Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2709 วางแผน
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2709 วางแผน
ตอนที่ 2709 วางแผน
ในเก้ายอดเขาใหญ่ของลัทธิแรกกำเนิด อันดับไม่ได้ตายตัว
อย่างยอดเขาแท่นบัว ‘ยอดเขาที่เก้า’ ในตอนนี้ เพราะอันดับรั้งท้ายจึงถูกขนานนามว่ายอดเขาที่เก้า
มิหนำซ้ำชื่อเรียกนี้ก็อยู่กับยอดเขาแท่นบัวมานานหลายปีแล้ว
หากอยากเปลี่ยนชื่อก็ง่ายนัก ทุกพันปีระหว่างศิษย์แกนหลักเก้ายอดเขาใหญ่ของลัทธิแรกกำเนิด จะมีการ ‘ถกมรรคเก้ายอดเขา’
ตอนนั้นจะจัดอันดับใหม่ตามความสามารถที่ศิษย์แกนหลักของแต่ละยอดเขาสำแดงออกมาในการถกมรรค
แน่นอนว่าในการถกมรรคเก้ายอดเขาในอดีตหลายครั้ง ยอดเขาแท่นบัวแสดงความสามารถได้ไม่ดีพออยู่เสมอ ถึงทำให้อันดับของยอดเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนถึงตอนนี้…
ถ้าแบ่งด้วยศักยภาพโดยรวม ยอดเขาแท่นบัวย่อมอยู่ต่ำสุดในเก้ายอดเขาใหญ่
ดังนั้นพอเห็นว่าผู้สืบทอดที่ผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้พามาคราวนี้ถึงกับเป็นหลินสวิน ผู้อาวุโสและผู้สืบทอดยอดเขาที่เก้าเหล่านั้นจึงรู้สึกผิดคาดทันที
พวกเขาได้รู้เรื่องการทดสอบสามรอบหมดแล้ว จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหลินสวินเป็นคนที่เย้ยฟ้าปานไหน
แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะเลือกมายังยอดเขาที่เก้าที่อันดับต่ำที่สุด…
มีเพียงบุคคลระดับผู้อาวุโสเหล่านั้นที่พอจะเดาอะไรได้อยู่กลายๆ ในใจทั้งยินดีและเป็นวิตก
ที่ยินดีก็คือ มีหลินสวินเข้าร่วมยอดเขาที่เก้า ภายหน้าจะกังวลไปไยว่าอันดับของยอดเขาที่เก้าจะไม่เปลี่ยนแปลง
ที่วิตกก็คือเรื่องวุ่นวายของหลินสวินเหมือนจะมีมากไปหน่อย ดึงยอดเขาที่เก้าให้พลอยติดร่างแห่ไปด้วยได้ง่ายนัก….
ฉินอู๋อวี้ไม่ได้อธิบายอะไร หลังจากพาหลินสวินมาถึงยอดเขาก็เอ่ยว่า “ผู้อาวุโสโม่ เจ้ารู้จักกับหลินสวินมาก่อน ก็ฝากให้เจ้าจัดแจงแล้วกัน”
พูดจบก็หันหลังจากไป
ทุกคนต่างงุนงง รู้สึกเหมือนผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้ไม่ได้ดีใจที่หลินสวินเข้าร่วมนัก
โม่หลันซานยิ้มเอ่ยปากว่า “สหายน้อยหลินสวิน ยินดีที่เจ้าผ่านการทดสอบและเข้าสู่ยอดเขาที่เก้าของพวกเรา ตั้งแต่วันนี้เจ้าก็เป็นผู้สืบทอดของยอดเขาแท่นบัวของเราแล้ว”
