Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2572 หนึ่งกระบี่จู่โจมมา
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2572 หนึ่งกระบี่จู่โจมมา
ตอนที่ 2572 หนึ่งกระบี่จู่โจมมา
“อ๊าก…”
มู่เจียงซานที่ร่างถูกหมัดเดียวซัดกระจุยเจ็บปวดหาใดเทียบ ต่อให้เขาสร้างกายมรรคขึ้นใหม่ได้ทันใด แต่หมัดนี้ก็ทำให้ต้นกำเนิดของเขาบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจฟื้นตัวได้ทันทีอยู่แล้ว
ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือคงเจวี๋ยไม่ได้หยุดลงมือ
ตูม!
คงเจวี๋ยที่ออกตัวโจมตีประหนึ่งจอมเทพเคลื่อนทัพ สวรรค์สามสิบสามชั้นรอบกายเคลื่อนคล้อย เสียงท่องคัมภีร์ประหนึ่งอสนีสะท้านสี่ทิศ
เขายังคงปล่อยหมัดอย่างเรียบง่ายและอหังการ เพียงแต่คราวนี้พลังหมัดมหาศาลยิ่งขึ้น เหนี่ยวนำอานุภาพเทพของสรรพสิ่งในจักรวาลฟ้าดินมาด้วย
ระดับอมตะเหล่านั้นต่างลงมือ หมายจะต้านการจู่โจมของคงเจวี๋ย
เกิดเสียงดังโครม นี่เป็นจิตหมัดอันไร้ศัตรูใดเทียบเทียม พลังทำลายล้างรุนแรง ขจัดสิ่งกีดขวางทั้งปวง ระดับอมตะเหล่านั้นยังถูกซัดจนถอยหลังโซเซ
ที่ตามมาติดๆ…
ปึง!
มู่เจียงซานที่เพิ่งฟื้นตัวร้องลั่น เกิดรอยแตกไปทั้งตัว หมัดนี้ทำลายแขนเขา หนึ่งหมัดทะลวงทรวงอก เลือดสดๆ สาดกระเซ็นย้อมห้วงอากาศให้เป็นสีแดง
นี่เป็นภาพอันน่าเหลือเชื่อ ทำให้หลายคนยังใจสั่น
นี่เป็นดั่งตำนานเทพ แค่สองหมัดก็ซัดทะลวงระดับอมตะขั้นดับเทพผู้หนึ่งได้ แข็งกร้าวอหังการ เป็นเลิศเพียงผู้เดียว
ถึงตอนนี้มู่เจียงซานกายสิ้นมรรคสลาย ไม่อาจฟื้นคืนมาได้อีก!
“รีบขวางเขาไว้!”
“ฆ่า!”
ศึกใหญ่ปะทุขึ้น ทุกคนลงมือพร้อมกัน เรียกเอาวิชาสมบัติออกมา ชั่วพริบตาเดียวห้วงอากาศโดยรอบก็ยุ่งเหยิง ฟ้าดินประหนึ่งแรกกำเนิด ที่นี่กำลังจะระเบิดออกแล้ว
การตายของมู่เจียงซานกระตุ้นระดับอมตะเหล่านั้นอย่างแรงกล้า ต่างลงมืออย่างบ้าคลั่ง ไม่หลบไม่ซ่อนอีกต่อไป ใช้อภินิหารที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตนี้
คงเจวี๋ยสีหน้าเรียบเฉย เหยียบห้วงอากาศจู่โจมไปข้างหน้า ทุกอิริยาบถล้วนเปี่ยมไปด้วยอานุภาพมหาศาล ขยับเบาๆ ก็พิชิตกระบวนท่าที่สามารถสะท้านหมื่นกาลเหล่านั้นได้ แข็งกร้าวจนน่าเหลือเชื่อ
ถ้าไม่ได้เห็นกับตา กระทั่งหลิงเสวียนจื่อกับหลินสวินยังไม่กล้าเชื่อว่าเมื่ออาจารย์อาของพวกเขาผู้นี้ตื่นขึ้น จะแข็งแกร่งได้ปานนี้
ชิ้ง!
