Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2725 ผู้แพร่งพรายความลับ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2725 ผู้แพร่งพรายความลับ
ตอนที่ 2725 ผู้แพร่งพรายความลับ
หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “ตอนนั้นเจ้ายังไม่ยอมร่วมมือทำความชั่วกับหนานป๋อหง แต่ทำไมครั้งนี้เจ้ากลับฟังคำสั่งเขา ทั้งยอมทำตามเขาเล่า”
มารโลหิตหนุ่มเอ่ย “น้องสาวที่ปีนั้นเข้าหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดมาพร้อมข้า ฝึกปราณในยอดเขาที่สี่ นางเป็นคนเดียวที่ข้าปล่อยวางไม่ได้ หนานป๋อหงนำนางมาข่มขู่ ข้าไม่อาจขัด”
น้ำเสียงนิ่งสงบ แต่ภายใต้ความนิ่งสงบนั้นกลับแฝงความเจ็บปวดเสียดกระดูก
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วกล่าว “ตอนนี้ข้าคงไม่อาจช่วยอะไรเจ้าได้ แต่รอข้าก้าวสู่มรรคาอมตะแล้ว ย่อมสะสางเรื่องยุ่งยาก ชะล้างความอัปยศให้เจ้าแน่!”
เดิมทีหนานป๋อหงก็เป็นศัตรูของเขา เรื่องของมารโลหิตหนุ่มเป็นแค่ตัวเสริมความมุ่งมั่นว่าเขาจะต้องกำจัดหนานป๋อหงยิ่งกว่าเดิม
มารโลหิตหนุ่มกล่าว “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
เขาไม่กล้าหวังอะไรจริงๆ หรือเรียกได้ว่าแทบไม่หวัง
หนานป๋อหงเป็นผู้นำยอดเขาที่สาม เบื้องหลังยังมีบุคคลสำคัญอีกมาก ไม่อย่างนั้นตอนเขามุ่งหน้าไปเปิดโปงเรื่องหนานป๋อหงที่หอแรกนภา คงไม่มีทางประสบเคราะห์แน่
เพราะอิทธิพลของหนานป๋อหง ไม่มีทางส่งผลต่อหอแรกนภาได้โดยสิ้นเชิง
ทุกอย่างนี้ล้วนพิสูจน์ว่าคนใหญ่คนโตที่สมคบคิดกับหนานป๋อหง ไม่ได้มีแค่คนเดียวแน่
“ขอถามศิษย์พี่มีนามว่ากระไร”
หลินสวินถาม
เห็นชัดว่ามารโลหิตหนุ่มถูกคำว่า ‘ศิษย์พี่’ กระตุ้นขึ้นมา เนิ่นนานจึงคำนับกล่าวอย่างจริงจัง “ผู้สืบทอดลัทธิแรกกำเนิดกู่อวี๋เจียน คารวะศิษย์น้องหลินสวิน!”
