Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2880 อย่างไรเรียกยอดอมตะ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2880 อย่างไรเรียกยอดอมตะ
ตอนที่ 2880 อย่างไรเรียกยอดอมตะ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏมรรคายอดอมตะมาก่อน
แม้ตำนานที่เกี่ยวข้องกับมรรคานี้มีเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ล้วนถูกพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องเกินจริงที่ลวงตาเลื่อนลอย
จนกระทั่งหลินสวินปรากDตัว
โลกยอดนิรันดร์ถึงเกิดการถกเถียงเรื่องมรรคานี้ขึ้นมากมาย
แต่ล้วนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแทบจะทั้งหมด
ถึงขั้นสามารถพูดได้ว่า ในสายตาผู้แข็งแกร่งส่วนใหญ่ของน่านฟ้าที่แปดและน่านฟ้าที่เก้า ไม่มีใครคิดว่าหนึ่งบัวที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลรอคอยมาหมื่นกาล จะกลายเป็นมกุฎบนมรรคาอมตะ
ต่อให้หลินสวินเคยสร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่ในลัทธิแรกกำเนิด แต่ในสายตาของหลายคน เขาก็คือปีศาจแห่งยุคคนหนึ่ง บนโลกนี้มีคนในระดับเดียวกันสามารถเทียบเคียงเขา ถึงขั้นเหนือกว่าเขาได้
อย่างเช่นบรรดาบุตรเทพแห่งน่านฟ้าที่เก้า
ทว่าในการต่อสู้ ณ ตอนนี้ เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มาจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะกลับจำต้องมองดูปัญหานี้อย่างจริงจัง
หรือหลินสวินก้าวสู่มรรคายอดอมตะแล้วจริงๆ
ไม่เช่นนั้นจะสามารถสังหารทั่วแดนมารสิบทิศ แม้แต่บุตรเทพอย่างพวกเหวินเฉียวสุ่ย ชางฝูเฟิงยังถูกเขาจับเป็นได้อย่างไร
ทั้งเป็นไปได้อย่างไรที่ในตอนนี้จะใช้พลังของขั้นหลุดพ้นขั้นต้น สังหารขั้นหลุดพ้นขั้นสัมบูรณ์สองคนอย่างจงหลีเฉียวและจิงทั่วซานต่อเนื่องกัน
ทุกอย่างล้วนดูเหลือเชื่อมาก ทำให้หวาดหวั่นสงสัย!
ตูม!
สัตว์ประหลาดเฒ่าหกคนเข้าโจมตีหลินสวินและร่างแยกทั้งห้าของเขาพร้อมกัน สารพัดวิธีถูกใช้ออกมา บ้างโคจรสมบัติลับที่อานุภาพไม่อาจคาดเดา บ้างสำแดงวิชาลับก้นหีบ อานุภาพน่าสะพรึงกดดันปั่นป่วน ทำให้ฟ้าดาราสั่นไหวทรุดทลาย
พลังที่สัตว์ประหลาดเฒ่าแต่ละคนครอบครอง ล้วนสามารถสังหารขั้นหลุดพ้นขั้นต้นทุกคนให้ตายอย่างง่ายดาย
แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่มีผลต่อหลินสวิน
อย่าว่าแต่จัดการร่างต้นของหลินสวิน กระทั่งร่างแยกทั้งห้าของเขานั่นยังไม่อาจกำราบได้ในเวลาสั้นๆ ด้วยซ้ำ!
นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นทั้งตกใจทั้งเดือดดาลและหวาดหวั่น
คิดจนหัวแตกพวกเขาก็คิดไม่ออก ว่านี่จะเป็นพลังต่อสู้ที่เจ้าหนุ่มที่เพิ่งทะลวงขั้นได้ไม่นานสามารถครอบครองได้!