“พี่หลิน ภายหน้าพวกเรามาฝึกปราณด้วยกันได้แล้ว” เย่ฉุนจวินโบกมือ รอยยิ้มเบิกบาน เขาดีใจกับการมาของหลินสวินนัก
“พี่หลิน ยังจำข้าได้ไหม คราวก่อนที่เขตผนึกเร้นพวกเราเคยพบหน้ากัน” หญิงสาวผู้มีหน้าตาสะสวย ผมงามเกล้าเป็นมวยเล็กๆ มวยหนึ่ง แววตามีชีวิตชีวายิ้มแต้เอ่ยปาก เสียงอ่อนหวานนุ่มนวล ไพเราะรื่นหูนัก
หลินสวินจำอีกฝ่ายได้ นางมีนามว่าฉินรั่วหลิง บิดาของนางก็คือผู้นำยอดเขาที่เก้าฉินอู๋อวี้
ข้างกายฉินรั่วหลิงยังมีชายหนุ่มยืนอยู่สองสามคน เป็นเมิ่งเฮ่าเฉิน จั๋วหลิ่นและฮวงมู่จี้ที่เคยพบก่อนหน้านี้
คนอื่นกลับไม่คุ้นหน้าค่าตานัก
แต่พอโม่หลันซานแนะนำ ก็ทำให้หลินสวินเข้าใจสถานการณ์ของยอดเขาที่เก้าเป็นอย่างดี
ยอดเขาที่เก้า นอกจากผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้แล้ว ยังมีผู้อาวุโสที่มีโม่หลันซานรวมอยู่ด้วยอีกสามคน ล้วนมีมรรควิถีระดับอมตะ
ศิษย์สืบทอดแท้จริงมีสิบห้าคน
ศิษย์แกนหลักมีห้าคน
รวมหลินสวินที่เพิ่งเข้ายอดเขาที่เก้า ศิษย์สืบทอดแท้จริงเพิ่งมีแค่สิบหกคน
ความจริงที่หลินสวินต้องเผชิญก็คือ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนศิษย์หรือผู้อาวุโส ยอดเขาที่เก้ามีน้อยที่สุดในเก้ายอดเขาใหญ่
อย่างยอดเขาที่หนึ่ง แค่ผู้อาวุโสก็มีเก้าคนแล้ว!
จำนวนศิษย์แกนหลักกับศิษย์สืบทอดแท้จริงในสังกัด รวมกันแล้วยังมีอยู่ห้าสิบคน เป็นเท่าหนึ่งของยอดเขาที่เก้า!
ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่แปลกที่ในการถกมรรคมรรคเก้ายอดเขาในอดีต อันดับของยอดเขาที่เก้าจะรั้งท้ายมาตลอด ช่วยไม่ได้ เพราะผู้สืบทอดมีน้อยเกินไป
……
ตั้งแต่วันนี้หลินสวินกลายเป็นศิษย์สืบทอดแท้จริงของยอดเขาที่เก้า มีถ้ำสวรรค์แดนมงคลของตัวเองในยอดเขาแท่นบัว
ผลประโยชน์ที่ศิษย์สืบทอดแท้จริงได้รับ ก็คือแต่ละเดือนจะได้รับ ‘แกนเทพอมตะ’ หนึ่งพันชั่ง เจตวัตถุอมตะหนึ่งร้อยชั่ง โอกาสได้เข้าไปยืมอ่านคัมภีร์มรดกที่ ‘เขาตำรา’ รวมถึงสวัสดิการจิปาถะอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง
ในกลุ่มนั้นแกนเทพอมตะล้ำค่าที่สุด นี่เป็นทรัพยากรฝึกปราณที่คล้ายผลึกต้นกำเนิดจักรวาล แต่ผลึกต้นกำเนิดจักรวาลเทียบค่าไม่ติด
เพราะสมบัติชั้นนี้ถือกำเนิดในบ่อเกิดแรกกำเนิดกลางจักรวาลแห่งหนึ่ง เพียงพอตอบสนองความต้องการในการฝึกปราณของระดับอมตะ!
