอดทาง ไม่ได้พบเจอการจู่โจมใดๆ เท่ากับว่าหลีกเลี่ยงเคราะห์สังหารต่างๆ ได้
นี่แน่นอนว่าพึ่งบารมีของหลินสวิน เขาประหนึ่งผู้บุกเบิกคนหนึ่ง ขจัดขวากหนาม กวาดล้างอุปสรรคให้กับผู้ฝึกปราณที่ติดตามอยู่ด้านหลัง
เพียงแต่ในขณะที่ได้ประโยชน์อย่างหนัก ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ก็ถูกพลังที่หลินสวินเผยออกมาทำเอาใจสะเทือนนานแล้ว จิตใจไม่สามารถสงบได้
ถึงตอนนี้สภาวะจิตของพวกเขาเปลี่ยนไปแล้ว เต็มไปด้วยความเคารพและหวาดเกรงหลินสวิน
“ไม่ว่าเขาเป็นใคร ก็ต้องเป็นพวกร้ายกาจเย้ยฟ้าที่พวกเราไม่อาจท้าทาย!”
มีคนพูดเสียงเคร่ง
“ระวังคำพูดหน่อย ตลอดทางพวกเราล้วนเอาเปรียบสหายยุทธ์คนนี้ ถึงขั้นเป็นไปได้สูงมากที่อีกฝ่ายจะพบร่องรอยของพวกเรานานแล้ว แต่ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาคร้านจะถือสาคนอย่างพวกเรา”
มีคนรุ่นอาวุโสคนหนึ่งเอ่ยพูดเสียงขรึม “ข้ามีคำแนะนำหนึ่ง หนทางหลังจากนี้ หากสหายยุทธ์คนนั้นประสบอันตรายที่ยากจะรับมือ พวกเราก็ควรช่วยเหลือ”
คำพูดดังกล่าวทำให้ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
แน่นอนว่าหลินสวินสัมผัสได้ถึงร่องรอยของผู้ฝึกปราณเหล่านี้นานแล้ว แต่เพราะเห็นว่าพวกเขาเพียงติดตามอยู่ไกลๆ ไม่ได้เผยเจตนาร้ายอะไร จึงไม่สนใจอีก
หลังจากเดินทางอยู่บนทางน้ำพุเหลืองเช่นนี้เจ็ดวันเต็ม
การเข่นฆ่าระหว่างทางทำให้ลายมรรคนรกแปดสิบเอ็ดสายในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง กลายเป็นลายมรรคที่สมบูรณ์แบบอีกเจ็ดสาย รวมกับก่อนหน้านี้ก็มีลายมรรคนรกที่สมบูรณ์แบบสิบสองสายแล้ว!
ผลเก็บเกี่ยวเช่นนี้ทำให้การเข่นฆ่าระหว่างทางของหลินสวินไม่น่าเบื่ออีกต่อไป กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกคาดหวังอย่างต่อเนื่อง
เพียงแต่ตลอดวันหลังจากนั้น กลับไม่ได้ผลเก็บเกี่ยวเลย ไม่เจอทหารนรกแม้แต่คนเดียว
สภาพผิดปกตินี้ทำให้หลินสวินอดขมวดคิ้วไม่ได้
คงไม่ใช่ว่ามีคนกวาดล้างทหารนรกระหว่างทางไปก่อนก้าวหนึ่งกระมัง
มีความเป็นไปได้อย่างมาก!
ควรรู้ว่าทางน้ำพุเหลืองมีเพียงเส้นเดียว กว้างไม่ถึงร้อยจั้ง หากมีผู้แข็งแกร่งเป็นขบวนเดินอยู่ข้างหน้า ทหารนรกที่เจอระหว่างทาง แน่นอนว่าจะต้องถูกผู้แข็งแกร่งเหล่านี้กำจัด
สำหรับระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ เดินอยู่ด้านหลังคนอื่นก็จะไม่เจออันตรายใดๆ เป็นการได้ประโยชน์อย่างไม่ต้องสงสัย และเป็นเรื่องที่โชคดีเรื่องหนึ่ง
ทว่าสำหรับหลินสวิน กลับเป็นสิ่งที่แย่อยู่บ้าง
เพราะนี่หมายความว่า จะไม่สามารถรวบรวมพลังที่ทำให้ลายมรรคนรกเกิดการแปรสภาพได้อีก!