และตอนนี้หลินสวินก็รับรู้ถึงจิตต่อสู้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เลือดทั่วร่างเหมือนลุกโชน สารกาบ พลังชีวิต จิตวิญญาณเดือดพล่านไปทั้งร่าง สภาวะจิต เจตจำนง ความคิดล้วนถูกจิตต่อสู้ที่พลุ่งพล่านกระตุ้น ทั้งร่างอยู่ในสภาวะต่อสู้อันเร่าร้อน
เขาไม่ได้เจอศึกใหญ่เช่นนี้มานานมากแล้ว
หลายปีมานี้คู่ต่อสู้ที่เจอหากไม่ใช่อ่อนแอเกินไป เช่นบรรดาคนในระดับเดียวกัน ก็เป็นพวกที่น่าสะพรึงเกินไป อย่างเช่นรูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์
แต่ตอนนี้กลับแตกต่าง
เขาแจ้งมรรคขั้นหลุดพ้นแล้ว สัตว์ประหลาดเฒ่าขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ที่ในอดีตสูงส่ง ก็ไม่สามารถชักนำแรงกดดันถึงชีวิตมาให้เขาได้อีกแล้ว!
ฆ่า!
ดวงตาดำขลับของหลินสวินราวกับสายฟ้า ผมยาวแผ่สยาย
เขาไม่ยั้งมือใดๆ เช่นกัน ปลดปล่อยพลังต่อสู้ทั้งร่างอย่างเสิบสวน ร่างต้นและกายมรรคทั้งห้าเข้าต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งกับศัตรู ไม่เพียงไม่เสียเปรียบ ถึงขั้นมีท่าทีกำราบอีกฝ่ายอยู่รางๆ!
นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นแทบจะคลั่งแล้ว
สิบปีก่อน ในสายตาของพวกเขาหลินสวินยังเป็นเพียงขั้นดับเทพขั้นต้นตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่ควรค่าให้ความสำคัญ
แต่วันนี้หลังผ่านไปสิบปี หลินสวินกลับครอบครองพลังต่อสู้ที่ทำให้พวกเขาสะท้านไหว ความแตกต่างนี้ยิ่งใหญ่เกินไป แรงจู่โจมที่มอวให้ก็ยิ่งใหญ่เกินไปเช่นกัน!
ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนมดที่ปกติถูกมองข้าม จู่ๆ ก็มีพลังที่สามารถสังหารมังกรเทพบนท้องฟ้าได้ ทำให้พวกเขายากจะยอมรับในชั่วขณะ!
“ไป!”
ในการต่อสู้ จู่ๆ ร่างต้นของหลินสวินก็ตะโกนออกมาคำหนึ่ง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกระแทกศาสตรามรรคของคู่ต่อสู้จนปลิวออกไปทั้งอย่างนั้น อานุภาพน่าสะพรึงไม่ลดลง กระแทกลงบนตัวคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง
นี่เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งของตระกูลฝู นามว่าฝูเจ๋อ
เมื่อถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกระแทก กฎเกณฑ์อมตะทั้งร่างก็ถูกโจมตีจนแหลกละเอียด ละอองแสงปลิวว่อน จากนั้นยังไม่ทันได้หลบ ร่างก็ถูกประตูเนรเทศเหนือเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลืนกินและหายไปกลางอากาศ
ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นหลุดพ้นคนที่สามถูกกำราบ!
หลินสวินรู้ดีที่สุดว่าโลกภายในประตูเนรเทศน่ากลัวเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นจงหลีเฉียว จิงทั่วซานก่อนหน้านี้ หรือฝูเจ๋อในตอนนี้ ล้วนจะถูกจานเทพคร่าศพทำลายร่างและจิต ส่วนสมบัติบนร่างพวกเขาจะถูกผาสมบัติร่วงหล่นกักขัง
ถูกกำหนดให้มีแต่ตายไร้ทางรอด!
ในสนามรบปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง จิตต่อสู้ของสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นสั่นคลอน หน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด
พวกเขาร่วมมือกันยังกำราบหลินสวินไม่ได้ ทั้งหมดนี้ล้วนกำลังพิสูจน์ว่าในขั้นหลุดพ้นของมรรคาอมตะ หลินสวินเป็นยอดอมตะไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย!