ต่อให้เป็นในขุมอำนาจอมตะในน่านฟ้าที่เจ็ด แกนเทพอมตะยังเรียกได้ว่าเป็นสมบัติชั้นหนึ่ง มีเพียงระดับอมตะถึงมีสิทธิ์ใช้ได้
แต่ลัทธิแรกกำเนิดกลับเอามาให้ศิษย์สืบทอดแท้จริงระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิใช้ฝึกปราณ แค่คิดก็รู้ว่าหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดอู้ฟู่ขนาดไหน รากฐานน่าตื่นตะลึงเกินธรรมดา!
เจตวัตถุอมตะก็สูงค่า เป็นสิ่งจำเป็นในการหลอมสมบัติ แต่ละเดือนได้รับหนึ่งร้อยชั่ง สิทธิพิเศษขั้นนี้ก็เรียกได้ว่าดียิ่งนัก
และ ‘เขาตำรา’ ก็คือที่ตั้งของหอเก็บตำราในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด มีหอแรกพิสุทธิ์ดูแลมาตลอด
ตำราคัมภีร์ที่เก็บอยู่ในนั้นมหาศาลดุจทะเลควัน รวมคัมภีร์และมรดกฝึกปราณต่างๆ จากทั่วหล้า ถึงกับยังเก็บตำรายุคก่อนไว้มากมายอีกด้วย!
แน่นอนว่าสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดก็คือ ลือกันว่าในเขาตำรามีมรดกอมตะเก็บเอาไว้อยู่!
ทั้งโลกยอดนิรันดร์แทบไม่พบมรดกอมตะ เพราะวิธีแจ้งมรรคอมตะของแต่ละคนแตกต่างกัน มหามรรคที่เสาะแสวงก็ต่างกันไป แทบไม่มีทางแปลงนัยเร้นลับระดับอมตะเป็นมรดกที่ถ่ายทอดได้สักนิด
แต่ในเขาตำราของลัทธิแรกกำเนิดกลับมีมรดกอมตะเช่นนี้!
แค่จุดนี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว ว่าเหตุใดสถานะของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดจึงเหนือธรรมดาได้ขนาดนี้
‘เสียดายก็แค่มรดกในเขาตำราไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ยืมอ่านได้…’
ขณะนี้หลินสวินนั่งขัดสมาธิอ่านตำราหยกอยู่ในถ้ำสวรรค์ของตัวเอง
นี่เป็นสิ่งที่โม่หลันซานมอบให้เขา ในตำราหยกบันทึกเรื่องราวและกฎระเบียบต่างๆ ของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดไว้มากมาย ช่วยให้หลินสวินไขข้อกังขาที่อยู่ในใจได้ไม่น้อย
เช่นหากต้องการยืมอ่านมรดกอมตะในเขาตำรา ต้องบรรลุเงื่อนไขสองข้อ
ข้อแรก ต้องเป็นศิษย์แกนหลักเก้ายอดเขาใหญ่
ข้อสอง ต้องมีผลงานเก้าดาราสามชิ้น
ในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด นอกจากการฝึกปราณแล้ว หากศิษย์แต่ละคนอยากได้ทรัพยากรฝึกปราณมากยิ่งขึ้น ก็สามารถเลือกรับทำภารกิจตามที่ต่างๆ ในสำนักได้ด้วย
ทุกครั้งที่ทำภารกิจสำเร็จก็จะได้รับผลงานที่สัมพันธ์กัน สามารถอาศัยจำนวนผลงานแลกทรัพยากรฝึกปราณที่สัมพันธ์กันได้
ผลงานแบ่งออกเป็นเก้าชนิด คือหนึ่งถึงเก้าดาราตามความแตกต่างของภารกิจ
ผลงานหนึ่งดาราธรรมดาหาง่ายที่สุด ส่วนผลงานเก้าดาราเป็นผลงานขั้นสูงสุด
หรือพูดอีกอย่างก็คือ จะยืมอ่านมรดกอมตะจากเขาตำราได้ ก็ต้องทำภารกิจระดับเก้าดาราสามอย่าง ได้ผลงานเก้าดาราสามชิ้น!