หลินสวินคารวะตอบอย่างจริงจังเช่นกัน
ยามจากมากู่อวี๋เจียนเอ่ยกำชับ “ศิษย์น้อง ภายหน้ายามออกมาทำภารกิจ จำไว้ว่าอย่าเคลื่อนไหวเพียงลำพัง ไม่อย่างนั้นจะเจอหายนะเหมือนวันนี้”
…
ลัทธิแรกกำเนิด
เรือนสมบัติสวรรค์ในหอแรกมายายังคงคึกคักเหมือนปกติ ผู้คนมากมายกำลังรับภารกิจ ทั้งมีหลายคนแลกเปลี่ยนผลงานหลังจากทำภารกิจสำเร็จ
เวลานี้หลินสวินพุ่งมาปรากฏตัวในเรือนกะทันหัน
“หืม หลินสวิน? ไม่ทันไรเจ้าก็กลับมาแล้วรึ คงไม่ใช่ว่าภารกิจ… ล้มเหลวกระมัง”
หวงชิงอวี่ก็อยู่ด้วย เมื่อเห็นหลินสวิน เขาเผยสีหน้าประหลาดใจทันที
เพราะตั้งแต่หลินสวินรับภารกิจไปจนตอนนี้ ยังไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ
จากนั้นเขาตระหนักได้ว่าพูดเช่นนี้อาจทำให้หลินสวินอึดอัดอยู่บ้าง เขารีบกล่าวด้วยเสียงอบอุ่น “ศิษย์น้องไม่ต้องท้อถอย คนเดียวไม่อาจทำภารกิจให้สำเร็จ ก็หาคนไปเคลื่อนไหวด้วยกัน…”
ไม่รอให้พูดจบหลินสวินก็ยิ้มพลางตัดบท “ศิษย์พี่โปรดดู”
‘จิตชั่วร้าย’ ที่ถูกผนึกปรากฏอยู่ตรงหน้าหวงชิงอวี่
“นี่…”
หวงชิงอวี่เบิกตากว้าง ทำท่าเหมือนเห็นผี
ภารกิจเก้าดาราที่ล่าเจ้าแห่งวิญญาณร้ายนี้ ไม่มีใครรับมาหลายปีมากแล้ว สาเหตุก็คือมันยากเกินไป ที่ผ่านมามีศิษย์แกนหลักไม่รู้เท่าไรร่วมกันออกศึก แต่สุดท้ายล้วนคว้าน้ำเหลวกลับมา
ใครจะคิดว่าเพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวันหลินสวินก็นำจิตชั่วร้ายกลับมาแล้ว!
ในใจหวงชิงอวี่ไม่อาจสงบทันที
ยามนี้ในเรือนสมบัติสวรรค์ก็มีคนไม่น้อยเห็นจิตชั่วร้าย ชักนำมาซึ่งความโกลาหลอย่างอดไม่ได้
“ก่อนหน้านี้ใครบอกว่าภารกิจครั้งนี้ของศิษย์น้องหลินสวินจะล้มเหลว ก้าวออกมาซะ!”
“ศิษย์น้องหลินสวินเขา… ทรงพลังเกินไปแล้วกระมัง เจ้าแห่งวิญญาณร้ายนั่นไม่หวาดกลัวการสังหารจากสมบัติลับระเบียบโดยสิ้นเชิง เขาทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไร อย่าบอกข้าว่าเขาอาศัยมรรควิถีแห่งตนนะ…”
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งมีคนก้าวมาข้างหน้าเพื่อทักทายหลินสวิน คำพูดดูชื่นชมและเลื่อมใสยิ่งนัก
“ฮ่าๆๆ ศิษย์น้องนำเรื่องน่ายินดีครั้งใหญ่กลับมาให้ข้าจริงๆ”
ในที่สุดหวงชิงอวี่ก็ยอมรับความจริงนี้ ไม่หวงคำชมของตนแม้แต่น้อย แลกผลงานเก้าดาราให้หลินสวินอย่างยินดี
ภาพนี้ดึงดูดสายตาอิจฉามากมาย
ผลงานเก้าดารา!
นี่เป็นถึงรางวัลขั้นสูงสุดของภารกิจสำนัก สามารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรในการฝึกปราณที่ใฝ่ฝันส่วนหนึ่งจากสำนักได้
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น หากนำมาแลกเป็นแกนเทพอมตะ หนึ่งผลงานเก้าดาราล้วนแลกได้แสนชั่ง!
นี่หมายความว่าอย่างไร
เบี้ยประจำเดือนหนึ่งปีของศิษย์แกนหลัก ได้แกนเทพอมตะเพียงสองหมื่นสี่พันชั่งเท่านั้น
แน่นอนว่าหากมีผลงานเก้าดารา ใครก็ไม่โง่ไปแลกเป็นแกนเทพอมตะ ในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ทรัพยากรในการฝึกปราณบางส่วนที่ทำให้ใครก็ตามถวิลหาแม้ยามฝัน มีแค่ผลงานเก้าดาราที่แลกได้!