ปราณกระบี่เลิศล้ำผุดขึ้นกลางนิ้วมือจงหลีเจวี๋ย สามารถฟันสุริยันจันทราดาราให้ร่วงหล่น เมื่อกระบี่นี้พุ่งทะลุเมฆา ขนาดเวิ้งฟ้ายังถูกสะบั้น
แต่ยังไม่อาจต้านพลังหมัดของคงเจวี๋ยไว้ได้ ปราณกระบี่นั้นถูกบดขยี้รุนแรง กลายเป็นละอองแสงสาดกระเซ็นไร้สิ้นสุด
มิหนำซ้ำพลังหมัดอันน่ากลัวนั้นยังทำลายสิ่งกีดขวางทั้งปวง มาถึงเบื้องหน้าเขาและระเบิดร่างเขาให้กระจุยอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างว่องไวหาใดเทียบ
ภายใต้หมัดนี้ ผู้แข็งแกร่งอย่างจงหลีเจวี๋ยยังเหมือนกระดาษเปื่อย สมบัติป้องกันและพลังทั้งหมดถูกตีพ่าย ตัวเขาระเบิดออกกลางอากาศกลายเป็นหมอกโลหิต
สิ่งนี้สะท้านสะเทือนทุกคน กะทันหันเกินไปแล้ว
มู่เจียงซานเหิมเกริมไม่หวั่นเกรงมาทั้งชีวิต ทะลวงสู่ขั้นดับเทพ กลับถูกซัดระเบิดกระจุย สิ้นชีพลงที่นี่
จงหลีเจวี๋ยที่ร้ายกาจดุดัน บัดนี้ยังถูกสังหารเช่นกัน กายเนื้อแหลกละเอียด
บุคคลเช่นนี้สิ้นชีพไปต่อเนื่อง จะไม่น่าตื่นตะลึงไม่ทำให้คนตาค้างได้อย่างไร คนจำนวนมากหวาดผวายิ่งนัก ความแข็งแกร่งของคงเจวี๋ยทำให้ระดับอมตะที่อยู่ที่นั่นต่างหนาวเยือกเหมือนตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง
เรื่องนี้น่ากลัวนัก คนเหล่านั้นล้วนเป็นบุคคลผู้มีพรสวรรค์ เป็นยักษ์ใหญ่ในน่านฟ้าที่แปด มีชีวิตมาเนิ่นนาน ผ่านการขัดเกลาจากโลหิตและเพลิงศึกมานับไม่ถ้วน เป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
แต่คงเจวี๋ยกลับฆ่าพวกเขาได้โดยไม่ยากเย็น ทั้งยังไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนที่ไม่อาจแบกรับ สังหารทันควัน ปราดเปรียวตรงไปตรงมา น่าเขย่าขวัญ
คงเจวี๋ยที่อยู่ในสนามรบยืนตัวตรง โลกสามสิบสามชั้นอุบัติขึ้นโดยรอบ โคจรเคลื่อนคล้อยอยู่รอบตัวเขาประหนึ่งวงแสงไหลเวียน เห็นได้ว่าภาพในโลกใบใหญ่แห่งแล้วแห่งเล่ามีสิ่งมีชีวิตสรรเสริญ มารเทพก้มกราบ หมื่นวิญญาณสักการะ ลึกลับและเหนือธรรมดา
นี่เป็นพลานุภาพอันน่าเหลือเชื่ออย่างหนึ่ง เกินกว่าจินตนาการและการรับรู้ของผู้คน
แต่ก็ในตอนนี้เอง เงาร่างคงเจวี๋ยพลันเกร็งกระตุก หยุดชะงักอยู่กลางอากาศ ความเจ็บปวดและคับข้องใจปรากฏขึ้นบนสีหน้า สายตายังมีแววดิ้นรน
หลิงเสวียนจื่อกับหลินสวินสะดุดกึกในใจ ลอบร้องว่าแย่แล้ว โรคเก่าของอาจารย์อาคงไม่ได้จะกำเริบอีกใช่ไหม
“ฆ่า!”
และเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ พวกฉีเทียนหลินที่ยังพรึงเพริดไม่หยุดก็เหมือนคว้าโอกาสงามได้ ลงมืออย่างไม่ลังเล
ตูม!