“สมควรตาย!”
ไกลออกไปสีหน้าของหวังจ้งหยวนที่กำลังสู้กับฟางเต้าผิงอย่างดุเดือดคล้ำเขียวเป็นพิเศษ
การตามฆ่าครั้งนี้ พวกเขาพลาดอย่างไม่ต้องสงสัย
เดิมทีคิดว่ารองหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิดอย่างฟางเต้าผิงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด แต่ตอนนี้ความจริงอันโหดร้ายกำลังบอกพวกเขาว่า ภัยคุกคามที่แท้จริงกลับเป็นหลินสวินที่ก่อนหน้านี้ถูกพวกเขามองข้าม!
สิ่งที่ทำให้หวังจ้งหยวนหนักอึ้งในใจที่สุดคือ ตอนนี้เขากับสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนที่ลงมือร่วมมือ ก็กำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันของฟางเต้าผิง!
หากไม่ใช่เพราะเขาเตรียมพร้อมอย่างดี พกสมบัติและไพ่ตายมาเพียงพอ ก็อาจถึงขั้นยืนหยัดได้ไม่ถึงตอนนี้
เหตุผลไม่ใช่อื่นใด แม้พลังปราณเท่ากัน แต่ในฐานะรองหัวหน้าหอคนหนึ่งของลัทธิแรกกำเนิด พลังต่อสู้ของฟางเต้าผิงกลับแข็งแกร่งกว่าพวกเขาช่วงใหญ่อย่างเห็นได้ชัด!
“ไป!”
ทันใดนั้นไกลออกไปเสียงของหลินสวินดังขึ้นอีกครั้ง
ก็เห็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่กำลังต่อสู้กับกายมรรคเพลิงแดงถูกร่างต้นของหลินสวินพุ่งเข้าใส่ ทุ่มเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกระแทกใส่ร่างอย่างรุนแรง ร่างกายแตกกระจายคาที่ เลือดสาดราวกับน้ำตก
ไม่เกินจากที่คาด ร่างกายและพลังจิตที่แตกหักของสัตว์ประหลาดเฒ่าคนนี้ ล้วนถูกอานุภาพของประตูเนรเทศกลืนกินระหว่างที่โดนกระแทก
นี่เป็นขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนที่สี่ที่ถูกหลินสวินสังหารแล้ว!
และตอนนี้สถานการณ์ก็ปั่นป่วนอย่างที่สุดแล้ว
สัตว์ประหลาดเฒ่าที่ล้อมโจมตีหลินสวินและร่างแยกทั้งห้าของเขาเหลือเพียงสี่คน ถูกหลินสวินและร่างแยกของเขาเปลี่ยนเป็นฝ่ายล้อมแทน!
ด้านฟางเต้าผิง สถานการณ์ของหวังจ้งหยวนและสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนก็ไม่สู้ดี ถูกฟางเต้าผิงเล่นงานจนเงยหน้าไม่ขึ้น
สถานการณ์ไม่เป็นผลดีต่อพวกหวังจ้งหยวนอย่างสิ้นเชิง!”ฮณ๊ฯดฯฌซ,
และจุดสำคัญที่ทำให้เกิดการพลิกผัน ก็อยู่ที่หลินสวิน
นี่เป็นตัวแปรที่ใครก็คาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นพวกหวังจ้งหยวน กระทั่งฟางเต้าผิงก็คิดไม่ถึง!
“ไป!”