‘ศิษย์พี่ รบกวนเปลี่ยนที่คุยหน่อย’
หลินสวินสื่อจิตบอกหวงชิงอวี่
หวงชิงอวี่ชะงักไป จากนั้นค่อยไล่ทุกคนไปทันที มาอยู่ข้างเรือนใหญ่กับหลินสวินพลางกล่าว ‘ศิษย์น้องมีเรื่องใดชี้แนะ’
หลินสวินสื่อจิตกล่าว ‘ไม่ถึงขั้นชี้แนะ เพียงแต่อยากถามศิษย์พี่ หากข้ารับภารกิจเก้าดาราอีก นอกจากศิษย์พี่แล้ว คนอื่นจะสังเกตเห็นได้ในทันทีหรือไม่’
หวงชิงอวี่หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ตระหนักถึงอะไรได้ กล่าวว่า ‘ศิษย์น้อง หรือภารกิจไปแดนบาปครั้งนี้เกิดอุปสรรคอะไรขึ้น’
หลินสวินขานรับว่าอืมคำหนึ่งแล้วเอ่ย ‘ระหว่างทางกลับมา ข้าเจอผู้นำยอดเขาที่สามหนานป๋อหง’
หวงชิงอวี่อดกล่าวไม่ได้ ‘หรือว่าใต้เท้าหนานป๋อหงจะลงมือ…’
พูดไม่ทันจบเขารีบปิดปากทันที
แม้ว่าเขาเป็นผู้สืบทอดหอแรกมายา แต่ก็ไม่กล้าไปคาดเดาการกระทำของผู้นำยอดเขาคนหนึ่งส่งเดช
เมื่อเห็นทุกการตอบสนองของหวงชิงอวี่ หลินสวินวิเคราะห์ได้โดยคร่าวๆ ว่าหวงชิงอวี่ไม่น่าใช่คนที่แจ้งข่าวให้หนานป๋อหง
‘ศิษย์พี่ ท่านยังไม่ตอบคำถามของข้า’ หลินสวินกล่าวเตือน
สายตาหวงชิงอวี่กวาดมองโดยรอบปราดหนึ่ง คราวนี้จึงสื่อจิตอย่างรวดเร็ว ‘ภารกิจเก้าดาราของหอแรกมายา ขอเพียงรับไปก็จะถูกบุคคลสำคัญระดับอาวุโสล่วงรู้ทันที ศิษย์น้อง แม้ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเจออะไร แต่ข้าเตือนเจ้าได้เรื่องหนึ่ง’
หลินสวินใจสะท้าน สื่อจิตกล่าว ‘ศิษย์พี่โปรดชี้แนะ ศิษย์น้องอย่างข้าจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้’
หวงชิงอวี่สื่อจิต ‘หอแรกมายามีผู้อาวุโสสิบคน แต่เท่าที่ข้ารู้ ผู้ที่ผูกสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับใต้เท้าหนานป๋อหงผู้นำยอดเขาที่สามมีแค่สองคน คนหนึ่งคือผู้อาวุโสกู้ชวน อีกคนคือผู้อาวุโสลี่เป่ยสิง พวกเขาสองคนล้วนมาจากสี่ตระกูลตงหวงเหมือนใต้เท้าหนานป๋อหง’
หลินสวินเข้าใจโดยปริยายทันที
ไม่ต้องสงสัย ผู้แจ้งข่าวให้หนานป๋อหงต้องเป็นคนใดคนหนึ่งระหว่างกู้ชวนกับลี่เป่ยสิงแน่
ซ้ำเป็นไปได้ว่าทั้งสองคนอาจเป็นผู้แพร่งพราย!
หวงชิงอวี่กล่าว ‘ศิษย์น้อง หากเจ้าห่วงว่าจะเกิดอุปสรรคอะไรอีก ช่วงนี้ยังไม่ต้องรับภารกิจเก้าดาราดีกว่า’
หลินสวินยิ้มพลางกล่าว ‘ขอบคุณศิษย์พี่ที่เป็นห่วง แต่ข้าไม่ใช่พวกหัวหด’
พูดจบเขาก็หันหลังจากไป
หวงชิงอวี่อึ้งไป นึกถึงทุกการกระทำช่วงหลายวันนี้ของหลินสวินตั้งแต่เข้าเป็นศิษย์ในลัทธิแรกกำเนิดจนถึงปัจจุบัน ก็ปล่อยวางได้ทันที
ศิษย์น้องหลินสวินคนนี้เป็นพวกไม่กลัวเรื่องใหญ่โดยแท้!