หลินสวินพลิกดูภารกิจเก้าดาราที่ยังไม่มีคนรับในตำราหยก มุมปากก็เกร็งกระตุกอย่างอดไม่ได้
‘หลอมพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกขึ้นไปอย่างสมบูรณ์หนึ่งสาย จะได้รับผลงานเก้าดาราหนึ่งชิ้น’
‘สังหารเจ้าแห่งวิญญาณร้ายที่ศักยภาพเทียบเท่ากับขั้นอายุขัยเทียมฟ้า นำหัวใจมันมา จะได้รับผลงานเก้าดาราหนึ่งชิ้น’
‘เก็บแหล่งกำเนิดจักรวาลสายหนึ่ง จะได้รับผลงานเก้าดาราหนึ่งชิ้น’
…ภารกิจเก้าดาราแต่ละอย่างนั้นล้วนวิปริตผิดธรรมดา ยากเกินกว่าจะจินตนาการได้
หลินสวินพลิกดูแล้วยังจนคำพูดไปครู่หนึ่ง
อย่าว่าแต่มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิทั่วไป ต่อให้เขาอยากไปทำภารกิจเก้าดาราพวกนี้ให้สำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายปานนั้น!
‘รอหลังจากปรับตัวคุ้นเคยกับสภาพของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดค่อยไปทำเรื่องพวกนี้ก็ยังไม่สาย’
หลินสวินใคร่ครวญ
เขาใจเต้นกับ ‘มรดกอมตะ’ ในเขาตำรานั้นเป็นอย่างยิ่ง ต้องการยืมอ่านและศึกษาดูสักครั้ง
แต่ตอนนี้เขาเพิ่งเข้ายอดเขาที่เก้า มิหนำซ้ำยังเป็นแค่ศิษย์สืบทอดแท้จริง ไม่มีโอกาสไปยืมอ่านมรดกอมตะอยู่แล้ว
‘เรื่องสำคัญตรงหน้าคือเป็นศิษย์แกนหลักให้ได้ก่อน’
หลินสวินไม่อาจลืมได้ว่าเป้าหมายที่เข้าหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดคราวนี้ก็เพื่อเป็นหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์นั้นได้ในที่สุด
ในตำราหยกขาวก็มีเงื่อนไขในการเป็นศิษย์แกนหลักบันทึกเอาไว้
ถ้าอิงตามการเลื่อนขั้นปกติ ศิษย์ที่เข้าสำนักมาใหม่จะเข้าทดสอบในอีกสิบปีให้หลัง
ถึงตอนนั้นจะมีผู้นำยอดเขากับผู้อาวุโสสามคนจากยอดเขาที่อยู่ประเมินมรรควิถี พรสวรรค์ รวมถึงความสามารถในสิบปีนี้ของผู้สืบทอด ขอเพียงความสามารถโดดเด่นก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นศิษย์แกนหลัก
แต่หลินสวินรอนานขนาดนี้ไม่ได้
ต้องเสียเวลาสิบปีถึงได้เป็นศิษย์แกนหลัก เช่นนั้นจะกลายเป็นหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ในเวลาสั้นๆ เพียงร้อยปีก็เป็นไปไม่ได้แม้สักนิด
ยังดีที่ในตำราหยกยังบันทึกเส้นทางอีกสายหนึ่งเอาไว้
ไปถกมรรคที่หอแรกพิสุทธิ์!