เสียงคุ้นเคยดังขึ้นในสนามรบที่ปั่นป่วนวุ่นวาย เหมือนเสียงที่เร่งเอาชีวิต
ร่างต้นของหลินสวินและกายมรรควารีดำโจมตีขนาบ สังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งคาได้ในคราเดียว ครั้งนี้ยามอานุภาพของประตูเนรเทศปลดปล่อยออกมา ก็กลืนกินเพียงร่างและเศษเสี้ยวพลังจิตที่ระเบิดแหลกของสัตว์ประหลาดเฒ่า…
“เป็น… เช่นนี้ได้อย่างไร…”
มีสัตว์ประหลาดเฒ่าเอ่ยเสียงสั่น หนังหัวชาวาบ
พลังต่อสู้ของหลินสวินเย้ยฟ้าเกินไป ไม่อาจใช้หลักเหตุผลทั่วไปมาวัดได้ ต่อสู้มาถึงตอนนี้ ทำให้พวกเขาอกสั่นขวัญแขวน จิตต่อสู้สั่นคลอน
“ฆ่า!”
มีสัตว์ประหลาดเฒ่าโจมตีเหมือนบ้าคลั่ง ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ดุดันยิ่งยวด เป็นการสู้สุดชีวิตโดยสมบูรณ์
ไพ่ก้นหีบอะไร ไพ่ตายอะไร ล้วนถูกพวกเขาเรียกออกมาอย่างไม่ลังเล
น่าเสียดายที่ล้วนไร้ประโยชน์
หลินสวินในตอนนี้ เผยให้เห็นอย่างเต็มที่ว่าอย่างไรเรียกว่าอานุภาพปานยอดอมตะไร้ศัตรู ในระดับขั้นเดียวกันไร้ซึ่งคู่ต่อสู้!
“ไป!”
ไม่ทันไรสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนก็ถูกประตูเนรเทศกลืนกิน อันตรธานแวบไป เดิมทีเขาพยายามหลบหนี ทั้งใช้วิชาลับต้องห้ามอย่างหนึ่ง คลื่นพลังที่น่ากลัวไร้ขอบเขตพวยพุ่งออกมาทั่วตัว แต่ยังไม่ทันปลดปล่อยก็ถูกประตูเนรเทศม้วนกลืนไปแล้ว…
และเขาก็กลายเป็นขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนที่ห้าที่หลินสวินสังหารหลังจากก้าวสู่ขั้นหลุดพ้น!
“สลาย!”
ถอนตัว หวังจ้งหยวนกัดฟันตะโกน
เขาตระหนักได้อย่างสิ้นเชิง ว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปถึงขั้นไม่สามารถหวนคืนได้แล้ว ต่อสู้ต่อไปก็ถูกกำหนดให้ปรากฏการบาดเจ็บล้มตายมากกว่าเดิม
เพียงแต่น่าเสียดาย ภายใต้สถานการณ์อันดีเยี่ยมเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรือฟางเต้าผิง ล้วนไม่คิดให้โอกาสพวกเขาหนี
ตูม!
สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือดยิ่งกว่าเดิม ร่างต้นของหลินสวินและร่างแยกทั้งห้าจัดการคู่ต่อสู้สามคนที่เหลือด้วยกัน ทำให้ทุกครั้งที่สัตว์ประหลาดเฒ่าสามคนนี้อยากหนี ล้วนถูกขัดขวาเอาไว้
เมื่อดูฝั่งฟางเต้าผิงอีกครั้งก็เป็นเช่นนี้
หวังจ้งหยวนบาดเจ็บไม่มาก แต่พวกพ้องของเขาได้บาดเจ็บเจียนตายแล้ว ถูกอานุภาพของฟางเต้าผิงกำราบโดยสมบูรณ์ ต่อให้ลองหนีสุดกำลังก็ไม่มีประโยชน์
นี่ทำให้ในใจพวกหวังจ้งหยวนถูกเงาดำปกคลุม สั่นเทิ้มไปทั้งตัว ตระหนักได้ถึงความย่ำแย่ของสถานการณ์อย่างที่สุดแล้ว
“ไป!”