เมื่อกลับมายังถ้ำสวรรค์แดนมงคลบนยอดเขาที่เก้าของตน หลินสวินอดจมสู่ห้วงคิดไม่ได้
เดิมนี่เป็นโอกาสทองครั้งหนึ่งในการโจมตีหนานป๋อหง ขอเพียงเขาเปิดโปงเรื่องที่กู่อวี๋เจียนบอกเล่า ย่อมก่อให้เกิดความปั่นป่วนในลัทธิแรกกำเนิดแน่
แต่หลินสวินรู้ดีว่าผู้เกี่ยวข้องไม่ใช่หนานป๋อหงคนเดียว เมื่อถูกเปิดโปง เรื่องต้องควบคุมไม่ได้แน่ ถึงตอนนั้นคงยากรับรองว่าเฒ่าชราหมาจนตรอกจะไม่ทำอะไรเหนือความคาดหมาย
สิ่งสำคัญกว่าคือหากทำเช่นนี้ กู่อวี๋เจียนที่กลายเป็นมารโลหิตในแดนบาปคงประสบเคราะห์ทันที
เมื่อกู่อวี๋เจียนตาย คนตายย่อมไม่อาจเป็นพยาน อาศัยเพียงคำพูดของตนใครจะเชื่อ
‘มิน่าผู้อาวุโสเซียวเหวินหยวนถึงกล่าวว่ามีคนคิดยืมมือข้า กวนน้ำในลัทธิแรกกำเนิดให้ขุ่น อาศัยสิ่งนี้มากำจัดภัยแฝงและเนื้อร้ายในลัทธิแรกกำเนิด เกรงว่าพวกเฒ่าสารเลวอย่างหนานป๋อหงก็คือเนื้อร้ายของลัทธิแรกกำเนิด…’
หลินสวินนึกถึงคำเตือนที่เซียวเหวินหยวนบอกตนเมื่อตอนนั้น เข้าใจบางอย่างขึ้นมารางๆ
มีคนมองการมาของตนเป็นดาบเล่มหนึ่ง หมายจัดการภัยแฝงบางส่วนในลัทธิแรกกำเนิด แม้มีความรู้สึกว่าถูกหลอกใช้ แต่หลินสวินไม่ได้ต่อต้าน กลับยินดีเป็นดาบเล่มนี้ให้
ด้วยสิ่งนี้หมายความว่ายามตนก่อเรื่องอะไร บางทีศัตรูพวกนั้นคงแทบอยากจะจัดการตนซะ แต่ก็มีคนมากมายปกป้องตนเช่นกัน
ไม่อย่างนั้นเมื่อดาบหาย พวกเขาจะเอาอะไรไปกำจัดเนื้อร้ายเล่า
‘น่าเสียดาย อย่างมากข้าก็เป็นแค่ตัวหมาก เป็นแค่พวกที่บุกตะลุยโจมตีศัตรู…’
หลินสวินถอนใจเบาๆ
จากนั้นสายตาของหลินสวินเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นขึ้นมาทีละน้อย
เมื่อตนก้าวสู่หนทางอมตะ ใครยังกล้าเห็นตนเป็นตัวหมากอีก
และในเมื่อยังเป็นดาบเล่มนั้นอยู่ ก็ต้องหาประโยชน์ให้พอจึงจะถูก!