ระฆังตงหวงส่งเสียงดังสนั่น แสงมงคลสาดกระจาย กระแทกกับร่างคงเจวี๋ยอย่างจัง ฝ่ายหลังถูกซัดจนเซถอหลัง ร่างกายโชกเลือดในทันที
ภาพเช่นนี้ทำให้พวกฉีเทียนหลินใจเต้นไม่หยุด สภาวะจิตของเจ้าเฒ่านี่ไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นมาจริงๆ ตามคาด!
“คงเจวี๋ย ตายเสียเถอะ!”
ชื่อชางหุนหัวเราะลั่น สะบัดแส้คร่าวิญญาณฟาดไปอย่างแรงเหมือนรุ้งเทพสายหนึ่ง
แต่การโจมตีนี้กลับถูกคงเจวี๋ยยื่นมือคว้าเอาไว้
เพียงพบว่าคงเจวี๋ยสีหน้าเหี้ยมเกรียม แววตาดุร้าย แต่เผยแววแน่วแน่เอ่ยขึ้นว่า “ต่อให้สภาวะจิตพังลงอีกครั้ง จะฆ่าพวกเจ้าให้ตายก็ง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือ!”
ชื่อชางหุนนัยน์ตาหดรัด ลอบร้องว่าแย่แล้ว
ตูม!
ทันใดนั้นบนแส้คร่าวิญญาณก็เปล่งอานุภาพไร้ใดเปรียบออกมา ซัดจนแขนซ้ายของชื่อชางหุนที่ถือแส้ยาวอยู่แทบระเบิดกระจุย ต้องปล่อยมือออกทันที
เผียะ!
คงเจวี๋ยสะบัดข้อมือ พอแส้คร่าวิญญาณกระแทกลงมา ชื่อชางหุนยังไม่ทันหลบก็ถูกฟาดที่ตัวอย่างแรงแล้ว
น้ำเลือดสาดกระเซ็น ชื่อชางหุนส่งเสียงโหยหวนเจ็บปวด จิตวิญญาณแทบถูกแส้นี้ตบกระจุย
ตูม!
ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ตงหวงคงควบคุมระฆังตงหวง ฉีเทียนหลินซัดศิลาเทพเก้าสีออกมาประกบโจมตีคงเจวี๋ยจากสองทาง
คงเจวี๋ยไม่ได้หลบหนี ใช้ร่างเข้าปะทะ ท่ามกลางเสียงกระแทกดังลั่นจนหูแทบดับ เขาได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ร่างกายถูกตีแตก กระดูกโผล่ออกมา น้ำเลือดซัดสาดเป็นน้ำตก
แต่ถือโอกาสนี้เขากลับก้าวไปข้างหน้าอย่างดุดันหาใดเทียบ พลันยื่นมือออกไปฉีกฟ้ากว้าง คว้าตัวชื่อชางหุนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงนั้นไว้ในมือใหญ่
“ไม่….” ชื่อชางหุนร้องลั่นตะลึงพรึงเพริด ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง
แต่สุดท้ายก็เปลืองแรงเปล่า พอมือใหญ่ของคงเจวี๋ยออกแรง ตัวเขาก็เหมือนแมลงที่ถูกบี้แหลกอย่างรุนแรง ร่างกายกับพลังจิตระเบิดปนกันในน้ำเลือดสีแดงฉาน
ระดับอมตะขั้นดับเทพเช่นนี้ผู้หนึ่ง ถึงกับถูกบีบกระจุย!
ภาพอันอหังการนองเลือดนั้นขับให้คงเจวี๋ยเป็นดั่งเทพมารตนหนึ่ง
แต่หลิงเสวียนจื่อกับหลินสวินกลับดีใจไม่ออก เพราะคงเจวี๋ยในตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว ไม่อาจมองสถานการณ์ในแง่ดีได้ มิหน้ำซ้ำกลิ่นอายของเขายังยุ่งเหยิงดุร้ายถึงขีดสุด คล้ายจะพังทลายลงโดยสมบูรณ์เมื่อไรก็ได้
“อาจารย์อา ข้ามาช่วยท่าน!”