“ตาย!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน เสียงตะโกนสองเสียงดังขึ้น
เสียงหนึ่งมาจากหลินสวิน เขากับกายมรรคไม้เขียวร่วมมือกันกำราบสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่ง แล้วเก็บเข้าไปในประตูเนรเทศ
อีกเสียงมาจากกายมรรคเพลิงแดงของหลินสวิน เขากับกายมรรคดินเหลืองใช้วิธีอันแข็งแกร่งสังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนด้วยกัน ร่างและพลังจิตล้วนถูกเผาผลาญเป็นเถ้าธุลี
ไม่ทันไรฝั่งหลินสวินก็เหลือคู่ต่อสู้เพียงคนเดียว!
“ฟางเต้าผิง พวกเจ้าจะลงมือเด็ดขาดถึงขั้นนี้จริงหรือ!?”
ภาพเหล่านี้กระตุ้นจนหวังจ้งหยวนร้องลั่น “หรือจะบอกว่าพวกเจ้าลัทธิแรกกำเนิดคิดจะแตกหักกับสิบยักษ์ใหญ่อมตะของข้าอย่างสิ้นเชิง”
ฟางเต้าผิงยิ้มเยาะ “เจ้าพูดผิดแล้ว พวกเจ้าต่างหากที่กำลังเปิดศึกกับลัทธิแรกกำเนิดของข้า และตั้งแต่ลัทธิแรกกำเนิดก่อตั้งมา เคยกลัวการคุกคามใดเล่า”
ตูม!
ขณะพูดเขาตวัดดาบในมือลง สังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าที่บาดเจ็บหนักเจียนตายคนนั้น ปราณดาบขาวหิมะบดขยี้ทำลายล้างร่างของสัตว์ประหลาดเฒ่าคนนี้
“ตอนนี้ข้าจะส่งเจ้าไปลงนรก!”
แววตาฟางเต้าผิงราวกับสายฟ้า จับจ้องหวังจ้งหยวน
ศึกนี้หลินสวินคว้าความได้เปรียบมาอย่างเบ็ดเสร็จ หากเขาไม่รู้จักใช้ก็โง่เกินไปแล้ว และย่อมไม่ยอมให้คู่ต่อสู้มีโอกาสหนีใดๆ
“ฟางเต้าผิง วันหน้ายามพวกข้าสิบยักษ์ใหญ่อมตะบุกสังหารลัทธิแรกกำเนิด เจ้าก็คือตัวหายนะ!”
หวังจ้งหยวนตะโกน เขาเริ่มสู้สุดชีวิต มรรควิถีทั้งร่างลุกโชนดุเดือด
สวบ!
แต่ก็เป็นตอนนี้ที่หลินสวินและร่างแยกทั้งห้าพุ่งเข้ามา ล้อมโจมตีเขาพร้อมกับฟางเต้าผิง
ที่แท้คู่ต่อสู้คนสุดท้ายที่ถูกหลินสวินล้อมโจมตีก่อนหน้านี้ก็ถูกสังหารไปแล้ว
เห็นดังนี้หวังจ้งหยวนเศร้าระทมจากใจ หมดหวังอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์สิบคนรวมตัวเขา ตอนนี้กลับร่วงหล่นที่นี่ นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคิดถึง!
“หลินสวิน สักวันคีรีดวงกมลของพวกเจ้าจะพินาศเหมือนเจ้า!”
หวังจ้งหยวนตะโกน เสียงสะเทือนฟ้าดารา เผยความเดือดดาลและไม่จำยอมยิ่งยวด
ก็ตอนนี้เองร่างต้นของหลินสวินและร่างแยกทั้งห้าของเขาล้อมโจมตีเข้ามาพร้อมกัน พลังโจมตีแน่นขนัดซัดโหม สังหารหวังจ้งหยวนคาที่ ตายไม่เหลือซาก นองเลือดอหังการอย่างที่สุด
ฟางเต้าผิงที่ช้ากว่าเสี้ยวหนึ่งเห็นดังนี้ยังสูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่ได้ ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ว่าด้วยพลังต่อสู้ของหลินสวินในตอนนี้ การชิงตำแหน่งรองหัวหน้าหอเกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!
——