เขาจะดีใจได้อย่างไร
หลินสวินเร่งฝีเท้าทันที
ไม่นาน
จู่ๆ หลินสวินก็สังเกตเห็น ว่าส่วนลึกของหมอกสีดำที่อยู่ห่างออกไปมีคลื่นการต่อสู้อลหม่านและดุเดือด!
ที่ตรงนั้นเหมือนจะมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เกิดขึ้น
“เป็นเช่นนี้ดังคาด” หลินสวินพิสูจน์การคาดเดาในใจได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
สวบ!
จากนั้นตัวเขาก็กลายเป็นรุ้งสายหนึ่ง พุ่งไปยังจุดที่เกิดคลื่นการต่อสู้
“ฆ่า!”
เสียงเข่นฆ่าดุเดือดทะลวงฟ้า ปั่นป่วนเมฆลม ราวกับเทพมารกำลังคำราม
“ฆ่า!”
วิชามรรคน่าสะพรึงต่างๆ ผสมปนเปกับสมบัติหลากสี ระเบิดแสงประกายที่รุนแรงแสบตา ส่องสว่างเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน
“ฆ่า!”
เงาร่างมากมายต่อสู้กันกลางฟ้าดิน เห็นได้ชัดว่ามาจากขุมอำนาจเดียวกัน เคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้
ภาพตรงหน้าเหมือนสนามรบที่ดุเดือดอย่างที่สุด เลือดสดสาดกระเซ็น สมบัติปลิวว่อน วิชามรรคน่ากลัวแผ่พุ่ง แสงประกายระเบิดออกมาไม่หยุด
ตอนที่หลินสวินไปถึงก็ได้เห็นภาพเช่นนี้ สัมผัสถึงกลิ่นอายน่หดหู่ที่ปะทะเข้ามา ในใจอดเคร่งขรึมไม่ได้
คู่ต่อสู้ของระดับจักรพรรดิเหล่านั้น คือทัพใหญ่ทหารนรกที่แม่ทัพนรกคนหนึ่งเป็นผู้นำ ทหารนรกนับร้อยพันขี่ม้าศึก เข่นฆ่าอยู่ในพยับหมอกดำ
แม่ทัพนรกนั่นน่ากลัวที่สุด แสงมรรคสีเลือดที่แดงเข้มไหลหลั่งจากเสื้อเกราะทั้งร่าง ในมือถือทวนใหญ่สีดำ อานุภาพทั้งร่างดุดัน ทำเอาเมฆลมเปลี่ยนสี
อย่างน้อยก็เทียบเท่าบรรพจารย์ขั้นเก้าแล้ว!
ส่วนทัพใหญ่ทหารนรกเหล่านั้นก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน รวมตัวกัน ผสานกลิ่นอายของกันและกัน ร่วมมือกันอย่างรู้ใจ ยามพุ่งทะยานเข่นฆ่า ถึงขั้นรวมเป็นกระบวนสังหารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ทหารนรกทุกคนล้วนเหี้ยมหาญไม่กลัวตาย ทุกครั้งที่โจมตีล้วนน่ากลัวไร้ขอบเขต ราวกับสามารถฟันห้วงอากาศแหลกละเอียด ลบล้างจักรวาล
หากเป็นทหารนรกไม่กี่สิบคน แน่นอนว่ารับมือได้ง่ายก แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือทหารนรกเป็นร้อยเป็นพัน แน่นขนัดท่วมฟ้าดิน สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนหนังหัวชาวาบ!
บวกกับมีแม่ทัพนรกคนหนึ่งควบคุมสถานการณ์ ต่อให้เป็นบรรพจารย์ขั้นเก้า สังหารจนหมดแรงก็ไม่แน่ว่าจะฆ่าหมดได้ ถึงขั้นอาจจะเหนื่อยตายอยู่ในนั้น!
——