หอแรกพิสุทธิ์ดูแลเรื่องการคัดเลือกศิษย์และภารกิจ ถึงตอนนั้นจะมีคนใหญ่คนโตที่รับผิดชอบเรื่องการเลื่อนขั้นออกหน้าจัดการทดสอบถกมรรค รับคำท้ารบจากผู้อื่น
ผู้ท้ารบจะเลือกศิษย์แกนหลักของยอดเขาอื่นเพื่อเข้าประลองสามครั้ง
ขอเพียงแพ้แค่ครั้งเดียวก็จะเสียโอกาสในการเป็นศิษย์แกนหลัก
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ในเก้ายอดเขาใหญ่มีศิษย์สืบทอดแท้จริงไม่น้อยที่เลือกเลื่อนขั้นด้วยเส้นทางนี้ แต่ต่างคว้าน้ำเหลวกลับไปแทบทั้งนั้น
เพราะมันยากเกินไป
เก้ายอดเขาใหญ่มีความสัมพันธ์เป็นคู่แข่งกัน ใครจะยินยอมเห็นศิษย์สืบทอดแท้จริงจากยอดเขาอื่น เลื่อนขั้นมาเป็นศิษย์แกนหลักในหนึ่งก้าวกระโดด
เช่นว่าหากหลินสวินจะเดินทางสายนี้ ก็ต้องเผชิญการต่อสู้กับผู้สืบทอดแกนหลักยอดเขาอื่นๆ และยังต้องสู้สามชนะสามอีกด้วย!
แน่นอนว่าหลินสวินไม่ได้กลัวเรื่องพวกนี้
ศิษย์แกนหลักยอดเขาอื่นจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็มีมรรควิถีระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิอยู่ดี และในระดับนี้เขาก็ไม่เคยกลัวใคร
อย่างลี่จงหย่วนที่มีชื่อยู่ในสิบอันดับแรกของเก้ายอดเขาใหญ่ก็ไม่ใช่แพ้เขาหรอกหรือ
สำหรับคนอื่นแล้ว เส้นทางนี้มีแต่ความยากลำบาก ไม่ค่อยเห็นความหวังเท่าไรนัก
แต่สำหรับหลินสวินกลับเป็นทางลัดที่พึ่งพาได้ทางหนึ่ง!
‘รออีกสามวัน รับเอาป้ายคำสั่งที่สำนักแจกจ่ายแล้วก็จะไปหอแรกพิสุทธิ์สักรอบ’
หลินสวินตัดสินใจ
มีป้ายคำสั่งสำนักถึงถือเป็นผู้สืบทอดลัทธิแรกกำเนิดอย่างแท้จริง ภายหน้าไม่ว่าจะฝึกปราณหรือรับทรัพยากรของสำนัก ล้วนจำเป็นต้องอาศัยป้ายคำสั่งสำนัก
อย่างการไปถกมรรคที่หอแรกพิสุทธิ์ก็ต้องใช้ป้ายคำสั่งสำนักเช่นกัน
“พี่หลิน เตรียมตัวพร้อมหรือยัง”
นอกถ้ำสวรรค์แดนมงคล เสียงกังวานของเย่ฉุนจวินดังขึ้น ปลุกหลินสวินที่จมอยู่ในภวังค์ทันที
“จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
หลินสวินลุกขึ้นเดินไปนอกถ้ำสวรรค์
‘รีบไปเถอะ พวกศิษย์น้องรอเจ้าไปงานเลี้ยงกันหมดแล้ว ขนาดผู้อาวุโสทั้งสามยังมาเลย เรื่องนี้หายากนัก”
พอเห็นหลินสวินเดินออกมา เย่ฉุนจวินก็ยิ้มเอ่ย
หลินสวินอมยิ้มพยักหน้าเช่นกัน
เขาเข้าลัทธิแรกกำเนิด กลายเป็นศิษย์สืบทอดแท้จริงของยอดเขาที่เก้าเป็นวันแรก ด้วยคำเสนอแนะของผู้อาวุโสโม่หลันซาน คืนนี้ศิษย์สืบทอดแท้จริงกับศิษย์แกนหลักยอดเขาที่เก้าจะร่วมจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้หลินสวิน
งานรวมตัวเช่นนี้หลินสวินจะไม่ร่วมไม่ได้
ถึงอย่างไรสำหรับหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดแล้ว เขาหลินสวินจะโด่งดังในโลกภายนอกเพียงไหน ตอนนี้ก็เป็นแค่ ‘คนใหม่’ ที่เพิ่งเข้าสำนักคนหนึ่ง
——