หลิงเสวียนจื่อกระโจนออกไปทันที เรียกเอาเจดีย์ไร้สิ้นสุดกับสามพันเคลื่อนคล้อยออกมาโจมตีไปที่ฉีเทียนหลิน
ตอนนี้ชื่อชางหุน มู่เจียงซานและจงหลีเจวี๋ยถูกฆ่าตายหมดแล้ว เหลือแต่ฉีเทียนหลินกับตงหวงคง สถานการณ์เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงนานแล้ว
“หึ!”
ฉีเทียนหลินกระตุ้นศิลาเทพเก้าสี พลานุภาพน่ากลัว เข้าต่อสู้ดุเดือดกับหลิงเสวียนจื่อ
และอีกด้านหนึ่ง คงเจวี๋ยที่แววตาคลุ้มคลั่งเปี่ยมไปด้วยความดุร้ายก็คล้ายได้รับความเจ็บปวดยิ่งยวด ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้เขาก็ยังเคลื่อนไหวผ่านห้วงอากาศ ทะยานไปหาตงหวงคงอย่างองอาจ
ตูม!
เขาแกว่งหมัดสังหารคล้ายจะระเบิดห้วงอากาศ พลังหมัดเช่นนั้นสะเทือนอดีตปัจจุบันได้จริงๆ
ตงหวงคงต่อต้านเต็มกำลัง ตั้งรับด้วยการรุกโจมตี ระฆังตงหวงส่งเสียงหึ่งไม่หยุด แม้จะถูกพลังหมัดของคงเจวี๋ยกดข่มแต่ยังไม่ถูกพิชิตไปในช่วงสั้นๆ
สาเหตุก็เพราะแม้พลังของคงเจวี๋ยในตอนนี้จะน่ากลัวไร้สิ้นสุดเช่นเคย แต่สติกระเจิงอย่างเห็นได้ชัด ถึงกับให้โอกาสตงหวงคงได้หายใจ
“เจ้าเฒ่า รอเจ้าสภาวะจิตพังพินาศก็จะเป็นเวลาตายของเจ้า” ตงหวงคงตะคอกลั่น แววตาเหี้ยมเกรียมจนน่ากลัว
คงเจวี๋ยไม่สนใจ หรือพูดได้ว่าไม่อาจวอกแวกได้สักนิด สภาวะจิตของเขากำลังจะคลุ้มคลั่งเสียการควบคุมอยู่รอมร่อ ทำให้สติสัมปชัญญะยังพร่าเลือน ตอนนี้พยุงสติให้แจ่มกระจ่างได้เพียงนิดเดียว
ในระหว่างที่ต่อสู้ กระบวนท่าของเขาถึงกับเสียแบบแผน โจมตีมั่วไปหมด
นี่ทำให้ตงหวงคงยิ่งสงบใจลง ถึงกับเริ่มโจมตีกลับ ฉวยโอกาสเล่นงานจุดอ่อนเป็นพักๆ ทำให้คงเจวี๋ยได้รับบาดเจ็บไม่หยุด
“คราวนี้ยังจะมีใครมาช่วยพวกเจ้าได้ไหม” ตงหวงคงเอ่ยอย่างเย็นชา
ตูม!
ทันใดนั้นคลื่นปะทะรุนแรงก็ทะยานมาแต่ไกล มีน้ำเลือดสาดกระเซ็นตามมาติดๆ
ตงหวงคงนัยน์ตาหดรัดทันที
เพราะตอนนี้ฉีเทียนหลินถึงกับบาดเจ็บในการต่อสู้ที่อยู่ไม่ไกล ถูกเจดีย์ไร้สิ้นสุดซัดร่างกระจุย เหลือเพียงพลังจิตที่หนีออกมาได้
“นี่…” ตงหวงคงแทบไม่กล้าเชื่อ
“พลังแห่งกาลเวลา! พลังแห่งกาลเวลา!” พลังจิตของฉีเทียนหลินส่งเสียงกราดเกรี้ยวดังลั่น
นี่ย่อมเป็นประสิทธิภาพพิเศษของการใช้อภินิหารหยุดเวลาของหลินสวิน โจมตีฉีหลิงเทียนตอนไม่ทันตั้งตัว ถล่มร่างเขาจนแหลกร่วมกับหลิงเสวียนจื่อ
และในตอนนี้ฉีเทียนหลินที่สูญเสียกายเนื้อไปก็หนีออกมาทันที
แต่สายไปก้าวหนึ่งแล้ว
ตูม!