หลินสวินไม่คิดมากความอีก นำแกนเทพอมตะออกมาเริ่มฝึกปราณ ก่อนทะลวงปราณระดับอมตะ เขาหวังใช้พลังจากการหลอมแกนเทพอมตะมาเพิ่มโอกาสบางส่วนให้ตนยามทะลวงปราณ
…
ข่าวที่หลินสวินทำภารกิจเก้าดาราสำเร็จกระจายไปอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความสะท้านสะเทือนบางส่วนในเก้ายอดเขาใหญ่
สำหรับผู้สืบทอดแห่งยอดเขาที่เก้า ในใจพวกเขาหลินสวินเหมือนกลายเป็นบุคคลประหนึ่งเทพ
เวลาสั้นๆ เพียงครึ่งเดือน คลื่นลมในลัทธิแรกกำเนิดแทบถูกหลินสวินคนเดียวชักนำ ทำให้ยอดเขาที่เก้าทยอยถูกคนจับจ้องไปด้วย ไม่ไร้คนเหลียวแลเหมือนก่อนหน้านี้อีก
ถึงขั้นมีผู้สืบทอดของยอดเขาอื่นมาสืบข่าวเกี่ยวกับหลินสวินไม่ขาด
ศิษย์พี่หญิงที่รูปงามพริ้มเพราบางคนยิ่งแสดงออกอย่างมีนัย หวังแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับศิษย์น้องหลินสวินแบบตัวต่อตัว…
ทุกอย่างนี้ทำให้ผู้สืบทอดอย่างพวกเย่ฉุนจวินตระหนักได้ ขอแค่มีหลินสวินอยู่ ภายหน้ายอดเขาที่เก้าต้องคึกคักมากขึ้นแน่
ทั้งหมดนี้ล้วนถูกผู้นำยอดเขาที่เก้าฉินอู๋อวี้มองเห็นอยู่ในสายตา เขาถอนใจและปวดหัวไม่หยุด แน่นอนว่าไม่วายชื่นใจด้วย
ถึงอย่างไรยอดเขาที่เก้าซึ่งเมื่อก่อนเปลี่ยวเหงาแทบถูกคนลืม ก็ไม่เคยคึกคักเช่นนี้มานานมากแล้ว
มีเพียงผู้อาวุโสเจิ้งเฉียนที่ช่วงนี้หน้าบูด นิดๆ หน่อยๆ ก็เดือดดาล ทำให้ผู้สืบทอดแห่งยอดเขาที่เก้ากลัวว่าจะหลบเขาไม่ทัน
แต่ในใจทุกคนล้วนลอบยินดี รู้ว่าเหตุใดเจิ้งเฉียนถึงฉุนเฉียวเช่นนี้
ยิ่งหลินสวินสำแดงความสามารถได้เจิดจรัส ชื่อเสียงยิ่งมาก ผู้อาวุโสเจิ้งเฉียนที่ไม่พอใจและต่อต้านหลินสวินมาตลอดก็ยิ่งยากจะรับแน่นอน
หลินสวินไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้
เขาเองไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องพวกนี้ด้วย ตอนนี้เขาแค่อยากทำภารกิจเก้าดาราอีกสองครั้งให้สำเร็จโดยเร็ว อาศัยสิ่งนี้มาแลกเปลี่ยนเป็นสิทธิ์การเป็นศิษย์ของหอแรกนภา
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
หลินสวินปรากฏตัวในเรือนสมบัติสวรรค์ของหอแรกมายาอีกครั้ง
รับภารกิจเก้าดาราไปท่ามกลางความประหลาดใจและตกตะลึงของหวงชิงอวี่
‘หลอมพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกขึ้นไปได้สายหนึ่ง ได้รับหนึ่งผลงานเก้าดารา’
จากมุมมองหลินสวิน อาศัยพลังของระเบียบนิพพานมากำราบระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกสายหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไรอยู่แล้ว
แต่หวงชิงอวี่กลับอึ้งค้างทันที
นั่นเป็นถึงระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกขึ้นไป!
กวาดสายตามองทั่วน่านฟ้าที่เจ็ด มีเผ่าจักรพรรดิอมตะเท่าไหร่ที่ครอบครองพลังระเบียบระดับนี้
พลังระเบียบเช่นนี้ไม่อาจร้องขอได้จริงๆ!
ยิ่งไปกว่านั้น ในม้วนหยกภารกิจยังไม่มีบันทึกว่าที่ใดมีพลังระเบียบเช่นนี้อยู่…
…………………….