สามพันเคลื่อนคล้อยแปลงเป็นภาพเสี้ยวจันทร์สามดาราแผ่ขยายออกมาผนึกห้วงอากาศที่อยู่รอบกายเขา และหลิงเสวียนจื่อถือเจดีย์ไร้สิ้นสุดโจมตีเข้ามาแล้ว
ทันใดนั้นพลังจิตของฉีเทียนหลินก็ถูกบดขยี้เป็นผุยผง หายลับไปในห้วงอากาศ
เหตุการณ์ต่อเนื่องนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา เร็วจนน่าเหลือเชื่อ
ตงหวงคงถูกกระตุ้นด้วยภาพนี้ นี่… จะสู้อย่างไรอีก
คงเจวี๋ยอาจจะสูญเสียพิษสงไป แต่หลิงเสวียนจื่อผู้นั้นยังไม่อาจดูเบาได้เช่นเคย!
“อาจารย์อา เจ้าเฒ่านี่ให้ข้าจัดการเถอะ ท่านรีบกลับมา!”
หลิงเสวียนจื่อถลามา ไอสังหารพลุ่งพล่าน บนใบหน้าหล่อเหลาของเขามีแต่ความชิงชัง ขณะที่พูดก็กระตุ้นเจดีย์ไร้สิ้นสุดไปโจมตีตงหวงคง
เคร้ง!!
ท่ามกลางเสียงปะทะสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ระฆังตงหวงรับการโจมตีของเจดีย์ไร้สิ้นสุดไว้
แต่ขณะเดียวกันคงเจวี๋ยก็ส่งเสียงคำรามลั่น ตะบึงออกมากระแทกหมัดใส่ตงหวงคงด้วยเช่นกัน
พลังหมัดไร้เทียมทานพุ่งปะทุ ต่อให้ตงหวงคงใช้พลังทั้งหมดเข้าต่อต้าน สมบัติป้องกันตัวและวิชามรรคบนตัวเขาก็ระเบิดกระจุยกระจายเหมือนเศษกระดาษ
ส่วนตัวเขาก็ถูกหมัดนี้ชกจนร่างแตกระแหง กระดูกหักสะบั้น ร่างกระเด็นถอยหลังออกไปอย่างรุนแรง
หลิงเสวียนจื่อคว้าโอกาสนี้ไว้มั่น เข้าประจันหน้าทันควัน ใช้เจดีย์ไร้สิ้นสุดเข้ากำราบตงหวงคงในยามที่เขายังยืนไม่มั่น ประหนึ่งคีรีเทพร่วงหล่นจากฟ้า
ตูม!
ฟ้าถลมดินแตกระแหง ห้วงอากาศยุ่งเหยิง
สุดท้ายระดับอมตะขั้นดับเทพอย่างตงหวงคงก็ไม่อาจมีโอกาสสังหารคงเจวี๋ย กลับถูกคงเจวี๋ยและหลิงเสวียนจื่อร่วมมือกันฆ่าตายคาที่ ร่างกายกับพลังจิตยังกลายเป็นธุลีปลิว หายลับไปจนสิ้นในการสังหารนั้น
“สำเร็จแล้ว!”
หลิงเสวียนจื่อถอนหายใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก
หลินสวินที่ได้รับการคุ้มครองอยู่ด้านหลังเขามาตลอดยังพ่นลมหายใจยาวอย่างอดไม่ได้
แต่ยังไม่ทันให้ทั้งสองได้ดีใจ
ชิ้ง!
เสียงกระบี่อันเย็นเยียบน่ากริ่งเกรงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น สะเทือนไปในจักรวาลแห่งนี้
สิ่งที่ไวกว่าเสียงก็คือกระบี่บินเล่มหนึ่งเคลื่อนตัวไหววูบมาอย่างแผ่วเบาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ประหนึ่งแสงเคลื่อนที่ตัดผ่านกาลเวลา
ฟุ่บ!
กระบี่นี้ ทะลวงผ่านร่างคงเจวี๋ย
——